ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 889

ตอนที่ 889

เฉินเฟิงที่โดนว่าอย่างนั้นก็โมโหเช่นกัน เขาจึงตะเบ็งพูดด้วยน้ำเสียงสูงขึ้น : “แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง จะให้ทำเป็นไม่สนใจคุณเลย แล้วปล่อยคุณนอนบนพื้นไว้คนเดียวทั้งคืนแบบนั้นผมทำไม่ได้หรอกนะ”

เมื่อโดนเฉินเฟิงพูดแบบนี้ใส่ เฟิ่งซีก็ไม่รู้ว่าจะโต้เถียงกลับอย่างไรดี ทั้งที่คนที่ถูกเอาเปรียบคือเธอแท้ๆ แต่เขาดันทำท่าทีน้อยใจแทนเสียอย่างนั้น และเมื่อเป็นแบบนี้เฟิ่งซีที่ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธเข้าไปอีก

“คุณมันก็แค่คนเลว” เธอด่าออกมา พร้อมกับหันหน้าหนีไม่สนใจเขาอีก

เฉินเฟิงเองก็เข้าใจว่าสิ่งที่เขาได้ทำลงไปนั้นดูเกินเลยไปหน่อย เขาจึงสงบอารมณ์ลงทันที: “ให้ผมได้ไถ่โทษกับคุณไม่ได้เลยหรอ? ผมผิดไปแล้ว คุณบอกผมมาว่าต้องทำยังไงคุณถึงจะยอมให้อภัย คุณคงไม่คิดจะทำแบบนี้กับผมไปตลอดหรอกนะ”

สองวันมานี้ถึงจะเหนื่อยล้าอย่างมาก แต่เฟิ่งซีที่หลังจากได้พักฟื้นแล้วท่าทีของเธอก็ดีขึ้นมากกว่าวันที่เป็นลมไปวันนั้น ใบหน้ากลับมามีน้ำมีนวลอีกครั้ง ริมฝีปากก็แดงระเรื่อชวนมอง พร้อมทั้งแก้มแสนกลมมนของเธอก็แทบจะทะลักน้ำออกมา

เมื่อได้ยินคำขอโทษจากเฉินเฟิง เฟิ่งซีก็เบะปากอย่างไม่มีความสุขมากนัก แต่ก็ยังหันหน้ากลับมามองเขา

“คุณสำนึกผิดแล้ว?”

เฉินเฟิงพยักหน้ายิกๆ : “อืม!ผมผิดไปแล้ว”

“ก็ได้ เพราะเห็นแก่ความจริงใจในตัวคุณ ฉันจะอภัยให้แล้วกัน ” เฟิ่งซีพูดอย่างใจกว้าง

และสิ่งนี้ทำเอาเฉินเฟิงตั้งตัวแทบไม่ทัน: “คุณว่ายังไงนะ?”

เฟิ่งซีพึมพำออกมาอีกครั้ง: “ทำไม ไม่อยากงั้นหรอ !”

เฉินเฟิงจึงรีบยกมือขึ้นมาสะบัดไปมา: “เปล่า ไม่ใช่”

ซึ่งในตอนนั้นเองที่เฟิ่งซีมองเห็นรอยแผลบนฝ่ามือที่เพิ่งตกสะเก็ดของเฉินเฟิง ทันใดนั้นสีหน้าของเธอก็แสดงอาการเป็นห่วงขึ้นมา ก่อนที่เธอจะรีบเข้าไปกุมมือนั้นของเขาแล้วใช้มือลูบเบาๆ พร้อมกล่าวถาม: “ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?”

มือข้างหนึ่งที่ถูกเฟิ่งซีกุมเอาไว้ทำให้รับรู้ถึงความเย็นที่แผ่ซ่านเข้ามา และความเรียบลื่นของมือนั้นก็ทำให้รู้สึกสบายอย่างมาก เฉินเฟิงจ้องมองไปยังใบหน้าที่วิตกของเฟิ่งซี ใจของเขาก็พลันถูกสะกดเอาไว้

เมื่อเห็นว่าเฉินเฟิงเหม่อมองมา เฟิ่งซีจึงตวาดมือขึ้นไปตบหน้าเขา : “คนเลว คุณก็รู้จักแต่จะรังแกคนอื่น”

เฉินเฟิงสะดุ้งพร้อมรีบตอบกลับ: “ผมไม่รังแกคุณหรอก ผมเคยสัญญากับพวกคุณเอาไว้แล้ว ยังไงผมก็ยังต้องปกป้องพวกคุณ ”

เฟิ่งซีใจอ่อนลงทันที พร้อมทั้งไม่คิดจะไปเอาเรื่องอะไรที่เขาจ้องมองเธอแบบนั้น

และในขณะที่เธอกำลังจะพูดบางอย่าง บริเวณด้านนอกลานก็มีเสียงฝีเท้าดังเข้ามา เฟิ่งซีจึงรีบขยับตัวเว้นระยะห่างกับเฉินเฟิงทันที

ส่วนเฉินเฟิงเองที่ไม่สามารถไปรั้นตัวเฟิ่งซีไว้ จึงได้แค่เปลี่ยนความสลดในใจเป็นความโกรธ เตรียมจะระบายอารมณ์กับคนที่กำลังจะเข้ามา

เพียงไม่นาน เชียนสวนยี่ก็เข้ามาพร้อมกับคนตระกูลเชียนอีกหลายคน เขาเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ในเมื่อนายท่านเชียนฟื้นแล้วการที่เขาจะมีความสุขย่อมเป็นเรื่องปกติ

ส่วนด้านหลังของเขามีคนตามมาด้วยสี่คน ซึ่งแต่คนก็ถือกล่องสีเงินไว้คนละกล่อง ตอนนี้พวกเขาเหมือนกลุ่มคนที่จะไปทำการค้าขายเสียอย่างนั้น

หลงหลินที่อยู่ด้านในก็ดูเหมือนจะสังเกตได้ว่ามีคนเข้ามา เธอจึงเดินออกมา

เชียนสวนยี่ที่เดินมาถึงหน้าของพวกเขาไม่กี่คนก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มทันที : “พวกคุณสองพี่น้องตระกูลฉางถือเป็นหมอที่มีทักษะอันเก่งกาจ ถึงได้ใช้เวลาเพียงแค่เจ็ดวันก็สามารถรักษาอาการของคุณพ่อได้แล้ว ความสามารถในการชุบชีวิตนี้ เกรงว่าจะมีความพิเศษมากกว่าสิ่งที่คนด้านนอกได้เล่าลือกัน ดังนั้นพวกเราตระกูลเชียนจึงไม่อาจที่จะติดค้างบุญคุณของพวกคุณได้”

เมื่อพูดจบ เขาก็ให้สี่คนที่อยู่ด้านหลังนำกล่องเหล่านั้นในมือของพวกเขามาวางไว้ตรงหน้าของพวกเฉินเฟิง

หลงหลินถาม: “นี่มันหมายความว่าอะไรคะ?”

เชียนสวนยี่กล่าวตอบ: “แน่นอนว่าเป็นของขวัญตอบแทนพวกคุณ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สิ่งของล้ำค่าอะไร แต่ถือว่าเป็นน้ำใจจากตระกูลเชียนของเรา ”

หลงหลินสะบัดมือทันที: “ที่พวกเราให้การรักษานายท่าน เป็นเพราะว่าเขามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับอาจารย์ของพวกเรา และเพราะมีของแทนใจเป็นหลักฐานยืนยันด้วยพวกเราถึงได้ยอมลงมือช่วยเหลือ ไม่ใช่เพราะว่าสิ่งของเหล่านี้หรอกนะคะ”

เชียนสวนยี่ที่ได้ยินอย่างนั้นก็เพียงแค่ยิ้มรับ แต่กลับได้ให้พวกเขาเปิดกล่องเหล่านั้นออกแล้ว

และในกล่องทั้งสี่ใบนั้นมีเพียงกล่องเดียวที่มีเงินจำนวนมากอยู่ด้านในเท่านั้น ส่วนกล่องอื่นๆ ที่เหลือก็เป็นพวกแฟ้มเอกสารบางอย่างแบบเดียวกันหมดเลย

“นอกจากเงินสดสิบล้านนี้แล้ว นี่เป็นวิลล่าหนึ่งหลังในสวนเทียนฉง ” เขาชี้ไปยังกล่องใบหนึ่ง: “ถึงแม้จะไม่ใช่บ้านที่หรูหราที่สุดในประเทศ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นบ้านที่หรูหรี่สุดในโม่เป่ยเลยทีเดียว ถ้าหากว่าพวกคุณไม่ต้องการจะเอาไปขายก็ได้”

เขาพูดออกมาอย่างง่ายดาย แต่เฉินเฟิงนั้นรู้ดีว่าสวนเทียนฉงแห่งนี้ถือเป็นที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ที่จัดอยู่ในห้าอันดับแรกในประเทศนี้เลยทีเดียวเชียว และยิ่งมีการเล่าขานอีกว่าหากเป็นแค่คนรวยอย่างเดียวก็ไม่สามารถจะซื้อบ้านระดับชั้นเฟิร์สคลาสได้

ในตอนนี้ดูเหมือนว่าแค่วิลล่าหลังนี้ก็มีมูลค่ามากกว่าเงินสิบล้านนั้นแล้ว

แต่เหมือนว่าจะยังไม่ได้มีเพียงเท่านั้น เพราะเชียนสวนยี่ได้เดินไปแนะนำกล่องใบถัดไป: “นี่เป็นอัญมณีส่วนหนึ่งที่ตระกูลเชียนได้นำไปฝากไว้ที่ตู้นิรภัยของธนาคารยูบีเอส ถึงแม้บางชิ้นจะดูเก่าแก่ไปบ้าง และอาจจะดูไม่ค่อยเข้ากับสุนทรียศาสตร์ในปัจจุบัน แต่ถึงอย่างนั้นก็นับว่ายังมีมูลค่า เพราะเหล่าจักรพรรดิในช่วงเวลานั้นยังพากันโอ้อวดเลย ดังนั้นตอนนี้คาดว่าคงจะหาพบได้ยากในท้องตลาดแล้ว”

แต่ถึงอย่างนั้นสองพี่น้องตระกูลฉางดูเหมือนจะไม่ได้มีความสนใจในเรื่องพวกนี้เลยแม้แต่น้อย ซึ่งนั่นถึงกับทำให้เฉินเฟิงประหลาดใจไม่น้อย ถึงเขาจะไม่รู้ว่าอัญมณีเหล่านี้คืออะไรกันแน่ แต่สิ่งของที่สามารถนำไปฝากไว้ในตู้นิรภัยธนาคารยูบีเอสได้ พร้อมกับค่าใช้จ่ายมวลรวมสำหรับค่าดูแลรักษาที่ไม่ใช่แค่เงินจำนวนน้อยๆ ด้วยแล้ว คิดแล้วถ้าไม่ใช่อัญมณีที่มีมูลค่ามากๆ ก็คงจะไม่สามารถเอาไปฝากไว้ที่นั่นได้

แต่ยังไม่ทันที่ความประหลาดใจของเฉินเฟิงจะสิ้นสุดลง เชียนสวนยี่ก็ชี้ไปยังกล่องใบสุดท้าย

“และนี่คือสิ่งที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นของขวัญตอบแทนที่แท้จริง เพราะมันคือหุ้นสิบเปอร์เซ็นในบริษัทตระกูลเชียนของพวกเรา ”

ของขวัญตอบแทนชิ้นนี้ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ยากจะประเมินมูลค่ามากที่สุดในบรรดาของเหล่านี้แล้ว

เพราะหากว่าตระกูลเชียนสามารถรักษาสถานะภาพในตอนนี้เอาไว้ได้ตลอด เช่นนั้นเมื่อเทียบกับของขวัญไม่กี่อย่างก่อนหน้านี้ที่เมื่อเอามารวมกันแล้ว ของชิ้นนี้ก็ยังถือว่ามีมูลค่ามากกว่าเป็นหลายเท่า แต่หากเกิดล้มละลายขึ้นมา นี่ก็จะกลายเป็นเพียงแค่แผ่นกระดาษเปล่าและไร้มูลค่าเท่านั้น

อย่างไรก็ตามการที่สามารถนำเอาหุ้นสิบเปอร์เซ็นออกมาแบบนี้ สามารถทำให้มองเห็นถึงความห้าวหาญในตัวของเชียนสวนยี่ได้เลย เพราะหากไม่ใช่คนที่มีความกล้าที่จะทำใจยกของแบบนี้ให้ผู้อื่นจริงๆ คนธรรมดาทั่วไปคงไม่มีใครตัดสินใจเรื่องนี้แบบนี้เด็ดขาด

รอจนกระทั่งเชียนสวนยี่พูดจบ หลงหลินถึงได้เอ่ยปากพูดอีกครั้ง: “ของเหล่านี้พวกเรารับไว้ไม่ได้จริงๆ ”

แม้แต่เฉินเฟิงเองก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน เพราะสิ่งของเหล่านี้กับการช่วยชีวิตนายท่านเชียนเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า และยังถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรมมากเลยทีเดียว

และไม่ได้มีแค่เฉินเฟิงเท่านั้น เชียนสวนยี่เองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน เขาจึงถามกลับทันที: “ไม่ทราบว่าเพราะคุณหลงหลินรังเกียจของเหล่านี้งั้นหรอครับ ถ้าหากคุณคิดว่าน้อยไป ผมสามารถเพิ่มให้คุณได้อีก พวกคุณมีพระคุณกับพวกเราขนาดนี้ แต่พวกเรายังปล่อยให้พวกคุณต้องมาเจอกับเหตุการณ์น่าตกใจแบบนั้นในบ้านตระกูลเชียนอีก พวกเราเข้าใจดีว่าควรจะมอบของขวัญตอบแทนที่จะทำให้พวกคุณพึงพอใจที่สุด ”

แต่หลงหลินกลับยกมือขึ้นมาสะบัดพลันอธิบาย: “ฉันเคยบอกไปแล้วว่าที่พวกเราช่วยเหลือนายท่านเชียนไม่ใช่เพราะว่าสิ่งของเหล่านี้ ”

เฉินเฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆ แทบอยากจะช่วยรับของเหล่านี้แทนสองพี่น้องตระกูลฉางแล้ว เพราะเมื่อลองนึกดูถึงเรื่องความเสี่ยงที่เกือบจะต้องเสียชีวิตมันก็มากพอที่พวกเธอจะรับของเหล่านี้ไว้แล้ว

แต่อย่างว่าเขาไม่ใช่พวกเธอสองคน

“สิ่งของเหล่านี้สำหรับพวกเราสองพี่น้องแล้วก็เป็นเพียงของที่ไร้ประโยชน์เท่านั้น ในทางกลับกันมันอาจจะทำให้พวกเราฟุ้งซ่านจนละความสนใจในการศึกษาสายการแพทย์ ดังนั้นคงต้องรบกวนให้เจ้าตระกูลเชียนเก็บของเหล่านี้กลับไปเถอะค่ะ ”

เมื่อเป็นอย่างนี้เชียนสวนยี่จึงไม่รู้ว่าควรจะรับมืออย่างไรดี เพราะเขาไม่เคยได้เจอคนที่ไม่สนใจในความมั่งคั่งแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ

แต่การจะให้นำของเหล่ากลับไปโดยตรงแบบนี้ก็จะดูน่าเกลียดเกินไป เขาจึงได้เพียงแต่พยายามกล่าวโน้มน้าวเท่านั้น : “ถ้าหากว่าคุณหลงหลินไม่ได้ใช้งาน ก็สามารถให้พวกเราช่วยดูแลชั่วคราวไปก่อนก็ได้ ถือว่าเอาฝากไว้ที่ตระกูลเชียนของเราไปก่อน”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท