บทที่165 หลบอยู่หลังผู้หญิงเพื่อให้มีชีวิตรอด
สีหน้าที่เข้มขรึมของหลีเช่าหงเคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดนิ่ง ในเมื่อเฉินเป่ยไม่ต้องการโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปในครั้งนี้ เขาต้องทำให้เขาสมหวังอย่างแน่นอน!
นัยน์ตาเฉินเป่ยหยุดนิ่ง ตัวเขาเองรู้ดีคำพูดของหลีเช่าหงคำนี้มีความหมายอะไรซ่อนอยู่
“ฉันขอโน้มน้าวคุณว่าอย่าทำแบบนี้ มิเช่นนั้น ผลลัพธ์คุณแบกรับไม่ไหว” เฉินเป่ยเอ่ยปากออกมาอย่างนิ่งๆ
หลีเช่าหงหัวเราะอย่างเย็นชา ความน่ากลัวที่หน้าเผยออกมาอีกครั้ง “ผลลัพธ์………คุณรู้ไหม ผลลัพธ์ที่เป็นศัตรูกับฉัน แล้วมันคืออะไร?”
หลีเช่าหงลุกขึ้นมา ก้าวขาออกไปปุ๊บ ผ้าห่มที่นุ่มนวลก็กระตุกปั๊บ สีหน้าหลีเช่าหงเข้มขรึมและเย็นชาเหมือนกับน้ำค้างแข็ง มีความหยิ่งยโส จ้องมองเฉินเป่ยอย่างคนสูงศักดิ์
เขาไม่อยากไว้ชีวิตเฉินเป่ยอีกแล้ว ในใจของเขา ความฆ่าฟันล้นหลามออกมา!
มุมมองของเขา เฉินเป่ยหักแขนของหลีเช่าเทียนไปหนึ่งข้าง ทำให้บ้านตระกูลหลีขายหน้ามากแล้ว เขาไว้ชีวิตเฉินเป่ยมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นบุญคุณของเขาแล้ว
หลีเช่าหงหยิบกล่องบุหรี่ออกมาจากอก หยิบซิก้าออกมาหนึ่งม้วน ค่อยๆเอ่ยปากออกมา “ลงมือ”
ทันทีนั้น หัวหน้าทีมและไอรีนที่เฝ้าอยู่หน้าประตู เหมือนกับลูกศรที่ออกจากธนู ลอบฆ่าไปทางเฉินเป่ย!
เฉินเป่ยยืนอยู่ที่เดิม ใต้ตามีความฆ่าฟันแล่นผ่านไป ทันทีนั้นกำมือทั้งคู่เอาไว้อย่างแน่นๆ นัยน์ตาเยือกเย็นและเข้มขรึม
“หยุดนะ!”
ในขณะนี้ เสียงตะคอกผู้หญิงที่สดใสดังออกมาจากทางเดินระเบียง ทำให้หัวหน้าทีมและไอรีนหยุดชะงักในทันทีทันใด
หลีเช่าหงขมวดคิ้ว ส่วนเฉินเป่ย นัยน์ตาหดลง เสียงที่คุ้นเคยแต่ว่าเย็นชาได้ดังเข้ามาในหูของเขา ทำให้เขารู้สึกไม่เป็นความจริงสักเท่าไหร่ และไม่น่าเชื่อ!
เฉินเป่ยหันหน้า มองเห็นสุดทางระเบียงทางเดิน มีร่างเงาที่เซ็กซี่และสวยสุดๆ กำลังเหยียบรองเท้าส้นสูง เดินหน้าเข้ามา นัยน์ตาที่สวยงาม เต็มไปด้วยความห่วงใยและใจร้อน
นัยน์ตาเฉินเป่ยมีความสงสัยแล่นผ่านไป หลีชิงเยียน มาได้ไง………ตัวเองไม่ได้บอกเธอสักหน่อย!
หลีชิงเยียนในวินาทีนี้ ใบหน้าที่สวยสดงดงามดั่งหยกเย็นชาไปทั้งหน้า เหยียบรองเท้าไว้ที่พื้นอย่างสุดแรง เสียงสะท้อนที่สดใสทำให้หลีเช่าหงหดหู่ใจมากเลยทีเดียว
ที่เขาไม่อยากให้หลีชิงเยียนเข้ามามีส่วนร่วม ก็คือไม่อยากให้ตอนที่จัดการกับเฉินเป่ย คนที่มีสายเลือดของบ้านตระกูลหลีอยู่ในเหตุการณ์ด้วย
เขาไม่เหมือนกับหลีเช่าเทียน เขาคิดไกลกว่าเยอะ ยังไงก็ดีหลีชิงเยียนมีเลือดของบ้านตระกูลหลีไหลเวียนอยู่ ถ้าหากว่าตายแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ตัวเองยากที่จะแก้ตัว
ส่วนหลีชิงเยียนที่ปรากฏตัวออกมาอย่างกะทันหัน จู่ๆก็ทำให้แผนการที่เขาวางไว้วุ่นวายไปหมด
เช่นเดียวกัน หลีชิงเยียนเองก็คิดไม่ถึง แผนการของหลีเช่าหงถูกวุ่นวายไปหมดแล้ว เฉินเป่ย ความฆ่าฟันที่เพิ่งเกิดขึ้นในใจ ก็หายไปอย่างเร็วไว ทำให้หลีเช่าหงหนีความอันตรายไปได้หนึ่งครั้ง
“ชิงเยียน คุณมาได้ไง?” สีหน้าเฉินเป่ยตกใจ มองหน้าหลีชิงเยียนแบบซื่อๆ
หน้าสวยๆของหลีชิงเยียนเข้มขรึมและหนักแน่น บุกเข้ามาโดยไม่ห่วงตัวเองเลยสักนิด เดินเข้ามาตรงหน้าเฉินเป่ย จู่ๆก็ยกฝ่ามือที่ขาวผ่องดั่งหยกขึ้นมา ตบเข้าไปที่หน้าของเฉินเป่ย
ถัดจากนั้นปุ๊บ ก็โอบร่างกายของเฉินเป่ยเอาไว้ แขนทั้งคู่กอดเฉินเป่ยเอาไว้แน่นๆอย่างผิดปกติ ก็ไม่สนเลยว่าภูเขาที่สูงจะถูกกดจนผิดรูปผิดทรง
เฉินเป่ยก้มหน้าลง ก็ได้กลิ่นผมที่ดกดำและยาวสลวยของหลีชิงเยียน ซึ่งเป็นกลิ่นแชมพูที่หอมละมุนกระจายออกมา
ท่าทางที่ผิดปกติของหลีชิงเยียน ทำให้เฉินเป่ยงงๆ แต่ก็แค่สองสามวินาทีเท่านั้น หลีชิงเยียนก็ผลักตัว เฉินเป่ยออกไป ความโกรธที่หน้าได้หายหมดไปแล้ว สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเย็นชา
หลีชิงเยียนหันหน้าไปมองสีหน้าที่ตกใจของหลีเช่าหง เอ่ยปากออกมาอย่างเย็นชา คุณชายใหญ่ความคิดดีเลิศทีเดียวเชียวนะ แยกฉันกับสามีออกจากกัน อยากทำอะไรสามีฉันเนี่ย?”
คนที่ไม่รู้ การเรียกนามที่หลีชิงเยียนมีต่อเฉินเป่ยก็เปลี่ยนไปแล้ว ถึงขั้นเริ่มเรียกว่าสามีเลยทีเดียวเชียวหล่ะ
เฉินเป่ยยืนข้างหลังหลีชิงเยียน มองดูหุ่นที่เซ็กซี่ และร่างกายที่บอบบาง บังอยู่ข้างหลังตัวเอง ต่อต้านกับหลีเช่าหงอย่างไม่มีความกลัวใดๆ นัยน์ตาค่อยๆเปลี่ยนไปอย่างอบอุ่น
หลีเช่าหงจ้องหน้าหลีชิงเยียน สายตาของทั้งคู่ชนกันในอากาศ กระตุกอย่างว่างเปล่า ร่างอันบอบบางของหลีชิงเยียนกระตุก แต่ว่านัยน์ตาที่สวยงาม ความยืนหยัดและหนักแน่นตรึงร่างเธอไว้ ไม่ขยับตัวเลยแม้แต่นิดเดียว!
ทั้งคู่จ้องตากันอยู่สักพัก ในที่สุด พลังที่เข้มขรึมและข่มขู่คนของหลีเช่าหงเก็บเข้าไปอย่างกะทันหัน ฟื้นฟูเป็นบุคลิกภาพที่สุภาพและกันเองโดยปกติ ยิ้มแย้มพูดว่า “ชิงเยียน คุณอย่าคิดมากนะ ผมกับเขาก็แค่ความเห็นไม่ตรงกัน”
“จริงรึเปล่า?” หลีชิงเยียนเชอะเสียงเย็นชาและมองไปที่เฉินเป่ย
“ถูกต้อง เรากำลังวิเคราะห์เรื่องระหว่างผู้ชายด้วยกันลงไม้ลงมือกันเป็นเรื่องปกติมาก” เฉินเป่ยพยักหน้า มุมปากยกขึ้นมาอย่างลับลมคมใน
หลีเช่าหงและเฉินเป่ยไม่อยากให้หลีชิงเยียนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างใจตรงกัน แต่ว่าหลีชิงเยียนเฉลียวฉลาดทำไมจะดูไม่ออกว่าเมื่อสักครู่ระหว่างทั้งคู่เกิดอะไรขึ้น
” คุณหลี ฉันรบกวนคุณหล่ะวันหลังพยายามไม่ต้องนัดเขาออกมาเพียงลำพัง” สีหน้าหลีชิงเยียนดูไม่ดี หากไม่ใช่บัตรเชิญที่เฉินเป่ยทำหล่นหายใบนั้น เธอไม่รู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในแชงกรีล่าด้วยซ้ำ
ในขณะเดียวกันเธอคิดถึงเฉินเป่ยปุ๊บ ไอ้บ้าคนนี้ ถึงขั้นแอบหนีออกมา ลับหลังเธอ!
หลีชิงเยียนตั้งใจแน้นคำว่าเพียงลำพังคำนี้ออกมาอย่างชัดเจน ทำให้สีหน้าหลีเช่าหงหยุดนิ่ง ถัดมาก็พยักหน้า และยิ้มแย้มพูดว่า “ได้แน่นอนอยู่แล้ว”
หลีชิงเยียนสบตาให้กับเฉินเป่ยที่อยู่ข้างหลัง พูดเสียงต่ำว่า “ยังไม่ไสหัวไปอีก!”
“ได้เลย” เฉินเป่ยไม่กล้าขัดขืนหลีชิงเยียน ตามหลังหลีชิงเยียนอย่างเชื่อฟัง และจากไป
หน้าประตูห้องรับรอง หลีเช่าหงจ้องร่างเงาของหลีชิงเยียนและเฉินเป่ยไว้ ค่อยๆหายไปจากสุดทางระเบียงเดิน นัยน์ตาที่นิ่งสงบค่อยๆถูกความฆ่าฟันเข้ามาทดแทน
ไอรีนและหัวหน้าทีมเข้าไปข้างหน้าโทษตัวเองว่า “เป็นหน้าที่เรา ที่ไม่ได้จับเธอเอาไว้ในทันทีทันใด”
“ไม่โทษพวกเจ้า” หลีเช่าหงเอ่ยปากออกมานิ่งๆ และหรี่ตาทั้งคู่ตามที่ฉันเข้าใจต่อเอ๋อตงเฉิน ฉันเองที่คิดไม่ถึงว่าเธอจะมา ฉันน่าจะจัดคน ขวางเธอไว้ที่หน้าประตู
หลีเช่าหงถอนหายใจ”ฉันคิดไม่ถึง คนที่นามสกุลเฉินคนนั้นจะอ่อนแอและไร้ประโยชน์ขนาดนี้ ถึงขั้นให้ผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาปกป้องเขา!”
“รองหัวหน้าการกระทรวง ดิฉันมีคำพูดหนึ่ง ไม่ทราบว่าควรพูดหรือไม่……..” หัวหน้าทีมลังเลอยู่ตั้งนาน เอ่ยปากออกมา
“พูดเถอะไม่เป็นไร”หลีเช่าหงหันหลัง นัยน์ตาที่เข้มขรึมจ้องมองหัวหน้าทีมไว้ เหมือนกับว่ามองครั้งเดียวก็สามารถมองใจเธอออกอย่างทะลุปรุโปร่ง
” ดิฉันเห็นว่า……….คุ้นตามาก………”หัวหน้าทีมกัดฟัน พูดออกมา
“คุ้นตา? !” สีหน้าหลีเช่าหงหยุดนิ่ง ก้าวขาออกไป ความเข้มขรึมกระจายไปทั่วร่างกายอย่างกะทันหัน!
“เหมือนเพื่อนเก่าคนหนึ่งในอดีต……….คนหัวเซี่ยในตำนาน!” หัวหน้าทีมพูดถึง
“เจ้าแน่ใจรึเปล่า?” หลีเช่าหงถามด้วยสีหน้าที่เข้มงวดกวดขัน
“ความรู้สึกที่ให้กับดิฉัน อย่างน้อยคือใช่”
มือทั้งคู่หลีเช่าหงแบกเอาไว้ข้างหลัง ถูกลับลมคมในห่อหุ้มไว้ นัยน์ตาเคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดนิ่ง ทำให้คนยากที่จะเดาความคิดของเขาออก
“ให้โอกาสดิฉันแค่ครั้งเดียว ดิฉันก็สามารถทดสอบความเท็จจริงของเขาแล้ว!”
“อนุมัติ!”
…………
รถยนต์ไมบัคแล่นอยู่บนถนน เฉินเป่ยขับรถอย่างระมัดระวัง สังเกตสีหน้าท่านประธานหญิงในดวงใจผ่านกระจกหลังเป็นบางครั้งบางคราว
หลังกลับไปในรถยนต์ ประธานหญิงในดวงใจก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดสักคำเลย หน้าสวยๆเย็นชาเหลือเกิน เหมือนกับใครติดหนี้สินเธอสักร้อยล้านและไม่ชดใช้ ดูไม่ดีเอามากๆ
ผ่านไปตั้งนาน ขณะที่เฉินเป่ยกำลังจะผ่อนคลายลง จู่ๆ ข้างหลังก็มีเสียงที่เย็นชาดังเข้ามาในหูของเฉินเป่ย ทำให้เขากระตุกไปทั้งตัว
“ไปพบเขาเพียงลำพัง แกคิดว่าแกเป็นใคร?”
เสียงนี้ปรากฏออกมาอย่างกะทันหัน เกือบทำให้เฉินเป่ยตกใจจนวิญญาณหนีกระเจิง
เฉินเป่ยไอแห้งๆอย่างเขินๆ และพูดว่า “ชิงเยียน ผมก็แค่เป็นห่วงคุณไปที่งานเลี้ยง แล้วจะมีอันตราย?”
หลีชิงเยียนที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างหลัง ถูกคำพูดเฉินเป่ยคำนี้ทำให้โมโห หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “แช่งกูว่าเป็นเฮงซวย? ไม่ดูเลยว่าเมื่อกี้โง่เง่าอย่างกับอะไรดี ผู้ชายทั้งแท่ง ถึงขั้นหลบอยู่หลังผู้หญิง ไม่มีการแสดงออกใดๆแม้แต่นิดเดียว!”
เฉินเป่ยควบคุมพวงมาลัยไว้ ได้ยินคำคำนี้ กล้ำกลืนทันที พูดในใจเงียบๆ ก็เป็นคุณไงที่บุกเข้ามาอย่างบ้าอำนาจ…….ถ้าหากหลีชิงเยียนไม่ปรากฏตัวออกมาใน วินาทีนี้ เป็นไปได้สูงมากหลีเช่าหงอาจจะกลั้นฉี่……….
“เก่งมากเลยน่ะ แกคิดว่าแกเป็นใคร แกสามารถเป็นตัวแทนบ้านตระกูลหลีไปเจรจาต่อรองกับเขาหรือ?” หลีชิงเยียนด่าด้วยเสียงที่เย็นชา เหมือนกับพระราชินีที่สูงศักดิ์ ต่อว่าเฉินเป่ยอย่างไม่หยุดไม่หย่อน
เฉินเป่ยขับรถไปด้วย และยอมรับคำสั่งสอนด้วยความเต็มใจ ในใจกล้ำกลืนสุดๆ
ประธานหญิงในดวงมาแบบไม่ช้าไม่เร็วแบบนี้ มาช่วยเฉินเป่ยในเวลานั้นจนได้………ยายเด็กบ้าคนนี้เข้ามาช่วยหลีเช่าหงรึไง!
“หากว่าไม่ใช่ฉัน แกตายห่าอยู่ที่นั่นแล้วก็ไม่แน่!” หลีชิงเยียนพูดถึง
จู่ๆ “ความจริงคุณไม่น่ามาเลย หน้าประตูโรงแรมเมื่อสักครู่ หลายสิบคนซุ่มจู่โจมอยู่”
หลีชิงเยียนอึ้ง เฉินเป่ยพูดต่อไปว่า “กลุ่มหนึ่งอยู่ในพุ่มไม้ อีกกลุ่มหนึ่งอยู่ในหน้าประตูรถยนต์ และยังมีอีกหลายกลุ่มอยู่ที่จุดมุมบอดหลายแห่งในโรงแรม”
สีหน้าเฉินเป่ยนิ่งเฉย ตอนที่เขาออกจากโรงแรม ก็ดูแผนการทั้งหมดออกแล้ว
หลีชิงเยียนขมวดคิ้ว ถ้าหากเป็นอย่างที่เฉินเป่ยพูดจริงๆ ถ้างั้นเมื่อสักครู่พวกเขาก็เดินสวนทางกับยมบาลชัดๆ “ตามที่คุณพูด เราหนีออกมาจากความตายสินะ? ”
” ไม่ ” เฉินเป่ยส่ายหน้า “เขาไม่กล้าลงมือ ได้แค่ปล่อยเราไปแบบต่อหน้าต่อตา”
“เพราะอะไร?” หลีชิงเยียนอึ้ง
“ผีรู้ดี สนใจทำไมเยอะแยะ ไหนๆก็มีผมอยู่ ก็จะไม่มีเรื่องอยู่แล้ว” รถยนต์ไมบัคขับเข้าไปในบ้านหรู และจอดอยู่ที่หน้าประตู
หลีชิงเยียนเชอะเสียงเย็นชา ขี้เกียจสนใจเฉินเป่ย และทิ้งไว้หนึ่งคำ เดินออกมาจากรถยนต์ “ถ้าแกได้เรื่องจริงๆ เมื่อครู่ก็อย่าหลบที่หลังฉันสิ”
“แมร่งสัตว์!” เฉินเป่ยนั่งอยู่ข้างฝั่งคนขับ มองดูหลีชิงเยียนเหยียบรองเท้าส้นสูงแบบแรงๆ ระบายความโกรธที่หลงเหลืออยู่ในใจออกมา ถูกพูดจนอ้าปากตาค้าง
อะไรนะหลบอยู่ข้างหลังหลีชิงเยียน เฉินเป่ยคิดไม่ถึงหลีชิงเยียนยังคงคิดเรื่องนี้แบบวกวนไปมา! ตัวเองถูกเข้าใจผิดจนแย่สุดๆ!
ทั้งๆราชาหลง หากมีวันใดวันหนึ่งในอนาคต จำเป็นต้องหลบอยู่ข้างหลังผู้หญิงเพื่อให้มีชีวิตรอด ข่าวแบบนี้หากว่าแพร่หลายออกไป ต้องทำให้ต่างประเทศช๊อคมาก อย่างแน่นอน