สายเปย์เบอร์หนึ่ง – ตอนที่ 44

ตอนที่ 44

บทที่ 44 สารภาพรัก

ทันใดนั้นก็เหมือนมีไฟฟ้าสถิตบนมือเฉินเป่ย เขาตบประธานจางอย่างแรง!

“เพี๊ยะ” เสียงดังกว่าประธานจางหลายเท่า เสียงนั้นกึกก้องไปทั่วห้องจัดงานเลี้ยง!

ประธานจางเอามือกุมใบหน้าที่มีรอยแดง เขาโดนตบกลับอย่างน่าอับอาย เขามองเฉินเป่ยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตื่นตะลึง ไม่อยากจะเชื่อ! ที่มุมปากของเขามีของเหลวสีแดงหยดลงช้าๆ …

ทางด้านหลีชิงเยียนก็ตกตะลึงเช่นกัน เธอมองเฉินเป่ยนิ่งไปสักพัก ใจเต้นตึกตักพลางกัดฟันแน่น…ผู้ชายคนนี้นี่ เธอเตือนเขาแล้วแต่เขายังทำเสียเรื่องจนได้

ทันใดนั้นผู้คนที่อยู่โดยรอบตกอยู่ในบรรยากาศเงียบสงบ ทุกคนที่อยู่ในงานเลี้ยงมองเฉินเป่ยด้วยความตกใจ พวกเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ และไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน!

นี่เป็นการก่อกบฎชัดๆ! เฉินเป่ยตบคนต่อหน้าทุกคนในสถานที่จัดงานเลี้ยงต้อนรับคุณชายหลี นี่เป็นการสร้างปัญหาใช่หรือไม่!

เขากล้า! เขากล้าก่อเรื่องในงานเลี้ยงต้อนรับคุณชายหลี!

ประธานจางทรงตัวได้ก็หยิบทิชชู่ออกมาจากเสื้อสูทเพื่อเช็ดคราบเลือดที่มุมปาก จากนั้นก็ยิ้มอย่างยั่วยุด้วยรอยยิ้มเย็นชา!

“ดี ดีมาก…แกกล้าตบฉัน ดีมาก!” ประธานจางยิ้มเยือกเย็นและจ้องเฉินเป่ยอย่างเอาเรื่อง!

“ตบอะไรกัน? แกตบฉันก่อน ฉันก็ตบแกคืน จะได้ไม่ติดค้างกัน” เฉินเป่ยพูดเรียบๆ

“แก…แกคอยดูเถอะ แกก็น่าจะรู้ว่านี่เป็นงานเลี้ยงต้อนรับใคร แกยังกล้าดี!” ประธานจางถาม

“รู้แน่นอน คุณชายหลี” เฉินเป่ยพูด

ผู้คนนับไม่ถ้วนในห้องจัดเลี้ยงต่างหวาดกลัวจนตัวสั่น เมื่อเฉินเป่ยพูดออกมาแบบนี้!

เฉินเป่ยรู้อยู่แล้วว่าเป็นงานเลี้ยงต้อนรับคุณชายหลี แต่เขายังกล้าลงมือตบคนอื่น นี่คงไม่ใช่การยั่วยุหรอกหรือ!

“งานเลี้ยงต้อนรับคุณชายหลี…ใครจะกล้าก่อเรื่อง แม้แต่คุณชายที่มีชื่อเสียงในเมืองเมืองหู้ไห่ก็ยังต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัว…”

“เขาคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วสิ…ยั่วยุคุณชายหลี บ้าไปแล้ว! เขามีสิทธิ์อะไรไปแหย่คุณชายหลี! เขานับเป็นตัวอะไร”!

“ไอ้เด็กนี่คงไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ทั้งยังอวดดีหยิ่งยโส ถ้าคุณชายหลีรู้เข้า มันคงกินไม่ได้นอนไม่หลับอีกต่อไป!”

ประธานจางหัวเราะเสียงดัง “ไม่รู้ที่ตายซะเเล้ว ในเมืองเมืองหู้ไห่นี้ งานเลี้ยงต้อนรับคุณชายหลียังกล้าทำตัวอวดดี แกต้องการให้คุณชายหลีจัดการแกด้วยตัวเองงั้นหรือ?”

เฉินเป่ยเม้มปาก “คนที่ตบก่อนคือแก แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณชายหลีล่ะ? งานเลี้ยงต้อนรับเขาแล้วมันยังไง? โรงแรมนี้ก็ไม่ใช่ของเขาเสียหน่อย!”

พรึบ! ทุกคนในห้องเงียบกริบ ได้ยินแม้แต่เสียงใบไม้ร่วง!

ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างหวาดผวากับคำพูดที่สั่นสะเทือนของเฉินเป่ย!

บ้าไปแล้ว เขาไม่เคยเห็นคุณชายหลีอยู่ในสายตาเลย!

การมาของคุณชายหลี แม้ว่าจะเป็นศาลากลางเมืองหู้ไห่ก็ยังต้องหลีกทางให้ แต่คนคนนี้กลับรนหาที่ตายถึงพูดดูหมิ่นคุณชายหลีอย่างไม่น่าให้อภัยแบบนี้!

มีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เฉินเป่ยด้วยความรู้สึกซับซ้อนอยู่ภายในใจ สายตาปรวณแปรไม่หยุดหย่อน แฝงไปด้วยความสงสารและเห็นอกเห็นใจเล็กน้อย สำหรับพวกเขาแล้ว ผู้ชายคนนี้…วันนี้ยากที่หนีพ้น เกรงว่าคืนนี้จะไม่สามารถออกจากโรงแรมนี้ได้!!

น้ำเสียงราวกับไม่เกรงกลัวสิ่งใด คาดว่าไไม่ต้องรอให้ถึงหูคุณชายหลีก็มีคนพร้อมจัดการเขา?

คำพูดของเฉินเป่ยนั้นฟังดูน่าตกใจ แม้แต่พวกคนใหญ่คนโตในเมืองเมืองหู้ไห่ก็ต้องหันไปมองเฉินเป่ยด้วยความสนใจ…พวกเขาอยากรู้ชะตากรรมของไอ้เด็กบ้าบิ่นคนนั้นที่ล่วงเกินคุณชายหลีเสียแล้ว ฉากต่อไปจะเป็นอย่างไรนะ….

ใบหน้าหลีชิงเยียนดูซีดลง เธอมองเฉินเป่ยอย่างร้อนรน เธอหงุดหงิดแทบบ้า…ผู้ชายคนนี้ เธออยากจับเขากระทุ้งลงตะกร้าจริงๆ แต่ลำพังตัวเองก็ยังไม่มีปัญญาแม้แต่จะรับมือ

จบแล้วจบแล้ว! แม้แต่หลีชิงเยียนก็ไม่มีวิธีรับมือกับคุณชายหลี แค่คำพูดเพียงไม่กี่คำก็ก่อให้เกิดหายนะครั้งใหญ่ได้!

“งั้นนายน่าจะรู้ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับคุณชายหลี?” ประธานจางยิ้มชั่วร้าย เขาพูดอย่างภาคภูมิใจ!

“ความสัมพันธ์?” เฉินเป่ยยิ้มอย่างมีความหมาย ทันใดนั้นก็ยื่นมือออกไปคว้าเสื้อประธานจางแล้วตบลงไปอีกหนึ่งที

การตบครั้งนี้ทรงพลังมากจนทำให้ประธานจางล้มคว่ำลงไป พร้อมทั้งกระอักเลือด!

“ฉันสนใจแค่ว่าพวกนายน่าจะเป็นพวกหน้าตัวเมียกันน่ะสิ! ถึงมีเหตุผลพอที่จะรังแกผู้หญิงได้…” เฉินเป่ยสอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและพูดกำเริบเสิบสาน ประธานจางล้มไปกองกับพื้น ร่างกายสั่นเทาคิดอยากจะปีนขึ้นมาแต่เขาก็ทำไม่ได้!

ครั้งนี้เฉินเป่ยลงมือโหดร้ายมากจนกระดูกบนตัวเขาหักไปหลายซี่!

ผู้ชมตัวสั่นไปหมด แม้แต่คนใหญ่คนโตที่ผ่านโลกมาไม่น้อยก็มีท่าทีเปลี่ยนไปในทันที! จากคำพูดเมื่อกี้ พวกเขาสามารถสรุปอะไรได้บางอย่าง ประธานจางและคุณชายหลีดูเหมือนจะมีความเกี่ยวข้องกันบางอย่าง ในขณะที่เฉินเป่ยกลับไม่ได้เห็นเรื่องพวกนี้อยู่ในสายตาเลย!

เป็นเรื่องยากที่กว่าทุกคนจะมีปฏิกิริยาตอบกลับ พวกเขาจ้องมองเหตุการณ์น่าตื่นเต้นนี้อย่างใจหายใจคว่ำ!

“หยุด!”

ในขณะนี้ก็มีเสียงดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ผู้คนที่กำลังอยู่ในอาการกระสับกระส่ายเงียบลงชั่วขณะ

ชายหนุ่มที่หล่อเหลาในชุดสูทเดินเข้าไปหาเฉินเป่ย ผู้คนที่อยู่บริเวณทางเดินต่างหลีกทางให้เขา บนเพดานของห้องจัดเลี้ยงมีโคมไฟเพชรระย้าขนาดใหญ่ส่องแสงระยิบระยับ แสงตกกระทบลงมา สีหน้าของชายหนุ่มสงบนิ่ง แววตาลึกล้ำ สง่างามทุกย่างก้าว กลิ่นอายบนตัวเขาไม่เหมาะกับอายุของเขาในตอนนี้

มีคนนับไม่ถ้วนที่มองเขา การแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนเป็นเคารพในทันใด เนื่องจากเขาเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงนี้! เขาคือ คุณชายหลี ผู้มาจากเยี่ยนจิงแห่งตระกูลหลี

คุณชายหลีเดินไปหาหลีชิงเยียน ประธานจางจ้องหน้าเฉินเป่ยด้วยความอาฆาตแค้น!

“คุณชายหลี ในที่สุดคุณก็มาแล้ว” ประธานจางพูดอย่างนอบน้อม เขาอยากยันตัวขึ้นมา แต่เฉินเป่ยได้หักกระดูกเขาไปเสียแล้ว เขาอยากลุกแต่ก็ลุกไม่ได้!

“เอาล่ะ นายกลับไปรักษาตัวก่อนเถอะ” คุณชายหลีเหลือบมองประธานจางและทำท่าโบกมือเป็นสัญญาณให้บอดี้การ์ดชุดดำเข้ามาพยุงประธานจางออกไป

คนที่อยู่โดยรอบมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป ประธานจางรู้จักคุณชายหลีจริงๆหรือ…เขากับคุณชายหลีมีความสัมพันธ์แบบไหนกันแน่?

หลายคนแอบคาดเดาในใจ แต่ไม่มีหลักฐาน

คุณชายหลีเดินไปตรงหน้าหลีชิงเยียน สายตาจับจ้องไปที่หลีชิงเยียนด้วยแววตาเรียบนิ่ง ไม่มีความเคลื่อนไหว

หลีชิงเยียนเองก็สบตากับคุณชายหลีด้วยใบหน้าสงบ ทว่าภายในใจสั่นระริกอย่างรุนแรงและประหม่ามาก!

ในที่สุดคุณชายตระกูลหลีแห่งเยี่ยนจิงก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าหลีชิงเยียน…หลีชิงเยียนเองก็ไม่รู้ถึงจุดประสงค์การมาของคุณชายหลี…แต่ถึงอย่างไรก็คงไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน

เห็นได้ชัดว่าคุณชายหลีคนนี้ก็ดูไม่ได้เป็นคนดีอะไร วงศ์ตระกูลแห่งเยี่ยนจิงส่งเขามาที่นี่ได้ แน่นอนว่าเป็นคนที่จัดการได้ยากคนหนึ่ง

ภายในห้องจัดงานเลี้ยงเงียบสงบลง มีหลายคนมองไปทางคุณชายหลีด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและเคารพ

ทันใดนั้นคุณชายหลีก็โค้งตัวทักทาย “คุณหลี วันนี้อุตส่าห์เชิญคุณมาร่วมงานเลี้ยง แต่กลับเกิดเรื่องแบบนี้ คงทำให้คุณหัวเราะเสียแล้ว”

หลีชิงเยียนนิ่งสักพัก พลางส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ”

ผู้คนรอบข้างต่างตกตะลึง สิ่งแรกที่คุณชายหลีเข้ามาในงานเลี้ยงก็คือการขอโทษหลีชิงเยียน…ด้วยสถานะของคุณชายหลีไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลยด้วยซ้ำ…แต่เขาก็ยังทำ เพราะอะไรกันนะ?

มันแปลกเกินไปแล้ว

คุณชายหลีจับมือทักทายหลีชิงเยียนเบาๆ จากนั้นก็หดกลับอย่างสุภาพ

“คุณหลี เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณมาร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำของผมในวันนี้” คุณชายหลียิ้ม เขาหยิบแก้วสองใบจากบริกรยื่นให้หลีชิงเยียน

แม้ว่าหลีชิงเยียนจะประหม่าและตัวสั่น แต่เธอก็ยังยิ้มเล็กน้อยโดยไม่แสดงข้อบกพร่องแม้แต่น้อย “คุณชายหลี คุณเป็นคนใหญ่คนโต ชิงเยียนเป็นเพียงคนตัวเล็กๆที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ในการเข้าร่วมงานเลี้ยงแบบนี้ ชิงเยียนก็ไม่คิดเลยว่าจะได้มา”

“ตอนที่อยู่เยี่ยนจิง ผมได้ยินคำพูดดีดีเกี่ยวกับคุณหลีมาไม่น้อย วันนี้มีโอกาสได้เจอตัวจริง สำหรับผมแล้วคุณหลีไม่เพียงเป็นสาวงามอันดับหนึ่งในเเวดวงธุรกิจในเมืองเมืองหู้ไห่เท่านั้น แต่เป็นสาวงามอันดับหนึ่งในเเวดวงธุรกิจของประเทศอีกด้วย”คุณชายหลีพูดและยิ้ม

“คุณชายหลี ด้วยภาพลักษณ์ของชิงเยียนเกรงว่ามีเพียงชื่อเสียงเล็กๆน้อยๆในเมืองเมืองหู้ไห่เท่านั้น ประเทศเราออกจะกว้างใหญ่ สาวงามมีมากมายเหมือนดังเมฆหมอก ชิงเยียนนับเป็นอะไรได้”

อยู่ๆคุณชายหลีก็ทำหน้าจริงจังมากขึ้น เขาพูดด้วยน้ำเสียงของความคาดหวัง “คุณหลี ความจริงแล้วผมเดินทางจากเยี่ยนจิงมาที่นี่ก็เพราะคุณ”

“ฉัน?” หลีชิงเยียนประหลาดใจ ภายในใจรู้สึกว่ามันไร้สาระเล็กน้อย

ในที่สุดก็อธิบายความจริงออกมาแล้วใช่ไหม? เกรงว่านี่ไม่ใช่ความคิดของคุณชายหลีคนนี้ แต่เป็นความคิดของผู้อาวุโสตระกูลหลี

หลีชิงเยียนใจเต้นอย่างรุนแรง คุณชายหลีพยักหน้าและพูดอย่างตั้งใจ “แต่งงานเกี่ยวดอง”

“แต่งงานเกี่ยวดอง” หลีชิงเยียนถึงกับผงะ เธอยิ้มและพยายามเปลี่ยนเรื่อง “คุณชายหลีล้อเล่นอยู่หรือเปล่าคะ แต่งงานกับผู้หญิงที่แต่งงานเเล้วเนี่ยนะ ฉันไม่ใช่สาวโสดมาตั้งนานแล้ว”

คุณชายหลียิ้มมุมปากและพูดอย่างดูถูก “ไม่เห็นเป็นไร ตามที่ผมรู้มา สามีของคุณหลีไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรคุณหลี แต่ผมไม่เหมือนเขา”

น้ำเสียงคุณชายหลีเต็มไปด้วยความมั่นใจโดยไม่ต้องสงสัย เขาเตรียมการมาดีเเล้ว สามีของหลีชิงเยียนก็เป็นแค่ไอ้ขยะไร้ประโยชน์คนหนึ่ง

นอกจากนี้หลีชิงเยียนเองก็ไม่ได้มีความรู้สึกดีดีต่อสามีของเธอเลย

เขาดีกว่าไอ้ขยะคนนั้นตั้งเยอะ มีผลประโยชน์มากมาย

เรื่องดีดีแบบนี้หลีชิงเยียนจะปฏิเสธได้อย่างไร

คุณชายหลีไม่ได้พูดเบาๆ เนื่องจากภายในห้องจัดงานเลี้ยงกำลังอยู่ในบรรยากาศเงียบสงบ หลายคนจึงจับจ้องมาที่พวกเขาอย่างตกตะลึง

“คุณหลี ถ้าคุณไปอยู่เยี่ยนจิงกับผม ผมจะทุ่มเทความรัก และมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้คุณ” คุณชายหลียิ้มจางๆ ผู้คนมากมายในห้องจัดเลี้ยงต่างตกตะลึงกับรอยยิ้มอันหล่อเหลาของเขา

“ชิงเยียนผมชอบคุณ” อยู่ๆคุณชายหลีก็เปลี่ยนคำพูด เขาเปลี่ยนคำว่า “คุณหลี” เป็น ชิงเยียนซึ่งเป็นคำเรียกที่ดูสนิทสนมกว่าแต่ก่อนมาก!

สารภาพรัก!!

คนทั้งห้องจัดเลี้ยงแทบเดือด! คนดังหลายคนจ้องไปที่คุณชายหลีและหลีชิงเยียน

คนหนึ่งคือประธานเทพธิดาที่มีชื่อเสียงของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป เธอมีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองเมืองหู้ไห่ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ หรือความสามารถทางธุรกิจ

อีกคนหนึ่งมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่กว่า เขาคือคุณชายของตระกูลหลีจากเยี่ยนจิง และมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นผู้นำตระกูลในอนาคต!

ผู้คนจำนวนมากจ้องมองไปที่คุณชายหลีและหลีชิงเยียน การแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนไป ไม่มีใครคิดว่างานเลี้ยงในคืนนี้จะกลายเป็นสถานที่สารภาพรักของคุณชายหลี!

ใบหน้าที่บอบบางและสวยงามของหลีชิงเยียนมองอย่างเฉยชาชั่วขณะ เธอจ้องมองไปที่คุณชายหลีอย่างว่างเปล่า…เขาสารภาพรักเธอต่อหน้าทุกคน?

เขาต้องการจะทำอะไร?

เขาไม่ได้มาเพื่อจัดการเธอ…แล้วยังมาบอกชอบเธอ? จะเป็นไปได้อย่างไร?

วันนี้หลีชิงเยียนเตรียมพร้อมสำหรับการมาเผชิญหน้ากับคุณชายหลีเป็นอย่างดี แต่ไม่คิดเลยว่าคุณชายหลีจะแสดงท่าทีแบบนี้กับเธอ ทุกอย่างยุ่งเหยิงไปหมด

หลายคนกลั้นหายใจ หัวใจเต้นแรงและรอให้หลีชิงเยียนเลือก

สตรีผู้สูงศักดิ์ทุกคนหวังว่าคนที่คุณชายหลีสารภาพรักนั้นจะเปลี่ยนมาเป็นพวกเธอ

นี่เป็นความฝันที่พวกเธอไม่กล้าแม้แต่จะฝัน หากเกิดขึ้นจริง เกรงว่าพวกเธอจะตื่นมาพร้อมกับรอยยิ้ม

“ชิงเยียนอะไรที่คนอื่นให้คุณได้ ผมก็ให้คุณได้ อะไรที่คนอื่นให้ไม่ได้…แต่ผมให้คุณได้” คุณชายหลียิ้มด้วยรอยยิ้มสง่างาม บวกกับน้ำเสียงอบอุ่นนั้นเพียงพอที่จะทำให้ผู้หญิงหลายคนเคลิบเคลิ้มหลงใหล

“ผมจะไม่ทำให้คุณได้รับความขุ่นเคืองใจ ไม่ให้ใครมาชี้นิ้วสั่งคุณ ผมแตกต่างกับพวกขยะไร้ความสามารถ ผมสามารถปกป้องคุณได้ และไม่ปล่อยให้คุณได้รับอันตรายเเม้แต่นิดเดียว” คุณชายหลีพูดต่อ หลายคนสั่นสะท้านกับคำพูดของคุณชายหลี เห็นได้ชัดว่าพุ่งเป้าไปที่สามีไร้ประโยชน์ของหลีชิงเยียน

มีข่าวลือในเมืองเมืองหู้ไห่ว่าหลีชิงเยียนแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นไม่เพียงแค่ขี้เกียจทำงาน ทุกครั้งที่เจออันตรายก็มักจะหลบอยู่ในมุมหลืบ เขาไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเลยสักนิด

เมื่อเทียบคุณชายหลีกับสามีของหลีชิงเยียน แน่นอนว่าต่างกันราวกับอยู่คนละโลก หลายคนแอบดูถูกลูกเขยตระกูลหลีอยู่ในใจที่ลูกสาวของตัวเองโดนแย่งตัวไปแต่เขากลับไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน

“ชิงเยียนทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ ผมหาคุณตั้งนาน” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังลอยมา

สายเปย์เบอร์หนึ่ง

สายเปย์เบอร์หนึ่ง

Status: Ongoing

เขาเป็นคนที่ทำให้คนอื่นกลัวและเคารพ แต่กลับกลายเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง ต่ำต้อยเหมือนฝุ่น ไม่เอาไหนเหมือนขยะ ราวกับว่าใครๆก็สามารถเหยียบย่ำเขาไว้ใต้เท้าแต่ ในใจเขามีความทะเยอทะยาน…….จะมีสักวันหนึ่ง เขาจะจับมือเธอ มอบโลกทั้งใบให้เธอ!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท