บทที่ 72: ไม่ต้องอาย!
ผู้เข้าสอบที่ผ่านการตรวจสอบระดับกําลังนั่งอยู่ในรถบัส
ในช่วงเช้าของวัน มันก็ยังมีผู้เข้าสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้เกือบ 3,000 คน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หลังจากการสอบการตรวจสอบระดับ มันก็เหลือไม่ถึงครึ่ง และเหลืออยู่ประมาณ 1,000 คนเท่านั้น
อัตราการสอบตกนั้นค่อนข้างสูง
รถบัสขับไปประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนจะค่อยๆลดความเร็วลง ตลอดการเดินทาง ผ้าม่านบนรถเมล์ก็ถูกปิดไว้ ดังนั้นผู้เข้าสอบจึงไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน
“ ลงรถบัสได้!”
หลังจากที่รถบัสหยุดลง เสียงของหลิวเหวินซีก็ดังขึ้นมาจากข้างนอก
ผู้เข้าสอบลงจากรถบัส
ไม่ช้าพวกเขาก็ตระหนักได้ว่าพวกเขาได้มาถึงค่ายทหารที่ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา มันมีทหารรักษาการณ์อยู่ที่ทางเข้า พวกเขายืนอยู่ที่นั่นพร้อมกับปืนไรเฟิลรูนขณะที่พวกเขามองไปที่ผู้มาใหม่
บรรยากาศในตอนนี้เต็มไปด้วยความเคร่งขรึมไป ผู้เข้าสอบทุกคนรู้สึกเกณังในทันที และมันก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
“ การสอบศิลปะการต่อสู้ในค่ายทหาร!”
อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีคนพูดคุยกันด้วยเสียงกระซิบ
“ นี่คือการสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้ มันเข้มงวดกว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทั่วไปมากและแม้แต่สถานที่สอบก็ยังอยู่ในค่ายทหาร”
“ นี่มันน่ากลัวมาก”
“ ห้ามส่งเสียงดังในค่ายทหาร เพราะงั้นเงียบได้แล้ว” หลิวเหวินซีขมวดคิ้วและดุผู้เข้าสอบ
ทันใดนั้น การสนทนาเบาๆที่ฟังดูเหมือนแมลงวันก็ได้หายไปโดยสิ้นเชิง
ผู้เข้าสอบทุกคนมองมาที่เขาอย่างตั้งใจ
ในขณะนี้ ชายวัยกลางคนที่สวมเครื่องแบบทหารก็ได้เดินเข้ามา
“ ในที่สุดคุณก็มาถึง”
“ ขอโทษที่ทําให้รอนาน” หลิวเหวินซีกล่าวอย่างสุภาพ
“ ตามฉันมา อย่างไรก็ตาม คุณต้องจอดรถเอาไว้ข้างนอกนะ” ชายที่สวมชุดทหารไม่ได้พูดอะไรมาก เขานําผู้เข้าสอบตรงเข้าไปในค่ายทหาร
ผู้เข้าสอบต่อแถวเป็นแถวยาว ภายใต้การนําของหลิวเหวินซีและชายสวมเครื่องแบบทหาร พวกเขาก็เดินผ่านประตูเข้าไป
ข้างในค่ายทหารดูกว้างขวางเป็นพิเศษ มันเงียบมากและบรรยากาศภายในก็เคร่งขรึมเป็นอย่างมาก บางครั้งทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ก็จะเดินผ่านพวกเขาไป
เสียงเท้าหนักแน่น หลังตรง หน้าตึง อกผาย ไหล่ฝั่ง เคร่งขรึมและเด็ดเดี่ยว ทุกอย่างนี้สามารถเห็นได้จากตัวของทหารที่เดินผ่านไป
ในที่สุด ผู้เข้าสอบก็สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของทหาร
“ หล่อเท่!”
ดวงตาของสาวๆเป็นประกายเมื่อเห็นทหาร แต่ละคนมีออร่าที่เป็นเอกลักษณ์ และทําให้พวกเธอแทบจะอยากเข้าไปขอลายเซ็น
เมื่อชายสวมเครื่องแบบทหารตรงหน้าเห็นฉากนี้ เขาก็หัวเราะออกมา “ คุณผู้หญิง ฉันว่าพวกเธอไม่ตเองรีบหาผู้ชายจนาดนั้หรอกนะ”
สาวๆอดไม่ได้ที่จะอายเมื่อได้ยินคําพูดของเขา
แต่ใครจะรู้ล่ะ ว่าลึกๆแล้วพวกเขากําลังคิดอะไรอยู่?
หวังเต็งอดไม่ได้ที่จะมองไปที่หลินหัวหาน โชคดีที่เธอไม่ได้หลงเสน่ห์ทหาร!
นักเรียนชายไม่พอใจเมื่อเห็นพวกผู้หญิงหลงใหลในตัวทหาร พวกเขารู้สึกโกรธมากขึ้นเมื่อได้ยินคําพูดของชายผู้นั้น
ผู้เข้าสอบศิลปะการต่อสู้เหล่านี้ล้วนมีความภาคภูมิใจและหยิ่งผยอง ดังนั้นพวกเขาจะยอมรับความพ่ายแพ้อย่างง่ายดายได้อย่างไรโดยเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้หญิง?
“ ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเด็กน้อย ถ้าพวกคุณไม่พอใจ คืนนี้เราจะมาแข่งขันกันก็ได้” ชายสวมเครื่องแบบทหารหัวเราะเสียงดัง
ผู้เข้าสอบรู้สึกตื่นเต้นในทันที พวกเขาดูเหมือนจะกระตือรือร้นที่จะลอง
“ ร้อยโทลั่ว พวกเขายังมีการสอบในวันพรุ่งนี้ ดังนั้น ได้โปรดอย่าสร้างปัญหาให้ฉันเลย” หลิวเหวินซีพูดอย่างช่วยไม่ได้
“ ปัญหาอะไร? มันไม่ได้ส่งผลระทบต่อพวกเขามากขนาดนั้นสักหน่อย” ชายที่สวมเครื่องแบบทหารตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“ อย่าพูดแบบนี้กับฉัน ไปบอกเรื่องนี้กับเจ้านายของคุณผู้ว่าราชการเจียงนุ่น” หลิวเหวินซีกลอกตา
“ น่าเบื่อ!” ชายที่สวมเครื่องแบบทหารทําหน้าบึง
ครู่ต่อมา เขาก็พาทุกคนไปที่บ้านไม้แถวหนึ่ง
“ นี่คือที่ที่พวกคุณจะพักผ่อนกัน มันจะมีสี่คนในหนึ่งห้อง และกรุณาหาเพื่อนร่วมห้องของคุณเอง”
“ ฉันจะให้เวลาพวกคุณครึ่งชั่วโมงในการจัดระเบียบ และครึ่งชั่วโมงต่อมา เราก็จะเริ่มทานอาหารเย็นตามกําหนด ฉันขอบอกเลยว่าถ้าใครพลาดมื้อนี้ไป คนๆนั้นก็จะต้องนอนหิวอย่างแน่นอน
“ นอกจากนี้ ฉันก็ยังต้องเตือนคุณว่าคุณต้องปฏิบัติตามกฏของทหารเนื่องจากคุณอยู่ในค่ายทหาร ห้องพักทุกห้องต้องเรียบร้อยและเป็นระเบียบเรียบร้อย คุณต้องวางกระเป๋าของคุณอย่างถูกต้องและอย่าโยนขยะทิ้งไปทั่ว คุณต้องพับผ้าห่มและหมอนเป็นสี่เหลี่ยมเมื่อคุณไม่ได้นอน และเราก็จะมีคนคอยตรวจสอบพวกคุณเสมอ”
“ ถ้าใครทําไม่ได้ คนๆนั้นก็จะถูกตัดสิทธิ์ออกจากการสอบ!”
หลังจากที่ชายในเครื่องแบบทหารพูดจบ สีหน้าของนักเรียนก็เปลี่ยนไป พวกเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากพวกเขาไม่พับผ้าห่มหลังตื่นนอน?
นี่มันกฎบ้าอะไรวะเนี่ย!
“ ร้อยโทลั่วพูดถูก เมื่อคุณได้เข้ามาในค่ายทหารแล้ว คุณก็จะต้องปฏิบัติตามกฎของทหาร คุณจะถูกลงโทษถ้าคุณทําผิด มันจะไม่มีข้อยกเว้นใดๆทั้งสิ้น ดังนั้นก็อย่าคิดว่าคุณจะสามารถทําอะไรก็ได้โดยไม่ต้องคิดเพียงเพราะว่าคุณมีความสามารถ ฉันได้เตือนคุณแล้ว คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าคุณต้องการจะทําอะไร” หลิวหวินซีพยักหน้าและพูด
“ เราจะเริ่มนับถอยหลังแล้ว คุณมีเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เอาล่ะ รีบๆเลย!” ร้อยโทลั่วตะโกนในทันที
การแสดงออกของเขาดูเข้มงวดและเย็นชา ความรู้สึกที่เป็นมิตรเมื่อสักครู่นี้หายไปในอากาศ
“ เร็วเข้า!”
หลิวเหวินซีกล่าวเสริม
ผู้เข้าสอบเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ครึ่งชั่วโมงนั้นไม่ได้นานเกินไปหรือน้อยเกินไป ผู้หญิงบางคนจัดของได้ช้ามาก ดังนั้นพวกเธอจึงไม่กล้าเสียเวลาอีกต่อไป
ผู้เข้าสอบทั้งหมดอยู่ในความโกลาหล รูปลักษณ์ที่เย่อหยิ่งและภาคภูมิใจที่พวกเขาวางไว้เมื่อสักครู่ได้ถูกถูกโยนทิ้งไปในทันที
ชายที่สวมเครื่องแบบทหารยิ้มและพูดกับหลิวเหวินชีว่า “ เด็กพวกนี้ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ทําไมคุณไม่ยกพวกเขาให้ฉันสั่งสอนสักหนึ่งสัปดาห์ล่ะ ฉันรับรองว่าหลังจากเวบาผ่านไป พวกเขาจะกลายเป็นคนละคนอย่างแน่นอน”
“ ฮ่าฮ่า คุณไม่กลัวจะมีปัญหาจริงๆสินะ บางคนมีศักยภาพที่จะเป็นนักสู้ แต่เราก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะปีนขึ้นไปได้สูงแค่ไหนในอนาคต ดังนั้นแล้วคุณก็ไม่กลัวว่าพวกเขาจะแก้แค้นคุณเมื่อถึงเวลานั้นบ้างหรอ?” หลิวเหวินซีหยอกเขา
“ ฮ่าฮ่า ฉันได้ดูแลนักสู้มามากมายแล้ว หากไม่ถึงร้อย มันก็เกินห้าสิบอยู่ดี ดังนั้นแล้วทําไมฉันถึงจะต้องกลัวเด็กน้อยเหล่านี้ด้วย” ร้อยโทลั่วตอบกลับอย่างดูถูก
“ ดี ดี ดี น่าประทับใจจ
หวังเต็งและหยางเจี้ยนอยู่ในห้องเดียวกัน เพื่อนร่วมห้องอีกสองคนก็มาจากแถวที่แปดเช่นกัน ทุกคนรู้จักกันดีดังนั้นมันจึงช่วยลดปัญหาได้มากเมื่ออยู่ด้วยกัน
สําหรับหลินซัวหาน เธอก็ไปรวมอยู่กับนักเรียนหญิงอีกสามคน
เธอค่อนข้างโด่งดังในโรงเรียน มันมีหลายคนที่มองหาเธอเพื่อถามคําถามเกี่ยวกับการเรียนและแม้ว่าเธอจะเงียบและเย็นชาเล็กน้อย แต่เธอก็ช่วยเพื่อนร่วมชั้นเสมอทุกครั้งที่มีปัญหา
ครึ่งชั่วโมงผ่านไปเร็วมาก ในไม่ช้า เสียงของร้อยโทลั่วก็ดังขึ้นจากภายนอก
“ ออกมารวมกลุ่ม!”
ผู้เข้าสอบไม่กล้าที่จะชักช้า พวกเขารีบวิ่งออกไป
โชคดีที่เวลาครึ่งชั่วโมงนั้นเพียงพอแล้วสําหรับพวกเขา
“ นับจากหน้าไปหลัง นับ!”
ผู้เข้าสอบเข้าแถวกันอย่างเรียบร้อย เมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งที่เขาพูด พวกเขาก็เริ่มนับจากคนแรกทันที
หนึ่ง!
สอง!
สาม!
…
มันใช้เวลาไม่นานในการเข้าร่วม และมันก็มีผู้เข้าสอบทั้งหมด 1352 คน!
“ ดีมาก ทุกคนอยู่ครบ ดูเหมือนว่าพวกคุณจะจําสิ่งที่ฉันพูดได้” ร้อยโทลั่วพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขาพูดต่อ “ เอาล่ะ ตามฉันไปที่โรงอาหารเพื่อทานอาหารเย็นของคุณ!”
ผู้เข้าสอบเดินตามร้อยโทลั่วและมาถึงโรงอาหาร มันมีทหารจํานวนมากกําลังทานอาหารอยู่ภายใน และมันก็มีเพียงพื้นที่เดียวเท่านั้นที่ว่างเปล่า เห็นได้ชัดว่าพื้นที่นี้ถูกเตรียมไว้สําหรับผู้เข้าสอบ
เมื่อทหาที่กําลังรับประทานอาหารที่นั่นเห็นผู้เข้าสอบกลุ่มนี้เดินเข้ามา พวกเขาก็เงยศีรษะขึ้นและมองไปที่พวกเขา อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็ก้มศีรษะลงและรับประทานอาหารต่อ กระบวนการทั้งหมดเงียบมาก
“ อีกครึ่งชั่วโมงรวมตัวกันข้างนอกเมื่อคุณกินเสร็จแล้ว”
เมื่อได้รับคําสั่งแล้ว ผู้เข้าสอบก็พุ่งเข้าไปในโรงอาหาร พวกเขาหาที่นั่งและนั่งลงเพื่อทานอาหารเย็น
พวกเขาเพิ่งเป็นทหารได้เพียงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น แต่พวกเขาก็เริ่มดําเนินการตามคําสั่งทุกครั้งโดยไม่ชักช้า!
เพราะส่วนใหญ่ต่างก็กลัวจะถูกตัดสิทธิ์ออกจากการสอบ!
ผู้เข้าสอบไม่มีใครบ่น พวกเขาสาปแช่งร้อยโทลั่วหลายร้อยครั้งในใจแล้ว พวกเขาสาบานอย่างเงียบๆว่าจะไม่สมัครเข้าโรงเรียนการทหารแน่นอนในอนาคต นี่มันน่าขยะแขยงเกินไป!
หลังจากที่ทุกคนทานอาหารเสร็จก็เป็นเวลา 19.30 น.
ไฟในค่ายสว่างขึ้น และเพลงทหารก็ดังขึ้นในสนาม มันทําให้ค่ายทหารที่เคร่งขรึมดูมีชีวิตชีวาขึ้นเล็กน้อย
“ หนุ่มๆสาวๆสนใจร้องเพลงสักสองสามเพลงไหม?” ร้อยโทลั่วยิ้มและถาม
“ มีพี่น้องทหารที่น่ารักๆที่ร้องเพลงได้บ้างไหม? พวกเราร้องเพลงไม่เป็น!”
มีคนกล้าแสดงออกเป็นพิเศษและตะโกนประโยคนี้ ทันใดนั้นก็เกิดความโกลาหลขึ้นท่ามกลางฝูงชน
“…”
“ ใช่แล้ว มีพี่น้องทหารที่น่ารักๆบ้างไหม”
“ เราไม่สามารถดวลกันได้ แต่เราสามารถแข่งขันในการร้องเพลงได้!”
“ หายไวๆ นะ!” ร้อยโทลั่วหัวเราะด้วยความโกรธ เขาไม่เคยเจอใครยั่วโมโหเขาได้ทั่วนี้มาก่อน “ มา มาแข่งกันไปเลย หากคุณชนะ เราก็จะให้คุณดูเบลล์ทหารของเรา”
“ อย่ากลับคําพูดนพ!”
ผู้เข้าสอบมีความกล้ามากขึ้นเมื่อพวกเขาสังเกตเห็นว่าเขาไม่ได้พูดถึงให้พวกเขาถูกตัดสิทธิ์จากการสอบศิลปะการต่อสู้ ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงกล้าที่จะท้าทายร้อยโทลั่ว
หลิวเหวินซีส่ายหัวเมื่อเห็นสิ่งนี้
ร้อยโทลั่วไม่ใช่คนที่งายจะรับมือ พวกเขายังมีสอบต่อพรุ่งนี้ ดังนั้นมันจะเป็นไรไหมสําหรับพวกเขาที่จะเล่นอย่างหนักในเวลากลางคืน?
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นความตื่นเต้นของผู้เข้าสอบ เขาก็รู้สึกว่าเขาควรปล่อยเรื่องนี้ไป
“ ลืมมันไปเถอะ พวกเขาสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อผ่อนคลายได้”
“ ฉันสงสัยว่าผู้เข้าสอบที่ไปที่สถาบันสอนศิลปะการต่อสู้ไปเหลียงและสถาบันสอนศิลปะการต่อสู้เหล่ยติงจะเป็นอย่างไรบ้าง สถานการณ์ในค่ายทหารของพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้างนะ?” จู่ๆผู้นําจากกระทรวงศึกษาธิการที่ยืนอยู่ข้างๆหลิวเหวินซีก็ถามขึ้น
“ พวกเขาไม่มีคนที่ไม่น่าเชื่อถือเหมือนกับร้อยโทลั่ว ดังนั้นสถานการณ์ทางฝั่งนั้นก็น่าจะเป็นไปได้ด้วยดี” ผู้นําอีกคนจากกระทรวงศึกษาธิการยิ้มและตอบ
“ ฮ่าๆๆๆ จริงด้วย”
ร้อยโทลั่วนําผู้เข้าสอบไปที่สนามและตะโกนใส่ทหารที่กําลังร้องเพลงอยู่
“ พี่น้องทั้งหลาย เด็กเหลือขอกลุ่มนี้ได้ยินคุณร้องเพลงและรู้สึกไม่พอใจ พวกเขาต้องการที่จะแข่งขันกับพวกคุณ พวกคุณคิดว่ายังไง?”
“ มาแข่งขันกันไปเลย เราก็ไม่ยอมเหมือนกัน!” ทหารที่ดูเหมือนหัวหน้าหมวดเดินเข้ามาแล้วพูด
“ มาแข่งกัน!”
“ มาแข่งกัน!”
ทหารคนอื่นๆก็ตื่นเต้นเช่นกัน พวกเขาไม่ถอยและเริ่มเชียร์
“ มาแข่งขันกัน เราไม่กลัวคุณหรอก!”
นักเรียนชายถูกกระตุ้น พวกเขาต้องการที่จะแสดงเอาหน้าผู้หญิง
ใครจะไปรู้? พวกเขาอาจจะสอบผ่านหลักสูตรศิลปะการต่อสู้และได้แฟนสาวเป็นของแถมกลับไปก็ได้
แค่คิดก็มีความสุขแล้ว
ทันใดนั้นเสียงร้องเพลงในสนามก็ดังขึ้น เสียงปรบมือเสียงเชียร์และเสียงเชียร์รวมกันเป็นเสียงประสานที่สวยงาม และทําให้คืนนี้ดูดคึกคักราวกับต้องมนต์!