แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 651 หักแม่น้ำ
กาบเรือ เฉินเฟิงได้ยินคำพูดของก่วนหานเทียนทุกคำ
เดิมเขาคิดว่า หลังจากกำลังขับเคลื่อนการหายใจตามฉบับเซียวกั่วจง ค่อยโจมตีรุกอีกครั้งไปฆ่าจิ่งเถิง จบสิ้นการประลองครั้งนี้ซะ แต่ตอนนี้พอได้ยินคำพูดของก่วนหนานเทียน เขากลับไม่รีบลงมือ และค่อยๆใช้วิธีหายใจตามแบบวิชาลับ รอให้จิ่งเถิงจู่โจมเข้ามา
“ไอ้หมอ แค่นี้แหละ!”
หลายวินาทีผ่านไป ตามมาด้วยเสียงตะคอก ออร่าของจิ่งเถิงพุ่งถึงขีดสุด ลมปราณในร่างหมุนวน ตัวเขาราวกับดวงอาทิตย์ร้อนแรงพร้อมเผาผลาญ ดูน่ากลัวมาก
เขาคำรามเสียงต่ำ และเริ่มขยับ!
ภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็น จิ่งเถิงขยับเท้า เขาเหมือนหดตัวลง พริบตาเดียวพุ่งไปยืนหน้าเฉินเฟิง
“เร็วมาก!” หลังจิ่งเถิงล้มเลิกตั้งรับและตั้งใจโจมตี ความเร็วเปลี่ยนเป็นเร็วขีดสุด ทำให้ปรมาจารย์ด้านการต่อสู้หลายคนตกใจมาก และพวกศิษย์สำนักต่างๆยิ่งมองไม่ชัดแล้ว พวกเขาเห็นแค่เงาแวบไปมา
ฮุ!
พริบตาเดียวประชิดตัว จิ่งเถิงออกหมัดทันที
หมัดนี้เขาใช้วิชาลับหมัดหยินหยาง ล้มเลิกการป้องกันตั้งรับทั้งหมด ลมปราณในร่างเริ่มเผาผลาญขึ้น ออร่าเข้มข้นขึ้นมาก รวบรวมพลังภายในไปไว้ที่หมัดขวา กดทับให้ประสานกับจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ที่สุด ดูน่ากลัวมาก
อันตราย!
เฉินเฟิงกระตุกวูบ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสรังสีอันตรายจากตัวจิ่งเถิง แต่เขาไม่ได้เผยความรู้สึกกลัวและหวาดหวั่นอะไรออกมา และยกแขนขวาขึ้นกำหมัดรอรับ
วินาทีนี้แขนขวาเขาประหนึ่งไม้ทวนท่อนยาว กำปั้นประหนึ่งหัวทวน
พุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ ฟาดฟันศัตรูไม่ถอย!
หักแม่น้ำ!
ในขณะเดียวกันที่เฉินเฟิงแอบเดินลมหายใจด้วยวิธีลับ เขาใช้กระบวนท่าไม้ตายหักแม่น้ำ และผสานลมปราณกับพลังเข้ากันอย่างเพอร์เฟคส์ กลายเป็นพลังภายในที่บริสุทธิ์ที่สุด รวมกันอยู่ที่กำปั้น จุดที่กำปั้นอยู่ อากาศโดนแหวกขาด
ภูเขาหักพัง ทำคนตาย!
วินาทีนั้นออร่าของทั้งตัวเฉินเฟิงเกิดการเปลี่ยนแปลงอันสะท้านฟ้าสะท้านดินเหมือนกัน เขาเปรียบเสมือนแม่ทัพที่ผ่านศึกสงครามรบราฆ่าฟันในสมัยโบราณ และไม่สนใจความปลอดภัยของตัว แทงทวนออกไปเต็มกำลังสู้ฟันข้าศึก คิดจะแทงศัตรูให้ตายคาที่!
วินาทีนี้ไม่ว่าจะเป็นจิ่งเถิงหรือเฉินเฟิงต่างใช้ความสามารถที่แท้จริงที่แกร่งที่สุดออกมา และยังไม่คิดถอยเลยสักนิด ต่างเลือกจะแข็งชนแข็งอีกครั้ง
เรียกได้ว่า คมปะทะคม!
บึ้ม!!
จากนั้นในจังหวะที่ทุกคนแทบกลั้นหายใจมองตาไม่กระพริบนั้น กำปั้นของเฉินเฟิงกับจิ่งเถิงปะทะกันเข้าอย่างจัง พลังภายในของทั้งคู่ที่กำปั้นชนกันในพริบตา พลังทำลายล้างน่ากลัวมาก
เพี๊ยะ!เพี๊ยะ!เพี๊ยะ!
วินาทีนั้นมีเสียงระเบิดอากาศดังขึ้น พลังปราณที่น่ากลัวหมุนล้อมรอบกำปั้นทั้งคู่ ก่อให้เกิดพายุหมุนลมปราณอันน่ากลัว ประหนึ่งพายุไต้ฝุ่นขนาดเล็กพัดผ่านสี่ทิศ
ในเวลาเดียวกันกำปั้นของเฉินเฟิงกับจิ่งเถิงแยกออกจากกัน และเจอแรงสะท้อนอันน่ากลัว แขนสะท้านอย่างห้ามไม่อยู่ พาให้ถอยหลังไปอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่
เพี๊ยะ!
เพี๊ยะ!
เพี๊ยะ!
เฉินเฟิงผวาถอยไปสามก้าวติด ทุกย่างก้าวหนักแน่นจนทำพื้นกาบเรือใต้เท้าแตกกระจาย
ส่วนอีกด้าน จิ่งเถิงผวาถอยไปห้าก้าวติดถึงหยุดลงได้!
เฉินเฟิงยืนตั้งมั่น รีบปรับลมปราณที่วิ่งปั่นป่วนในร่างกาย ดูแล้วไม่น่ามีปัญหา
ส่วนจิ่งเถิงสีหน้าขาวซีด ลมปราณในร่างวิ่งสับสนแทบหลุดการควบคุม แขนขวาผล็อยข้างตัว มีรอยปริแตก เลือดสดๆไหลลงบนกาบเรือ ดูเด่นชัดใต้แสงอาทิตย์อัสดงแบบนี้
นอกจากนี้แล้วยังมีเลือดไหลออกมาจากริมฝีปากเขาอีกด้วย!
การปะทะกันเมื่อกี้ เขาไม่เพียงโดนแรงสะท้อนทำเอาสะเทือนแผลปริแตก แขนชาแทบจะหมดความรู้สึก แถมอวัยวะภายในยังโดนลมปราณทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเลย
ทั้งหมดนี้ทำให้จิ่งเถิงตะลึงอย่างมาก!
ต่อให้ฝันเขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่า ในตอนที่เขาตัดสินใจใช้ไม้ตายหมัดหยินหยาง ยังไม่สามารถฆ่าเฉินเฟิงได้ และยังตกเป็นรองอีกครั้ง!
ภายใต้แสงอาทิตย์อัสดง เขาเสมือนรูปหินแกะสลัก ยืนนิ่งอยู่กับที่ เบิกตากว้างมองหน้าเฉินเฟิงอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง มันเหมือนกำลังถามว่า: เขาแกร่งจนถึงขั้นนี้เลยหรอ?
“พี่เฟิงสุดยอด!”
สิ่งที่ตอบจิ่งเถิงกลับเป็นเสียงโห่ร้องดีใจของพวกหวู่เหวินโป๋
ถึงพวกเขาจะไม่สามารถมองเห็นว่าการปะทะกันของเฉินเฟิงกับจิ่งเถิงเมื่อกี้อันตรายแค่ไหน แต่ก็มองเห็นได้ชัดว่า ตอนนี้เฉินเฟิงดูปกติสบาย ส่วนจิ่งเถิงกลับบาดแผลสะบักสะบอม แถมยังมีเลือดไหลมุมปากอีก—นี่เท่ากับเป็นการยืนยันแล้วว่า ในการปะทะกันเมื่อกี้เฉินเฟิงได้เปรียบกว่า!
ขนาดพวกหวู่เหวินโป๋ยังมองออกถึงจุดนี้ มีหรือพวกจอมยุทธ์คนอื่นจะมองไม่ออก?
“ที่แท้นี่ต่างหากถึงเป็นฝีมือที่แท้จริงของพวกเขา น่ากลัวเกินไปแล้ว!”
“ใช่สิ พลังที่จิ่งเถิงแสดงออกมา ขนาดความกล้าที่จะสู้กับเขาฉันยังไม่มีเลย!”
“จิ่งเถิงน่ะแกร่งมากแล้ว โดยเฉพาะหมัดเมื่อกี้เรียกได้ว่าน่ากลัวมาก แต่ไม่เพียงโดนเฉินเฟิงตั้งรับได้ ยังได้รับบาดเจ็บอีก—ตกลงเฉินเฟิงแกร่งขนาดไหนเนี่ย?”
หลังจากพวกศิษย์สำนักน้อยใหญ่ตกตะลึงกับความสามารถที่แท้จริงที่เฉินเฟิงและจิ่งเถิงแสดงออกมาแล้ว ก็พากันวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่ สายตาที่มองไปทางทั้งคู่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
พวกเขาเองถือว่าเป็นอัจฉริยะของแต่ละสำนักแล้ว แต่พอมาเทียบกับเฉินเฟิงและจิ่งเถิง เทียบไม่ติด เรียกได้ว่าคนละระดับกันเลยทีเดียว!
แตกต่างจากการวิพากษ์วิจารณ์บนเรือลำที่หนึ่งและสาม บรรยากาศบนเรือลำที่สองกลับสงบนิ่ง
เทียบกับคนนอกอย่างพวกหวู่เหวินโป๋และพวกศิษย์สำนักน้อยใหญ่แล้ว ปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ทั้งหลายบนเรือลำที่สองไม่เพียงสายตาดีกว่าพวกเขามากนัก แถมยังอยู่ใกล้กว่า เห็นได้ชัด เลยยิ่งรับรู้ได้ชัดกว่า!
นอกจากปรมาจารย์คงเหมิง ปรมาจารย์จาง จ้าวอู๋เต้าและเฉียวอู่โต่แล้ว ปรมาจารย์ท่านอื่นตกใจกันไม่น้อยเลย
แม้แต่อู่จื่อโจวที่มาจากสหพันธ์สงครามกับสองพ่อลูกจิ่งหยุนเฟิงและจิ่งเซ่อเหมิงเองก็ไม่ต่างกัน!
ในนั้น อู่จื่อโจวกับปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ท่านอื่นไม่คิดเลยว่า ความสามารถที่แท้จริงของเฉินเฟิงกับจิ่งเถิงจะเก่งถึงระดับนี้
สำหรับสองพ่อลูกจิ่งหยุนเฟิงและจิ่งเซ่อเหมิง…ถึงช่วงก่อนเฉินเฟิงจะเอาแต่กดดันกระหน่ำโจมตีจิ่งเถิง แต่ในสายตาพวกเขา เฉินเฟิงแค่อาศัยประสบการณ์การต่อสู้ที่มากกว่า ถ้าคุยเรื่องความสามารถที่แท้จริงถือว่าด้อยกว่าจิ่งเถิงแน่—-จิ่งเถิงใช้หมัดหยินหยางปะทะกับเฉินเฟิง เฉินเฟิงสะเทือนจนถอยไปครึ่งก้าว!
ในสถานการณ์แบบนี้ พวกเขาเชื่อมั่นว่า ถ้าจิ่งเถิงยกเลิกการป้องกัน ตั้งใจโจมตีอย่างเดียวแล้ว จะสามารถฆ่าเฉินเฟิงได้อย่างง่ายดาย สุดท้ายแล้วจิ่งเถิงยังตกเป็นรองอยู่อีก แถมยังได้รับบาดเจ็บด้วย—มันทำให้พวกเขาตกใจไม่น้อยเลยทีเดียว!
“ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าเฉินเฟิงฆ่านินจาชั้นสูงของญี่ปุ่นถึงสองคนได้ยังไง แถมยังก่อคดีนองเลือดที่ญี่ปุ่นอีกด้วย!” จากนั้น ปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ท่านหนึ่งเอ่ยปากทำลายความเงียบขึ้น
“ใช่ เขาแกร่งเกินไปแล้ว—พลังหมัดเมื่อกี้ของจิ่งเถิง ต่อให้เป็นจอมยุทธ์ระดับกลางหั้วจิ้งยังไม่แน่ว่าจะรับไหว แต่นี่เขาไม่เพียงรับไหว ยังโจมตีทำร้ายจิ่งเถิงอีกด้วย!” ปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ท่านหนึ่งพูดเออออ
“แบบนี้เท่ากับว่า จิ่งเถิงนั่นก็มีความสามารถที่แท้จริงมากกว่ายอดฝีมือจอมยุทธ์ระดับกลางหั้วจิ้งอีกล่ะสิ!” พวกปรมาจารย์ด้านการต่อสู้คนอื่นที่ไม่เคยเห็นศึกนั้นกับตาตัวเองถึงบางอ้อ แต่ก็ตกใจมากเหมือนกัน