ลูกเขยมังกร – บทที่ 925 ยั้งเชิง

บทที่ 925 ยั้งเชิง

โจวฟ่างพูดออกมาปนเสียงหัวเราะ : “คุณชายเฉิน การจะปล่อยคุณออกไปนั้นใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย ขอเพียงคุณบอกกับผมมาว่าแท้จริงแล้วคุณเป็นใครกันแน่ ?”

เฉินเฟิงผงะไปครู่หนึ่ง ภายในสมองของเขาวิ่งแล่นอย่างรวดเร็ว ถ้าเกิดว่าโจวฟ่างต้องการที่จะจัดการกับเขา อย่างนั้นเขาก็ไม่มีทางที่จะกลับมาที่นี่เพื่อพูดคุยกับเขาอีก แล้วปล่อยให้เขาอยู่ที่นี่ตามมีตามเกิดก็พอแล้ว

แต่ในเมื่อเขากลับมาที่นี่ ก็คงต้องมีคนจงใจให้เป็นแบบนั้น ซึ่งคนคนนั้นคงจะเป็นโจวจื่อเอ๋อแน่นอน

ถึงแม้ว่าเฉินเฟิงจะไม่รู้ว่าโจวจื่อเอ๋อใช้วิธีการไหนถึงทำให้โจวฟ่างมาที่นี่ แต่เขาก็รู้ได้เลยว่าในเหตุผลนั้นต้องมีบางอย่างที่ไม่ชัดเจนเป็นแน่ ดังนั้นโจวฟ่างถึงต้องมาถามเขา เขาจึงได้เพียงตอบกลับอย่างระมัดระวัง: “คุณจะถามเรื่องนี้ไปทำไม ผมเป็นใครคุณก็รู้แล้วไม่ใช่หรือไงครับ ?”

“แน่นอนว่าผมต้องรู้อยู่แล้วว่าคุณชายคือใคร แต่เรื่องบางอย่างคุณชายเฉินจะสามารถทำได้หรือเปล่านั้น ผมเองก็ไม่ค่อยจะมั่นใจแล้ว คุณชายเฉินต้องการที่จะต่อกรกับหมาป่าทะเลทรายจริงงั้นหรอ ?”

เฉินเฟิงแย้งกลับทันที: “นี่อย่าบอกนะว่าเป็นเพราะเรื่องที่จะกำจัดหมาป่าทะเลทรายคุณถึงได้เอาผมมาขังไว้แบบนี้ ?นี่คุณกำลังหักหลังตระกูลโจวอยู่งั้นหรอ ?”

โจวฟ่างไม่ได้ตอบคำถาม พลางพูดต่อ : “ตอนนี้ผมกำลังถามคุณชายเฉินอยู่ ถ้าเกิดว่าคุณยังอยากที่จะออกมา อย่างนั้นทางที่ดีที่สุดคือตอบคำถามผมมาตามตรงจะดีกว่า”

เฉินเฟิงหัวเราะอย่างเฉยชา: “คุณกำลังยั้งเชิงผมอยู่หรือไง?ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าคุณไปได้ยินข่าวนี้มาจากไหน แต่ผมจะบอกคุณให้ว่าคุณน่ะคงต้องติดกับเข้าแล้ว”

ท่าทีแบบนี้ของเฉินเฟิงทำให้โจวฟ่างไม่เหลือท่าทีฮึกเหิมเมื่อสักครู่นี้อีกแล้ว ถ้าหากว่าเฉินเฟิงรีบยืนยันตัวตนของตัวเองในทันที อย่างนั้นจะทำให้เขาเกิดความลังเลขึ้นมาทันทีว่าแท้จริงแล้วเฉินเฟิงเป็นคนของหมาป่าทะเลทรายหรือไม่

แต่ว่าในสถานการณ์แบบนี้เฉินเฟิงกลับยังคงทิฐิของตัวเองเอาไว้แบบนี้ ทำราวกับตัวโจวเป็นนั้นกำลังทำการทดสอบเขาอยู่เท่านั้น อย่างนั้นถ้าเกิดเขาต้องการจะออกมาจากที่นี่จริงๆ ก็ควรที่จะยืนกรานความคิดเดิมทีที่ต้องการจะต่อกรกับหมาป่าทะเลทรายของตัวเองสิ

ตอนนี้ดูเหมือนว่าโจวฟ่างจะเริ่มเชื่อคำพูดของโจวจื่อเอ๋อแล้ว

ทว่าเขายังคงมีความสับสนอยู่เล็กน้อย

“แต่ถ้าเกิดว่าคุณชายเฉินเป็นคนของหมาป่าทะเลทราย สิ่งที่พวกคุณต้องการจะทำก็คือการทำลายล้างตระกูลต่างๆ ที่ต้องการต่อกรกับหมาป่าทะเลทรายให้ราบคาบ เมื่อเป็นอย่างนั้นจริงผมก็ยิ่งไม่สามารถปล่อยคุณชายเฉินไป”

“จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงครับ คุณไปฟังใครพูดมากันแน่ โจวจื่อเอ๋อผู้หญิงคนนั้นหรอครับ ?ผมก็แค่พูดหยอกล้อกับเธอเท่านั้น นี่คุณคิดจริงจังเลยหรอครับ เธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง อะไรก็ไม่เข้าใจทั้งนั้น” เฉินเฟิงกล่าวถามอย่างเคร่งขรึม

โจวฟ่างที่ได้ยินเฉินเฟิงกล่าวยอมรับว่าได้พูดเรื่องนี้กับโจวจื่อเอ๋อด้วยตัวเองแบบนี้ เขาจึงยิ่งเชื่อในตัวโจวจื่อเอ๋อมากขึ้นไปอีก

“คุณชายเฉิน นี่จะไม่ให้ผมเชื่อในตัวหลานสาวของตัวเอง แต่ต้องเชื่อคุณแทนงั้นหรอครับ ?เธอได้บอกกับผมอย่างละเอียดเชียว และดูเหมือนว่าคำพูดนั้นของคุณจะไม่เหมือนกำลังหลอกคนอื่นด้วย”

เฉินเฟิงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม: “ช่างเถอะครับ ถ้าคุณคิดแบบนั้นจริงๆ ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้”

จนกระทั่งเฉินเฟิงพูดจบ ตรงนั้นก็ไม่มีเสียงใดๆ ออกมาอีก

หลังจากผ่านไปได้สักพักใหญ่ก็ยังไม่มีเสียงใดๆ ดังขึ้นมา

แต่ไม่นานจากนั้นนัก ประตูเหล็กนั้นกลับมีเสียงขยับเกิดขึ้น ราวกับว่าตัวล็อกภายในได้ถูกขยับอีกครั้ง และหลังจากนั้นประตูเหล็กก็เปิดออกอย่างช้าๆ

เฉินเฟิงที่ได้เห็นอย่างนั้นก็ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น

แต่เมื่อหันไปเห็นเงาดำที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตู เฉินเฟิงก็รู้ได้ทันทีเลยว่าโจวฟ่างได้เปิดประตูออกแล้ว

“แต่ว่าผมกลับคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าอันที่จริงผมไม่ควรที่ไปเชื่อคำพูดของคนๆ เดียวแล้วขังคุณชายเฉินเอาไว้แบบนี้ เรื่องบางอย่างก็ควรที่จะพูดคุยให้ชัดเจนก่อนแล้วถึงจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง”

แต่ทันทีที่คำพูดของเขาเพิ่งออกมา เฉินเฟิงก็เริ่มลงมือใช้ความรุนแรงทันที

หมัดหนึ่งตวาดออกไปด้วยความหนักแน่นและรุนแรง

ทางด้านโจวฟ่างที่ไม่ได้มีการเตรียมตัว อีกทั้งอยู่ใต้ความมืดมิดอีก เขาจึงไม่คิดว่าจะถูกเฉินเฟิงต่อยเข้าใส่แบบนี้

ด้วยเสียงที่ได้ยินเมื่อสักครู่นี้จึงทำให้เฉินเฟิงสามารถเล็งตรงใบหน้าของโจวฟ่างได้อย่างแม่นยำ

กระทั่งโจวฟ่างที่เหมือนจะถูกต่อยจนลอยกระเด็นออกไป จนร่างกายกระเด็นไปยังด้านหลัง เพียงเสียง” ตุบ” กระแทกกับพื้นดังขึ้น หลังจากนั้นเขาก็ดูเหมือนจะหมดสติไป

ซึ่งในตอนนั้นเองเฉินเฟิงก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาอีกครั้ง เขาไม่กล้าที่จะประมาทแม้แต่น้อย ด้วยความคิดว่านั่นอาจจะเป็นพวกเดียวกับโจวฟ่าง เขาเดินออกไปนอกประตู แล้วแนบตัวเข้าไปกับกำแพง เพื่อซ่อนตัวเอาไว้

แต่เสียงที่ได้ยินนั้นกลับเบามากๆ ไม่เหมือนกับเสียงฝีเท้าของผู้ชายเลย

เฉินเฟิงเรียกชื่อออกมาเบาๆ : “โจวจื่อเอ๋อ?”

และทันทีที่ได้ยินเสียงที่ดังเข้ามาจากด้านใน โจวจื่อเอ๋อจึงเดินลงไปด้วยความสงสัย จนกระทั่งได้ยินเสียงเฉินเฟิงกำลังเรียกตัวเอง เธอจึงค่อยตอบกลับ : “คุณชายเฉิน ฉันเอง”

เมื่อได้ยินเสียงของโจวจื่อเอ๋อ เฉินเฟิงก็ลดความระมัดระวังลง การได้ออกมาของเขาคงจะได้ความช่วยเหลือมาจากโจวจื่อเอ๋อแน่นอน

“คุณลุงสี่ล่ะคะ?” เธอกล่าวถาม

“นอนอยู่กับพื้นแล้ว”

ตอนนี้ได้ออกมาแล้ว เฉินเฟิงก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ถึงแม้ว่าท่าทางของเขาจะดูไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ แต่การถูกขังเอาไว้ภายในสถานที่ที่ต้องอยู่คนเดียวเพียงลำพังแบบนี้ กลับสร้างความกดดันอันมหาศาลภายในจิตใจเลยทีเดียว

เขานั่งลงไปบนพื้น ต้องการที่จะให้จิตใจของตัวเองสงบสติอีกครั้ง

โจวจื่อเอ๋อเปิดไฟฉายในมือ หันไปมองเฉินเฟิงก่อน ก็เห็นว่าเขานั้นเพียงแค่มีท่าทีที่อ่อนล้าเท่านั้น และนั่งอยู่ตรงนั้น โดยไม่ขยับตัวไปไหน

เมื่อเห็นอย่างนั้นเธอจึงไม่คิดจะไปรบกวนเฉินเฟิงต่อ แล้วหันไปมองยังทางโจวฟ่าง

โจวฟ่างเองก็ไม่มีการขยับตัวใดๆเช่นกัน จนไม่รู้เลยว่ายังเป็นอยู่ หรือตายไปแล้ว โจวจื่อเอ๋อเลยเดินเข้าไปสัมผัสอย่างระมัดระวัง แต่ในตอนที่เธอสัมผัสไปยังหัวใจของโจวฟ่างนั้น

กลับต้องตกใจสุดขีด

เฉินเฟิงเพียงแค่มองมาทางเธอ ด้วยความคร้านที่จะพูดอะไรแล้ว

แต่ทางด้านโจวจื่อเอ๋อกลับร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว : “ตายแล้ว เขาตายแล้ว”

ทว่าเฉินเฟิงกลับมีท่าทีที่ไม่ได้สนใจอะไรเลย : “ตายแล้วก็ตายไปสิ จะมีอะไรกัน ?อีกอย่างเขาก็ควรจะตายตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”

“แต่ว่า เขาตายอยู่ตรงนี้ พวกเราจะทำยังไงดี ?พวกเราไม่มีทางอธิบายเรื่องพวกนี้แน่ๆ” สติอารมณ์ของโจวจื่อเอ๋อนั้นถือว่าแข็งแกร่งอย่างมาก เพราะเพียงแค่ครู่เดียวก็สามารถสงบอารมณ์ลงได้แล้ว

“ถ้างั้นก็ไม่ต้องอธิบาย ขังเขาเอาไว้ข้างล่างนี้ก็ไม่มีใครรู้แล้ว อีกอย่างที่นี่ก็มีเพียงเหล่าคนสำคัญของตระกูลโจวไม่กี่คนที่รู้เท่านั้น รอจนกว่าพวกเขาหาตัวเขาเจอ เรื่องนี้ก็ไม่มีทางสงสัยมาถึงหัวพวกเราสองคนแน่นอน” เฉินเฟิงพูดออกไป

โจวจื่อเอ๋อดูเหมือนจะยังมีความลังเลอยู่เล็กน้อย แต่ในเวลานี้เฉินเฟิงก็ไม่อยากที่จะขยับตัวอีกแล้ว จึงปล่อยให้เธอคิดไปเองคนเดียว

ผ่านไปสักพัก ในที่สุดโจวจื่อเอ๋อก็คิดได้เสียที

“อย่างนั้นก็เอาตามที่คุณพูดแล้วกัน เพียงแต่ว่าเรื่องนี้อย่าได้พูดออกไปเด็ดขาดนะคะ ตอนนี้พวกเราไม่มีหนทางที่จะไปยืนยันว่าคุณลุงสี่ได้เข้าไปอยู่ฝ่ายเดียวกันกับหมาป่าทะเลทรายแล้ว ในทางกลับกันบางทีสิ่งนี้อาจจะไปดึงดูดความสงสัยให้กับตระกูลอื่นๆ ด้วย”

เฉินเฟิงทำเพียงแค่พยักหน้ารับ เพราะเขาคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ได้สูญเสียความมั่นใจกับแผนการที่เพิ่งเริ่มต้นนี้แล้ว นี่เพิ่งจะเป็นตระกูลแรกที่ได้ทำการติดต่อ ก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาแล้ว อย่างนั้นใครจะรู้ได้ว่าต่อจากนี้จะมีสายลับของหมาป่าทะเลทรายอีกเท่าไหร่ที่กำลังซ่อนตัวอยู่

กระทั่งทั้งสองซ่อนตัวโจวฟ่างจนเรียบร้อยแล้วก็เดินกลับขึ้นมายังห้องหนังสือ และปิดกลไกภายในห้องหนังสือให้กลับมาอยู่ตำแหน่งเดิม จากนั้นเฉินเฟิงจึงหันไปพูดกับโจวจื่อเอ๋อ : “เรื่องก่อนหน้านี้ที่คุณอยากจะบอกกับผม แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่”

โจวจื่อเอ๋อเองก็หันไปมองยังเฉินเฟิง : “ไปที่ห้องฉันก่อนเถอะค่ะ คุณควรจะพักผ่อนก่อนสักหน่อย รอให้คุณตื่นขึ้นมาแล้ว ฉันจะบอกกับคุณอีกทีแล้วกันค่ะ ตอนนั้นคุณก็จะได้มีการวิเคราะห์ที่ดีกว่าด้วย”

ทางด้านเฉินเฟิงเองก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นมีความอ่อนล้าอย่างมาก เลยไม่คิดที่จะดึงดันต่อไป ดังนั้นจึงค่อยๆ เดินตามโจวจื่อเอ๋อไปยังลานที่พักของเธอ

หลังจากอาบน้ำทำความสะอาด เขาก็ลงไปนอนกับโซฟาทันที และด้วยความที่เขาไม่ได้ความไม่ไว้วางใจใจอะไรในตัวโจวจื่อเอ๋อ ดังนั้นเขาจึงหลับใหลลงไป

จนกระทั่งพระอาทิตย์สาดส่องขึ้นในวันที่สอง เฉินเฟิงถึงค่อยลืมตาขึ้นอย่างสบายตัว

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท