ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 900

ตอนที่ 900

เฟิ่งซีรีบถามว่า “งั้นคุณต้องการอะไรกันแน่ จึงจะยอมช่วยพวกเราพาเฉินเฟิงกลับมาได้”

ในใจของหลงหลินกลับนึกถึงเรื่องที่น่าจะเป็นไปได้แล้ว แต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดออกมา

ไป๋ซูยิ้มแล้วพูดว่า “เมื่อครั้งแรกที่ได้พบเห็นพวกคุณทั้งสอง ทำให้รู้สึกตกตะลึงกับความงามของพวกคุณทั้งสอง ในใจคิดอยากจะใกล้ชิดพวกคุณทั้งสองขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ

แต่ก็ไม่รู้เป็นเพราะอะไร พวกคุณทั้งสองดูเหมือนจะมีอคติกับฉันอยากมากเลย มักจะแสดงท่าทางที่เย็นชา ทำให้ฉันรู้สึกปวดใจ ฉันรู้ตัวว่าตัวเองก็เป็นคนที่ไม่เลวคนหนึ่ง แต่กลับไม่มีทางที่จะเป็นเพื่อนกับพวกคุณทั้งสองได้เลยแม้แต่นิดเดียว”

หลงหลินก็ได้แต่มองดูไป๋ซูด้วยความเย็นชา ส่วนเฟิ่งซีกลับรู้สึกละอายใจกับท่าทางของตัวเองที่แสดงต่อเขา

ไป๋ซูก็พูดต่อไปอีกว่า “ฉันยินดีที่จะช่วยเหลือพวกคุณทั้งสอง คุณก็อาจจะคิดว่าในใจฉันอยากจะมาใกล้ชิดพวกคุณ แต่แท้จริงแล้วข้อเรียกร้องของฉันมันง่ายนิดเดียว เพียงแค่ให้พวกคุณทั้งสองปฏิบัติต่อฉันเหมือนเป็นเพื่อนคนหนึ่งก็พอแล้ว”

เมื่อไป๋ซูพูดจบ หลงหลินกลับอึ้งไปเลย เดิมทีเธอคิดว่าไป๋ซูจะเสนอความต้องการที่มากเกินกว่าเหตุ หนำซ้ำยังต้องการให้เธอทั้งสองยอมจำนนต่อไป๋ซูในเวลาเดียวกันด้วย

แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นข้อเรียกร้องที่ง่ายดายเช่นนี้

เฟิ่งซีอ้าปากค้างด้วยความมึนงง ดูเหมือนจะรู้สึกเสียใจที่ทำไม่ดีกับเขาไว้ในสองวันที่ผ่านมานี้

ไป๋ซูมองดูท่าทีของพี่น้องสองสาวแล้ว ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ได้แต่ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “งั้นฉันก็ไม่รบกวนพวกคุณทั้งสองพักผ่อนแล้วนะ ถ้าพวกคุณทั้งสองยอมตกลงละก็ พรุ่งนี้ค่อยให้คำตอบฉันก็ได้”

พอพูดจบก็หันหลังกลับแล้วเดินจากไป ทิ้งให้พี่น้องสองสาวยืนงงเป็นไก่ตาแตก

หลังจากที่เฟิ่งซีปิดประตูห้องแล้ว เธอก็กลับมานั่งข้างกายของหลงหลิน ถามด้วยความอยากรู้ว่า

“พี่ว่าคำพูดของเขาเชื่อถือได้รึเปล่า?”

ส่วนหลงหลินก็ชักจะตัดสินใจไม่ถูกแล้ว เธอคิดว่า หรือว่าไป๋ซูยังมีแผนตลบหลังอะไรอีก รอให้พวกเธอพี่น้องสองสาวยอมอ่อนข้อก่อน แล้วค่อยบอกความต้องการที่แท้จริงของตัวเองออกมาภายหลัง

แต่ว่าตอนนี้เห็นท่าทางที่จริงใจของไป๋ซูแล้ว หลงหลินก็อดสงสัยไม่ได้ว่าตัวเองทำเกินไปหรือไม่

เมื่อได้ยินเฟิ่งซีถามเช่นนั้น เธอก็ได้แต่พูดอย่างไม่มั่นใจว่า “อาจจะเป็นจริงก็ได้นะ แต่ก็อาจเป็นไปได้ที่เขาแค่จงใจที่จะใกล้ชิดพวกเรา จากนั้นก็ค่อยๆเผยความในใจของเขาออกมาภายหลังก็ได้ ถ้าเป็นจริงอย่างนั้นละก็ พวกเราก็จะต้องตกลงไปในหลุมพรางของเขา แล้วไม่มีทางหลุดรอดออกไปได้เลย”

ใบหน้าของหลงหลินแสดงความกังวลออกมา แต่กลับพูดอย่างหดหู่ว่า “แต่ยังไง ตอนนี้พวกเราก็ต้องพึ่งเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น”

เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น พี่น้องสองสาวต่างมีความในใจตั้งแต่เมื่อคืนจึงนอนไม่ค่อยเต็มอิ่ม แต่ว่าเมื่อมาถึงห้องอาหารแล้วกลับเห็นไป๋ซูที่สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันสดใส พร้อมด้วยคุณท่านเฉียนที่สีหน้าค่อนข้างซึมเศร้า

พี่น้องสองสาวก็เหลือบไปมองพวกเขาแวบเดียว ก็นั่งลงบนโต๊ะอาหาร จากนั้นก็มีคนนำอาหารเช้ามาเสิร์ฟให้ทันที เป็นอาหารเช้าที่เลิศหรูมาก

หลังจากรับประทานอาหารไปสักพักแล้ว ในห้องอาหารก็ไม่มีใครพูดอะไรเลย สงบเงียบจนน่าประหลาดใจ

พี่น้องสองสาวเดิมทีคิดจะรับประทานอาหารอย่างสงบเงียบแล้วกลับไปที่ห้อง แต่ทันใดนั้นไป๋ซูก็พูดขึ้นว่า“คุณปู่เฉียนครับ ไม่ทราบว่าเรื่องที่คุยกันเมื่อวาน ปู่คิดตัดสินใจดีแล้วหรือยัง?”

ชายชราใบหน้ามืดคล้ำมองไปยังไป๋ซูด้วยสายตาที่เยือกเย็น แต่ว่าไป๋ซูกลับไม่แยแสเลย ได้แต่ยิ้มรอคอยคำตอบจากชายชรา

“หรือว่าคุณปู่เฉียนคิดทั้งคืนแล้วยังหาทางออกกับปัญหานี้ไม่ได้เลยเหรอ? งั้นคงจะทำให้คนอื่นร้อนใจแย่เลย”

บรรยากาศในห้องเป็นเพราะการยุแยงของไป๋ซู ทำให้กลิ่นอายเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นมากขึ้นทันที พี่น้องสองสาวก็ไม่สามารถรับประทานอาหารได้อย่างปกติต่อไป มองไปยังไป๋ซูด้วยสีหน้าประหลาดใจ แต่ไป๋ซูกลับส่งยิ้มให้กับพวกเธอ พร้อมกับใบหน้าที่สดใสร่าเริงของเขา ทำให้เกิดความรู้สึกที่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก

ชายชราวางตะเกียบลงอย่างแรง “เพี๊ยก” เสียงดังก้องขึ้น ทำให้พี่น้องสองสาวสะดุ้งตกใจ

“เจ้าหนุ่มไป๋ แกรู้มั้ยว่าตอนนี้แกอยู่ที่ไหน?”

ไป๋ซูตอบอย่างเรียบๆว่า “คฤหาสน์ของตระกูลเฉียน แล้วมีปัญหาอะไรเหรอ? ถ้าคุณปู่เฉียนคิดว่าฉันไม่คู่ควรที่จะอยู่ที่นี่ละก็ งั้นฉันก็จะโทรศัพท์ไปที่บ้าน ให้พวกเขาจัดการที่นี่ให้เป็นของตระกูลไป๋เลย”

เมื่อไป๋ซูพูดจบ สีหน้าของชายชราก็เปลี่ยนสีจนดูน่าเกลียดยิ่งขึ้น

แม้แต่ข้าวปลาที่เหลือก็เลิกกินไปเลย รีบลุกขึ้นมาแล้วออกไปจากห้องอาหารทันที

หลังจากที่ชายชราจากไปแล้ว หลงหลินถามไป๋ซูด้วยความเป็นห่วงว่า “คุณทำอย่างนี้กับเขา หรือว่าไม่กลัวเขาจะทำเรื่องที่ไม่ดีกับคุณบ้างเลยเหรอ?”

ดูเหมือนว่าเป็นเพราะหลงหลินเป็นฝ่ายที่เริ่มพูดกับไป๋ซูก่อน สีหน้าของไป๋ซูแสดงถึงความดีใจออกมา “คุณหลงหลินหมายถึงอะไร จะฆ่าฉันงั้นเหรอ? ฉันเชื่อว่าคุณปู่เฉียนคงไม่กล้าถึงเพียงนี้หรอก เขาเป็นคนที่ฉลาดมาก ต้องคิดคำนวณอย่างละเอียดรอบคอบไว้แล้ว”

หลงหลินก็ย่อมไม่เข้าใจถึงเกมการต่อสู้ระหว่างพวกเขาสองคน จึงได้แต่นิ่งเฉยไม่พูดอะไรอีก

ส่วนไป๋ซูเชิญชวนด้วยความมีน้ำใจว่า “ถ้าพวกคุณทั้งสองมีเวลาว่างละก็ ทิวทัศน์บริเวณรอบๆนี้สวยงามไม่เลวทีเดียว ฉันอาสาพาพวกคุณออกไปเที่ยวชมรอบๆได้นะ เชื่อว่าอย่างน้อยก็ช่วยผ่อนคลายความกลัดกลุ้มในใจของพวกคุณได้บ้าง”

เฟิ่งซีมองไปยังหลงหลิน ตัวเองก็ตัดสินใจไม่ถูก

หลงหลินคิดดูแล้ว ถ้าเป็นแค่เพื่อนกันแล้ว ก็แทบจะไม่ต้องหวาดระแวงกันอีกแล้ว จึงพยักหน้าตอบตกลงไป

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว พี่น้องสองสาวมองเห็นรถเบนซ์สปอร์ตเปิดประทุนที่จอดอยู่ข้างหน้า รู้สึกทำตัวไม่ค่อยถูก

ส่วนไป๋ซูนั่งอยู่ในรถแล้วตะโกนเรียกเธอทั้งสอง“ที่นี่หารถที่ดีกว่านี้ไม่ได้จริงๆ คงต้องลำบากพวกคุณทั้งสองแล้ว ถึงแม้ฉันก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะว่าบางทีก็เร่งความเร็วไม่ค่อยขึ้น แต่พวกเราแค่ใช้แทนการเดินแก้ขัดไปเท่านั้นเอง คงไม่มีผลกระทบอะไรมาก”

ถึงแม้รู้มาก่อนแล้วว่าไป๋ซูเป็นคุณชายตระกูลร่ำรวยก็ตาม แต่ตอนนี้มาเห็นรถสปอร์ตหรูมาจอดอยู่ตรงหน้า แล้วยังให้พวกเธอเข้าไปนั่งอีกจึงดูเก้ๆกังๆไปบ้าง

ไป๋ซูถามด้วยความแปลกใจว่า “ทำไมเหรอ? พวกคุณทั้งสองไม่ค่อยชอบใช่มั๊ยล่ะ? หรือจะให้ฉันไปเปลี่ยนรถอีกคันมาก็ได้นะ ในโรงรถก็ยังมีเบนท์ลี่ย์สีดำอีกคันหนึ่ง

หลงหลินรีบโบกมือแล้วพูดว่า“ไม่ใช่ คุณไม่ต้องไปเปลี่ยนหรอก”

ไป๋ซูก็ส่งยิ้มให้กับพวกเธอ

หลงหลินก็รู้ว่าในใจเฟิ่งซีคิดอะไรอยู่ จึงหันไปบอกเธอว่า “ไปเถอะ ก็แค่นั่งรถไปด้วยกันครั้งเดียวเอง ก็ถือเสียว่าเป็นการทดสอบอย่างหนึ่ง”

เฟิ่งซีจึงเดินตามหลงหลินเข้าไปนั่งในรถเบนซ์คันนี้

เสน่ห์ของรถเปิดประทุนก็อยู่ที่ความรู้สึกที่พลิ้วไปกับสายลมเช่นนั้น มักจะทำให้คนเราเกิดจินตนาการที่อยากจะโบยบินไปสู่ท้องฟ้า ไป๋ซูขับรถเร็วมาก ภายใต้ความเร็วเช่นนั้น ใบหน้าที่ปะทะกับสายลม มันช่างเย็นสบายสดชื่น ราวกับอิสรภาพที่หลุดพ้นจากทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดสิ้น

แสงแดดที่อบอุ่นสาดส่องลงมาบนร่างกาย มันช่างแสนอบอุ่นอะไรเช่นนั้น

สิ่งที่ดีที่สุดที่ฟ้าประทานมาให้นั่นก็คือธรรมชาติที่อยู่ที่นี่

ระหว่างทางก็วิ่งแซงรถคันอื่นไปคันแล้วคันเล่าอย่างต่อเนื่อง มักจะมีสายตาที่ชื่นชมของผู้คนไม่น้อยที่มองมา และแล้วก็ขับไปยังที่ที่ไกลแสนไกลออกไป

สุดท้ายแล้ว พวกเขาก็มาจอดอยู่ตรงหน้าทะเลสาบที่กว้างใหญ่ไพศาลแห่งหนึ่ง ดูราวกับเป็นทะเลกว้างไกลที่ไร้ขอบเขต มองไม่เห็นสุดขอบปลายทาง

ไป๋ซูยืนพิงอยู่ข้างรถ ไขว้ขาทั้งสองไว้ พูดอย่างสบายใจว่า “ถ้าเมื่อไหร่ที่มีเรื่องอะไรว้าวุ่นใจ ฉันก็จะมาที่นี่ มองดูทะเลสาบที่กว้างใหญ่ไพศาล ก็เหมือนกับเอาความทุกข์โยนทิ้งไปกับทะเลสาบนี้ไป ในใจก็รู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก”

เฟิ่งซีมองไปรอบๆด้วยความอย่างรู้ พืชน้ำขึ้นงอกงามอุดมสมบูรณ์ ฝูงนกต่างบินร่อนไปมาอย่างอิสรเสรี ทุกสิ่งทุกอย่างช่างสงบเงียบเสียจริง

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท