บทที่ 59 (ถึงอลิซ) 1
เมื่อเห็นพนักงานเอาเบียร์มา ในใจของเสิ่นจุนเหวินก็รู้สึก หงุดหงิด เพราะเรื่องนี้มันหลุดออกจากกรอบที่เขาตีเอาไว้
เมื่อการทำลายเฉินเฟิงนั้นล้มเหลว การที่จะใช้Romani Contiในการทำให้เฉินเฟิงอับอายกลับถูกเสี้ยเมิ่งเหยาหยุด เอาไว้ เสิ่นจุนเหวินเลยรู้สึกว่าไม่ใช่แค่ไม่ได้ทำอะไร แค่ กลับถูกทำให้โกรธมากขึ้นอีกด้วย
“เมิ่งเหยา ได้ยินว่าคุณป้าบอกว่า คุณสนใจเปียโนใช่ ไหม? ” เมื่อเห็นว่าตัวเองไม่สามารถทำให้เฉินเฟิงอับอาย ได้ เสิ่นจุนเหวินทำได้แค่เปลี่ยนเรื่อง เขาได้ยินมาจากหลิน หลันเกี่ยวกับความชอบของเสี้ยเพิ่งเหยา เพราะรู้ว่าเสี้ยเมิ่ง เหยาชอบเปียโนมาตั้งแต่เด็ก แถมยังเรียนพิเศษการเล่น เปียโนโดยเฉพาะอีกด้วย
เสี้ยเพิ่งเหยาขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากสนใจเสิ่นจุนเหวิน แต่ก็เข้าใจ ว่าตัว เองไม่สามารถทำตัวชัดเจนเกินไปได้ ไม่อย่างนั้นหลินหลัน คงจะลำบากใจ
เสิ่นจุนเหวินยิ้มด้วยความอ่อนโยน พลางพูดว่า : “พอดี ว่าฉันเองก็ชอบเปียโน อีกอย่างยังมีความเชี่ยวชาญด้าน เปียโนอีกด้วย และเพื่อการทำให้ตัวเองเก่งขึ้น ปีก่อนๆ ฉัน เลยไปที่ยุโรป และขอให้นักเปียโนคนหนึ่งที่เป็นคนเชื้อ สายจีนมาสอน ฉันได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจาก อาจารย์คนนี้ เมิ่งเหยา ถ้าเกิดว่าคุณไม่ว่า วันนี้ฉันจะเล่นเปียโนให้คุณฟังสักเพลง”
เมิ่งเหยาอยากจะบอกว่าไม่ต้อง แต่เสิ่นจุนเหวินกลับไม่ ให้โอกาสเธอเลย พลางเดินไปที่เวทีกลางร้านอาหาร ตรง นั้นมีเปียโนราคาสูงลิ่ว มันเป็นของที่เสิ่นจุนเหวินเตรียมเอา ไว้เพื่อมันเกิดอะไรที่ผิดคาดขึ้น แต่ก็นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้ ใช้มันจริงๆ
เสิ่นจุนเหวินคิดอย่างง่ายๆ ถึงเขาจะไม่สามารถใช้เงินใน การทำให้เสี้ยเมิ่งเหยามีความสุขได้ เขาก็จะใช้ความ สามารถ แต่ถึงอย่างไรผู้หญิงหลายๆ คน ก็ออกจากสองสิ่ง นี้ไม่ได้
เสิ่นจุนเหวินนั่งอยู่บนเก้าอี้ ก่อนที่ใครหลายคนจะเตรียม กล้องหันไปทางเพื่อถ่ายเสิ่นจุนเหวิน
นี่เป็นความสามารถพิเศษส่วนตัวของเสิ่นจุนเหวิน และนี่ มันก็เป็นโอกาสที่ดีในการอวยด้วย แน่นอนว่าพวกเขาจะ ไม่มีทางปล่อยโอกาสนี้ไป
“คุณชายเส้นเล่นเปียโนเก่งแบบนี้หล่อจังเลย”
“ท่าทางกับการเล่นนี้มันดูเชี่ยวชาญจังเลย เขาดูดีกว่า นักเปียโนภายในประเทศหลายๆ คนอีก”
“เสี้ยเมิงเหยาโชคดีขนาดไหนเนี่ย ทำไมถึงได้มาเจอ ผู้ชายที่ทั้งรวยและมีความสามารถอย่างคุณชายเสิ่นอี กนะ”
คอมเม้นต์ในการถ่ายทอดสดเริ่มเลียแข้งเลียขาเสิ่นจุน
เหวินอีก
เสิ่นจุนเหวินหายใจเข้าลึกๆ เพราะเปียโนเป็นแค่ความ สามารถเพียงอย่างเดียวของเขา เขามักจะใช้ความ สามารถนี้ ในการทำให้คนภายในวงการโอนเอนและเชื่อใจ เขา จนสุดท้ายก็ไปขึ้นเตียงกับเขา ดังนั้นเสิ่นจุนเหวินเลย เชื่อใจมาก
เขาอยากจะทำให้เสี้ยเมิ่งเหยารู้ว่าเสิ่นจุนเหวินไม่ใช่คน ที่รวยอย่างเดียว ความสามารถของเขาก็มีเพียงพอเช่น กัน!
เสิ่นจุนเหวินเล่นเพลงของบีโธเฟน ชื่อว่า (ถึงอลิซ) นี่ เป็นเพลงที่บีโธเฟนแต่งให้กับนักเรียนผู้หญิงในปี 1810 และก็เป็นหนึ่งในเพลงที่ดีที่สุดในโลก
โน้ตในเพลงนั้นมันยากอยู่แล้ว แต่ว่าเสิ่นจุนเหวินกลับ กล้าเลือก มันบอกได้ทันทีว่าเขามีความสามารถเป็นอย่าง มาก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็น่าทีึ่งอยู่พอตัว
เสี้ยเมิงเหยาขมวดคิ้วสวย เธอเข้าใจในการเล่นเปียโน เป็นอย่างมาก ไม่พูดไม่ได้เลยว่าเพลง (ถึงอลิซ) ที่เลขา เล่นนั้น เล่นได้ไม่เลวเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการควบคุม จังหวะหรือว่าคีย์ต่างๆ ก็จัดแจงได้เป็นอย่างดี ไม่มีข้อผิด พลาดเลยแม้แต่น้อย
นักดนตรีที่จ้างมาที่อยู่ด้านล่างเวทีหลายๆ คน เผยความ ชื่นชมออกมาจากใบหน้า พวกเขาเป็นคนเล่นดนตรี ยิ่ง เข้าใจมากกว่า ว่าเพลงที่มีชื่อเสียงนี้ มันยากขนาดไหน การที่เสิ่นจุนเหวินสามารถเล่นได้ทั้งๆ ที่ไม่ใช่นักดนตรีโดย เฉพาะนั้น มันยิ่งทำให้ (ถึงอลิซ) ยิ่งน่าฟังมากกว่าเดิม เก่งจริงๆ !
เสี้ยเมิ่งเหยาเองก็เหมือนกับนักดนตรีเหล่านั้น เมื่อคิดๆ ดู แล้วผู้ชมในการถ่ายทอดสดกว่าล้านคนเองก็กำลังอึ้งไป ตามๆ กัน
ส่วนใหญ่พวกเขาเล่นเปียโนไม่เป็น แต่พวกเขากลับ ฟังออกว่าเสิ่นจุนเหวินเล่นได้เพราะขนาดไหน! “ความสามารถระดับคุณชายเสิ่น สามารถแข่งขันเปียโน
ภายในประเทศได้เลยนะเนี่ย”
“คุณชายเสิ่นเก่งเกินไปแล้ว คนมีเงินเก่งกันทุกคนเลยเห
รอ? ”
“เพราะเกินไปแล้ว ฉันอยากจะร้องไห้”
“คุณชายเสิ้น ฉันอยากแต่งงานกับคุณ ฉันจะคลอดลิง ให้คุณเอง”
“เก่งๆ .”
มีคนดูมากมายเริ่มซื้อรถสปอร์ตและส่งให้กับเสิ่นจุนเห วิน ส่งจรวดให้ด้วย เพียงแต่ว่าความสามารถในการเล่น เพลงนี้ การถ่ายทอดสดนี้ได้รับของขวัญรวมๆ มากกว่าห้า
แสน
คนที่ทำการถ่ายทอดสดต่างๆ ฟังอย่างรื่นหู เสิ่นจุนเหวิน ไม่ได้ขาดเงินขาดทองอะไร แต่พวกเขาไม่มีใครจะไปคิด ว่าแค่การออกมาทำการถ่ายทอดสดจะทำเงินได้มากถึงห้า แสนกว่าพูดได้เพียงว่า มือของเส้นจุนเหวินนั้นมันดีเหลือเกิน เลย ทำให้คนดูหลายๆ คนเคลิบเคลิ้ม
หลังจากที่เขาเล่นเพลงจบ เสิ่นจุนเหวินก็ลุกขึ้นยืน จาก นั้นก็โค้งคำนับอย่างเคารพ ก่อนจะเดินลงมาจากเวที
“เมิ่งเหยา คุณคิดว่า (ถึงอลิซ) ที่ฉันเล่นมีตรงไหนที่เล่น ไม่ดีไหม? ” เสิ่นจุนเหวินหน้าแดง เพราะเขาพูดต่อหน้า สาธารณะ ไม่ใช่แค่การแสดงของเขาไม่มีจุดบกพร่อง แต่ ว่าด้วยความสามารถของเสี้ยเพิ่งเหยา ไม่มีทางฟังออก แน่นอน ดังนั้นสิ่งที่เขาพยายามจะสื่อนั้นชัดเจนมาก ก็คือ อยากจะให้เสี้ยเมิ่งเหยายอมรับในตัวเขา
“มากเกินไป” เสี้ยเมิ่งเหยายังไม่ทันพูด เฉินเฟิงก็พูด แทรกขึ้น
เสิ่นจุนเหวินตกใจ พลางพูดว่า: “อะไรมากเกินไป?
“ฉันบอกว่าตอนที่คุณแสดงน่ะ ข้อผิดพลาดมันเยอะมาก เกินไป! ” เฉินเฟิงพูดต่อไป ความสามารถระดับเสิ้นจุนเห วิน ขายได้แค่คนทั่วไปเท่านั้นแหละ ถ้าไปเล่นต่อหน้าผู้ เชี่ยวชาญ ไม่มีทางได้ขึ้นเวทีแน่นอน
“คนไร้ประโยชน์อย่างคุณ จะไปรู้อะไร? ! คุณเล่นเปีย โนเป็นเหรอ ! ” เสิ่นจุนเหวินโกรธเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้เฉินเฟิงก็แย่ง
เก้าอี้เขาไม่โกรธก็ได้ แต่ตอนนี้ เฉินเฟิงกล้ามาสงสัยใน
ความสามารถด้านที่เขาภูมิใจที่สุด แล้วเสิ่นจุนเหวินจะทน
ไหวได้อย่างไร คนแบบนี้คงไม่เคยแตกเปียโนด้วยซ้ำ เขามีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าตัวเองมีข้อผิดพลาดมาก!
“คุณคิดว่าฉันเล่นเปียโนไม่เป็นงั้นสิ? ” เฉินเฟิงถามกลับ อย่างแดกดัน ด้านเปียโนของเขานั้นดีมาก เพราะเขาเริ่ม เล่นมาตั้งแต่สามขวบแล้ว ทุกวันต้องซ้อมเปียโนอย่างน้อย สามสี่ชั่วโมง
อาจารย์ของเขา ก็คือแม่ของเขา ชื่อซูจ้าวชิง
ยี่สิบปีก่อน ซูจ้าวชิงมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ถือได้ว่าเป็น นักดนตรีที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวง เพราะว่ามีความ สามารถทางด้านนี้มาก ซูจ้าวชิงเลยถูกเฉินห้าวเทียนชอบ เข้า แต่เพราะว่าความรักของทั้งสองคนไม่ได้ถูกตระกูล เฉินยอมรับ เฉินเฟิงเลยแบกรับคำว่าลูกที่น่ารังเกียจเอาไว้
และได้รับการกลั่นแกล้งต่างๆ จากตระกูลเฉิน
แต่ว่าตอนนั้นซูจ้าวชิงเข้มแข็งมาก ถึงแม้ว่าพวกเธอแม่ ลูกจะไม่ได้อยู่อย่างสุขสบายในตระกูลเฉิน ซูจ้าวชิงก็ไม่ ได้ละทิ้งในการเลี้ยงดูเขา
ไม่ใช่แค่ความสามารถของเธอ ที่สองให้กับเฉินเฟิง แต่ ยังให้เฉินเฟิงได้ฝึกในทุกๆ วันอีกด้วย
วันเวลาที่เหมือนตายทั้งเป็น ถึงได้หล่อหลอมให้เฉินเฟิง ให้เป็นแบบทุกวันนี้
ด้านการเล่นเปียโน ความสามารถระดับเฉินเฟิง น่าจะ เทียบกับนักเปียโนดังๆ ระดับโลกได้เลยทีเดียว!
เสิ่นจุนเหวินอยากจะใช้เปียโนในการทำลายตัวเอง เขา
คิดผิดเสียแล้ว !