บทที่101 ผู้หญิงที่ร้ายกาจ
สนามบินเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง หลังจากพนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นตอบสนองเข้ามา ผมยาวทรวดทรงสวยงามก็หายไปไม่เห็นแล้ว
“เธอไปไหนแล้ว?” พนักงานรักษาความปลอดภัยสองคนมองหน้ากัน ส่วนภาพคนผมยาวทรวดทรงสวยงามนั้นก็เดินออกไปจากสนามบิน นั่งเข้าในรถแท็กซี่เรียบร้อย
ช่วงพลบค่ำ ไมบัคค่อยๆ ลดความเร็วลง จอดอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์
หลีชิงเยียนสีหน้าอ่อนล้า ใส่รองเท้าส้นแหลม เดินเข้ามาในคฤหาสน์หรู กลับมาถึงที่บ้านแล้ว
พอเข้ามาในบ้าน หลีชิงเยียนเตะรองเท้าส้นสูงทิ้งไป แล้วนอนบนโซฟาพักผ่อนสักหน่อย
“ประธานหลี ลำบากแล้วนะครับ” เฉินเป่ยเทน้ำชาแก้วหนึ่งวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าของหลีชิงเยียน
หลีชิงเยียนดื่มน้ำไป ส่วนเฉินเป่ยก็เอาน้ำร้อนมาชามหนึ่ง ยกมาด้านหน้าของหลีชิงเยียนพลางยิ้มกริ่ม “ประธานหลีทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้วสินะ ผมจะช่วยนวดๆ ให้คุณ”
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันอาบน้ำก็ดีขึ้นแล้ว” ช่วงเวลานี้ท่าทีของหลีชิงเยียนที่มีต่อเฉินเป่ยอ่อนโยนขึ้นมาก ไม่รู้ว่าเปลี่ยนท่าทีไปเมื่อตอนทานกุ้งเครย์ฟิชครั้งก่อน หรือว่าสาเหตุอะไร
“ประธานหลี ฝีมือนวดของผมคุณก็รู้นี่ ไม่ได้นวดนานขนาดนี้ ช่วงนี้คุณทำงานเหนื่อยล้า แถมประจำเดือนก็มาอีก น่าจะปวดเมื่อยรุนแรงมาก” เฉินเป่ยพูดขึ้น
หลีชิงเยียนยักคิ้ว เฉินเป่ยพูดแม่นมาก หลายวันนี้หลีชิงเยียนประจำเดือนมา จึงปวดมากกว่าเมื่อก่อนอยู่มาก
เฉินเป่ยจับขาสวยเรียวเล็กขาวเนียนคู่นั้นของหลีชิงเยียนไว้ มือใหญ่คู่หนึ่งไต่ไปตามถุงน่องสีดำแบบยาวเบาๆ……เสียดสีไปกับถุงน่องจนเกิดเสียงที่ทำให้คนมีความคิดผุดในสมองเชื่อมโยงถึงหัวใจไปได้ง่ายมาก
เฉินเป่ยค่อยๆ ถอดถุงน่องสีดำลง จากนั้นขาเล็กที่ตรงดิ่งก็รู้สึกผ่อนคลายมาก ราวกับลื่นลงอย่างอดไม่ไหวสุดๆ
ตอนนี้เท้างดงามสมบูรณ์แบบคู่หนึ่งอยู่ด้านหน้าเฉินเป่ย เล็บประกายแวววาวใสแจ๋ว ผิวพรรณบนเท้ามันวาวละเอียดราวกับเด็กทารก แม้แต่หนังเท้าด้านๆ ยังไม่มีเลย
เฉินเป่ยวางเท้าหญิงสาวในน้ำร้อนเบาๆ อุณหภูมิที่สบายห่อหุ้มเท้าไว้ เฉินเป่ยจับเท้าเปลือยเปล่าไว้ นวดเท้าให้หลีชิงเยียนอย่างระมัดระวัง
หลีชิงเยียนก้มหน้ามองเฉินเป่ยที่กำลังล้างเท้าให้หลีชิงเยียนอย่างจริงจัง ในดวงตางามประกายความซับซ้อน
ที่จริงเฉินเป่ยเป็นคนไม่เลวเลย แต่ในสายตาของหลีชิงเยียน เฉินเป่ยยังคงเป็นเพียงลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงคนหนึ่งที่โดนคนนับไม่ถ้วนก่นด่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีคุณสมบัติแบบที่หลีชิงเยียนต้องการ
เฉินเป่ยกับผู้ลึกลับคนนั้นช่างห่างเหินกันมากเหลือเกิน มีบางครั้งหลีชิงเยียนหวังว่าเฉินเป่ยจะสามารถเจริญรอยตามผู้ลึกลับคนนั้นได้
ทุกครั้งที่เจออันตรายมักจะถือโอกาสหลบหนีออกไป นั่นเป็นสิ่งที่หลีชิงเยียนเหยียดหยามที่สุด
เฉินเป่ยกำลังลูบไล้เท้าอย่างคล่องแคล่ว แต่ละจุดที่ถูกเฉินเป่ยนวดกดนั้น เพิ่มการไหลเวียนของเลือดรวดเร็วขึ้น ทำให้ทั้งร่างอ่อนช้อยของหลีชิงเยียนชาๆ แม้แต่ความเจ็บปวดที่ท้องน้อยยังเหมือนลดลงระดับหนึ่ง ซึ่งสบายตัวอย่างมาก
“แหมๆ……น่าอิจฉาจริงๆ เลย ใครบางคนมีความสุขอยู่กับตัวอยู่แล้วยังก็ไม่รู้จักสุข มีสามีที่ดีขนาดนี้คอยปรนนิบัติยังไม่รู้จักพอ~” ทันใดนั้นภาพคนรูปทรงงดงามลงมาจากชั้นสอง ซูเสี่ยวหยุนเดินยิ้มลงมาจากชั้นสอง ก่อนจะนั่งลงด้านข้างของหลีชิงเยียน
หลีชิงเยียนมองค้อนซูเสี่ยวหยุนอย่างไม่สบอารมณ์ทีหนึ่ง พูดอย่างเย็นชาและโอหัง “เธอมีความสามารถก็ไปหาสักคนเองสิ ตัวเองไม่มีฝีมือก็เริ่มมาเหน็บแนมคนอื่น……”
“คนอื่นจะมีฝีมือดีขนาดนี้เท่าสามีเธอที่ไหนกัน……บีบนวดคล่องมือ ความปวดเมื่อยบนตัวหายไปตั้งมาก” ซูเสี่ยวหยุนพูดขึ้น
“งั้นถ้าเธอมีความสามารถก็ให้เขามานวดให้เธอสิ” หลีชิงเยียนบอก
“ข้างตัวฉันมีปีศาจสาวนอนอยู่ ฉันจะกล้ายังไงล่ะ~” ซูเสี่ยวหยุนพูดหยอกล้อ
เฉินเป่ยยอมนั่งอยู่แบบนี้ นวดเท้าโดยไม่หนีความลำบากอยู่ครึ่งชั่วโมง ถึงใช้ผ้าขนหนูเช็ดเท้าหญิงสาวให้แห้ง ก่อนจะลุกขึ้นนำน้ำล้างเท้าไปเท
และในเวลานี้ ความเจ็บปวดบนร่างกายของหลีชิงเยียนก็หายไปครึ่งใหญ่เลย ความอ่อนล้าเมื่อก่อนหน้าก็ว่างเปล่า ความง่วงทะลักมาราวกับกระแสน้ำ
“ฉันไปนอนก่อนแล้วนะ” หลีชิงเยียนพูดอย่างเหนื่อยล้า ใบหน้างดงามดูง่วงๆ เดินไปทางบันไดวนของชั้นสอง
…………
หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ อาคารตระกูลหลี
หลีชิงเยียนนั่งอยู่ภายในห้องทำงานประธาน หยิบโทรศัพท์ขึ้น ต่อสายไปที่หมายเลขหนึ่ง
เฉินเป่ยในเวลานี้กำลังยุ่งเรื่องงานบ้านอยู่ในคฤหาสน์
“ประธานหลี มีอะไรรึเปล่า?” เสียงมือถือดังขึ้น เฉินเป่ยมองเห็นบนหน้าจอมือถือแสดงหมายเลขโทรศัพท์ที่บริษัทของหลีชิงเยียน จึงรีบร้อนรับสาย
“ช่วยฉันไปรับคนคนหนึ่งหน่อย ลูกน้องหลายคนของฉันดึงตัวไปไม่ได้เลย” ในสายนั้นเสียงที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดของหลีชิงเยียนลอยเข้ามา
“ไม่มีปัญหาครับ” เฉินเป่ยสีหน้าตื่นเต้น รับปากไปอย่างไม่ลังเลสักนิด
นี่คือการแสดงให้เห็นว่าหลีชิงเยียนไว้ใจตัวเอง!
ตอนบ่าย เฉินเป่ยขี่จักรยานมาถึงที่อาคารตระกูลหลี นำไมบัคคันนั้นขับออกมาจากโรงรถชั้นใต้ดิน ขับไปทางที่อยู่โรงแรมที่หลีชิงเยียนให้มา
ไมบัคเอสคลาสจอดอยู่หน้าประตูโรงแรม ผู้หญิงรูปร่างงดงามผมยาวสวมแว่นตาดำเดินฉับไวออกมาจากหน้าประตูโรงแรม
เฉินเป่ยนั่งอยู่ที่นั่งคนขับหันหน้ามองทางสาวหุ่นดีผมยาวคนนั้น รู้สึกว่าสาวรูปร่างงดงามคนนี้มีความคุ้นตาอยู่นิดๆ อย่างคาดไม่ถึง
สาวทรวดทรงงดงามคนนี้เดินมาทางเฉินเป่ยตรงๆ กระทั่งเดินมาถึงข้างรถของเฉินเป่ย ทันใดนั้นก็เปิดประตูรถออกแล้วนั่งเข้ามา
กลิ่นหอมบนร่างงดงามแพร่กระจาย ไม่นานก็คละคลุ้งภายในห้องโดยสาร
และตอนที่เฉินเป่ยได้กลิ่นน้ำหอมนั้น สีหน้าหน่วงหนืด เปลี่ยนสีฉับพลัน!
เฉินเป่ยหันหน้าทันใด จ้องสาวผมยาวรูปทรงงดงามคนนั้นไปตรงๆ ดวงตาถูกความดุเดือดเข้าแทนที่
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” มุมปากสาวผมยาวทรวดทรงงดงามยกนิดหน่อย เอ่ยปากด้วยเสียงอันน่าดึงดูด เสียงซึ่งเต็มไปได้เสน่ห์เย้ายวน~
เฉินเป่ยยื่นมือราวกับฟ้าแลบ นำแว่นดำของสาวผมยาวรูปร่างงดงามลง แล้วใบหน้าสวยงามเอาชีวิตนั้นก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเฉินเป่ย
“เป็นเธอ!”
เฉินเป่ยเอ่ยปากเสียงดุ เดิมทีเขานึกไม่ถึงว่าตนเองอยู่ที่นี่จะเจอเข้ากับผู้หญิงที่งดงามและร้ายกาจคนนี้
“เกินคาดเหรอ?” สาวผมยาวทรวดทรงงดงามฉีกมุมปาก รอยยิ้มเต็มไปด้วยความยั่วยวน ทำให้ชายใดล้วนไม่มีทางรับมือไหว
เฉินเป่ยจ้องมองสาวผมยาวรูปร่างงดงามคนนี้ตรงๆ ด้วยดวงตาล้ำลึก เขาคาดไม่ถึงสักนิดจริงๆ จึงไม่มีการเตรียมระวังใดๆ!
โม่ถีซือ นางฟ้าผู้ฉลาดหลักแหลมที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งโลกชั่วร้ายทิศตะวันตก!
ผู้หญิงคนนี้ถูกประเทศใหญ่ๆ มากมายออกหมายจับ เวลานี้ยังนั่งอยู่ด้านข้างเขา สนิทแนบชิดกับเขาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
“เธอมาหัวเซี่ย สรุปแล้วจะมาทำอะไร……บอกเป้าหมายของเธอมา!” เฉินเป่ยเอ่ยปากเย็นยะเยือก
“ไม่ได้มาทำอะไร เพียงแค่มา……เดินเล่นเรื่อยเปื่อย” โม่ถีซือยิ้มอ่อนๆ
เฉินเป่ยไม่เชื่ออยู่แล้ว ผู้หญิงที่ถูกทางต่างประเทศยกให้เป็นบุคคลอันตรายที่สุดนี้ ถึงจะเป็นเฉินเป่ย ก็มีความเป็นไปได้มากว่าหากไม่ระวังอาจจะติดกับดักของหล่อนได้ เฉินเป่ยย่อมไม่กล้าผ่อนความระวังลงได้
“ออกรถเถอะ” โม่ถีซือบอก
“ลงรถ คนที่ฉันจะรับ ไม่ใช่เธอ” เฉินเป่ยบอก
โม่ถีซือมองเฉินเป่ยอย่างแปลกออกไป ในดวงตางามเผยความตกใจออกมา “หลง นึกไม่ถึงว่าไม่ได้เจอช่วงหนึ่ง สมองนายแย่ไปหมดแล้วเหรอ? ฉันคือลูกค้าที่ร่วมงานกับบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป นายไม่ส่งฉันไปบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปดีๆ นายคิดเอาเองแล้วกันว่าจะมีผลยังไง”
“โม่ถีซือ เธออยากทำอะไรกันแน่!” เฉินเป่ยสีหน้าดุร้าย ยืนมือบีบคองามขาวนวลของโม่ถีซือไว้ทันใด!
ในโลกชั่วร้ายทิศตะวันตก คนที่เฉินเป่ยหวาดกลัวที่สุดก็คือโม่ถีซือ!
เพราะผู้หญิงคนนี้ภายนอกทำให้คนหลงใหลได้ง่ายเหลือเกิน……พอไม่ระวังนิดเดียว คงถูกหล่อนทรมานสะบักสะบอมจนเกือบตายไป! เศร้ารันทดใจจะขาด
เฉินเป่ยหวาดกลัวว่าโม่ถีซือมาหัวเซี่ยครั้งนี้ จะกระทบต่อบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป
“ฉันอยากทำอะไร? ฉันต้องบอกนายด้วยเหรอ?” โม่ถีซือสีหน้าสงบ
“หลง ฉันขอเตือนนายให้ส่งฉันเข้าไปอย่างเชื่อฟังจะดีกว่า เดี๋ยวการประชุมของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปจะเริ่มขึ้น ถ้าฉันไปการประชุมครั้งนี้สาย……นายเองคงรู้ผลลัพธ์ในใจชัดเจนดี”
เฉินเป่ยสีหน้าดูแย่ เขาค่อยๆ ปล่อยมือออก ก่อนพูดเตือน “โม่ถีซือ ฉันขอเตือนเธอ……ถ้ากระทบถึงบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป……ต่อให้จะทำร้ายต่อบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปเพียงนิดเดียว ถึงเธอจะหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียว……ฉันก็จะไม่ปล่อยเธอไปเด็ดขาด!”
“ฉันรู้แน่นอน นายเป็นราชาหลงที่น่าเกรงขาม……ใครจะกล้าหาเรื่องนายกัน…” โม่ถีซือยิ้มพราวเสน่ห์
…………
บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ภายในห้องประชุม
หลีชิงเยียนนั่งบนเก้าอี้ รอคอยอย่างร้อนรน ว่ากันตามเหตุผล ตามระยะทางนี้ โม่ถีซือควรถึงบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้ห่างจากเวลาประชุมเพียงห้านาที หล่อนยังมาไม่ถึง
หลีชิงเยียนโทรศัพท์ส่งข้อความหาเฉินเป่ยไม่รู้เท่าไร เขาล้วนไม่รับ สามนาที……สองนาที……
เวลาผ่านไปแต่ละนาทีแต่ละวินาที หลีชิงเยียนเริ่มรู้สึกเสียใจ ทำไมตนเองถึงต้องให้เฉินเป่ยไปรับ เจ้าหมอนี้มักจะทำเสียเรื่องเวลาสำคัญ
ทันใดนั้น!
เสียงรองเท้าส้นสูงเหยียบบนพื้นดังกังวานลอยเข้ามาจากด้านนอก สาวผมสาวทรวดทรงงดงามเดินเข้ามาพร้อมยิ้มที่รู้สึกผิด “รบกวนทุกท่านแล้ว ระหว่างทางรถเกิดเรื่องเข้า ทำให้ทุกท่านรอนานเลย~”
เฉินเป่ยอยู่หน้าประตู รอการประชุมจบหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ หลีชิงเยียนเดินออกมา เฉินเป่ยถึงได้รีบเดินตามหลีชิงเยียนเข้าห้องทำงาน
“เรื่องอะไรกัน เกือบจะไม่ได้ประชุมแล้ว” หลีชิงเยียนขมวดคิ้วถามขึ้น
“ยางรถแตก ต้องเปลี่ยนยางใหม่ เลยเสียเวลาไปหน่อย” เฉินเป่ยพูดเรียบนิ่ง
“ประธานหลี บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปร่วมงานกับโม่ถีซือไม่ได้นะ” เฉินเป่ยพูดขึ้นกะทันหัน
หลีชิงเยียนตะลึง ใบหน้างดงามดูตกใจ “ทำไม?