ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 845

ตอนที่ 845

และในขณะที่พวกเขากำลังสนทนากันอยู่นั้น ชายคนนั้นก็ดันหันไปเห็นชิงจือเข้าพอดี

เขาจึงหันไปถามเฉินเฟิงทันที “ผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนของคุณ หรือว่า?”

เฉินเฟิงมองตามทิศที่เขามองไป ก็เห็นว่าเป็นชิงจือ ส่วนเยว่เอ๋อนั่งอยู่ข้างหลังเขาจึงมองไม่เห็น

เฉินเฟิงถามกลับ: “คุณคิดจะทำอะไร?”

ชายคนนั้นจึงยิ้มออกมา: “ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาไม่เลวนี่ ถ้าหากคุณยอมให้เธอไปนอนกับคุณชายหลัวสักคืนหนึ่ง บางทีหากคุณชายหลัวมีความสุขอาจยอมปล่อยคุณไปก็ได้”

เฉินเฟิงถึงกับพึมพำอยู่ในใจ: “เจ้าหมอนี่มันบ้าตัณหาชัดๆ ถึงได้กล้าชี้เป้าไปยังตัวชิงจือแบบนี้”

เฉินเฟิงไม่ตอบกลับใดๆ ส่วนทางด้านคุณชายหลัวดูเหมือนว่าจะติดต่อหาคนอื่นไปแล้ว ซึ่งดูจากสีหน้าของเขาแล้วคงจะมีการจัดการหมดแล้ว และอีกไม่นานก็คงจะมีคนมาจับตัวเฉินเฟิง

ชายคนนั้นพูดจาโน้มน้าวอีกครั้ง: “ถ้าหากตอนนี้คุณยังไม่คิดให้ดี รอให้คนมาแล้ว ต่อให้คุณอยากจะพูดก็ไม่มีโอกาสแล้วนะ”

เฉินเฟิงรู้สึกว่าความตื่นเต้นได้สิ้นสุดลงตรงนี้แล้ว เขาเลยเตรียมจะโทรไปยังคนที่เขารู้จัก ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดเขาถูกไล่ตามที่นี่ ตัวเขาก็จะยิ่งเจอปัญหายุ่งยากมากขึ้นไปอีก

แต่ในขณะที่เขาเตรียมจะโทรเรียกคนมา คุณชายหลัวคนนั้นเหมือนจะสังเกตเห็นคนที่อยู่ในรถของเฉินเฟิง และจากนั้นสีหน้าของเขาก็กลายเป็นหวาดกลัวขึ้นมาทันที เฉินเฟิงที่เห็นแบบนั้นก็หยุดความคิดของตัวเองทันที

คุณชายหลัวเดินตรงไปยังรถของเฉินเฟิง และหญิงสาวคนสวยที่มากับเขาก็เข้าไปถามว่าเขาต้องการจะทำอะไร แต่เธอกลับถูกเขาผลักออกมา หญิงสาวกรีดร้องคร่ำครวญออกมาอีกครั้ง แต่ว่าคุณชายหลัวก็ไม่ได้สนใจเธอ พลางมุ่งหน้าไปยังรถของเฉินเฟิงที่จอดอยู่

เมื่อเขาเดินไปถึงหน้ารถก็พยายามมองดูอย่างถี่ถ้วนก่อนจะอุทานออกมาด้วยตกใจ: “เป็นเธอได้ยังไง?”

คุณชายหลัวหันไปมองเฉินเฟิงด้วยความสับสนก่อนจะถาม: “หลี่จื่อเยว่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ?ทำไมเธอถึงมาอยู่บนรถของแกได้ แกลักพาตัวเธอมางั้นหรอ ?”

เฉินเฟิงเองก็ตกใจไม่น้อย เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็พอจะเดาได้ว่าหลี่จื่อเยว่คนนั้นน่าจะหมายถึงเยว่เอ๋อ แต่ทำไมคุณชายหลัวคนนี้พอเห็นเยว่เอ๋อแล้วต้องกลัวด้วย

ยังไม่ทันรอคำตอบจากเฉินเฟิง คุณชายหลัวก็เดินไปข้างรถของเฉินเฟิง เขาหยุดแล้วมองดูสภาพของตัวเองผ่านกระจกรถพร้อมกับจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะเปิดประตูหลังออกอย่างระมัดระวัง

ทางด้านหลี่จื่อเยว่ที่เป็นเพราะอารมณ์กำลังย่ำแย่ ดังนั้นสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นเธอเพียงแค่หันไปดูเพียงครู่เดียวก็ไม่ได้สนใจอีก

แต่จู่ๆ ตอนนี้กลับมีคนมาเปิดประตูข้างๆ ที่เธอกำลังนั่งอยู่จึงทำให้เธอตกใจไม่น้อย

“คุณหนูหลี่ สวัสดีครับ ดีใจที่ได้เจอคุณที่นี่” คุณชายหลัวพูดกับหลี่จื่อเยว่ด้วยรอยยิ้มจางๆ

เมื่อเห็นว่าเป็นชายแปลกหน้าคนหนึ่ง หลี่จื่อเยว่จึงขยับถอยหลังไปโดยสัญชาตญาณ ก่อนจะถามอีกฝ่าย

“คุณเป็นใคร?ฉันรู้จักคุณด้วยงั้นหรอ?”

“คุณหนู่หลี่อาจจะไม่รู้จักผมหรอก แต่ในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของคุณหนู ผมเคยไปร่วมแสดงคำอวยพรแก่คุณหนู ดังนั้นทุกวันนี้ก็เลยยังจำได้ เมื่อสักครู่นี้เห็นคุณหนูเข้าเลยแวะเข้ามาทักทาย”

เขาพูดออกมาด้วยความเกรงใจอย่างมาก ซึ่งแตกต่างกับท่าทีที่เขาแสดงต่อเฉินเฟิงโดยสิ้นเชิง

แต่ว่าหลี่จื่อเยว่กลับไม่ได้มีอารมณ์จะมาพูดคุยกับเขา จึงได้เพียงตอบกลับตามมารยาทเท่านั้น

“ขอโทษนะคะ คุณช่วยปิดประตูหน่อยได้ไหม ฉันไม่อยากให้ใครเห็นว่าฉันอยู่ที่นี่”

คุณชายหลัวได้เพียงตอบกลับด้วยความเคารพเท่านั้น

“ได้ครับ คุณหนูหลี่”

เฉินเฟิงและชายที่ยืนอยู่ข้างเขายืนดูฉากละครนั้นอย่างคาดไม่ถึง

“ผู้หญิงคนนั้นคือใคร?”

“คุณดูไม่ออกงั้นหรอ?คุณชายหลัวคนนั้นก็พูดออกมาแล้วไม่ใช่หรือไง?” เฉินเฟิงตอบกลับอย่างล้อเลียน

“ผมรู้ว่าคุณชายหลัวพูดแล้ว แต่ว่า ……”

คุณชายหลัวที่หลังจากปิดประตูลงก็เดินมาตรงหน้าของเฉินเฟิงพวกเขาสองคน

เขาพูดพร้อมกับจ้องเฉินเฟิง: “คุณมีความสัมพันธ์อะไรกับคุณหนูหลี่?”

เฉินเฟิงที่เห็นท่าทีของเขาเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคนก็ตอบกลับอย่างเรียบง่าย: “ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่เพื่อนกันก็เท่านั้น”

“คุณเป็นเพื่อนกับคุณหนูหลี่ อย่างคุณเนี่ยนะ?”

“ทำไม หรือว่าคุณจะลองไปเชิญเธอลงมาพูดล่ะ” เฉินเฟิงพูดแนะ

แต่คุณชายหลัวกลับสะบัดมือ: “ไม่ต้องๆ ผมเชื่อแล้ว”

เฉินเฟิงจึงถามอีกครั้ง: “ถ้างั้นพวกเราไปได้หรือยัง?คงจะไม่มีใครมาจับผมแล้วสินะ?”

คุณชายหลัวพูดอย่างนอบน้อม: “ใช่ๆ ในเมื่อเป็นรถของคุณหนูหลี่แน่นอนว่าจะทำอะไรก็ได้ เมื่อสักครู่นี้เป็นแค่การหยอกล้อกันทั้งนั้น จะมีคนมาจับพวกคุณได้ยังไงกัน ฮ่าๆๆ ”

“แล้วที่ผมต่อยคุณไปหนึ่งทีนั่นล่ะ จะให้ผมชดใช้ด้วยหรือเปล่า ผมคงจะไม่มีเงินมากพอ คงต้องล้มละลายซะแล้ว”

แต่คุณชายหลัวกลับตอบอย่างจริงจังขึ้นมา: “หมัดนั้นเป็นเพราะความผิดของผม สมควรจะได้รับโทษอยู่แล้ว จะให้พี่ชายมาชดใช้ได้ยังไงเล่า ควรจะเป็นผมมากกว่าที่จะต้องชดใช้ด้วยการเชิญพวกพี่ชายไปทานอาหารสักมื้อเป็นการขอโทษ”

เฉินเฟิงสะบัดมือปฏิเสธพร้อมกล่าวด้วยท่าทางใจกว้าง : “ทานข้าวคงจะไม่ต้องหรอก แต่คราวหน้าต่อให้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็อย่ามาเล่นพิเรนทร์แบบนี้บนท้องถนน มันอันตราย”

คุณชายหลัวจึงรีบพยักหน้าทันที

เมื่อพูดจบ เฉินเฟิงก็เดินหันหลังกลับทันที เหลือเพียงแต่ชายอ้วนและคุณชายหลัวที่ยืนอยู่ตรงนั้น ชายอ้วนที่เห็นอย่างนั้นจึงหันไปถามคุณชายหลัวด้วยความสงสัย : “คุณชายหลัว ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครมาจากไหนหรอครับ!”

แต่ยังพูดไม่ทันขาดคำ คุณชายหลัวกลับต่อยหน้าเขาทีหนึ่งอย่างคาดไม่ถึง เขากุมหน้าด้วยความเจ็บปวดพลางมองไปยังคุณชายหลัว แต่คุณชายหลัวกลับตอบกลับด้วยความเย็นชา

“เรื่องที่นายไม่ควรรู้ก็อย่าได้ถาม”

และในตอนนั้นเองเฉินเฟิงที่กำลังนั่งอยู่ในรถก็จ้องมองมาที่เขาพอดี คุณชายหลัวจึงเปลี่ยนสีหน้าแล้วยิ้มใส่เฉินเฟิงโดยทันที

รอจนกระทั่งเฉินเฟิงขับรถจากไป เขาถึงกลับมาแสดงสีหน้าเย็นชาอีกครั้ง

และแล้วพระอาทิตย์ก็ใกล้เวลาจะตกดิน แต่ว่าบริเวณโดยรอบพวกเขากลับมีเพียงความว่างเปล่า เมื่อมองไปข้างหน้าก็ไม่เห็นหมู่บ้านเลยสักแห่ง ซึ่งยิ่งไม่ต้องพูดถึงตัวเมืองเลย

รถของพวกเขาถูกจอดลงบนพื้นที่โล่งข้างทาง หลี่จื่อเยว่ดึงตัวชิงจือวิ่งไปยังพื้นที่ที่มีร่มเงา ส่วนเฉินเฟิงที่เดินตามลงมาก็เหลียวหันไปมองอีกทาง

จนกระทั่งเริ่มรู้สึกผ่อนคลายเขาจึงเดินออกมาจากหลังก้อนหินใหญ่ก้อนนั้น โดยตอนนี้หลี่จื่อเยว่พวกเธอสองคนก็ยังไม่กลับมา ในขณะที่พื้นที่รอบๆ เต็มไปด้วยความเงียบสงัด บนท้องฟ้าอันไร้เขตสิ้นสุดถูกประดับด้วยหมู่ดาวระยิบระยับจนแทบจะไม่เหลือพื้นที่ว่าง

เฉินเฟิงที่นั่งอยู่บนก้อนหินข้างทางกำลังนึกคิดว่าควรจะถามเรื่องเล่าขานของมหาปรมาจารย์กับชิงจือว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เพราะทางด้านชิงชิวอาจจะแค่เคยได้ยินคำบอกเล่าเท่านั้น แต่ชิงจือเป็นถึงมหาปรมาจารย์ก็น่าจะรู้เรื่องนี้แน่นอน

แต่เมื่อเห็นว่าหลี่จื่อเย่จูงมือชิงจือกลับมา เขาที่ได้เห็นใบหน้าไม่รับแขกของชิงจือนั้น เขาก็คิดได้ทันทีว่าไม่ควรจะไปลองดีด้วยน่าจะดีกว่า

“คืนนี้พักผ่อนที่นี่ไปก่อนแล้วกัน ต่อให้ตรงไปข้างหน้าก็ยังไม่มีเมืองอยู่ดี”

รอจนพวกเธอสองคนเดินเข้ามาใกล้ เฉินเฟิงจึงได้พูดขึ้น

สำหรับชิงจือไม่ได้มีความเห็นใดๆ แต่หลี่จื่อเยว่กลับพูดขึ้นด้วยความกลัว

“ในป่าแบบนี้หรอคะ?จะไม่เจออันตรายหรอคะ?”

เฉินเฟิงที่เห็นท่าทีระมัดระวังตัวเธอ ก็ตอบกลับด้วยความหยอกล้อ

“ในเมื่อเธอกลัว ก็ลองเดินตรงไปข้างหน้าดูเองสิ บางทีหากเจอหมู่บ้าน เธอก็ไม่ต้องมาค้างคืนที่นี่แล้ว”

หลี่จื่อเยว่ที่นึกสภาพตัวเองเดินบนถนนท่ามกลางความมืดมิดคนเดียว เธอก็นึกหวาดกลัวจนร้องออกมา

“ไม่เอา”

เฉินเฟิงที่เห็นอย่างนั้นก็หัวเราะชอบใจออกมา โดยที่เขาไม่ทันสังเกตเห็นสายตาของชิงจือที่กำลังเคร่งขรึม

หลังจากที่ทานอาหารและน้ำหมดแล้ว พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกนอกจากนอนค้างคืนภายในรถเพื่อรอให้ฟ้าสางของวันรุ่งขึ้นมาถึงเท่านั้น

และในตอนที่เฉินเฟิงกำลังนอนหลับด้วยความสะลึมสะลือ เขาก็ได้ยินเสียงเรียกของชิงจือข้างๆ เขา

“ตื่นๆ !”

เฉินเฟิงถึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท