สายเปย์เบอร์หนึ่ง – ตอนที่ 178

ตอนที่ 178

แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน

บทที่ 178 วิธีแก้แค้นท่านประธานเทพธิดาที่ไม่เหมือนใคร

เฉินเป่ยจับจ้องหลีชิงเยียนไว้ ตาคู่นั้นเคล้าด้วยความบ้าเลือด ดูโหดเหี้ยมน่ากลัว!

เฉินเป่ยอุ้มขวดจิ้งหรีดไว้ ภายในใจเจ็บจนเหมือนมีเลือดหยดลงมา……ตอนที่เขาไปรับซูเสี่ยวหยุนมาประชุมที่บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป……สุดท้ายจิ้งหรีดที่เขาคอยดูแลอย่างระมัดระวัง ไม่ใช่ถูกเหยียบตา ก็หนีออกจากขวดจิ้งหรีดเพราะขวดถูกทำให้พลิกคว่ำ……

เฉินเป่ยจับจ้องหลีชิงเยียนไว้ แล้วหายใจอย่างรีบเร่ง ส่วนหลีชิงเยียนก็นั่งอยู่ตรงที่ไกลๆ ถึงแม้สีหน้าไม่เปลี่ยนไป ทว่าภายในใจยังคงรู้สึกกระวนกระวาย

ตอนที่เธอมองท่าทางนี้ของเฉินเป่ย เพิ่งจะรู้ว่าตนเองเหมือนจะทำให้เขาโมโหเข้าแล้วจริงๆ ในความทรงจำ นิสัยของเขาดีมาก ไม่ว่าตนจะทำไม่ดีกับเขามากแค่ไหน ก็ไม่เคยทำให้เขาโกรธ และยอมรับความลำบากโดยไม่ขัดขืน

หลินเฉว่ที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าสวยนิ่งงันไป เธอมองเฉินเป่ยอย่างเหม่อลอย ในความทรงจำของเธอ เหมือนจะเป็นครั้งแรกที่เฉินเป่ยโมโหขนาดนี้

นัยน์ตาคู่สวยของหลีชิงเยียนสบตากับเฉินเป่ย แล้วพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเฉย “ก็แค่จิ้งหรีดไม่กี่ตัว ทำไมต้องทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย? ”

เฉินเป่ยฟังหลีชิงเยียนพูดแบบนี้ จนทำให้เขาแทบจะกระอักเลือดออกมา! แม่งเอ้ย! เป็นจิ้งหรีดที่เขาเสียเวลาไปคัดเลือกมาทั้งบ่าย จิ้งหรีดทุกตัวมีค่าหลักพัน! ถ้ารวมพวกนี้ทั้งหมด ก็สามารถเทียบเท่ากับค่าครองชีพหลายๆ เดือนที่หลีชิงเยียนให้เขา!

จิ้งหรีดพวกนี้ เขาเห็นเป็นหัวแก้วหัวแหวน เพื่อที่จะหวังว่าจะได้พึ่งพาพวกมันไปแข่งขันการฆ่าสังหารณ์ทั่วทุกสี่ทิศ…….สุดท้ายยังเลี้ยงไม่นาน หลีชิงเยียนกลับทำลายมันหมด!

“คุณรู้ไหมว่าพวกนี้เป็นน้ำพักน้ำแรงของผม……คุณทำลายน้ำพักน้ำแรงทั้งหมดของผม! ” เฉินเป่ยกัดฟันพูด แต่ละคำออกจากร่องฟัน ทำให้หลีชิงเยียนใจไม่ดีมากขึ้น

หลีชิงเยียนเม้มริมฝีปากอันแดงก่ำขึ้น แล้วรู้สึกใจไม่ดีจนทนไม่ไหว “ก็แค่เงินไม่กี่บาท……เงินเท่าไหร่ ฉันจะจ่ายให้นาย…….”

“นี่ไม่ใช่ปัญหาของเงิน! ” เฉินเป่ยกัดฟัน สีหน้าเคล้าด้วยความหดหู่ “นี่เป็นน้ำพักน้ำแรง น้ำพักน้ำแรงไม่เข้าใจหรือไง! ”

“ก็แค่แมลงไม่กี่ตัว กฎระเบียบของบริษัทคือห้ามเลี้ยงพวกนี้ ฉันไม่ให้นายรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำผิดไปก็ดีแค่ไหนแล้ว” หลีชิงเยียนพูดขึ้น

“ผม……” เฉินเป่ยพูดไม่ออก เขาจับจ้องหลีชิงเยียนอย่างโหดเหี้ยม ถึงแม้หลีชิงเยียนจะรู้สึกใจไม่ดี ทว่าดวงตาคู่สวยกลับมองเฉินเป่ยไว้ ตามหลักเหตุผลแล้ว เธอก็ไม่ได้ทำอะไรผิด

ผ่านไปสักพัก เฉินเป่ยกัดฟัน แล้วทิ้งท้ายด้วยประโยคหนึ่ง “คุณมีโหดร้าย! ”

จากนั้น เฉินเป่ยอุ้มขวดจิ้งหรีด แล้วหันหลังเดินจากไป แล้วพุ่งออกจากออฟฟิศด้วยสีหน้าเคล้าด้วยความหมองเศร้า

“วางใจเถอะ เขาจะเป็นอะไรไปได้” ถึงแม้หลีชิงเยียนจะทำสีหน้าที่นิ่งเฉย ทว่าตอนที่หลินเฉว่จากไป ภายในใจของเธอ ก็ยังรู้สึกผิดตั้งแต่แรกจนจบ

เธอครุ่นคิด จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปในออฟฟิศของเฉินเป่ย

และหลังจากหลีชิงเยียนเดินเข้าไปในออฟฟิศของเฉินเป่ย จู่ๆ ก็ทำสีหน้าที่ดูซึมเซา จากนั้นก็เงียบไปแนบชิดกับประตู

เธอกลับได้ยินเสียงที่ยากที่จะอธิบายส่งมาจากออฟฟิศของเฉินเป่ย! นั่นก็เสียงที่ดังขึ้นระหว่างผู้ชายและผู้หญิง ทำให้เธอรู้สึกสงสัยหูของตนเอง และไม่กล้าเชื่อ!

ช่างเป็นอะไรที่สะเทือนหู ท่านประธานเทพธิดาจึงใช้ฟันกัดริมฝีปากแดงของตนเอง ความรู้สึกละอายใจและรู้สึกผิดภายในใจก็หายไปทันที ไฟแห่งความโมโหลุกโชนขึ้น!

เธอไม่สามารถยอมรับได้ ไอ้หมอนี่กลับดูอะไรแบบนี้ในออฟฟิศ ถือว่าเป็นการข่มขู่เธออย่างมาก!

หลีชิงเยียนกัดฟันแน่น เสียงอันมีเสน่ห์ที่สามารถทำให้คนจินตนาการอะไรแบบนี้ดังเข้าในหูของเธอไม่หยุด ทำให้เธออดทนไม่ไหวจริงๆ!

และตอนที่เธอกำลังจะพุ่งเข้าไปในออฟฟิศ เสียงๆ นั้นในออฟฟิศ ก็หยุดลงทันที

ใบหน้าอันขาวผ่องของหลีชิงเยียนเขียนคำว่าเลือดเย็นเหมือนน้ำแข็งไว้ เธอพุ่งไปตรงหน้าเฉินเป่ยด้วยความโมโห จากนั้นก็ตบโต๊ะแรงๆ น้ำเสียงอันน่าฟังเคล้าด้วยความเลือดเย็น “นายกำลังทำอะไร! ”

เฉินเป่ยที่นั่งอยู่ตรงหน้าคอมแล้วกำลังตั้งใจและจดจ่ออยู่กับจอคม เขาดึงหูฟังออก สีหน้าเคล้าด้วยความไม่เข้าใจ “ท่านประธาน คุณตามหาผมมีธุระหรอ? ”

หลีชิงเยียนบดฟัน “เมื่อกี้นายทำอะไร?! ”

“ผมอยู่ในออฟฟิศ……แล้วจะทำอะไรได้? ” เฉินเป่ยไอแห้งๆ ใบหน้าดูแดงระเรื่อขึ้นมา

หลีชิงเยียนมองใบหน้าที่ดูแดงของเฉินเป่ย ภายในใจจึงยิ่งมั่นใจ เสียงเมื่อกี้เป็นฝีมือของเฉินเป่ย

หลีชิงเยียนแสยะยิ้ม “คุณทำอะไร ในใจของตัวเองไม่รู้ตัวหรือไง?! ”

เฉินเป่ยทำสีหน้าที่น้อยใจ “ท่านประธานหลี ผมกำลังเล่นเกมอยู่ จิ้งหรีดก็ไม่ให้ผมเลี้ยง เกมก็จะไม่ให้ผมเล่นอีกหรือไง? หรือว่าผมต้องอยู่ในออฟฟิศของคุณตลอดเวลา? ”

หลีชิงเยียนทำหน้าเกร็ง สีหน้าเย็นยะเยือก “เล่นเกม? คุณเล่นเกมที่ไหนล่ะ? จริงๆ เมื่อกี้ฉันได้ยิน…….”

หลีชิงเยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อยๆ เบาลง การถูกสั่งสอนมาของท่านประธานเทพธิดา จะพูดคำพูดแบบนั้นออกได้ยังไง!

เฉินเป่ยเลิกคิ้ว “ได้ยินอะไร? ”

หลีชิงเยียนใช้สายตาคู่สวยที่เคล้าด้วยความโกรธมองเฉินเป่ย แล้วถามด้วยเสียงเย็นชา “นายแกล้งฉัน? เมื่อกี้นายทำอะไร ในใจของตนเองไม่รู้หรือไง? ”

“ท่านประธานหลี นี่คุณพูดเรื่องที่ไม่มีให้กลายเป็นมี ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น เมื่อครู่ผมเล่นเกมตลอด ไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วคุณยังจะให้ผมยอมรับอะไร แล้วผมจะยอมรับได้ยังไง? ” เฉินเป่ยพูดด้วยเสียงเรียบ

“นาย! ” หลีชิงเยียนใช้ฟันอันขาวโพลนกัดริมฝีปากแดงจนจะเป็นแผล เธอถูกเฉินเป่ยทำให้โกรธจนลำตัวผอมบางสั่นเทา ถ้าสายตาสามารถฆ่าคนได้ เกรงว่าเฉินเป่ยคงถูกสายตาที่เย็นชาเหมือนน้ำแข็งของหลีชิงเยียนทำให้เต็มไปด้วยรูแน่นอน!

จู่ๆ เฉินเป่ยก็ยื่นมือ แล้วขยับหน้าจอคอม เพื่อให้หันไปตรงหน้าหลีชิงเยียน แล้วพูดขึ้น “ท่านประธานหลี ผมนอกจากเล่นเกมแล้วจะสามารถทำอะไรอีก? ”

หลีชิงเยียนมองไปที่จอคอม ทันใดนั้นก็นิ่งงันไป เฉินเป่ยพูดไม่ผิด เขาเล่นเกมอยู่จริงๆ ทำให้หลีชิงเยียนพูดอะไรไม่ออก

นี่มันกำลังตบหน้าเธอเต็มๆ ชัดๆ! ฝ่ามือนี้ของเฉินเป่ย ทำให้หลีชิงเยียนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว!

นัยน์ตาแววใสของหลีชิงเยียนดูแข็งกระด้าง และใบหน้าที่สะสวยร้อนเป็นไฟ แก้มเริ่มร้อน!

เมื่อกี้เธอได้ยินเสียงพวกนั้นจริงๆ ……แต่ตอนนี้ กลับไม่มีอะไรเลย!

หลีชิงเยียนหันหน้าไป แล้วมองสีหน้าที่เคล้าด้วยความน้อยใจของเฉินเป่ย เธอจึงแอบบดฟันไม่หยุด แล้วแทบอยากจะฆ่าไอ้สารเลวให้ตายจวนใจจะขาด!

นางที่ละมุนละม่อมไปทั่วทุกด้าน สามารถเดาออก นี่เฉินเป่ยตั้งใจ!

หลีชิงเยียนทำเสียงเย็นชาในลำคอ แล้วไม่ไปสนใจเฉินเป่ยอีก จากนั้นก็เหยียบส้นสูงคู่สวย เดินไปตรงประตูออฟฟิศ

หลีชิงเยียนหยุดชะงักฝีเท้าลง และเดินเซเล็กน้อย เส้นเอ็นสีเขียวตรงหน้าผากอันขาวผ่องกระตุกขึ้นมา

นี่เธอถึงจะเข้าใจ นี่เป็นกับดักของไอ้หมอนี่ เป็นการแก้แค้นของเขา!

…….

ตอนเย็น แสงอาทิตย์ค่อยๆ ลับไปตามเส้นตรง แล้วค่อยๆ ถูกตึกอาคารสูงชันบดบัง ทำให้แสงสีทองที่เหลืออยู่ ค่อยๆ จางหายไป

หยางเหวินห้าวมองหุ้นในจอคอม แล้วถอนหายใจ

เขาไม่คาดหวังว่าบริษัทนี้จะสามารถสร้างรายได้ให้ตนเอง และเลือดที่จะเอาความหวังไปไว้ที่หุ้น

เขาได้ตัดสินใจแล้ว คืนนี้ รอให้ชิงเหนียนคนนั้นมา ตัวเองจะบอกเรื่องลาออกกับเขา!

แต่ก่อนยังไงเขาก็ยังผู้บริหารของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป เขาเองก็นึกไม่ถึง มีวันหนึ่งจะถูกล่อให้มาอยู่ที่นี่ได้

“ปึง! ”

ข้างนอกบริษัทของเสียงดังสนั่นขึ้น หยางเหวินห้าวจึงลุกขึ้นอย่างรีรอไม่ไหว จากนั้นก็กระจกที่อยู่นอกออฟฟิศ แล้วเห็นโรลส์-รอยซ์ แฟนธอมจอดอยู่ตรงใต้ตึกบริษัท

“เหอะ! ” หยางเหวินห้าวทำเสียงเย็นชาในลำคอ แล้วเดินออกจากบริษัทด้วยสีหน้าที่ดูแย่ พอเห็นชิงเหนียน ก็ทำสีหน้าที่นิ่งเฉย “ยังจะไปจริงๆ อีก? ”

ชิงเหนียนพยักหน้าแล้วยิ้มพูดขึ้น “โอกาสหาเงิน ทำไมถึงไม่ไปล่ะ? ”

หยางเหวินห้าวทำสีหน้าที่ยิ่งหม่นหมอง…….งานเลี้ยงการกุศล เขากลับพาตัวเองไปขาย……แล้วใครจะจ่ายค่าภาษีไอคิว!

“ไปเถอะ ไปแล้วคุณจะรู้เอง” ชิงเหนียนเหมือนจะมองออกว่าหยางเหวินห้าวไม่เต็มใจ จึงพูดขึ้น

ในที่สุดหยางเหวินห้าวนั่งเข้าไปในรถโรลส์-รอยซ์ แฟนธอม จากนั้นก็ขับเคลื่อนไปที่โรงแรมไกลๆ

ในโรงแรมแห่งนี้ ตอนนี้กำลังจัดงานเลี้ยงการกุศลขนาดใหญ่ มีผู้มีชื่อเสียง อำนาจ และเป็นผู้ที่มาจากตระกูลชั้นสูงมาร่วมงาน ในห้องโถงอันกว้างขวาง มีโต๊ะกลมเป็นโต๊ะๆ วางเรียงกันอย่างเรียบร้อย และมีอาหารที่ทำอย่างประณีตเป็นเมนูๆ ทำให้คนเห็นแล้วน้ำลายไหล

ถึงแม้อาหารชั้นดีจะดูหน้าตาน่ารับประทาน ทว่าคนที่อยู่ในงานก็คงไม่มีใครไปลิ้มรสจริง เพราะว่าพวกเขารู้ การสานความสัมพันธ์กับผู้อื่น มันสำคัญกว่าการได้อาหารพวกนี้ตั้งเยอะ

งานเลี้ยงการกุศลงานไม่เริ่ม มีวงดนตรีที่ดูหรูหรากำลังโชว์อยู่บนเวที ด้านล่างเวที กำลังระบำรำฟ้อนกัน มีบางคนก็พูดคุยกัน บางคนก็เต้นรำอันสง่างามไปตามเสียงเพลงที่บรรเลง

และในเวลานี้ ชิงเหนียนพาหยางเหวินห้าวเดินเข้าไปในท่ามกลางผู้คน หยางเหวินห้าวมองเห็นบุคคลมีชื่อเสียงและมีอำนาจมากมาย จนเขาจับจ้องไว้ตลอด

ที่นี่ เป็นสังคมของคนชั้นสูงจริงๆ มีบุคคลใหญ่คนโตที่มักจะได้ยินในข่าวในทีวีและยากที่จะพบเห็นตัวจริง วันนี้ก็ได้มาปรากฏอยู่ในงานเลี้ยงการกุศลด้วย

เพราะว่าผู้ที่จัดงานเลี้ยงการกุศลนี้ มีที่มาอันใหญ่โต

คนที่อยู่ในงาน น้อยมากที่จะรู้ชื่อของเขา ทว่าอำนาจที่เขามี กลับน่ากลัวอย่างไร้เทียมทาน

“ที่นี่……เป็นคนใหญ่คนโตทั้งหมด! ” หยางเหวินห้าวหายใจแรงขึ้น นัยน์ตาแดงระเรื่อ!

“ก็แค่พวกคนที่ทำเป็นเก่งไม่ใช่หรือไง พวกเขาถือว่าเป็นตัวอะไร” ชิงเหนียนพูดด้วยเสียงเรียบ น้ำเสียงเคล้าด้วยความเย่อหยิ่ง คนพวกนี้ ไม่อยู่ในสายตาของชิงเหนียนเลย!

“คุณเก่งขนาดนี้ งั้นก็ไปคุยกับพวกเขา จะดูว่าพวกเขารู้สึกคุณไหม” หยางเหวินห้าวมองหน้าชิงเหนียนไม่ติดเลย เลยแสยะยิ้มพูดขึ้นอย่างเย็นชา

หยางเหวินห้าวเพิ่งจะพูดจบ จู่ๆ ก็มีเสียงอันน่าตกตะลึงส่งมาจากข้างๆ “คุณจาง ใช่คุณจริงๆ หรอ? ”

ชิงเหนียนหยุดชะงักฝีเท้าลง แค่เห็นชายวัยกลางคนที่ใส่ชุดสูทอันสง่า และในมือจับแชมเปญไว้ แล้วสาวเท้ามาตรงหน้าชิงเหนียนอย่างเร็วไวด้วยสีหน้าที่เคล้าด้วยความเซอร์ไพรส์ จากนั้นก็กวาดสายตามองชิงเหนียน ทำตื่นเต้นจนลำตัวสั่นเทาเล็กน้อย

“คุณคือ……” ชิงเหนียนพยักหน้า แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย เหมือนจำชื่อของชายวัยกลางคนนี้ไม่ได้

“คุณจางเป็นผู้ที่สูงศักดิ์และขี้ลืมจริงๆ ผมคือหยางกั้วที่อยู่แผนกรักษาสันติภาพเยี่ยนจิง สามปีก่อน ตอนอยู่ต่างประเทศก็เคยเจอหน้าคุณจางหนึ่งครั้ง……นึกไม่ถึงว่าคุณจางจะมาพัฒนาที่หัวเซี่ย”

ชายวัยกลางคนพูดขึ้น น้ำเสียงทำให้หยางเหวินห้าวทำสีหน้าที่ตกตะลึง!! ยากที่จะเชื่อ

สายเปย์เบอร์หนึ่ง

สายเปย์เบอร์หนึ่ง

Status: Ongoing

เขาเป็นคนที่ทำให้คนอื่นกลัวและเคารพ แต่กลับกลายเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง ต่ำต้อยเหมือนฝุ่น ไม่เอาไหนเหมือนขยะ ราวกับว่าใครๆก็สามารถเหยียบย่ำเขาไว้ใต้เท้าแต่ ในใจเขามีความทะเยอทะยาน…….จะมีสักวันหนึ่ง เขาจะจับมือเธอ มอบโลกทั้งใบให้เธอ!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท