ลูกเขยมังกร – บทที่ 926 ความทะเยอทะยานของผู้หญิง

บทที่ 926 ความทะเยอทะยานของผู้หญิง

ทว่าเขากลับมีความรู้สึกเหมือนถูกอะไรบางกดทับตัวอยู่

เขามองลงไปก็ปรากฏว่ามีมือข้างหนึ่งของโจวจื่อเอ๋อกำลังพาดอยู่บนตัวของเขาอยู่นั่นเอง

อีกทั้งเธอก็กำลังนอนหลับสบายเลยทีเดียว

ตอนแรกเฉินเฟิงกำลังจะเรียกให้เธอตื่น แต่ด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายเมื่อสักครู่นี้ จึงทำให้โจวจื่อเอ๋อรู้สึกตัวขึ้นมาด้วยตัวเองแทน

เธอลืมตาทั้งสองด้วยความพร่ามัว ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองไปยังเฉินเฟิง พร้อมกับดันร่างกายของตัวเองออกมา ราวกับว่าไม่ได้มีความตกตื่นใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้เลย

“ทำไมคุณถึง……”

โจวจื่อเอ๋อยิ้มจางๆ : “นี่ต้องมีเหตุผลว่าทำไมด้วยหรอคะ?คุณชายเฉินเป็นชายบริสุทธิ์หรือไงคะ?”

ทันทีที่ถูกยิ้มเยาะ เฉินเฟิงก็ได้เพียงแค่หัวเราะออกมาฝืดๆ เท่านั้น

ระหว่างทั้งสองนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น เสื้อผ้าทุกชิ้นยังคงอยู่ครบ จะมีเพียงแค่ร่างกายที่ประกบนอนด้วยกันเท่านั้น

โจวจื่อเอ๋อลุกขึ้นนั่งด้วยความเกียจคร้าน แล้วลูบไล้ตามคอที่เมื่อยชา เมื่อดูแบบนี้แล้วกลับเหมือนว่าเธอจะขาดเสน่ห์เย้ายวนไปนิดหนึ่ง แต่กลับมีความจริงที่ดูจะมากเกินไปในเวลาเดียว

“คุณรู้หรือเปล่า?การที่หญิงสาวคนหนึ่งเต็มใจจะเสนอตัวเองมาถึงที่ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธหรอกนะ” เฉินเฟิงลูบไล้ผมของโจวจื่อเอ๋อที่สยายลงมากลางเอว พร้อมกับพูดด้วยเสียงอ่อนนุ่ม

ด้วยท่าทีที่เขินอายราวกับเด็กสาวตัวน้อย โจวจื่อเอ๋อจึงพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม : “ในตอนที่หญิงสาวเต็มใจเสนอตัวเองให้กับผู้ชายถึงที่เนี่ย ผู้ชายคนนั้นก็ควรที่จะต้องระวังตัวเสียหน่อย เพราะผู้หญิงคนนั้นจะดื้อรั้นอย่างมาก ถ้าเกิดว่าเธอไม่สามารถกุมผู้ชายคนนั้นมาไว้ในกำมือได้ อย่างนั้นเธอก็จะไม่มีทางยอมปล่อยมือง่ายๆ”

เฉินเฟิงถึงกับชะงักพร้อมกับยิ้มแหยๆ ออกมาอย่างลำบากใจ

โจวจื่อเอ๋อเดินเข้าไปในห้อง ก่อนจะเปลี่ยนการแต่งตัวเป็นชุดเดรสสีม่วงอ่อนอันเรียบง่าย ราวกับว่าได้กลับไปเป็นตัวตนเดิมของเธออีกครั้ง

“ผมไม่ค่อยชอบคุณในตอนนี้เลย” เฉินเฟิงพูดออกมา

โจวจื่อเอ๋อมองลงไปยังชุดของตัวเองไปมา จึงเข้าใจว่าเฉินเฟิงคงจะคิดว่าชุดนี้ไม่ค่อยเหมาะกับเธอ : “ฉันไปเปลี่ยนเป็นตัวอื่นก็ได้ค่ะ ตามสีที่คุณชอบ”

“ไม่ใช่เสื้อผ้าหรอกครับ แต่เป็นท่าทีของคุณ” เฉินเฟิงส่ายหน้าอย่างอ่อนโยน

เมื่อมองดูท่าทางของเฉินเฟิงแล้ว โจวจื่อเอ๋อถึงกับหัวเราะออกมา: “คุณชายเฉินหลงชอบในตัวฉันแล้วหรอคะ?”

เฉินเฟิงนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง แต่แล้วโจวจื่อเอ๋อก็พูดต่ออีก : “การที่ผู้ชายคนหนึ่งต้องการที่จะเปลี่ยนผู้หญิงคนหนึ่ง ต้องการที่จะช่วยให้เธอหลุดพ้นออกมาจากความลำบาก อย่างนั้นก็แสดงว่าเขาคนนั้นได้ตกหลุมรักผู้หญิงคนนั้นแล้ว”

แต่แน่นอนว่าเฉินเฟิงไม่คิดว่าตัวเองจะตกหลุมรักในตัวโจวจื่อเอ๋อเลย ปากของเขานั้นต้องการจะโต้แย้ง ทว่ากลับไม่รู้จะพูดอะไรดี จึงได้เพียงขมุบขมิบปาก และไม่ได้พูดอะไรออกมาในที่สุด

หลังจากที่ออกมาจากบ้านตระกูลโจว ทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังร้านกาแฟเงียบสงบร้านหนึ่งในเมืองหลานเพื่อดื่มชายามเช้า

โจวจื่อเอ๋อขยับช้อนคนที่อยู่ในแก้วอย่างเบามือ แต่แล้วเฉินเฟิงกลับถามขึ้นมาอย่างจริงจัง : “ตอนนี้คุณกำลังคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่?”

โจวจื่อเอ๋อเงยหน้าขึ้นมามองเฉินเฟิง ก่อนจะก้มหน้าลงไปมองแก้วเครื่องดื่มที่อยู่ในมือของตนอีกครั้ง

“ฉันก็แค่อยากจะหลุดพ้นออกมาจากสถานที่แห่งพันธนาการนี้เท่านั้น และฉันก็ไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนความต้องการของตัวเองด้วย” เธอพูดออกมาเบาๆ

“คุณอยากให้ผมทำอะไร?” เฉินเฟิงกล่าวถามอีกครั้ง

โจวจื่อเอ๋อหัวเราะออกมาเบาๆ : “คุณชายเฉินเป็นเพราะเมื่อวานนี้ฉันได้ช่วยคุณเอาไว้ ดังนั้นคุณถึงได้พูดออกมาตรงๆ แบบนี้หรอคะ ?”

เฉินเฟิงถามกลับแทน: “แล้วมันไม่ควรหรอครับ?คุณช่วยผมเอาไว้ ผมก็ต้องตอบแทน ในสิ่งที่คุณต้องการ”

ในที่สุดโจวจื่อเอ๋อก็หยุดการกระทำในมือของตัวเอง แล้วจ้องมองไปยังเฉินเฟิงอย่างจริงจัง เป็น “มันก็จริงค่ะ ถ้าหากว่าเป็นเมื่อวานนี้ ฉันอาจจะแค่ต้องการเพียงการปกป้องจากคุณชายเฉินเท่านั้น แต่ว่าตอนนี้ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถต้องการได้มากกว่านั้น”

เฉินเฟิงขมวดคิ้วขึ้นมา ผู้หญิงคนนี้มีความฉลาดเกินไปแล้ว และการจะรับมือกับผู้หญิงฉลาดแบบนี้ล้วนเป็นเรื่องที่เปลืองพลังสมองอย่างมาก

เขาถาม: “แล้วถ้าเกิดว่าผมเป็นคนไร้ความรู้สึก ต่อให้คุณจะขอมากแค่ไหน เพียงแค่ผมตลบหน้าไม่รับข้อเสนอ ดูเหมือนว่าคุณเองก็จะไม่มีทางอื่นแล้ว”

แต่โจวจื่อเอ๋อกลับตอบกลับอย่างมั่นใจ : “แต่ฉันรู้ว่าคุณชายเฉินไม่ได้เป็นคนแบบนั้นแน่นอน”

เฉินเฟิงจ้องมองไปที่เธอด้วยความนิ่งเงียบ ราวกับกำลังเตรียมตัวทำให้โจวจื่อเอ๋อผิดหวัง แต่ผ่านไปเพียงสักพัก รอยยิ้มในแววตาของอีกฝ่ายก็ทำให้เฉินเฟิงไม่สามารถสะกดตัวเองเอาไว้ได้อีก เขาจึงพูด : “คุณชนะแล้ว แต่ดีที่สุดคืออย่าให้เกินกำลังเกินไป ไม่อย่างนั้นผมไม่รับรองว่าผมอาจจะมีการเปลี่ยนใจจริงๆ ”

โจวจื่อเอ๋อยิ้มออกมาอย่างผู้มีชัย : “อันที่จริงสิ่งที่ฉันต้องการก็มีไม่มากหรอกค่ะ”

เธอยกมือขวาที่วางช้อนชาลงขึ้นมา ค่อยๆ เอื้อมออกไปหามือขวาของเฉินเฟิงที่วางอยู่บนโต๊ะ

การสัมผัสที่ละเอียดอ่อนทำให้เฉินเฟิงเผลอขยับมือเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว แต่เขาก็ไม่ควรจะขี้ขลาดแล้วดึงมือกลับ

“คุณหมายความว่ายังไง?” เขาถาม

นิ้วมืออันเรียวยาวหนึ่งของเธอลูบไล้ไปตามหลังมือของเฉินเฟิงก่อนจะเลื่อนไปยังนิ้วชี้หลังมือของเฉินเฟิงไปมา การสัมผัสที่แสนอ่อนนุ่ม ทำให้เกิดความรู้สึกจั๊กจี้ขึ้นมาไม่น้อย

“คำพูดที่ฉันเคยบอกกับคุณชายเฉินนั้นล้วนเป็นเรื่องจริงนะคะ ถ้าหากว่าคุณชายเฉินมอบโอกาสให้ฉัน ฉันสามารถทำให้ทั้งทะเลทรายแห่งนี้กลายเป็นของคุณชายเฉินได้เลย และในเวลาเดียวกันฉันก็หวังว่าคุณชายเฉินจะสามารถช่วยฉันออกไป”

น้ำเสียงนุ่มนวล ราวกับกำลังแฝงไปด้วยความยั่วยวน พร้อมกับการเคลื่อนไหวบนมือที่ดูท่าจะไม่หยุดเสียที

เฉินเฟิงกล่าวถามขึ้นมาอย่างสงสัย: “ตอนนี้ความต้องการของคุณนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ อย่าบอกนะว่าคุณอยากจะได้ทั้งทะเลทรายแห่งนี้ด้วย”

แต่แล้วโจวจื่อเอ๋อกลับพยักหน้ารับจริงๆ เธอยิ้มออกมาจางๆ ราวกับว่าไม่ได้ครุ่นคิดเลยว่าความคิดนี้จะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

“คุณบ้าไปแล้วหรอ?” เฉินเฟิงถามอย่างตกใจ

ซึ่งในตอนนี้ นิ้วที่สัมผัสบนหลังนิ้วมือของเฉินเฟิงก็เปลี่ยนเป็นสองนิ้ว จากนั้นเธอก็หัวเราะออกมาเบาๆ : “คงจะเป็นอย่างนั้นล่ะมั้งคะ แต่ถ้าหากว่าไม่มีความฝันบ้าบอแบบนี้ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าการที่ตัวเองอยู่บนโลกใบนี้จะยังมีความหมายอะไรอีก”

ภายใต้ท่าทีที่แสดงออกมานั้นเก็บซ่อนความเศร้าหมองเอาไว้ แต่แล้วโจวจื่อเอ๋อกลับถามขึ้นมา

“คุณชายเฉิน รู้สึกสบายหรือเปล่าคะ?”

เฉินเฟิงถึงกับสะดุ้งไปทีหนึ่ง แล้วพบว่าตอนนี้ทั้งมือของโจวจื่อเอ๋อได้วางไว้บนหลังมือของเขาแล้ว

“ถ้าหากคุณคิดว่าทำเพียงแค่นี้จะสามารถทำให้ผมยอมตกลงได้แล้วล่ะก็ คุณคงจะประเมินผู้ชายต่ำไปแล้ว” เฉินเฟิงพูดอย่างเย็นชา

แต่ทันทีที่พูดจบ เฉินเฟิงก็ได้รู้สึกถึงการสัมผัสทางร่างกายที่ลูบไล้บนต้นขาของเขา

ไม่จำเป็นต้องก้มลงไปดูก็รู้ว่าตรงนั้นก็คือเท้าของโจวจื่อเอ๋อ

ในตอนช่วงเช้า เฉินเฟิงได้สังเกตเห็นแล้วว่ารูปร่างของโจวจื่อเอ๋อนั้นดีมากๆ รวมทั้งเท้าที่ดูสะอาดหมดจดคู่นั้นก็ยิ่งชวนสะดุดตาเป็นอย่างมากด้วย ทว่าในตอนนี้พวกมันได้อยู่ใกล้ชิดกับตัวเขาเสียแล้ว แต่นั่นกลับทำให้เฉินเฟิงหมดความสนใจทันที

“คุณดูจะเข้าใจผู้ชายเป็นอย่างดี”

“ชมเกินไปแล้วค่ะ”

“แต่อย่างว่าผมไม่เหมือนผู้ชายธรรมดาทั่วไป ถึงแม้ว่าผมจะชื่นชอบของสวยงาม แต่ผมกลับไม่ชอบในสิ่งของที่ไร้ราคา”

ทันใดนั้นโจวจื่อเอ๋อก็ดึงมือและเท้ากลับ ก่อนจะแสดงท่าทีหยิ่งยโส และสีหน้าที่ดูไร้เดียงสาออกมาอีกครั้ง

“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ฉันก็ขอถอนตัว คุณชายเฉินเองก็ไม่จำเป็นต้องพูดว่าจะตอบแทนอะไรแบบนั้นอีก มันไร้ความหมาย”

เฉินเฟิงจ้องมองโจวจื่อเอ๋ออย่างสงสัย แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับไม่รู้เลยว่าแบบไหนในตัวเธอถึงจะเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอกัน หรือว่าตอนนี้เธอเองกำลังใช้วิธีการหลอกให้เขาตายใจกันแน่

แต่แล้วทางด้านข้างกลับมีคนเดินเข้ามา

ซึ่งเขาคนนั้นเป็นชายที่แต่งกายเนี๊ยบเรียบร้อย ทั้งตัวไม่มีรอยยับใดๆ บนเสื้อผ้าให้เห็นเลย

เขาเดินมายังข้างๆ เฉินเฟิงพวกเขาสองคน ก่อนจะหันไปทักทายกับโจวจื่อเอ๋อด้วยความประหลาดใจ : “จื่อเอ๋อ คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาเจอคุณที่นี่”

โจวจื่อเอ๋อเองก็เงยหน้าขึ้นไปมองเขา พร้อมด้วยความประหลาดใจที่ไม่แพ้กัน ก่อนจะตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่อ่อนหวาน : “พี่เฉิน เป็นคุณได้ไงคะเนี่ย”

“ผมมาคุยธุระกับเพื่อนหน่ะ แล้วคุณคือ ?”

เขาพูดพลางหันไปมองยังเฉินเฟิง แต่แน่นอนว่าเขาไม่รู้จักเฉินเฟิง

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท