บทที่313 เลือกอันไหนมาสองสามก้อนก็ข่มนายได้หมด
…………
ในโซนพนันระดับสูง ผู้ชายที่ใส่ชุดสูทรองเท้าหนังคนหนึ่งเดินอยู่กลางโถงใหญ่ มองห้องพนันแต่ละห้องด้วยสีหน้าสงบ
ที่อยู่ไม่ไกลจากเขานัก มีบอดี้การ์ดหลายคนตามหลังติดๆ ตรวจสอบรอบด้านไม่หยุด สีหน้าระแวดระวังตั้งแต่ต้นจนจบ
ตำแหน่งที่พวกเขายืนอยู่ ทำให้ผู้ชายที่ใส่ชุดสูทรองเท้าหนังท่านนั้นอยู่ในการอารักขาพอดี ขอเพียงผู้ชายท่านนี้มีอันตรายหรืออุบัติเหตุน้อยนิดขึ้น พวกเขาสามารถปรากฏตัวข้างกายเขาได้ทันท่วงที แล้วปกป้องเขา
ที่งานพนันเพชรพลอย บุคคลยิ่งใหญ่พาบอดี้การ์ดมาไม่ใช่ไม่มี แต่ว่าลักษณะแบบนี้ ยังเห็นเป็นครั้งแรกจริงๆ
เพราะการตอบสนองของบอดี้การ์ดเหล่านี้ว่องไวรวดเร็ว ล้วนไม่ใช่บอดี้การ์ดทั่วไปสามารถเปรียบเทียบได้…พวกเขามาจากกระทรวงการป้องกันสงครามของเยี่ยนจิง
พวกเขาแต่ละคนล้วนเป็นนายทหารยอดเยี่ยมที่คัดสรรออกมาจากกระทรวงการป้องกันสงครามของเยี่ยนจิง แต่ละคนล้วนครอบครองความสามารถเกรียงไกรที่น่าเกรงขามมาก
และการที่สามารถทำให้นายทหารชั้นเยี่ยมคุ้มครองผู้ใหญ่ท่านหนึ่งได้……ที่เยี่ยนจิง มีเพียงคนเดียวที่มีสิทธิ์นี้
เขา…คือจิง
จิงเดินๆ อยู่ก็หยุดลงมาแล้ว บอดี้การ์ดที่ใส่ชุดสูทสีดำคนหนึ่งขึ้นมาด้านหน้า เอ่ยปากอย่างเคารพ “ท่านครับ เวลานี้ที่นี่ยังถือว่าปลอดภัยครับ”
“รู้แล้ว พวกนายถอยไปเถอะ ฉันอยากเดินดูคนเดียวสักหน่อย” จิงเอ่ยปากนิ่งๆ กลับเห็นได้ชัดว่าเป็นคำสั่ง
“ครับ”
หลังนายทหารที่สง่าผ่าเผยถอยออก ไม่นานบอดี้การ์ดหลายคนก็แยกย้ายไปรอบด้าน หายตัวแบบไม่ทิ้งร่องรอย…….
จิงล้วงมือทั้งคู่ในกระเป๋ากางเกง ฟังเสียงดนตรีหรูหราที่ดังก้องในโถงใหญ่ นั่นคือวงดนตรีที่ด้านหน้าที่กำลังบรรเลงเพลงอยู่
ทันใดนั้นฝีเท้าของจิงชะลอลง ใบหูสองข้างของเขาขยับเล็กน้อย ได้ยินบทสนทนาของเศรษฐีสองคน “ได้ยินว่าครั้งนี้ลูกหลานของตระกูลอวี้ก็มางานพนันเพชรพลอย แถมยังร่วมมือกับหัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอยคนก่อนหน้าด้วย ว่ากันว่าอยากพนันว่าเป็นหรือตายกับผู้ชายแต่งเข้าบ้านเข้าบ้านผู้หญิงคนหนึ่งของตระกูลหลี!”
“จริงเหรอ ตระกูลอวี้เป็นตระกูลการพนันเพชรพลอยของหัวเซี่ยที่เหลืออยู่ไม่มากแล้ว บวกกับหัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอยคนก่อนหน้า นี่เกือบจะไร้ศัตรูแล้ว กวาดล้างหัวเซี่ยก็ไม่มีปัญหาอะไร!”
“ใช่ ได้ยินว่าผู้ชายแต่งเข้าบ้านผู้หญิงของตระกูลหลีคนนั้นมีหัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอยคนปัจจุบันคอยช่วยเหลือ แต่เปอร์เซ็นต์ชนะก็ไม่มากเท่าไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชายแต่งเข้าบ้านผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่แตกต่างอะไรกับสวะที่เกาะผู้หญิงกิน ผู้ชายแบบนี้จะมีโอกาสชนะสักเท่าไรกัน?”
ทั้งสองพูดคุยกันเสียงต่ำๆ เสียงของพวกเขาเบามาก แต่กลับถูกจิงได้ยินอย่างชัดเจน
ทันใดนั้นสีหน้าล้ำลึกของจิงเผยการขบคิดขึ้น พูดกับตนเองเสียงต่ำ น่าสนุก…….”
ยากที่จิงจะเกิดความสงสัยสักนิด เขาอยากไปดูหน่อย สรุปแล้วเป็นพวกต่ำต้อยที่ไหนใจกล้าขนาดนี้ แม้แต่ลูกหลานของตระกูลอวี้กับหัวหน้าสมาคมคนก่อนยังไม่กลัว?
………….
เวลานี้ อีกด้านของโซนพนันระดับสูง ภาพเงาคนคนหนึ่ง ค่อยๆ ก้าวเท้าออกมาจากในห้องพนันแห่งหนึ่ง
ด้านหลังของเขามีผู้อาวุโสสองท่านตามมา กับบุคคลทำงานลับเฉพาะที่ฝีมือเหนือขั้นกลุ่มใหญ่ รับคำสั่งของหลีหง……คุ้มครองความปลอดภัยชีวิตหลีเช่าเทียน
“ตอนที่ท่านทั้งสองไม่แสดงฝีมือยังดูธรรมดา แต่พอลงมือแล้วน่าตกใจมากๆ เลย…ที่แท้ไม่ธรรมดา จากความสามารถของท่านทั้งสอง ต่อให้เป็นหัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอยคนปัจจุบัน เกรงว่าคงไม่ต้องสนใจเลยล่ะมั้ง?” หลีเช่าเทียนหมุนตัว มองทางผู้อาวุโสทั้งสอง ยกมุมปากขึ้นนิดหน่อย ค่อยๆ ยิ้มบอก
ผู้อาวุโสสองคนยิ้มมองหน้ากัน พูดเป็นเสียงเดียวกัน “พวกเราปลีกวิเวกเข้าป่าตั้งแต่แรก ส่วนจางเป่าเฉิงเขาเป็นถึงหัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอย ในด้านการพนันเพชรพลอยก็สร้างผลงานอยู่บ้าง แต่ยังถูกเรื่องราวบนโลกนี้มารบกวนจิตใจอยู่…ครั้งนี้หลีหงเชิญพวกเราออกมา อยากจะกวาดล้างผู้แข็งแกร่งทั้งหมดของงานพนันเพชรพลอย คุณชายหลีวางใจได้ พวกเราต้องช่วยคุณได้แน่ ผลงานไม่ธรรมดา!”
หลีเช่าเทียนหัวเราะนิดหน่อย “เมื่อกี้ในห้องพนันผมเห็นความสามารถของสองท่านแล้ว…หินหยาบสิบก้อน…ดีหมดสิบก้อน นี่น่าจะทำลายสถิติของงานพนันเพชรพลอยแล้ว……”
“คุณชายหลี โควต้าของสุดยอดดาบสามเล่มได้รับมาแล้ว ตรงไปที่เขตสุดยอดดาบสามเล่มเลยหรือไม่ครับ?” คนรับใช้เข้ามาสอบถามอย่างเคารพ
“ไม่ต้อง โควต้าก็ได้มาไว้ในมือแล้ว ไม่ต้องรีบไปเวลานี้” หลีเช่าเทียนหัวเราะนิ่งๆ
ในเวลานี้ หลีเช่าเทียนดวงตาแข็งทันใด มองทางสองคนที่กำลังพูดคุยอยู่มุมหนึ่ง
มุมปากหลีเช่าเทียนยกเส้นรัศมีวงกลมที่ลึกลับซับซ้อนขึ้น ก้าวเท้าออกมา เดินเข้าไปทางสองคนนั้น
“คุณผู้ชายทั้งสอง เมื่อกี้ผมได้ยินพวกคุณพูดว่า…มีการพนันเป็นหรือตาย?” หลีเช่าเทียนขัดจังหวะการพูดคุยของทั้งสองคนอย่างสุภาพ
หนึ่งในนั้นกวาดตามองหลีเช่าเทียนแวบหนึ่ง เห็นหลีเช่าเทียนสง่ามีมารยาท สีหน้าจึงผ่อนคลายไม่น้อย “ใช่ ลูกหลานของตระกูลอวี้กับหัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอยคนก่อนร่วมมือกัน จัดการผู้ชายแต่งเข้าบ้านผู้หญิงของตระกูลหลีคนหนึ่ง…ไม่รู้ว่าตระกูลหลีนี้ กับตระกูลใหญ่นั้นที่เมืองจิง เกี่ยวข้องกันรึเปล่า……”
“ขอบคุณสองท่านมาก” หลีเช่าเทียนหมุนตัว สีหน้าเลือนราง มองทางคนรับใช้ผู้นั้นถามว่า “ผู้ชายที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงของตระกูลหลี…ใช่ชื่อเอ๋อตงเฉินรึเปล่า?”
“นี่……” คนรับใช้ผู้นั้นหน้าตากระอักกระอ่วน “ผมก็ไม่แน่ใจเช่นกันครับ”
“การพนันเป็นหรือตายอยู่ที่ไหน…พวกเราก็ไปร่วมสนุกด้วยหน่อยแล้วกัน” หลีเช่าเทียนก้าวเท้าออกมา……เสียงฝีเท้าเผยพลังน่าหวั่นเกรง
ในเมื่อเอ๋อตงเฉินก่อไฟกองหนึ่งในงานพนันเพชรพลอยขึ้น งั้นเขาจะถือโอกาสราดน้ำมันบนกองไฟนี้ด้วย…ถือโอกาสราดไปให้ไฟกองนี้ ยิ่งทวีความแรงเพิ่มขึ้นอีก
เจอกับตระกูลที่จิตใจคับแคบแบบตระกูลอวี้นี้ แม้กระทั่งไม่ต้องให้หลีเช่าเทียนลงมือ ตระกูลอวี้คงกำจัดเอ๋อตงเฉินเรียบร้อยแน่
…………
ในห้องพนันที่ค่อนข้างพิเศษห้องหนึ่ง บนโต๊ะยาวขนาดใหญ่โตตัวหนึ่ง สองฝั่งมีเฉินเป่ยและอวี้ย้งเซวียนนั่งอยู่
รอบด้านจัดวางที่นั่งไว้มากมาย ล้วนเป็นแขกผู้มีเกียรติที่แย่งกันเข้ามา ไม่เพียงแค่นี้ ด้านนอกห้องพนันยังมีแขกอีกไม่น้อย ชมการถ่ายทอดเหตุการณ์บนโต๊ะในห้องพนันผ่านหน้าจอยักษ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพนันเป็นหรือตายเรื่องแบบนี้ ที่งานพนันเพชรพลอยเกิดขึ้นน้อยมาก ถึงแม้ทางงานจะมีการเตรียมพร้อม แต่ที่เตรียมการไม่ใช่ครบถ้วนมาก แม้แต่การวางเดิมพันทางงานก็ไม่ได้เสนอออกมา
ด้านข้างของอวี้ย้งเซวียน ผู้อาวุโสหนังหุ้มกระดูกคนหนึ่งยืนอยู่ แขกผู้มีเกียรติที่อายุเยอะมากมาย แทบจะไม่มีใครไม่รู้จักการมีตัวตนของท่านนี้
ตอนมองเห็นผู้อาวุโสหนังหุ้มกระดูกท่านนี้ปรากฏตัว ในฝูงชนเกิดเสียงฮือฮาไม่น้อยขึ้นมาโดยฉับพลัน สายตาแต่ละคนเต็มไปด้วยความซับซ้อนตกใจ
ความเจริญรุ่งเรืองของงานพนันเพชรพลอยครั้งนี้ไปไกลกว่าครั้งไหนๆ คนมีชื่อเสียงในวงการพนันเพชรพลอย เกือบจะมาที่นี่กันหมด…แม้แต่ฉีซิ่นที่เป็นหรือตายไม่อาจคาดการณ์ได้ ยังยืนอยู่ด้านหลังของอวี้ย้งเซวียนอย่างเคารพนอบน้อม
เทียบกับอวี้ย้งเซวียนและฉีซิ่นในฐานะบุคคลระดับผู้นำในวงการพนันเพชรพลอยรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ เห็นได้ชัดว่าเฉินเป่ยกับจางเป่าเฉิงช่างต๊อกต๋อยเหลือเกิน
ถึงแม้ว่าจางเป่าเฉิงจะเป็นหัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอย แต่เทียบกับฉีซิ่น บารมียังด้อยกว่าไม่น้อย…สำหรับเฉินเป่ย หลังจากชื่อเรียกในฐานะผู้ชายแต่งเข้าบ้านผู้หญิงตระกูลหลีแพร่ออกไป สายตานับไม่ถ้วนที่มองทางเฉินเป่ยล้วนเต็มไปด้วยการดูถูกเย้ยหยัน
“ฉันไม่ได้มองผิดใช่มั้ย ผู้ชายแต่งเข้าบ้านผู้หญิงคนหนึ่งจะมาพนันเป็นหรือตายกับลูกหลานตระกูลอวี้?”
“ไม่รู้จักที่ตาย คาดไม่ถึงฉีซิ่นยังมีชีวิตอยู่……คงไม่ต้องให้อวี้ย้งเซวียนลงมือหรอก ฉีซิ่นคนเดียวก็สามารถจัดการพวกเขาสองคนได้แล้ว!”
“นี่ยังเรียกการพนันเป็นหรือตาย? คือการแขวนคอสังหารของฝ่ายเดียวชัดๆ นึกไม่ถึงที่งานพนันเพชรพลอยยังเจอเรื่องที่ประหลาดแบบนี้ได้ด้วย”
แขกผู้มีเกียรติที่รู้ประวัติของฉีซิ่นและอวี้ย้งเซวียนแสดงความคิดเห็นกันอยู่ สายตาที่มองทางเฉินเป่ยทั้งเหยียดหยามและหยอกล้อ
“การพนันเป็นหรือตาย…คาดไม่ถึงยังตอบรับ!” อวี้ย้งเซวียนมองเฉินเป่ย มุมปากวาดรอยยิ้มขึ้นแบบไม่ปิดซ่อนอีก
ในเวลานี้ นอกห้องพนัน มีภาพเงาคนหนึ่งก้าวเท้าเข้ามา การปรากฏตัวของเขาทำให้ห้องพนันครึกโครมอย่างยิ่ง ชั่วขณะนั้นก็สงบลงมาแล้ว
“ผู้ดำเนินการพนันเป็นหรือตาย” มีแขกคนหนึ่งพอมองแวบเดียวก็จำขึ้นได้ คนที่ใส่เสื้อคลุมสีดำ และใส่หน้ากากโจ๊กเกอร์ไว้ท่านนั้นคือผู้ดำเนินการพนันเป็นหรือตาย
และด้านหลังของเฉินเป่ย หลีชิงเยียนและซูเหลยนั่งอยู่ หลังมองเห็นผู้ดำเนินการท่านนี้เข้างาน ในใจหลีชิงเยียนเกิดความรู้สึกไม่สงบอย่างรุนแรงขึ้นฉับพลัน กังวลจนมองเฉินเป่ยอีกครั้ง
เวลานี้หลีชิงเยียนเสียใจอย่างยิ่ง…ตอนแรกตนเองไม่ควรเห็นด้วยกับที่หลีหยางบอก ให้เฉินเป่ยมาเข้าร่วมงานพนันเพชรพลอย…เจ้าตัวซวยคนนี้ บนตัวเขาเคยเกิดเรื่องอะไรดีเมื่อไรกัน ล้วนมีแต่เรื่องเลวร้าย
หลังจากรู้สถานะของอวี้ย้งเซวียนและฉีซิ่น เวลานี้หน้าผากขาวนวลมันวาวของหลีชิงเยียนเหงื่อผุดขึ้น ยังไม่ได้เริ่ม เธอก็กังวลถึงขั้นสุดแล้ว……นี่เกือบเป็นสถานการณ์ที่แพ้แน่ ก่อนหน้านี้จางเป่าเฉิงสารภาพกับเธอ……อย่าว่าแต่อวี้ย้งเซวียนเลย ฉีซิ่นนั้นเป็นอาจารย์ของจางเป่าเฉิง…เพียงแค่ฉีซิ่น จางเป่าเฉิงก็ไม่มีโอกาสชนะใดๆ แล้ว
“พี่สะใภ้ ไม่ต้องร้อนใจ ลูกพี่จะไม่เป็นอะไรหรอก ต้องเชื่อความสามารถของลูกพี่” ในเวลานี้ มีเสียงหนึ่งลอยมาจากด้านข้าง หลีชิงเยียนหันหน้า มองเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านข้าง บนหน้ามีรอยยิ้มที่สงบ กำลังมองเฉินเป่ย
หลีชิงเยียนสีหน้าฉงน ดวงตาจ้องชิงเหนียนอยู่สักพัก นึกไม่ออกว่าชิงเหนียนเป็นใครกัน…จึงถามอย่างสงสัย “น้องชาย ฉันรู้จักนาย…”
ชิงเหนียนมองหลีชิงเยียนแบบมีความหมายลึกซึ้งแวบหนึ่ง และมองไปที่ซูเหลย ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ต่อไปมีโอกาสไม่แน่นยังจะได้เจอกันอีก”
น้ำเสียงชิงเหนียนเผยความล้ำลึกที่น่าประหลาดใจ ในอากาศที่เคลื่อนไหวช้าๆ …….หลังเขาพูดจบ ก็สูบซิการ์ไปทีหนึ่ง กลิ่นหอมของซิการ์ตลบอบอวลไปในอากาศ…จากนั้นเขาลุกขึ้นช้าๆ เยื้องย่างออกไปทางด้านนอกห้องพนัน
“ประสาท” ดวงตาหลีชิงเยียนจ้องมองภาพด้านหลังของชิงเหนียนตั้งนาน ดวงตาเปล่งประกาย ริมฝีปากแดงเผยอเล็กน้อย สุดท้ายด่าออกมาเสียงต่ำ
คำพูดนี้ของชิงเหนียนทำให้หลีชิงเยียนเพียงรู้สึกแปลกประหลาดใจ
ส่วนซูเหลยที่อยู่ข้างหลีชิงเยียนจมสู่ในความคิด……ไม่รู้เพราะอะไร หล่อนถึงมักรู้สึกว่าชิงเหนียน…คุ้นตาอย่างมาก แต่อย่างไรเสียหล่อนก็นึกไม่ออกว่าชิงเหนียนคือใคร
จนกระทั่งชิงเหนียนเดินไปถึงหน้าประตูห้องพนัน ทันใดนั้นแววตาซูเหลยถลึงจ้องชิงเหนียนตั้งนาน ดวงตาแข็งขึ้นกะทันหัน….ภาพด้านหลังนี้กับเจ้านายลึกลับผู้นั้นของหล่อน…เหมือนกันอย่างยิ่ง
นี่เป็นเรื่องวิเศษอย่างมาก ไม่ คือแบบเดียวกันเลย
คือเขา จะต้องเป็นเขาแน่
ตั้งแต่ต้นจนจบซูเหลยไม่เคยลืม หลังตนเองปลดประจำการ…เจ้านายลึกลับของตนเองผู้นั้น แนะนำหล่อนมาหาหลีชิงเยียนถึงที่เอง จึงมีหล่อนในวันนี้ได้
และหล่อนแอบเคยค้นหาเจ้านายคนนี้ของหล่อนมานับครั้งไม่ถ้วน แต่กลับไม่มีข้อมูลสักนิด เหมือนกับไม่มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้
ตอนที่ซูเหลยจำได้อย่างแจ่มแจ้ง ตอนที่เจอกับเจ้านายลึกลับท่านนั้นครั้งแรก มองปราดเดียวก็เห็นภาพด้านหลังคนนั้น
ปัจจุบันนี้ เขาปรากฏตัวอีกรอบ
ซูเหลยมองทางเฉินเป่ยทันที แววตามีความตื่นเต้นกำลังก่อหวอด
ทำไมเขาถึงปรากฏตัวที่งานพนันเพชรพลอยครั้งนี้ด้วย และคำพูดของเขาเมื่อสักครู่นั้น…เขากับเฉินเป่ย สรุปเป็นความสัมพันธ์อะไร หรือว่าพวกเขารู้จักกันเหรอ?