บทที่ 494 ของหวาน
พวกเพื่อนขยะของฉินหมิงต่างพากันกรูเข้ามา ตัวหัวหน้าคือชายหนุ่มเจาะหูที่เมื่อกี้พูดจาไม่ดีนั่น
เฉินเฟิงยิ้มเย็น ยกเท้าเตะออกไป
“ปึ้ก”
แรงใหญ่ของเท้าเล่นเอาชายหนุ่มเจาะหูกระเด็นลอยไปสี่ห้าเมตร
แม้แต่เพื่อนเขาอีกสามคนก็โดนหางเลขไปชนกับโต๊ะอาหาร แก้วไวน์สิบกว่าใบหล่นแตกพื้นเกรียวกราว
เละตุ้มเป๊ะ
แขกทั้งหมดในห้องอาหารตะลึงเป็นไก่ตาแตก
ใครก็ไม่คิดว่าเฉินเฟิงจะลงมือเอาดื้อๆเลย
นั่นฉินหมิงนะ คุณชายตระกูลฉินซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของจงไห่
เฉินเฟิงไม่พูดพล่ามทำเพลงลงมือเอาดื้อๆเลย?
เขาไม่กลัวตายหรือไง?
และนอกจากฉินหมิงแล้ว ชายหนุ่มเจาะหูกับชายหญิงอีกหลายคนนั่นก็เห็นได้ชัดว่าเป็นลูกคนรวยกันทั้งนั้น ดูแค่เสื้อผ้าพวกเขา อย่างน้อยต้องมีหลายแสนอัพล่ะ
คนแบบนี้เฉินเฟิงกล้าลงมือได้ยังไง?
“ไอ้เลว ฉันจะฆ่าแก!”
ฉินหมิงตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากพื้น เขาตะคอกดังด้วยความโกรธ ตอนนี้เขาไม่เหลือสติแล้ว เขาคิดแค่อย่างเดียวคือ ฆ่าเฉินเฟิงที่ยืนตรงหน้า!
ฉินหมิงยกขวดเหล้าขึ้นพุ่งเข้าหาเฉินเฟิง
เฉินเฟิงสีหน้าเรียบเฉย ยกเท้าเตะออกไป!
เขาร้องโหยหวนอย่างเจ็บปาด และลอยกระเด็นออกไป!
“คุณชายฉิน!”
พอเห็นฉากนี้แล้ว ชายหญิงหลายคนเบิกตาโพลง
จบกัน!
จบกันแล้วงานนี้!
ฉินหมิงโดนทำร้ายจนเป็นแบบนี้ ไม่เพียงเฉินเฟิงต้องตาย พวกเขาเองก็ต้องโดนหางเลขไปด้วย!
“ไอ้บ้าเอ๊ย แกรู้ไหมว่าแกทำร้ายใครน่ะหะ?! แกอยากตายหรือไงหา!”
ชายหนุ่มเจาะหูสองตาแดงก่ำ มองเฉินเฟิงอย่างโกรธจัด ฉินหมิงเกิดเรื่อง ตระกูลฉินจะเล่นงานเขาเป็นคนแรกเลย เพราะวันนี้เขาพาฉินหมิงออกมา
เฉินเฟิงไม่สนใจชายหนุ่มเจาะหู และเบนสายตาไปที่พนักงานเสิร์ฟสาวสวย: “ของหวานที่พวกเราสั่งล่ะ?”
ของหวาน?
พอได้ยินคำนี้ แขกมากมายในห้องอาหารพากันสะอึกอึ้ง ถึงตอนนี้แล้วยังอยากกินของหวาน? นายไม่รู้ว่าคำว่าตายสะกดยังไงหรือไงเนี่ย?
พนักงานเสิร์ฟสาวสวยโกรธปรี๊ดแตก:
“ไอ้บ้าเอ๊ย ยังมีหน้ามาคิดถึงของหวานอีกหรอไง?!”
“นายคิดให้ดีก่อนเถอะว่า อยากตายแบบไหนน่ะ!”
“คุณชายฉิน คุณชายฉิน ไม่เป็นไรใช่ใหมครับ?” ตอนนี้ชายหนุ่มเจาะหูกับเพื่อนๆพยุงฉินหมิงขึ้นมาจากพื้น ฉินหมิงในตอนนี้ไม่เหลือสภาพคุณชายผู้ดีอีกเลย ไม่เพียงเลือดเต็มหน้า เนื้อตัวยังเต็มไปด้วยเศษอาหารน้ำแกงหลากชนิด สภาพเหมือนพึ่งไปตกรถขยะมา
“โทรหาพ่อฉัน! โทรหาพ่อฉันสิ!” ฉินหมิงคำรามลั่น สีหน้าบิดเบี้ยว
“คุณชายฉิน ใจเย็นก่อนครับ ใจเย็นนะครับ” พอเห็นฉินหมิงโกรธแทบเป็นลม พวกเขาพยายามปลอบ แต่ฉินหมิงในตอนนี้ สติแทบไม่เหลือแล้ว สองตาเขาแดงก่ำ จ้องเฉินเฟิงเขม็ง เขาหอบหายใจพูดซ้ำไปซ้ำมาว่า: “ฉันจะสับมันให้เละ! ฉันจะสับมันเป็นหมื่นๆชิ้นเลย!”
“ได้ได้ได้ คุณชายฉิน ผมจะโทรหาคุณลุงเดี๋ยวนี้ ให้คุณลุงมาสับมันให้เละ!”
ชายหนุ่มเจาะหูพูดพลางรีบหยิบมือถือฉินหมิงมาโทรหาฉินเจิ้น
“คุณอาฉิน…”
พอโทรติดปุ๊บ ก็มีเสียงเข้มงวดดังมาจากปลายสาย:
“มีเรื่องอะไรเดี๋ยวค่อยว่ากัน ตอนนี้ฉันยุ่งมาก”
ชายหนุ่มเจาะหูยิ้มแหย: “คุณอาฉิน คุณชายฉินโดนทำร้ายครับ”
“โดนทำร้าย?” ฉินเจิ้นน้ำเสียงเย็นเยียบทันควัน: “ฝีมือใคร?”
“คือว่า…พวกผมก็ยังไม่แน่ใจ แต่อีกฝ่ายบอกว่ารู้จักน้องสาวคุณอาครับ” ชายหนุ่มเจาะหูพูดอย่างระมัดระวัง ครั้งแรกที่เฉินเฟิงบอกว่ารู้จักฉินเสวี่ยนหรัว พวกเขาไม่มีใครเชื่อกันเลย พวกเขารู้สึกว่า เฉินเฟิงอาจจะได้ยินชื่อฉินเสวี่ยนหรัวจากที่ไหนสักแห่ง เลยเอามาอวดต่อหน้าฉินหมิงเท่านั้น
แต่ตอนนี้ดูแล้วเป็นไปได้มากว่า เฉินเฟิงจะรู้จักฉินเสวี่ยนหรัวจริงๆ
“รู้จักเสวี่ยนหรัว?” น้ำเสียงฉินเจิ้นเคร่งเครียดขึ้นมาทันที ถึงฉินเสวี่ยนหรัวจะแต่งไปตระกูลเฉินแล้ว ตามหลักแล้วไม่ถือเป็นคนตระกูลฉิน แต่อำนาจการควบคุมในตระกูลฉินของเธอไม่ได้น้อยไปกว่าเจ้าตระกูลอย่างเขาเท่าไหร่เลย
“อีกฝ่ายเป็นชายหรือหญิง อายุเท่าไหร่ หน้าตายังไง?” ฉินเจิ้นถาม
“เป็นผู้ชายครับ อายุพอๆกับคุณชายฉิน หน้าตา…ธรรมดามาก” ชายหนุ่มเจาะหูมองเฉินเฟิงพลางว่า
“โอเค ฉันรู้ละ” ฉินเจิ้นวางสายลง และกดโทรหาฉินเสวี่ยนหรัว
“เสวี่ยนหรัว เสี่ยวหมิงโดนคนทำร้าย คนที่ทำร้ายเสี่ยวหมิงบอกว่ารู้จักเธอ…” พอโทรติด ฉินเจิ้นโพล่งทันที
“อีกฝ่ายอายุพอๆกับเสี่ยวหมิง?” ฉินเสวี่ยนหรัวขมวดคิ้ว พอได้ยินข่าวของฉินเจิ้น เธอก็พอเดาได้ไม่ยาก
“ใช่” ฉินเจิ้นพูดเสียงต่ำ
ฉินเสวี่ยนหรัวถอนหายใจออกมาพลางว่า: “ฉันพอรู้ละว่าใคร”
“ใคร?”
“ตอนนี้ฉันยังบอกพี่ไม่ได้ ฉันจะโทรไปคอนเฟิร์มก่อน แต่ทางที่ดีพี่เตรียมใจไว้เลยนะ ถ้าเป็นคนนั้นจริง พี่ก็ไปรับเสี่ยวหมิงกลับมาเถอะ” ฉินเสวี่ยนหรัวพูด
ให้เสี่ยวหมิงกลับมา?
พอได้ยินคำนี้ ฉินเจิ้นขมวดคิ้วมุ่น ความหมายของฉินเสวี่ยนหรัวคือ ให้เขาเลิกล้มการแก้แค้น?
อีกด้าน พอชายหนุ่มเจาะหูวางสายลง ฉินหมิงก็กัดฟันถามว่า: “พ่อฉันจะมาเมื่อไหร่?!”
“คุณลุงเขา…จะรีบมา” เหมือนกลัวฉินหมิงจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ชายหนุ่มเจาะหูรีบโกหกทันที
“ดี!ดี!ดี!” ฉินหมิงหอบหายใจเหนื่อย สีหน้าตื่นเต้นอย่างมาดร้าย: “ฉันจะให้พ่อฉันสับมันให้เละ!”
“ได้ยินแล้วใช่ไหม? ไอ้เลว พ่อคุณชายฉินกำลังจะมาแล้ว!”
พอได้ยินว่าฉินเจิ้นจะมา พนักงานเสิร์ฟสาวสวยก็มีกำลังใจขึ้นมา เธอมองเฉินเฟิงอย่างสะใจพลางว่า:
“ถ้านายกลัวนะ ตอนนี้รีบไปคุกเข่าขอโทษคุณชายฉินซะ”
“คุกเข่าขอโทษ?” เฉินเฟิงยิ้มหยัน เขาเคยเจอคนที่มองคนแต่ภายนอกมาก็มาก แต่แบบพนักงานเสิร์ฟสาวสวยคนนี้นี่ยังไม่เคยเจอเลย
ตอนนี้เองมือถือเฉินเฟิงดังขึ้น
เขามองชื่อที่โชว์หน้าจอ ฉินเสวี่ยนหรัว
เฉินเฟิงยิ้มพลางกดรับสาย
“เฉินเฟิง นายพึ่งชกต่อยไปใช่ไหม?” ปลายสายมีเสียงฉินเสวี่ยนหรัวลอดมาอย่างหน่ายใจ
“ใช่ หลานคุณพูดจาไม่สุภาพ ผมช่วยคุณสั่งสอนไปหน่อย” เฉินเฟิงพูดเสียงเรียบ
พอเห็นเฉินเฟิงพูดมาตามตรง ฉินเสวี่ยนหรัวรู้สึกพูดไม่ออก: “นายรู้ว่าเป็นหลานฉัน แล้วไม่คิดจะไว้หน้ากันหน่อยหรือไง?”
“ผมก็อยากไว้หน้าคุณนะ แต่หลานคุณไม่ยอมไว้หน้าผมนี่” เฉินเฟิงพูดยิ้มๆ
ฉินเสวี่ยนหรัว: “…”
“พี่ใหญ่ฉันกำลังจะไป เขาจะพาเสี่ยวหมิงไปนะ”
“ไม่มีปัญหา” เฉินเฟิงยิ้มบางๆ เขายังต้องไว้หน้าฉินเสวี่ยนหรัวอยู่แหละ
อีกอย่าง ตระกูลฉินเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ พ่อของฉินหมิงเป็นคนมีอำนาจสำคัญของตระกูลฉิน ฉินเสวี่ยนหรัวสามารถทำให้พ่อฉินหมิงออกหน้าด้วยตัวเองได้ เรียกได้ว่าให้เกียรติอย่างสุดๆแล้ว