ลูกเขยมังกร – บทที่ 927 เชียนเฉิน

บทที่ 927 เชียนเฉิน

“เพื่อนคนหนึ่งของฉันน่ะค่ะ” โจวจื่อเอ๋อกล่าวแนะนำเฉินเฟิง

จากนั้นอีกฝ่ายจึงมองไปยังเฉินเฟิงด้วยความกระฉับกระเฉง ก่อนจะกล่าวแนะนำตัว : “ผมนามสกุลเชียน เชียนเฉิน เป็นเพื่อนของโจวจื่อเอ๋อเหมือนกันครับ”

นามสกุลเชียนนี้เป็นสกุลที่มีความโดดเด่นในทะเลทรายแห่งนี้อย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าเฉินเฟิงเองก็พอจะเดาออกว่าเขาเป็นตระกูลเชียน

แต่ว่าเขาคนนี้เฉินเฟิงกลับไม่เคยพบเขาที่บ้านตระกูลเชียนเลย แต่ถ้าเขาเดาไม่ผิดล่ะก็ เชียนเฉินต้องเป็นผู้บริหารธุรกิจของตระกูลแน่นอน

ภายในตระกูลขนาดใหญ่ทั่วไปแล้ว แต่ละคนล้วนมีสิทธิ์อำนาจที่จำกัดอย่างมาก ถ้าหากเป็นคนที่ไม่มีความสามารถได้ด้านวิชาการต่อสู้ อย่างนั้นเขาคนนั้นก็จะถูกจัดให้ไปทำหน้าที่ดูแลจัดการกับธุรกิจของตระกูล เพื่อเป็นโฆษกของตระกูลในการป่าวประกาศศักดาสู่โลกภายนอก

และจากการวิเคราะห์แล้วเชียนเฉินคนนี้ก็คือคนแบบนั้น

เฉินเฟิงยิ้มให้กับเชียนเฉินเช่นเดียวกัน: “เฉินเฟิงครับ!”

และชื่อนี้ถึงกับทำให้เชียนเฉินชะงักไปทันที แต่เมื่อเขาลองคิดๆ ดูแล้วก็ไม่ได้เอาเฉินเฟิงที่อยู่ตรงหน้ากับเฉินเฟิงคนนั้นที่มีชื่อเสียงกึกก้องในยันเจียงมาเชื่อมเป็นคนเดียวกัน

และเพียงคิดว่าบางทีพวกเขาแค่มีชื่อสกุลที่เหมือนกันเท่านั้น

ทางด้านเฉินเฟิงถึงแม้จะมองออกถึงความคิดในใจของเขา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

หลังจากที่กล่าวทักทายกับเฉินเฟิงเรียบร้อย เชียนเฉินก็หันความสนใจไปยังโจวจื่อเอ๋ออีกครั้ง พลางพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม : “จื่อเอ๋อจะเข้าไปทักทายเพื่อนๆของพวกเราสักหน่อยหรือเปล่า ?”

โจวจื่อเอ๋อตอบปฏิเสธอย่างอ่อนหวาน: “แต่ว่าเพื่อนคนนี้ของฉันดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบความวุ่นวายเท่าไหร่”

เฉินเฟิงมองไปยังโจวจื่อเอ๋ออย่างประหลาดใจ แต่เพียงไม่นานเขาก็เข้าใจความหมายของเธอ

“เพื่อนท่านนี้ ไปสนุกสนานด้วยกันเถอะครับ ผมกับเพื่อนๆ อีกหลายคนกำลังเตรียมตัวจะไปที่บึงน้ำคลื่นเขียว ที่นั่นวิวสวยมากเลยนะครับ”

เชียนเฉินกล่าวชักชวนอย่างเป็นกันเอง

แต่สำหรับเฉินเฟิงแล้ว เขานั้นกลับไม่อยากไปมากนัก

จากนั้นเชียนเฉินจึงพูดขึ้นมาอีกครั้ง : “ถ้าเกิดว่าคุณไม่อยากไปจริงๆ อย่างนั้นน้องจื่อเอ๋อพวกเราจะขอยืมตัวไปก่อนแล้วนะครับ เพราะเธอดูเหมือนจะสนใจเอามากๆ เลย”

และเมื่อเฉินเฟิงหันไปมองจื่อเอ๋อ เธอก็กำลังมองมาที่เขาอย่างเฝ้ารอคำตอบ

แต่เพราะเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้นั้น ทำให้เฉินเฟิงมีความรู้สึกบางอย่างเหมือนกำลังถูกโจวจื่อเอ๋อหักหลัง

“อย่างนั้นก็ได้ครับ เดิมทีก็ไม่มีธุระสำคัญอะไรอยู่แล้วด้วย”

และเมื่อแอบมองไปยังโจวจื่อเอ๋อ สิ่งที่เฉินเฟิงได้เห็นกลับเป็นสีหน้าของโจวจื่อเอ๋อที่เหมือนแผนการของเธอนั้นสำเร็จแล้ว

พวกเขาทั้งหมดนั้นล้วนมีรถกันหมด จะมีเพียงเฉินเฟิงที่นั่งอยู่ในรถของโจวจื่อเอ๋อ เขาถามขึ้นมา : “คุณหมายความว่ายังไง?”

“ฉันไม่ได้มีอะไรสักหน่อย ก็แค่ออกไปเที่ยวเล่น กับเหล่าเพื่อนๆ เท่านั้น 。” โจวจื่อเอ๋อตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ

ในใจของเฉินเฟิงนั้นเกิดความไม่ชัดเจนขึ้นมาว่าทำไมตัวเองจะต้องมีความรำคาญใจเกิดขึ้นด้วย แต่เพื่อที่จะสงบสติอารมณ์ของตัวเอง ระหว่างการเดินทางเขาก็ไม่พูดอะไรอีกเลย

บึงน้ำคลื่นเขียวไม่ใช่เพียงแค่แอ่งน้ำธรรมดา แต่ยังมีการสร้างอาคารรับรองไว้บริเวณโดยรอบอีกด้วย ซึ่งเป็นดั่งจุดท่องเที่ยวขนาดย่อมอันหนึ่งเลยทีเดียว

และเมื่อเดินทางมาถึงที่นี่ พวกเขาก็ซื้อตั๋วก่อนจะพากันเข้าไปด้านใน

ภายในนั้นล้อมรอบไปด้วยภูเขา ป่าไม้อันเขียวชอุ่ม พร้อมด้วยอากาศที่แสนสดชื่นเป็นพิเศษ

ในขณะที่เฉินเฟิงได้เพียงเดินตามหลังไป ทางด้านโจวจื่อเอ๋อกลับดูเหมือนจะพูดคุยพร้อมกับหัวเราะไปพร้อมกับพวกเขาเหล่านั้น ซึ่งไม่รู้ว่าเธอกำลังจงใจยั่วโมโหเฉินเฟิง หรือว่าเดิมทีเธอก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว

กระทั่งเดินมาถึงด้านข้างของแอ่งน้ำ ก็มีคนหยิบเอาเบ็ดตกปลาที่พกมาด้วยออกมา แล้วแต่ละคนก็แยกย้ายกันไปเลือกที่ แล้วเริ่มการตกปลาอย่างเงียบๆ

ส่วนเฉินเฟิงกับโจวจื่อเอ๋อก็แยกตัวออกมา

ทั้งสองมานั่งอยู่ที่โถงทางเดินริมน้ำ หลังจากที่คิดใคร่ครวญอยู่นานเฉินเฟิงก็พูดออกมาในที่สุด : “ถ้าหากว่าคุณมีความสามารถมากพอจะต่อกรกับหมาป่าทะเลทรายได้ อย่างนั้นผมก็จะยอมตอบตกลงกับคำขอของคุณ”

โจวจื่อเอ๋อที่นั่งอยู่ตรงนั้น ราวกับว่าพอจะเดาได้ตั้งนานแล้วว่าเฉินเฟิงจะต้องตอบตกลงแน่นอน เธอจึงตอบกลับอย่างเรียบเฉย : “อย่างนั้นก็คำไหนคำนั้นค่ะ”

แต่จู่ๆ เธอก็ยิ้มขึ้นมา: “คุณชายเฉิน เป็นเพราะว่าคุณเห็นฉันอยู่กับผู้ชายคนอื่นเลยทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจใช่ไหมคะ ถ้าหากคุณต้องการ ฉันก็จะไม่สนใจพวกเขาเหล่านั้นอีก”

เฉินเฟิงอาจจะมีความรู้สึกแบบนั้นจริง แต่แน่นอนว่าเขาไม่มีทางยอมรับอยู่แล้ว และเพียงแค่แสร้งทำเป็นพูดด้วยความหงุดหงิดออกมา : “เรื่องนี้กับเรื่องนั้นมันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน คุณอย่าใช้คำพูดแบบนี้มายั่วโมโหผมเลย”

โจวจื่อเอ๋อที่เมื่อเห็นว่าได้ตามที่ต้องการก็พอใจแล้ว และเธอไม่มีทางที่จะทดสอบอะไรซ้ำๆ กับคำถามที่ผู้ชายเกลียดชังไปมา เพราะนี่ไม่ใช่การเลือกที่ฉลากมากนัก

“อย่างนั้นคุณชายเฉินไม่เคยใจเต้นกับฉันเลยหรอคะ ?หรือว่าไม่เคยคิดที่จะครอบครองฉันเลยหรอ เพราะแม้แต่ตัวฉันเองก็ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายเสนอตัวให้กับผู้ชายคนหนึ่งถึงที่แบบนี้” โจวจื่อเอ๋อราวกับกำลังพูดคุยเรื่องในใจกับเฉินเฟิง

แต่แล้วเชียนเฉินที่นั่งตกปลาอยู่ไกลๆ กลับหันมายิ้มให้กับโจวจื่อเอ๋อ และทางด้านโจวจื่อเอ๋อเองก็ยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน

ส่วนเฉินเฟิงนั้นก็ไม่ได้ตอบคำถามของโจวจื่อเอ๋อ อีกอย่างเขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบอกความคิดของตัวเองออกไปด้วย

จนกระทั่งถึงช่วงเที่ยงของวัน การตกปลาของพวกเขาไม่กี่คนนั้นก็สิ้นสุดลง พร้อมกับรวมกลุ่มกันไปทานอาหารพร้อมกัน

จากนั้นก็มีคนส่งกล่องอาหารให้กับเฉินเฟิงและโจวจื่อเอ๋อ แล้วเชียนเฉินก็พูดขึ้น : “ปกติก็มีการเตรียมของมาเกินอยู่แล้ว พวกคุณไม่ต้องไปเกรงใจอะไร ถ้าเกิดว่ายังไม่พอตรงนั้นก็ยังมีอีก”

ทั้งเฉินเฟิงและโจวจื่อเอ๋อต่างยิ้มบางๆ เป็นสัญลักษณ์แทนการกล่าวขอบคุณ

และในขณะที่เพิ่งทานอาหารไปได้เพียงครึ่งเดียว พวกเขาที่พากันนั่งอยู่ตรงบริเวณสนามหญ้าก็ได้เห็นว่ามีคนกำลังเดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยท่าทีเดือดดาล

เขาคนนั้นมีลักษณะดุร้าย บนแขนเผยให้เห็นถึงรอยสัก แค่ดูก็รู้ว่าคงไม่ใช่คนดีอะไร

และจุดมุ่งหมายของเขานั้นก็ดูจะชัดเจนอย่างมาก นั่นก็คือทางที่เฉินเฟิงพวกเขานั่งอยู่นั่นเอง

เชียนเฉินในฐานะผู้นำในกลุ่มของพวกเขา จึงเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืนอย่างไม่เกี่ยง แล้วมุ่งหน้าเข้าไปหาอีกฝ่าย

“เป็นพวกคุณที่เข้ามาตกปลาที่นี่ใช่หรือเปล่า?”

ชายคนนั้นถามเชียนเฉินอย่างคลุ้มคลั่ง

ทางด้านเชียนเฉินตอบกลับด้วยมารยาท : “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?ก่อนที่พวกเราจะมาถึงที่นี่ ได้ถามไปแล้วว่าที่นี่ตกปลาได้นะครับ”

แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่พูดไม่จาอะไรให้ชัดเจนก็ลงมือใช้กำลังทันที

เขาลงมือผลักเชียนเฉินจนล้มลงไปกับพื้น

“ถามอะไร ได้ถามกับกูหรือยัง ?กูไม่เห็นด้วย มึงก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น”

เชียนเฉินในฐานะโฆษกของตระกูลเชียนในโลกปัจจุบัน เขาไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้มาก่อน จึงทำให้เขามองไปยังชายคนนั้นด้วยความโกรธจนยั้งอารมณ์ไม่ได้

จากนั้นเขาจึงหวังจะลุกขึ้นยืนแล้วต่อยกลับไป

แต่ว่าร่างกายที่ยังไม่ทันได้ลุกขึ้น ก็ถูกชายคนนั้นเหยียบเข้าใส่อีกทีเสียก่อนแล้ว จึงทำให้เขาไม่มีทางลุกยืนได้เลย

คนที่เหลือที่อยู่ข้างๆ เมื่อเห็นอย่างนั้น จึงหวังจะเข้าไปช่วยเหลือทันที

แต่ทว่าอีกฝ่ายนั้นกลับมีความแข็งแกร่งอย่างมาก แล้วอย่างนั้นเหล่าคุณชายทายาทเศรษฐีอย่างพวกเขาจะไปเป็นคู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายได้อย่างไรกัน

เขาเพียงใช้มือผลักเพียงเล็กน้อย ชายเหล่านั้นก็ต่างถูกผลักจนล้มไปกองกับพื้นเช่นเดียวกับเชียนเฉินแล้ว

และไม่ว่ากี่คนๆ ก็เป็นแบบเดียวกันหมด

ทางด้านโจวจื่อเอ๋อที่ทนดูต่อไปไม่ไหว จึงหันไปบอกกับเฉินเฟิง : “คุณชายเฉิน คุณรีบเข้าไปช่วยพวกเขาเถอะค่ะ”

แต่เฉินเฟิงกลับตอบกลับอย่างไม่รู้ร้อนอะไรทั้งสิ้น : “ผมไม่อยากไปหาเรื่องใส่ตัวหรอกนะ อีกอย่างผมก็ไม่ได้ตกปลาด้วย”

โจวจื่อเอ๋อมองไปอย่างร้อนใจ แต่ว่าตัวเองกลับไม่ได้มีกำลังอะไร พวกเขาที่อยู่ตรงนั้นต่างก็ถูกชายหน้าโหดผลักจนล้มไปกองกับพื้นกันหมดแล้ว แต่เฉินเฟิงกลับยังแสดงท่าทีราวกับนี่เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาเลย

แต่แล้วจู่ๆ โจวจื่อเอ๋อก็เหมือนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ แล้วพูดกับเฉินเฟิงอีกครั้ง : “คุณชายเฉินอย่าบอกนะว่าเป็นเพราะเรื่องก่อนหน้านี้ เลยทำให้เกิดความอิจฉางั้นหรอคะ ?”

เฉินเฟิงเข้าใจได้เลยว่าโจวจื่อเอ๋อเพียงแค่ต้องการให้เขาเข้าไปช่วยเหลือเท่านั้น เลยใช้วิธีการนี้ในการกระตุ้นเขา แต่เฉินเฟิงกลับหัวเราะออกมาเบาๆ : “ผมเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไรเหมือนกัน บางทีอาจจะเป็นอย่างที่คุณว่าก็ได้ ผมคงจะอิจฉา”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท