ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 438

ตอนที่ 438

บทที่ 438 ความคิดที่เปลี่ยนไป

ท่ามกลางความเหนื่อยล้า หลินเย่นได้แต่ลากขาที่อ่อนล้าปวกเปียกทั้งสองข้างกลับบ้าน

สามวันต่อมา หลินเย่นก็เหมือนกับคนทำงานเช่นนั้น ในเช้าตรู่ของทุกวันจะมาที่ด้านหน้าประตูบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป แล้วยืนอยู่ทั้งวัน

จิตวิญญาณที่แน่วแน่ไม่หยุดหย่อน เรื่องนี้เองทำให้ตกเป็นเป้าสายตาของบรรดาเหล่าพนักงานบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป

ไม่นาน ก็มีข่าวลือไปทั่ว ผู้หญิงคนที่มายืนอยู่ด้านหน้าบริษัท เป็นคนเดียวกับคนถ่ายเอกสารคนนั้นเอง

การที่เธอมาบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป ก็เพื่อยอมรับผิดถึงได้มา แต่ว่าเสี้ยเมิ่งเหยาไม่อยากจะสนใจเธอ

ภายใต้การชี้แนะของฟางหย่า สามวันก่อนที่หลินเย่นต้องการให้เสี้ยเมิ่งเหยาเอาตำแหน่งรองประธานบริษัทให้กับถางรั่วเสวี่ยน ก็ลือกันให้แซดไปทั้งบริษัท

เวลานั้นเอง ทุกคนต่างถกเถียงกันเมามัน

ใครจะไปคิดว่า บนโลกใบนี้จะมีผู้หญิงที่วิเศษวิโสโอหังแบบนี้ด้วยบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป ตอนแรกก็บอกว่าตนเองเป็นญาติ แล้วจัดการให้ลูกสาวของตนเองมารับตำแหน่งรองประธานบริษัท ทำตัวราวราชสีห์อ้าปากพูด ราวกับว่าบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปเป็นบริษัทที่ตนเองเป็นเจ้าของกิจการเช่นนั้น

สมน้ำหน้า!

เดิมที่มีคนเห็นใจหลินเย่นอยู่ไม่น้อย แต่พอรู้เรื่องทำเธอทำแล้ว อย่าพูดเลยว่าคนเหล่านี้จะเห็นใจหลินเย่น ไม่ได้ถุยน้ำลายใส่หน้า ก็ดีแค่ไหนแล้ว

ในเวลานี้เอง ทุกคนต่างเข้าใจเป็นอย่างดี ข้อความทุกอย่างที่เขียนไว้บนกระดาษนั้น มีความเป็นไปได้ว่าหลินเย่นเป็นคนสร้างเรื่องขึ้นมาเอง เพื่อจะหาเรื่องใส่ร้ายป้ายสีเสี้ยเมิ่งเหยา

นานวันเข้า ความคิดเห็นก็เริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงไป

ถึงแม้ว่ายังมีคนยังคิดเหมือนเดิม แต่ว่าคนพวกนี้ ก็ยังน้อยมากอยู่

“เมิ่งเหยา ป้าสองของแกยืนอยู่ด้านนอกตึกมาสามวัน แกคิดว่าจะไม่เจอหน้าเธอเลยหรือไง?” เวลาล่วงเลยเข้าวันที่สี่แล้ว หลินหลันถึงกลับทนไม่ไหวแล้ว ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้หลินเย่นจะทำเรื่องที่เกิดเลยไปมาก แต่จะพูดยังไงก็ตาม หลินเย่นก็เป็นพี่สาวของเธอ หัวใจของคนเรามีเลือดมีเนื้อ เธอไม่สามารถทนกับความน่าสงสารแบบนี้ต่อไปได้อีกแล้ว

คิ้วโกงเรียวเลิกขึ้น ไม่พูดไม่ได้ว่า พฤติกรรมของหลินเย่นนั้น มันเกินกว่าที่เธอคาดการณ์เอาไว้มาก

เดิมทีเธอคิดว่า หลินเย่นจะยืนได้มากที่สุดวันสองวันเท่านั้นแหละ แล้วก็จะทนไม่ไหว แต่ไม่คิดเลยว่า หลินเย่นยืนมาจนถึงทุกวันนี้ อีกอย่างเมื่อเห็นท่าทางตั้งมั่น ยังคงยืนต่อไปเรื่อยๆ อีก

ทำไมหลินเย่นต้องอดทนขนาดนี้ด้วย?

ในหัวสมองของเสี้ยเมิ่งเหยาเกิดข้อสงสัย เพราะความเข้าใจของเธอที่มีต่อหลินเย่นแล้ว หลินเย่นไม่ใช่คนที่อดทนอะไรได้แบบนี้ นอกจาก มันต้องมีสาเหตุว่าทำไมหลินเย่นต้องอดทนกับเหตุผลนั้นด้วย….

“ให้เธอเข้ามาเถอะ” เสี้ยเมิ่งเหยาเอ่ยปากพูดตามปกติ เพราะเธอเองก็อยากรู้เหมือนกัน เหตุผลว่าทำไมหลินเย่นถึงได้อดทนได้ขนาดนี้

หลายนาทีผ่านไป หลินเย่นก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องทำงาน

การถูกแดดแผดเผามาสามสี่วันนั้น หลินเย่นเปลี่ยนท่าทางไปอีกอย่างเลย

ถ้าบอกว่าก่อนหน้านี้หลินเย่นดูแลรักษาดั่งผู้รากมากดีแล้วละก็ งั้นหลินเย่นในตอนนี้ ก็เหมือนผู้หญิงสาวตามหมู่บ้านในชนบทที่โดนแดดเลียผิวจนไหม้เกรียม

หลินหลันเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าผู้หญิงที่ดำไหม้เป็นตอตะโกอยู่ตรงหน้าคนนี้สองสามวันก่อนเป็นหลินเย่นคนนี้ไหม

“เมิ่งเหยา…” เมื่อเจอหน้าเสี้ยเมิ่งเหยา หลินเย่นเริ่มอยากจะร้องไห้ มีแค่สวรรค์ที่รู้เท่านั้นแหละ ว่าการที่เธอยืนตากแดดอยู่ด้านนอกมาตั้งหลายวันนั้นเธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง

รูปพรรณภายนอกยังไม่เท่าไหร่ ที่หนักที่สุดก็คือสภาพจิตใจนี่แหละ ในใจของเธอนั้น หลายวันที่ผ่านมานี้ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว

แรกเริ่มคือการโกรธแค้น จนมาเป็นการอ่อนข้อ สุดท้ายหลงเหลือแค่การขอร้อง

สามารถพูดออกมาได้ว่า ความโกรธที่อัดอั้นอยู่ในใจของเธอทุกซอกทุกมุมนั้น หลายวันมานี้ถูกขัดเกลาจนไม่เหลือหลอแล้ว

“ทำไมคุณต้องการที่จะเจอฉันให้ได้?”

เมื่อมองเบ้าตาที่แดงก่ำของหลินเย่น เสี้ยเมิ่งเหย่าไม่ได้ใจอ่อนสักนิด เธอแค่อยากรู้ว่า เหตุใดกันหลินเย่นถึงได้อดทนได้ขนาดนี้

“ฉัน… ฉันขอโทษแกด้วย เมิ่งเหยา ฉันผิดไปแล้ว… ก่อนหน้านี้ฉันทำเกินไป…” น้ำเสียงสะอึกสะอื้นของหลินเย่น ก็ไม่รู้ว่าแกล้ง หรือว่าเสียใจจริงๆ

“ถ้าต้องการขอโทษ ไม่จำเป็นหรอก” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดตัดบทด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายเล็กน้อย เธอให้หลินเย่นเข้ามา ไม่ได้เพราะว่าให้หลินเย่นเข้ามาขอโทษ

ไม่จำเป็น?

หลินเย่นตกใจ หมายความว่ายังไง หรือว่าเธอไม่ยอมยกโทษให้ตนเอง?

“ใครให้คุณเข้ามาขอโทษฉัน? คุณอย่าพูดนะว่าคุณคิดเอง” เสี้ยเมิ่งเหยาเอ่ยปากถาม

“เฉินเฟิงนะสิ แก…แกไม่รู้เหรอ?” หลินเย่นตกใจเล็กน้อย เดิมเธอคิดว่า เสี้ยเมิ่งเหยารู้แล้วว่าเฉินเฟิงอยู่เบื้องหลัง ทว่าเมื่อเห็นสีหน้าเสี้ยเมิ่งเหยาแล้ว เสี้ยเมิ่งเหยาดูเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย

“เฉินเฟิง?!”

เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเย่น เสี้ยเมิ่งเหยาไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ หลินหลันเหมือนเหยียบเท้าแมวแบบนั้น จนขนลุกทันที

“พี่เย่น คุณบอกว่าคนที่ให้คุณมาขอโทษเสี้ยเมิ่งเหยาคือเฉินเฟิงเหรอ?!” หลินหลินดักฟันถาม ตอนนี้เธอเองชื่อที่เธอกลัวที่สุดก็คือเฉินเฟิง แต่ไม่คิดเลยว่า กลัวอะไรก็จะได้อย่างนั้น

“เขานั่นแหละ” หลินเย่นพยักหน้าให้

“ทำไมเขาถึงต้องให้คุณมาขอโทษเสี้ยเมิ่งเหยาด้วย?! คำพูดของเขามันจำเป็นที่ต้องเชื่อด้วยเหรอ?!”

“เขาให้คนมาปิดกิจการโรงแรมของสามีฉัน” หลินเย่นยิ้มเยาะเย้ยตอนพูด ถ้าเธอไม่ฟังคำสั่งของเฉินเฟิงแล้ว โรงแรมของถังเย่าโจงก็จะถูกปิดกิจการไป ถ้าเธอยังไม่ฟังคำสั่งเฉินเฟิงอีก ครอบครัวของเธอก็จะต้องกัดก้อนเกลือกิน

“อะไรนะ?! เขาให้คนไปปิดกิจการที่โรงแรมของคุณเลยเหรอ?!” หลินหลันทำสีหน้าตกใจ สามีของหลินเย่นทำธุรกิจด้านโรงแรมเธอรู้เรื่องนี้ดี เพราะว่าหลินเย่นพร่ำพูดกับเธออยู่บ่อยครั้ง ก็คือโรงแรมของสามีเธอนี่แหละ

ทว่าตอนนี้ หมิ่งเย่นกลับพูดว่า โรงแรมของสามีเธอถูกปิดกิจการ

อีกอย่างคนที่ทำกับโรงแรมของสามีเธอ ยังเป็นไอ้ไร้ประโยชน์ที่ตนเองไม่เคยเห็นหัวมาตลอด เขาทำได้อย่างไรกัน?

อาการตกใจของหลินหลันเมื่อเอามาเปรียบเทียบแล้ว เสี้ยเมิ่งเหยาสงบลงเยอะมาก เธอเข้าใจดี ว่าทำไมหลายวันมานี้หลินเย่นถึงได้เก็บงำอารมณ์โกรธเคืองเอาไว้

ที่แท้ก็เป็นฝีมือของเฉินเฟิงที่อยู่เบื้องหลังนี่เอง

“เมิ่งเหยา ป้าสองทำผิดไปแล้ว ต่อไปป้าสองจะไม่กล้าทำแบบนั้นอีก เอ่อ… แกไปบอกกับเฉินเฟิงให้หน่อย ให้เขาปล่อยป้าสองไปเถอะ เพราะยังไงการทำธุรกิจของสามีของป้าสองนั้นก็ไม่ง่าย อีกอย่าง เราเป็นครอบครัวใหญ่ ตอนนี้ก็อาศัยธุรกิจของลุงเขยของแก ถ้าโรงแรมยังไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ฉันกับก็คงต้องกัดก้อนเกลือกินแล้วรั่วเสวี่ยน” หลินเย่นฝืนยิ้ม กำลังอาศัยความสงสารเป็นข้อต่อรองอยู่

แต่ว่าเสี้ยเมิ่งเหย่าก็ยังเย็นชาเช่นเดิม “คุณมาหาผิดคนแล้ว ฉันกับเขาตอนนี้ตัดขาดกันแล้ว เราหย่ากันแล้ว”

“เมิ่งเหยา ดูแกพูดเข้าสิ หย่าแล้วแต่ก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ ไม่ใช่เหรอ?”

“อีกอย่าง เฉินเฟิงปฏิบัตกับแก ต้องมีความรู้สึกอยู่แน่ ไม่งั้น เขาคงไม่แอบมาช่วยแกอยู่ข้างหลังหรอก” หลินเย่นยิ้มให้ด้วยตอนที่พูดออกมา สีหน้าไม่มีความโกรธเคืองใดๆ เลย โรงแรมของถังเย่าโจงปิดไปสามวันแล้ว ค่าเสียหายมันเลยล้านแล้ว ถ้ายังปิดกิจการไปเรื่อยๆ งั้นค่าเสียหายที่จะเข้ามานั้น เกรงว่ามันใช้ราคาเป็นล้านที่ประมาณการเอาไว้ ดังนั้นวันนี้ ไม่ว่าจะยังไงเธอต้องพูดให้เสี้ยเมิ่งเหยาทำให้ได้

“พี่เย่น ประโยคที่พี่พูดมานี้ดูเหมือนไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่ เมิ่งเหยาของฉันหย่ากับไร้ประโยชน์นั่นไปแล้ว ระหว่างพวกเขา ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ! ส่วนเรื่องที่พี่พูดถึงความรู้สึกนั้น มีแค่ไอ้ไร้ประโยชน์นั่นมันรู้สึกดีๆ กับเมิ่งเหยา สำหรับเมิ่งเหยาของฉันกับไอ้หมอนั่น ไม่มีความรู้สึกใดหลงเหลือเลย” หลินหลันรีบปฏิเสธทันควัน การที่หลินเย่นให้เสี้ยเมิ่งเหยาช่วยเธอนั้น เธอเข้าใจดี แต่ถ้ามันดึงเอาเฉินเฟิงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ไม่มีทาง!

มันไม่ง่ายเลยที่จะให้เสี้ยเมิ่งเหยาหลุดพ้นจากเฉินเฟิง ถ้าเพราะเรื่องนี้ ทำให้ทั้งสองคนกลับมาคืนดีกันอีก ฉันเธอยินดีที่จะให้สามีของหลินเย่นล้มละลายไป

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท