บทที่288 ร่องรอยของราชาหลง!
ดวงตาหลีชิงเยียนแข็งตัว เธอมองทางร่างกายของเธอที่แต่ไหนแต่ไรไม่ยอมให้คนอื่นแตะต้อง แต่ใครจะไปคิดว่าเฉินเป่ยเจ้าคนสารเลวที่ไร้ยางอายคนนี้จะมาโอบเอวของเธอไว้ ท่ามกลางผู้คนมากมายในโถงใหญ่แบบหน้าไม่อาย
แม้กระทั่งหลีชิงเยียนยังสามารถเติมแต่งภาพนั้นออกมาในสมองได้ ตนเองหน้าแดงเต็มไปหมดยืนอยู่ด้านหน้า ส่วนเฉินเป่ย หน้าตาเต็มไปด้วยความอัปลักษณ์ยืนอยู่ด้านหลัง แขนทั้งคู่โอบร่างของตนเองเอาไว้
หลีชิงเยียนอยากจะดิ้นออก กลับนึกไม่ถึงว่ากำลังของเฉินเป่ยจะเยอะขนาดนี้ ทำให้หลีชิงเยียนดิ้นรนอยู่สักพัก ดิ้นหลุดไม่ออก
“ปล่อยออก!” หลีชิงเยียนพูดเสียงต่ำ เธอมองซูเหลยไปทีหนึ่ง ซูเหลยกำลังดูการพนันเพชรพลอยอย่างออกรสออกชาติ สมาธิจิตใจของหล่อนล้วนโดนการพนันเพชรพลอยที่เร้าใจนี้ดึงดูดไป เดิมทีไม่สนใจเธอกับเฉินเป่ยเลย
หลีชิงเยียนกัดริมฝีปากแดงไว้ เฉินเป่ยโอบเธอไว้แน่น ดมกลิ่นหอมละมุนบนผมยาวของเธอ กอดหญิงสาวที่ร่างกายอ่อนนุ่มไว้ในอ้อมอก จะให้เฉินเป่ยไม่ตื่นเต้นได้อย่างไรกัน?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นหลีชิงเยียนที่เคยออกกฎให้เขาว่าอยู่ข้างนอก ห่างเธอสามเมตร
แต่ตอนนี้เฉินเป่ยกลับแหกกฎอย่างใจกล้าบ้าบิ่น เสี่ยงอันตรายยั่วโมโหหลีชิงเยียน โอบกอดหลีชิงเยียนเอาไว้
พอรับรู้ถึงร่างกายที่อ่อนนุ่มในอ้อมอก เฉินเป่ยหรี่ดวงตาขึ้น มุมปากวาดรอยยิ้มตื้นๆ ขึ้น
ทันใดนั้นในใจหลีชิงเยียนกะพริบความรู้สึกที่คุ้นเคยขึ้น เธอดิ้นรนจากในวงแขนของเฉินเป่ยทันใด หมุนตัวแล้วตบหน้าเฉินเป่ยไปอย่างแรงทีหนึ่ง
“ป๊าบ!”
เสียงตบที่ดังกังวานเสียงนี้ ชั่วพริบตาเดียวดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย รวมทั้งซูเหลยยังหันหน้ามา พอมองทางเฉินเป่ยและหลีชิงเยียนท่าทางฉงนสนเท่ห์ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น งงงวยอย่างมาก
ส่วนเฉินเป่ยลูบๆ หน้าของตนเอง หน้าตากระอักกระอ่วนไม่ได้รับความเป็นธรรม ในใจเขาแอบกลัดกลุ้ม
ตนเองแม่งอยู่ในฐานะสามีของหลีชิงเยียน กอดไปนิดหน่อยหลีชิงเยียนก็มีปฏิกิริยาแบบนี้
เขาจะรู้ได้อย่างไรกันว่าหลีชิงเยียนจะตบหน้าเข้าให้ เป็นเพราะหลีชิงเยียนนึกถึงก่อนหน้านี้ที่เฉินเป่ยเคยทำเรื่องที่ยากจะเอ่ยปากพูดพวกนั้นต่อหลีชิงเยียน
สายตาแต่ละคนมองเข้ามา นี่หลีชิงเยียนถึงตอบสนองเข้ามา ระลึกได้ว่าไม่ปกติแล้ว
ทุกคนมองตนเองอยู่ ทำเอาหลีชิงเยียนอับอายครู่หนึ่ง ถลึงตาใส่เฉินเป่ยอย่างโหดเหี้ยม จึงเบียดฝูงชนออกไปข้างนอก รีบร้อนพุ่งออกไปทางด้านนอก เสียงฝีเท้ายังมีอาการสับสนอยู่
“ประธานหลี” ซูเหลยเรียกทีหนึ่ง รีบตามเข้าไปแล้ว
สายตาของผู้คนตกที่ตัวของเฉินเป่ย เฉินเป่ยหัวเราะอย่างกระอักกระอ่วน และรีบหมุนตัวเช่นกัน เดินอย่างรวดเร็วไปทางที่หลีชิงเยียนวิ่งไป
………….
อีกฟากของฮอลล์งานพนันเพชรพลอย ภาพเงาคนคนหนึ่งกำลังเดินอยู่ภายในฮอลล์ ภายใต้การอารักขาของบอดี้การ์ดมากมาย
ภาพเงาคนคนนั้นที่อยู่ในการล้อมรอบแน่นหนาของบอดี้การ์ด คุ้มครองดีมาก บอดี้การ์ดเหล่านี้ล้วนมาจากองค์กรลับเฉพาะที่ลึกลับแห่งนั้น……ทีมดูแลความปลอดภัยในประเทศ
มีเพียงหลีเช่าเทียนที่รู้ดี นี่คือหลีหง เพื่อความปลอดภัยของเขาแล้ว ดังนั้นจึงเลือกมาเป็นพิเศษ บอดี้การ์ดแต่ละคน ล้วนเป็นบุคคลทำงานลับเฉพาะยอดเยี่ยมในองค์ลับเฉพาะนั้น
ด้านหลังหลีเช่าเทียนมีผู้อาวุโสสองท่านตามมา นั่นคือปรมาจารย์พนันเพชรพลอยสองท่านที่หลีหงเชิญมาเพื่องานพนันเพชรพลอยในครั้งนี้ เดินทางไปด้วยตนเอง มุ่งไปในพื้นที่อื่นในเขาที่ห่างไกล
ปรมาจารย์สองท่านนี้เป็นพี่น้องฝาแฝด ไม่ว่าเป็นหน้าตาหรือว่าบุคลิกจิตใจ ล้วนเหมือนกันอย่างมาก คนที่ไม่รู้ มีความเป็นไปได้มากที่จะคิดว่านี่คือสองคนที่ลักษณะเหมือนกัน
ทั้งสองตามด้านหลังหลีเช่าเทียนอย่างสงบเงียบ สายตากวาดผ่านที่ตั้งแผงของห้องโถงพวกนั้น ในแววตามีความหมายที่เหยียดหยามจางๆ
หลังหลีเช่าเทียนเดินเล่นรอบหนึ่ง หยุดฝีเท้าลง หมุนตัวมองทางปรมาจารย์สองท่าน ถามด้วยความเคารพ “ปรมาจารย์ทั้งสองรู้สึกว่าพวกเราควรไปพนันเพชรพลอยที่ไหนค่อนข้างดี?”
ปรมาจารย์สองท่านมองหน้ากันและกัน เอ่ยปากกับหลีเช่าเทียน “มีผมสองคนอยู่ ทำให้อัตราที่คุณชนะพนันเพชรพลอยเพิ่มมากขึ้น ไม่ต้องพูดถึงพนันร้อยชนะร้อย การพนันเพชรพลอยธรรมดาไม่เป็นปัญหาของพวกเรา อยากเล่น ก็เล่นที่ใหญ่กว่า”
คนหนึ่งในนั้นชี้ไปทางด้านหน้า พูดว่า “ตามความคิดของนายใหญ่ตระกูลหลี ตรงนั้น ถึงจะเป็นโอกาสเหมาะให้คุณมีชื่อเสียงในเยี่ยนจิง”
หลีเช่าเทียนมองทางที่ไกลออกไป นั่นคือโซนพนันระดับสูง ตรงนั้นเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลอย่างแท้จริง และร่ำรวยอย่างมากถึงไปพนันที่นั่น เป็นสถานที่แข่งขัน
ว่ากันว่าโซนพนันระดับสูง ถึงจะเป็นก้าวแรกของการเข้าสู่ธรณีประตูงานพนันเพชรพลอย
“สองท่านพูดถูก” หลีเช่าเทียนหัวเราะเล็กน้อย พูดเสียงดังชัด “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ไปดูที่นั่นหน่อย!”
ปรมาจารย์พนันเพชรพลอยสองท่านอมยิ้มพยักหน้า ที่นั่นเป็นสถานที่ถลุงเงินเป็นว่าเล่นที่แท้จริง แต่สำหรับพวกเขาแล้ว ไม่มีอะไรแตกต่างกันกับเครื่องกดเงินอัตโนมัติเลย เป็นวิธีหาเงินง่ายดายที่สุด
………….
โซนพนันระดับสูง ในงานพนันเพชรพลอย ถือว่าเป็นสถานที่ชั้นสูงมากแล้ว
ไม่เหมือนกับโซนพนันระดับต่ำธรรมดาที่ด้านนอกห้องโถง โซนพนันระดับสูงอยู่ภายในห้องโถง สิ่งแวดล้อมสง่างาม เพราะมีเพียงบุคคลสถานะยิ่งใหญ่ หรือว่ามีอำนาจอิทธิพลแน่นอนถึงมีสิทธิ์เข้ามา ดังนั้นเทียบกันกับโซนพนันระดับต่ำที่เอะอะอยู่ด้านนอก ด้านในโซนพนันระดับสูงเงียบสงบอย่างมาก ตกแต่งโอ่อ่างงดงามอย่างเห็นได้ชัด หรูหรายิ่งใหญ่
นี่เดิมทีเป็นแค่โรงแรม ทว่าโดนเปลี่ยนเป็นกาสิโนชั่วคราวแล้ว โซนพนันแต่ละแห่งถูกแบ่งออกมาอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย บุคคลที่จิตใจสูงส่งแต่ละคนยืนอยู่กลางโซนพนันแต่ละที่ ดำเนินการแจกเงินทุ่มพนันแต่ละรอบ
เวลานี้ ในโซนพนันหนึ่งในนั้น คนตะวันตกที่สีหน้าซีดขาวท่านหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์แดงเย็นเฉียบราวกับเลือดสดอยู่ ในแววตามีความหมายอาฆาตอยู่อ่อนๆ
คนตะวันตกผู้นี้ ในชุดสูทรีดเรียบ สีหน้าไร้สี แม้กระทั่งผิวหนังเผยสีที่ซีดเซียวออกมารางๆ จนมองเห็นเส้นเลือดสีเขียวภายใต้ผิวหนัง และริมฝีปากที่สดใสสะดุดตาผิดปกตินั้น ทำให้ดูแตกต่างตรงกันข้ามอย่างเด่นชัด
จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาฟ้าน้ำทะเลลุ่มลึก ชุดสูทตัวนี้ เดิมทีไม่มีทางปกปิดท่วงทีกลัดกลุ้มของเขาที่แพร่จากภายในสู่ภายนอกได้
สายตาของคนตกอยู่บนตัวชายหนุ่มที่ลักษณะเหมือนเขาคนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลมาก มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เผยรอยยิ้มที่รักเอ็นดูออกมา
ชายหนุ่มคนนั้นลักษณะเหมือนเขาสมัยวัยหนุ่ม บนตัวมีท่วงทีความกลัดกลุ้มแพร่กระจายออกเหมือนกัน ที่ไม่เหมือนคือ ระหว่างที่เขาขยับเคลื่อนไหว ก็มีความมั่นใจในตัวเองไม่สะทกสะท้านแบบที่ไม่ควรเป็นในช่วงอายุนี้
เสียงที่น่าตกใจดังขึ้น ชายหนุ่มหมุนตัว เดินไปที่ด้านข้างคนตะวันตกท่านนี้ เผยรอยยิ้มออกมา “พ่อครับ ผมชนะแล้ว การพนันเพชรพลอยของหัวเซี่ยไม่ใช่แค่นี้เองเหรอ”
ผู้ชายพยักหน้า “แต่ลูกยังภูมิใจไม่ได้ ที่มาวัฒนธรรมหัวเซี่ยยาวนาน ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่เรื่องเล่ากันว่าที่นี่มีร่องรอยของราชาหลงหรอก”
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว สอบถามอย่างสงสัย “พ่อครับ บนพื้นดินแห่งนี้สรุปมีอะไรกัน ถึงต้องให้พ่อมาตามหาขนาดนี้?”
ผู้ชายจิบไวน์ลาฟิตที่ราวกับเลือดสดไปอึกหนึ่ง สีหน้าสงบ “ว่ากันว่าราชาหลงปลดเกษียณแล้ว ที่นี่มีตำนานของราชาหลง พ่อเลยมาหาที่นี่ดูหน่อย ดูว่ามีข่าวของราชาหลงหรือไม่”
“ถ้ามีล่ะครับ?” ชายหนุ่มถามขึ้น
“มี?” ผู้ชายฉีกรอยยิ้มที่หนาวเย็นผิดปกติขึ้น “มีคนมากมายล้วนอยากหาเขาคิดบัญชีหน่อยล่ะ……”
ในใจชายหนุ่มสั่นสะเทือน แววตาเผยตกใจออกมา……ปัจจุบันนี้ต่างประเทศไม่สงบ ทิศตะวันตกยิ่งกำลังเคลื่อนไหวจะก่อการร้าย ต่างลือกันว่าราชาหลงไม่ได้ปลดเกษียณ แต่ว่าได้รับบาดเจ็บหนักต้องพักฟื้นฟูร่างกาย ดังนั้นถึงมีผู้คนมากมายคิดจะฉวยโอกาสนี้กำจัดราชาหลง!
…………
โซนพนันทั่วไป หลีชิงเยียนเดือดดาลก้าวเดินรวดเร็ว ส่วนซูเหลยทำได้เพียงตามอยู่ด้านข้างเงียบๆ
“สะบัดเขาทิ้งได้รึยัง?” หลีชิงเยียนถามซูเหลย
ซูเหลยเพียงชายตาแวบหนึ่ง ส่ายๆ หน้า “ไม่ค่ะ เขายังอยู่ด้านหลัง”
หลีชิงเยียนหันหน้ามองไป มองเห็นเฉินเป่ยตามมาด้านหลังพวกเธอ ตั้งแต่ต้นจนจบรักษาระยะห่างที่ไม่ใกล้ไม่ไกล ทำให้หลีชิงเยียนหงุดหงิดมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทางของเฉินเป่ยที่ไม่ยิ้มแต่ก็เหมือนยิ้ม ยิ่งทำให้หลีชิงเยียนโมโหอย่างมาก
“สะบัดเขาทิ้งไปได้มั้ย?” หลีชิงเยียนถามขึ้น
สะบัดทิ้ง?
ซูเหลยตะลึง เฉินเป่ยสถานะลึกลับ ความสามารถก็ยังไม่รู้ จะสะบัดเขาออกได้อย่างไร?
ซูเหลยจำใจ แต่ยังพยักหน้าแล้วบอกว่า “ฉันจะพยายามทำค่ะ”
ซูเหลยดึงมือของหลีชิงเยียนขึ้น เดินไปที่ผู้คนเบียดเสียดอย่างรวดเร็ว
เฉินเป่ยตามมา หลังซูเหลยเดินเข้าฝูงชนที่แน่นขนัด เปลี่ยนทิศทางพลิกไปทั่วไม่หยุด อยากจะสะบัดเฉินเป่ยทิ้ง
เฉินเป่ยตามหลังไปติดๆ มองภาพด้านหลังของสองคนอยู่ เผยรอยยิ้มที่แปลกออกมา……เขาคาดไม่ถึงว่าทั้งสองนึกอยากสะบัดเขาทิ้ง
เฉินเป่ยควักมือถือออกมา ต่อสายไปยังหมายเลขหนึ่ง พูดกับชิงเหนียนที่อยู่ในสายนั้นว่า “ตรวจวัดตำแหน่งของฉัน หาว่าเมียฉันอยู่ตรงไหนออกมา”
ชิงเหนียนในสายนั้นเหมือนพึ่งตื่นนอน น้ำเสียงงัวเงีย หาวไปทีหนึ่ง “ลูกพี่ เมื่อคืนสนุกเกินไป พี่รอหน่อยนะ……พี่สะใภ้อยู่ที่โซนซีสี่”
หลังวางสายโทรศัพท์ รอยยิ้มเฉินเป่ยหยอกเย้า หลีชิงเยียนในเวลานี้ เดาว่ายังคิดว่าดิ้นออกจากเฉินเป่ยพ้นแล้วมั้ง
“พวกเราเดินเล่นอีกหน่อยเถอะ” หลีชิงเยียนดึงซูเหลยไว้พูดขึ้น
ส่วนคำพูดของหลีชิงเยียนพึ่งจบ เสียงที่ดูอันธพาลมากลอยมาจากด้านหลัง “ประธานหลี พวกคุณเดินไวกันจัง ผมเกือบตามไม่ทันแล้ว”
ร่างกายหลีชิงเยียนสั่น ซูเหลยหัวเราะอย่างขมขื่น ส่ายหน้าแบบจำใจ
หลีชิงเยียนหันหน้า มองเห็นเฉินเป่ยตามมาแล้ว บนหน้ายังมีรอยยิ้มด้วย
“หยุดนะ!”
ในที่สุดหลีชิงเยียนอดทนไม่ไหวอีกต่อไป ตวาดเสียงเย็นเฉียบทันที ทำให้เฉินเป่ยยืนอยู่ที่เดิม
“ไสหัวไป! ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย” หลีชิงเยียนเดือดดาลกอดหน้าอกไว้ ตะคอกเสียงน่ารัก
จากนั้นหลีชิงเยียนก็พูดพลางลากซูเหลย เดินไปโซนพนันระดับสูงที่ไม่ไกลนัก
“ชิงเยียน ไม่ใช่กอดนิดหน่อยเองเหรอ ต้องทำแบบนี้ด้วยเหรอ ผมไม่ใช่กอดผู้หญิงคนอื่นสักหน่อย” เฉินเป่ยตามหลังมาติดๆ พูดอย่างไม่ยอม คำพูดพวกนี้ลอยเข้าหูหลีชิงเยียน ทำให้เธอแทบคลุ้มคลั่ง
เจ้าสารเลวคนนี้ ใบหน้างดงามของหลีชิงเยียนร้อนระอุจนลวกได้ ถ้าเป็นไปได้ เธอทนไม่ไหวอยากรีบตบไปสักที ผู้คนอยู่กันมากมาย เฉินเป่ยพูดเหลวไหลอะไร
เห็นหลีชิงเยียนไม่ได้หยุดฝีเท้าลง เฉินเป่ยฉีกมุมปาก เพิ่มความเกินเลยขึ้น “ชิงเยียน ไม่ใช่แค่กอดนิดหน่อยเองเหรอ นี่จะถือว่าอะไร คุณยังจำได้มั้ย พวกเราในคืนวันนั้น ผมนวดให้คุณ หน้าคุณแดงขึ้น…….”
เฉินเป่ยยิ่งพูดยิ่งเลยเถิด พูดจนกระทั่งหน้าบานขึ้นมา ฮึกเหิมอย่างมาก
แม้กระทั่งเขาพูดถึงเรื่องที่หลีชิงเยียนไม่มีทางเผชิญหน้ามากที่สุด
“หุบปาก!” ในที่สุดหลีชิงเยียนก็ไม่ทน หยุดฝีเท้าลง ตวาดเสียงเย็นชาใส่เฉินเป่ย “นายจะพอรึยัง?”
แก้มของหลีชิงเยียนร้อนมาก พอนึกถึงครั้งนั้นที่เฉินเป่ยนวดให้ตนเอง ตนเองควบคุมไม่อยู่ส่งเสียงที่ดึงดูดคนออกมา ทำให้เธออยากจะหารูมุดเข้าไปใจแทบขาด
ไม่เพียงแค่นี้คาดไม่ถึงเป็นเจ้าหมอนี่ที่พูดถึงอีกครั้ง นี่ไม่เท่ากับว่าอยากนำอดีตที่ผิดพลาดของหลีชิงเยียนออกมาเปิดโปงเหรอ?
เฉินเป่ยหัวเราะอย่างอึดอัด กลับไม่กล้าเข้าไปใกล้อีก เขารู้จักหลีชิงเยียนดีมาก ในใจเขาชัดเจนดี ตนเองได้ยั่วโมโหนางฟ้าแล้ว
หลีชิงเยียนโกรธเคืองอย่างยิ่ง เส้นเลือดบนหน้าผากขาวเนียนปูดขึ้นชัด มือสวยเรียวขาวคู่นั้นกำเป็นหมัดไว้ กัดฟันที่ริมฝีปากแดง ทำให้ซูเหลยที่อยู่ด้านข้างเผยสีหน้าที่นับถือออกมา
หล่อนไม่เคยเห็นหลีชิงเยียนโดนใครกระตุ้นจนกลายเป็นแบบนี้ นี่คือบทของวิธีการยั่วยุให้เกิดอารมณ์ฮึกเหิมอย่างชัดแจ้ง หลีชิงเยียนควบคุมไม่ไหวกระโดดเข้าไปแล้ว
สามารถทำให้หลีชิงเยียนที่นิสัยเย็นชา เพียงแค่พูดไม่กี่คำก็ทำให้โกรธถึงขั้นนี้ เกรงว่าคงมีเพียงเฉินเป่ยที่ทำได้มั้ง?
ทั้งสองเผชิญหน้ากัน ดึงดูดความสนใจของคนโดยรอบไม่น้อยเลย เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นที่งานพนันเพชรพลอย ทำให้คนรู้สึกว่าน่าสนุกมาก
สายตาแต่ละคนตกอยู่บนตัวเฉินเป่ยและหลีชิงเยียน โดยรอบค่อยๆ กลายเป็นฝูงชน
ในเวลานี้ ฝูงชนเกิดการแตกตื่น ผู้คนหลบทางเดินเส้นหนึ่งออกให้ นั่นคือบอดี้การ์ดมากมายรับไล่ฝูงชน กลายเป็นทางเดินหนึ่ง
ปลายทางเดิน มีภาพเงาคนหนึ่ง หล่อเหลาสง่าผ่าเผย กำลังเดินอย่างเนิบช้า มาทางเฉินเป่ยและหลีชิงเยียน…