บทที่ 227 เครียดจนกระอักเลือด!
ก้นบุหรี่ที่ดูไม่น่าดึงดูดหนึ่งมวนนี้ ทำให้สีหน้าของเขาดูหนักหนาจริงจัง!
ก้นบุหรี่ปกติ ทว่าสามารถทำให้ก้นบุหรี่มวนนี้ที่เบาไม่มีน้ำหนักนี้ สามารถยิงมาที่เขาได้อย่างแม่นยำ เจ้าของก้นบุหรี่นี้ ต้องควบคุมแรงได้เป็นอย่างดี สามารถโยนอย่างแม่นยำจนทำให้คนคาดคิดไม่ถึง!
นี่ไม่เพียงแต่มีความแข็งแกร่งในการควบคุมแรงแล้ว…..สำหรับการใช้แรง ก็ต้องถึงขั้นที่ ลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ถูก!
ส่วนท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวัง ถึงแม้จะมีแรงที่แข็งแกร่ง กลับยากที่จะบรรลุถึงขั้นนี้ได้ เขาติดอยู่ในขวดมานานหลายทศวรรษแล้ว
ท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังทำสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย นัยน์ตาตกตะลึงเล็กน้อย…..เขานึกไม่ถึง หู้ไห่ที่เล็กๆ นี้ จะมียอดฝีมือที่มีความสามารถขนาดนี้!
ท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังมองไปในฝุ่นควันตรงที่ไกลๆ แล้วนัยน์ตาก็ตะลึงไป จากนั้นก็เปล่งประกายความหนักแน่นจริงจัง
เขานึกไม่ถึง บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป กลับมีเสือและมังกรอาศัยอยู่ และเป็นยอดฝีเท้าที่ไม่ธรรมดา
“แต่กๆๆ ……”
เสียงรองเท้าหนังเหยียบลงบนพื้นกระเบื้องดังสะท้อนขึ้น และท่ามกลางฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจายนั้น มีเรือนร่างร่างหนึ่งที่เหมือนจะหายไปและเหมือนจะปรากฏขึ้น แล้วปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า
ท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังทำสีหน้าที่ลุ่มลึก แล้วส่วนลึกของนัยน์ตาเคล้าด้วยความระมัดระวัง
หลังจากที่เรือนร่างนั้นเดินออกมา ท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังทำสีหน้าที่ตกตะลึง แล้วขมวดคิ้วขึ้นทันที!
“เอ๋อตงเฉิน” ท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังพูดคำคำนี้ออก นัยน์ตาเคล้าด้วยความดูหมิ่นและเย็นชา
เฉินเป่ยอมบุหรี่หนึ่งมวนไว้ในปาก ทั้งตัวเลอะเทอะมาก บนเรือนร่างมีเสื้อกั๊กตัวเก่าที่เป็นรูๆ แล้วยังส่งกลิ่นระเบิดอ่อนๆ เหมือนเป็นนักรบที่คลานออกมาจากสงคราม
เฉินเป่ยเดินไปตรงหน้าท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวัง แล้วหยุดลง จากนั้นก็เหลือบตาท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังเพียงพริบตา แล้วพูดขึ้น “มาบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปทำอะไร? จะมาทำลายสถานที่หรอ? ”
ท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังพูดด้วยเสียงเย็นชา “ฉันมาหาแกกับหลีชิงเยียน……” ท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังหยุดชะงักไป แล้วเอาก้นบุหรี่ขึ้นพลางถาม “นี่แกโยนก้นบุหรี่มาหรอ? ”
เฉินเป่ยกวาดสายตามองไป แล้วพยักหน้า “กูโยนไง อยากจะทำอะไร? ”
ท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังทำหน้าจับตัวเป็นก้อน แล้วรู้สึกผิดหวังมาก จึงพูดอย่างเรียบเฉย น้ำเสียงเคล้าด้วยความเย็นชา “ไหนๆ ก็เป็นแบบนี้แล้ว งั้นแกก็คุกเข่าลงเถอะ”
เพิ่งจะพูดจบ ท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังก็สาวเท้ามาข้างหน้าหนึ่งข้าง ทันใดนั้นก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าเฉินเป่ย!
ท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังเดินอย่างว่องไวเกินไป กลับทิ้งไว้แต่เพียงเหงาติดตา!
ท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังเหมือนดั่งฟ้ารูปทรงมนุษย์ สีหน้าของเขาเย็นชา และความเฉียบคม!
เฉินเป่ย เขาต้องรับผิดชอบในความท้าทายที่หยามหน้าตระกูลหวังที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้!
ตรงที่ไกลๆ มีพนักงานบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปมากมายกำลังจับจ้องมาทางนี้ ท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังมีความสามารถอันแข็งแกร่ง สามารถพูดได้ว่าเขาไม่มีศัตรู เฉินเป่ยไม่ใช่คู่แข่งของเขา!
เฉินเป่ยอยู่ตรงหน้าท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวัง แทบจะเจอจุดจบอันโหดเหี้ยม!
ส่วนเฉินเป่ยมองท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวัง นัยน์ตาเปล่งประกายด้วยเลือดคาวสดและความโหดเหี้ยมมากกว่าเดิม!
ท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังตบฝ่ามือเดียวไปทางเฉินเป่ย ทำให้เกิดท่านลมมรสุม และทำให้เกิดเสียงฝ่าอากาศ และเป็นพลังที่เคล้าด้วยความอาฆาต!
ฝ่ามือนี้เคล้าด้วยน่ากลัวอย่างมาก แล้วยังเป็นพลังที่ทำให้คนตกใจ คนธรรมดาถ้าถูกฝ่ามือนี้โจมตี ไม่ตายก็กลายเป็นพิการ!
พนักงานบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปนับไม่ถ้วนกำลังจับจ้องภาพๆ นี้ พวกเขาเริ่มกังวลแทนเฉินเป่ย ความยิ่งใหญ่ของผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังเป็นสิ่งที่ไม่สามารถต้านทานได้แน่นอน!
เฉินเป่ยทำให้คนรู้สึกเกลียดแค่ไหนก็แล้วไป แต่ยังไงก็คือคนของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ส่วนผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังท่านนี้ เขามาเพื่อที่จะทำลายบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปจริง…..ถ้าเทียบกันแล้ว ไม่มีใครยอมมองผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังฆ่าสังหารคนที่นี่อย่างเปิดเผยหรอก!
“ปึ่ง! ”
เสียงอันกลัดกลุ้มดังขึ้น จากนั้นก็มีลมมรสุมที่ไร้รูปร่างพัดผ่านทันที ห้องโถงใหญ่แห่งตระกูลหลีกรุ๊ปมีฝุ่นควันน่าหนาแน่นกวาดผ่าน!
ท่ามกลางฝุ่นควัน ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังมองเฉินเป่ยด้วยความตกตะลึง เขาตบหน้าอกของเฉินเป่ยเพียงฝ่ามือเดียว กลับทำให้เฉินเป่ยยืนอยู่ที่เดิม และไม่ขยับไปไหน แล้วมองเขาด้วยความนิ่งเฉยอย่างมาก และนิ่งเฉยจนเกินไป!
ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังทำหน้าจับตัวเป็นก้อน…..ฝ่ามือนี้ของเขา เป็นกำลังที่เขาสะสมมานับสิบปี…..ทว่าเฉินเป่ยกลับไม่ได้รับบาดเจ็บ……เขาไม่ได้ทำให้เฉินเป่ยบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว!
เฉินเป่ยยังคงยืนอยู่ที่เดิมแบบนี้ แล้วมองไปยังผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวัง พร้อมกับเอ่ยถามด้วยความนิ่งเฉย “แกมีความสามารถแค่นี้หรอ? ”
ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังทำสีหน้าเย็นชา เฉินเป่ยกลับยังคงเย้ยหยัน……เขาไม่เห็นตระกูลหวังในสายตา!
ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังจู่ๆ ก็พึมพำอย่างเย็นชา แล้วหมัดๆ หนึ่งพุ่งเข้าหน้าเฉินเป่ย
และเพราะเป็นแบบนี้ เฉินเป่ยขยับ เรือนร่างของเฉินเป่ยจู่ๆ ก็หายไปจากที่เดิม และหมัดๆ หนึ่งของผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังกลับไม่โดนอะไร!
เรือนร่างของผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังเปลี่ยนไป ความเร็วของเฉินเป่ย กลับไม่มีมารยาทกับเขาเลย!
จู่ๆ ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังเหมือนถูกเข็มทิ่มหลัง เขาหันหลังกะทันหัน แค่เห็นเรือนร่างหนึ่ง ปรากฏอยู่ข้างหลังเขาอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง ขายาวข้างหนึ่งเหมือนแส้เหล็กที่ถูกเขวี้ยงออก แล้วถีบลงตรงท้องน้อยของผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวัง!
“ปึ่ง! ”
ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังทำม่านตาให้หดลงเท่าเข็ม แล้วเคล้าด้วยความตื่นตระหนก!
“ปึ่ง! ”
ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังถูกขาข้างนี้กระแทกจนต้องถอยไปด้านหลังไม่หยุด……หลังจากถอยไปสามสิบกว่าก้าว ก็สามารถยืนอย่างมั่นคง!
ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังมองไปยังเฉินเป่ยที่อยู่กลางฝุ่นควัน นัยน์ตาที่ดูหมิ่นถูกความหนักแน่นจริงจังแทนที่!
ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังนึกไม่ถึงว่าเฉินเป่ยจะมีความสามารถที่แกร่งขนาดนั้น…… การลองเชิงของเขา ไม่สามารถคาดเดาถึงความสามารถของเฉินเป่ยได้!
ความสามารถของเฉินเป่ยลึกลับจนไม่สามารถคาดเดา…..แค่ดูจากกำลังและความเร็ว อยู่เหนือผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวัง!
ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังมองเรือนร่างของเฉินเป่ย สีหน้าดูจริงจัง……ความแกร่งของเฉินเป่ย ทำให้เขากังวลมาก แม้กระทั่งยังรู้สึกตกใจจนเนื้อเต้น!
“ว่ากันว่าลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลหลี เป็นแค่สวะ……ดูๆ แล้ว เรื่องจริงกับคำร่ำลือกันไม่ตรงกัน”ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังค่อยๆ พูดขึ้น
เฉินเป่ยมองเขาอย่างนิ่งเฉย มุมปากกระตุกยิ้มอย่างเย้ยหยัน “ฉันเตือนแกแล้ว ตระกูลหวังยังไม่เลิก…..ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ งั้นก็คงไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว”
ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังมองเฉินเป่ยอย่างเย็นชา เขาที่เป็นผู้อาวุโสแห่งของตระกูลทอง และได้คงตำแหน่งสูงส่งมาหลายปี ทำให้เขาเกิดความรู้สึกที่อยู่เหนือกว่า…..และตอนนี้ ความรู้สึกเหนือกว่าแบบนี้ ทำให้เขามองเฉินเป่ย แล้วรู้สึกไม่พอใจมาก!
“งั้นก็จะให้ฉันบอกแก คำว่าตายเขียนยังไง! ” ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังพูดด้วยน้ำเสียงเข้มและเลือดเย็น สองขาเหยียดออกมา สองมือจับไว้แน่นๆ แล้วพุ่งไปยังเฉินเป่ย!
“สำหรับแก แม้แต่กำลังสามส่วนฉันยังไม่ได้ใช้” เฉินเป่ยพูดด้วยเสียงเรียบ แล้วก้าวเท้าออกไป หมัดคู่นั้นชกออกไปทันที!
เรือนร่างทั้งสองใกล้กันอย่างว่องไว ท่ามกลางฝุ่นควัน ความเร็วนั้นยิ่งอยู่ยิ่งไว กลางอากาศจึงมีเสียงฝ่าอากาศอันเลือดเย็นดังขึ้น!
“ปึ่ง! ”
หมัดสองหมัดจู่โจมกัน ทำให้คลื่นที่ไร้รูปร่างแผ่กระจายไปทั่วสี่รอบ! นอกฝุ่นควัน มีพนักงานบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปนับไม่ถ้วนได้ยินเสียงคำรามดังขึ้นหนึ่งเสียง ภายในใจสั่นไหวอย่างแรงทันที! เริ่มรู้สึกเป็นห่วงแทนเฉินเป่ย
“ท่านนั้นที่มาโวยวาย ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอะไร ภูมิหลังต้องแกร่ง……จากทักษะของเขาแล้ว เฉินเป่ยต้องพ่ายแน่นอน! ” พนักงานที่มีตาทิพย์เฉพาะตัวพูดด้วยความกังวลใจ
“ประธานเฉินแค่เป็นสามีของท่านประธานหลี และเป็นผู้ชายที่แต่งเข้าบ้านภรรยา…..จะมีทักษะการต่อสู้อะไร……สำหรับการต้องเผชิญกับคนที่จะมาทุบทำลายที่นี่…..คิดว่าโดนไปสามท่าก็คงจะต่อต้านไม่ไหวแล้ว! ”
มีพนักงานมากมายวิจารณ์กันขึ้นมา และต่างก็กังวลใจแทนเฉินเป่ย พวกเขาไม่มีใครเชื่อ เฉินเป่ยจะสามารถสู้กับผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังจนชนะได้!
และตอนนี้ ในท่ามกลางฝุ่นควัน กลับเกิดฉากที่โลกภายนอกยากที่จะคาดคิดถึง
เรือนร่างของเฉินเป่ยสั่นสะเทือน และผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวัง ทำสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที! เขามองเฉินเป่ยด้วยนัยน์ตาที่เคล้าด้วยความตกตะลึงและหวาดกลัว!
เฉินเป่ยมองไปยังผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวัง สีหน้าดูนิ่งเฉย……ส่วนผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวัง เรือนร่างสั่นเทาอย่างแรง สีหน้าดูสงสารและทรมาน!
“พู่ว! ”
แรงอันใหญ่ยิ่งอันน่ากลัว!!! “”
พลังแห่งความหวาดกลัวขนาดใหญ่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรงในร่างกายของผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวัง ทำให้อวัยวะภายในร่างกายของผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังสั่นสะเทือน และภายในได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส!
ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังมองเฉินเป่ยอย่างยากที่เชื่อ นัยน์ตาเปล่งประกายความตื่นตระหนกออกมาอย่างรุนแรง……หมัดๆ นี้ ทำให้อวัยวะภายในร่างกายของเขาถูกสั่นสะเทือนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส……และทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างคาดคิดไม่ถึง ทักษะของหมัดๆ นี้ กลับปรากฏเพราะถูกเฉินเป่ยใช้!
เขารู้ดีว่าทักษะหมัดนี้……เป็นคำสุภาษิตโบราณ “ตีโคถึกโดยทะลวงผ่านภูผาทุบ”……ทำให้อวัยวะภายในร่างกายได้รับบาดเจ็บโดยตรง ทว่าทักษะหมัดนี้ ก็ไม่ถูกสืบทอดมานานแล้ว!
ลูกเขยแต่งเข้าตระกูลหลีตรงหน้าคนนี้ กลับใช้ทักษะหมัดที่ไม่ได้ถูกสืบทอดมานาน!
ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังมองเฉินเป่ย เฉินเป่ยพูดด้วยเสียงเรียบ น้ำเสียงยังคงเคล้าด้วยพลัง “สำหรับแก แค่ต้องใช้แค่หมัดเดียว”
เฉินเป่ยยังคงเย่อหยิ่งและโอหังเหมือนแต่ก่อน ทว่าผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังกลับไม่มีนิสัยดื้อด้านอีกแม้แต่น้อย……ใบหน้าเหี่ยวย่นเคล้าด้วยความอับอาย……และแทบจะหารูมุดจนใจจะขาด…..เขาจะไปนึกถึงได้ยังไง ผู้ชายที่อายุน้อยกว่าเขาสิบกว่าปี แค่ใช้หมัดเดียว กลับทำให้ความสามารถที่เขาพัฒนามาชั่วครึ่งชีวิต พ่ายแพ้อย่างง่ายดายแบบนี้!
“ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวัง ถ้าทุกคนเป็นเหมือนแก เท่าที่ดูๆ แล้ว…..ตระกูลหวังก็คงจะจบ” เฉินเป่ยส่ายหัว แล้วถอนหายใจ “เสียดาย ตอนนั้นที่ตระกูลทองได้รับการสะทกสะท้านในหัวเซี่ย……กลับน่าเวทนาถึงวันนี้ เหลือแค่พวกแก ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว” เฉินเป่ยพูดด้วยเสียงเรียบ น้ำเสียงเคล้าด้วยการลื้อฟื้นถึงความทรงจำ
“ทักษะหมัดของแก ไปฝึกมาจากไหน? ” ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังทำหน้าเยี่ยวย่นให้แดงก่ำไปทั่วหน้า ทว่าเขายังคงกัดฟัน แล้วมองเฉินเป่ย
เฉินเป่ยกวาดสายตามองไปยังผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังเพียงชั่วพริบตา แล้วพูด “แกไม่สมควรได้รู้”
ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังกัดฟันกรอด เฉินเป่ยทำให้คนรู้สึกเครียดเกินไปแล้ว เขาแทบจะถูกทำให้เครียดจนเป็นบ้า!
ทันใดนั้น ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังก็รู้สึกหวานตรงลำคอ แล้วก็มีเลือดพุ่งออกมา!
เขากลับถูกทำให้เครียดจนกระอักเลือด