ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 847

ตอนที่ 847

เฉินเฟิงมองไปยังเธอด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะกล่าวถาม: “ทำไม?หรือว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นงั้นหรอ?”

ชิงจือเพียงแค่ตอบกลับเขาสั้นๆ : “มีเรื่องเกิดขึ้นจริงๆ”

และเธอก็พูดเพียงเท่านั้นโดยไม่มีการอธิบายอะไรเพิ่มเติมทั้งสิ้น

เฉินเฟิงจึงต้องถามเอาความ: “แล้วคุณไม่คิดที่จะอธิบายกับผมหน่อยหรอ เผื่อบางทีผมอาจจะช่วยคุณได้”

แต่ดูเหมือนว่าคำพูดนี้ของเฉินเฟิงจะดูเป็นไปไม่ได้ ชิงจือจึงแหงนหน้าขึ้นมองเขาก่อนจะพูด : “ไม่จำเป็น คุณไม่มีความสามารถนั้นที่จะช่วยฉันได้ คุณไปอยู่ที่ตึกไห่สือรอฉัน ฉันจะไปตามหาคุณที่นั่นเอง”

เฉินเฟิงที่กำลังจะพูดบางอย่างออกมา แต่ว่าชิงจือกลับลุกขึ้นยืนเตรียมจะออกไปแล้ว

มีบางครั้งที่เฉินเฟิงไม่คิดว่าแม้แต่ชิงจือที่ต่อให้จะรับรู้ถึงเรื่องราวที่รุนแรงแล้วเธอจะสามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง

หลังจากที่ชิงจือกลับห้องของตัวเองไปแล้ว เฉินเฟิงก็เตรียมตัวที่จะพักผ่อน ด้วยเดิมทีคิดว่าค่ำคืนนี้จะเป็นคืนที่เงียบสงบ อย่างน้อยจะได้หลับอย่างเต็มอิ่มสักที

แต่ยังไม่ทันถึงเที่ยงคืน เฉินเฟิงกลับได้ยินเสียงดังแทรกเข้ามาจากด้านนอก

เขาพยายามลุกขึ้นมา ก่อนจะเดินไปยังประตูด้วยความระมัดระวัง แล้วใช้หูแนบกับประตูเพื่อฟังเสียงการเคลื่อนไหวด้านนอกนั้น

แล้วเสียงที่เกิดขึ้นราวกับกำลังมีการต่อสู้กัน เฉินเฟิงจึงคิดขึ้นมาได้ว่าจะต้องเป็นชิงจือแน่นอน

เขาคิดเพียงไม่นานก็เปิดประตูเดินออกไปหวังจะเข้าไปช่วยเหลือชิงจือ

และเป็นอย่างที่คิดไว้ เสียงทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นดังมาจากห้องของชิงจือ เฉินเฟิงเดินมาถึงหน้าประตูห้องของชิงจือ เขาเดินตรงเข้าไปทันทีเพราะประตูได้ถูกเปิดค้างเอาไว้อยู่แล้ว

แต่ในตอนที่เขาเดินเข้าไปด้านในก็พบว่าคนที่อยู่ในนั้นต่างพากันล้มระเนระนาดกันไปหมดแล้ว

เขาหันไปเห็นชิงจือที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าต่าง มองออกไปด้านนอก ราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเธอเลย เธอเพียงแต่นิ่งเงียบ ท่าทีแอบแฝงไปด้วยความเศร้าหมอง ขาดอยู่อย่างเดียวคือบุหรี่สักมวน

และทุกอย่างก็นิ่งสงบอยู่อย่างนั้น เฉินเฟิงแม้ไม่อยากจะทำลายความเงียบสงบนี้ลง แต่เขาก็ยังต้องถามเพราะความสงสัย : “เกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นี่?”

เมื่อได้ยินเสียงนั้นชิงจือจึงหันหลังกลับมามองเฉินเฟิงก่อนจะพูดออกมา: “เรื่องทุกอย่างเป็นอย่างที่ฉันได้คิดเอาไว้จริงๆ ด้วย จากนี้ไปคุณต้องพาเยว่เอ๋อไปที่ตึกไห่สือเพื่อรอฉันก็พอแล้ว แต่หากว่าคุณไม่เต็มใจ ฉันก็จะไม่บังคับ”

ท้ายที่สุดเฉินเฟิงก็ไม่ได้ถามกับเธอว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เพราะเฉินเฟิงอาจจะรู้ว่าคำตอบของชิงจือก็คือไม่มีคำตอบ

ในเช้ามืดวันถัดมาชิงจือก็เดินทางจากไป หลี่จื่อเยว่เข้าไปเรียกชิงจือที่หน้าประตู แต่ก็ไม่มีการตอบสนองกลับมา

เฉินเฟิงเดินมายังข้างกายของหลี่จื่อเยว่ แล้วมองดูเธอเคาะประตูซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนจะพูด : “เธอไปแล้ว”

หลี่จื่อเยว่หันไปถามเฉินเฟิงด้วยความประหลาดใจ: “พี่ชิงจือไปแล้ว?ไปไหนแล้ว?”

เฉินเฟิงตอบกลับ: “ไม่รู้ เธอไม่ได้บอกเอาไว้”

หลังจากที่เฉินเฟิงพูดจบ สีหน้าของหลี่จื่อเยว่ก็เศร้าหมองทันที ราวกับกำลังคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น

เฉินเฟิงพูดขึ้น : “เธอจะต้องไปกับฉันแล้วนะ ถ้าหากว่าเธอไม่เต็มใจฉันก็จะส่งเธอกลับบ้าน”

เดิมทีเขาไม่เคยมีความคิดที่จะพาตัวหลี่จื่อเยว่มาด้วยอยู่แล้ว ดังนั้นเฉินเฟิงจึงพูดออกมาตามตรง

หลี่จื่อเยว่ได้เพียงจ้องมองไปยังเฉินเฟิง ราวกับว่าเธอกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับปัญหานี้

เฉินเฟิงที่เห็นแบบนั้นจึงพูดกับเธออีกครั้ง: “เธอไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ยังไงซะพวกเราก็ยังไม่ได้ไปในช่วงเช้านี้อยู่ดี ไปหาอะไรกินก่อนเถอะ”

พูดจบ เขาก็เดินมุ่งหน้าลงไปด้านล่าง โดยไม่สนใจว่าหลี่จื่อเยว่จะตามหลังมาด้วยหรือไม่

หลังจากที่เขาเดินไปได้ไม่กี่ก้าว หลี่จื่อเยว่ก็สับเท้าเดินตามไป ก่อนจะพูดด้วยเสียงทุ้ม: “คุณคงจะไม่ทิ้งหนูใช่ไหม”

เฉินเฟิงหันไปมอง ราวกับว่าตอนนี้เธอกำลังกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้ ทั้งยังรอคอยคำตอบจากเฉินเฟิงด้วยความกังวล

เฉินเฟิงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ: “เธอวางใจได้ ฉันเคยให้คำมั่นกับชิงจือว่าจะดูแลความปลอดภัยของเธอ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังอยากให้เธอกลับไปน่าจะดีที่สุด เพราะที่นั่นจะปลอดภัยมากกว่า”

แต่หลี่จื่อเยว่กลับไม่มีการตอบโต้อะไร เพียงแค่เดินตามหลังเฉินเฟิงลงไปด้านล่างเท่านั้น

ร้านขายอาหารเช้าด้านนอกโรงแรมในขณะนี้กำลังคึกคัก มีคนมากมายมาเรียงรายต่อแถวกันอย่างเนืองแน่น

เฉินเฟิงจึงหันไปพูดกับหลี่จื่อเยว่: “เธอเข้าไปต่อแถวแล้วก็ฝากซื้อซาลาเปาให้ฉันสองลูกด้วย”

หลี่จื่อเยว่มองไปยังเฉินเฟิงด้วยความประหลาดใจ ราวกับว่ากำลังสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไปหรือเปล่า

“ทำไม ไม่อยากไปงั้นหรอ งั้นช่างเถอะ ฉันไปเอง”

เมื่อเฉินเฟิงพูดแบบนี้

ทางด้านหลี่จื่อเยว่เหมือนจะคิดอะไรบางอย่างออก จึงรีบเข้าไปขวางหน้าของเฉินเฟิงทันทีก่อนจะพูดออกมาด้วยความเคือง : “หนูไปเอง”

เฉินเฟิงที่เห็นอย่างนั้นจึงยิ้มออกมาจางๆ

ส่วนเขาก็เดินไปยังร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อของกินและน้ำ เพราะบางทีอาจจะได้เจอสถานการณ์แบบเดียวกับที่ได้นอนในป่าอีก

กระทั่งเขาเดินออกมา ตรงร้านขายอาหารเช้าก็ยังไม่ถึงคิวของหลี่จื่อเยว่สักที ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกเบื่อจนต้องเตะก้อนหินที่อยู่ตรงเท้าเล่นแก้เบื่อ

เฉินเฟิงเดินเข้าไปพร้อมกับถาม: “จริงด้วย เธอมีเงินหรือเปล่า?”

เธอตอบกลับอย่างฟืดฟัด: “ก็ต้องมีเงินอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นหนูจะมายืนอยู่ตรงนี้ทำไม”

ในเมื่อเธอมีเงิน ดังนั้นเฉินเฟิงจึงไม่กวนเธออีก ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในโรงแรม ด้วยระยะเวลาที่ชิงจือให้นั้นค่อนข้างจะนาน เขาจึงไม่รีบร้อนมากนักที่จะต้องเดินทางในทันที

ผ่านไปไม่นานนัก หลี่จื่อเยว่ก็กลับมา

เธอเคาะประตูห้องของเฉินเฟิง เฉินเฟิงเดินออกมาเปิดประตูแล้วมองไปยังถุงซาลาเปาในมือของเธอ

หลี่จื่อเยว่หยิบเอาซาลาเปาส่งให้กับเขาพร้อมกับพูด: “ของคุณ”

เฉินเฟิงรับซาลาเปาพลางถาม: “เธอคงจะไม่ได้โกรธฉันอยู่หรอกนะ?”

หลี่จื่อเยว่ตอบกลับ: “ไม่นี่ ก็แค่ซื้อซาลาเปาเอง”

จากนั้นเฉินเฟิงก็ถามอีกครั้ง: “เรื่องที่ถามเธอไปก่อนหน้านี้ เธอคิดดีแล้วหรือยัง?เธอจะไปหาชิงจือกับฉัน หรือว่าจะให้ฉันส่งเธอกลับบ้านไป ?”

หลี่จื่อเยว่พึมพำออกมาเบาๆ : “หนูไปกับคุณได้หรือเปล่า แล้วคุณจะรังแกหนูหรือเปล่า?”

ดูเหมือนเธอจะพบความจริงบางอย่างแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเฉินเฟิงยังคงยิ้มตอบ: “เธอคิดมากเกินไปแล้ว ฉันจะรังแกเธอได้ยังไง ในเมื่อตอนนี้เธอตัดสินใจแล้ว งั้นจากนี้ก็จะต้องตามฉันไปหาชิงจือ”

หลี่จื่อเยว่พยักหน้ารับ

“รีบกินตอนซาลาเปายังร้อนอยู่”

พูดจบเธอก็วิ่งกลับห้องของตัวเองทันที

เฉินเฟิงก้มหน้าลงมองซาลาเปาในมือของตัวเอง ตอนนี้มันกำลังอุ่นอยู่โดยบนถุงยังคงมีไอร้อนออกมา

จากนั้นเขาก็กลับเข้าห้องไปนั่งกินซาลาเปา แต่ผ่านไปไม่นานหลี่จื่อเยว่ก็กลับมาหาเขาอีกครั้ง

“มีเรื่องอะไรอีก?” เฉินเฟิงถาม

หลี่จื่อเยว่พูดออกมาด้วยความเคอะเขิน: “คุณไปซื้อของบางอย่างเป็นเพื่อนหนูหน่อยได้ไหม?”

เฉินเฟิงมองดูสีหน้าของเธอ ก็รู้ได้ทันทีว่าเธอต้องการจะซื้ออะไร

เขาคิดอยู่สักพัก ที่นี่สำหรับหลี่จื่อเยว่แล้ว เป็นที่ที่เธอไม่คุ้นชินถ้าหากพบเจอกับปัญหา ซึ่งหากวิเคราะห์จากประสบการณ์อันน้อยนิดของเธอแล้วคงจะมีแต่ถูกคนอื่นรังแกเท่านั้น

ดังนั้นเขาจึงตอบกลับ: “ก็ได้ แต่ว่าเธอจะต้องฟังที่ฉันพูด”

หลี่จื่อเยว่จึงรีบพยักหน้ารับทันที

เมืองเล็กแห่งนี้มีความคึกคักอย่างมาก บนถนนเต็มไปด้วยผู้คน พวกเขาสองคนเดินด้วยกัน ด้วยส่วนสูงที่ไม่ต่างกันมากพร้อมด้วยอายุที่ใกล้เคียงกันจึงทำให้พวกเขาดูเหมือนกับคู่รักที่ออกมาเที่ยวเล่นไปโดยปริยาย

และด้วยความคึกคักของที่นี่ทำให้อารมณ์ของหลี่จื่อเยว่เปลี่ยนเป็นเฮฮาขึ้นมาไม่น้อย

เธออดไม่ได้ที่จะมองไปยังร้านที่อยู่ด้านซ้ายและขวาด้วยความอยากรู้อยากเห็น พร้อมทั้งพูดคุยกับเฉินเฟิงเกี่ยวกับสิ่งของที่อยู่รอบๆ ทั้งชี้ไปทางนั้นทางนี้ ราวกับว่าเพิ่งเคยได้เห็นของพวกนี้เป็นครั้งแรก

ส่วนเฉินเฟิงเองก็ไม่ได้ออกมาชมบรรยากาศยามบ่ายอันแสนสงบแบบนี้นานแล้วเหมือนกัน ซึ่งทุกอย่างดูเรียบง่ายจริงๆ

จากนั้นไม่นานพวกเขาก็เดินมาถึงห้างแห่งหนึ่งที่ดูจะเป็นแหล่งสำคัญของเมืองแห่งนี้ ทางด้านหลี่เยว่ก็ตื่นเต้นจนรีบเข้าไปด้านในอย่างอดไม่ได้

เฉินเฟิงที่อยากจะกล่าวเตือนเธอก่อนสักหน่อย แต่เมื่อคิดไปคิดมาก็ไม่ได้พูดออกมา เพราะอย่างไรเสียเธอก็ยังเป็นเด็กซุกซนคนหนึ่ง ปล่อยให้เธอได้วิ่งเล่นอย่างอิสระอย่างนั้นดีกว่า

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท