บทที่450 การเยาะเย้ยของคุณชายหลี!
ด้านนอกสนาม จางเป่าเฉิงมองเฉินเป่ยด้วยสายตาซับซ้อน จางเป่าเฉิงไม่แน่ใจว่าทำไมเฉินเป่ยถึงเสี่ยงอันตรายใหญ่ขนาดนั้นเพื่อขัดแย้งกับผู้ตัดสินคนอื่นๆ เพื่อมาช่วยตนเองด้วย
แต่จางเป่าเฉิงรู้ว่าถ้าไม่ใช่ผู้ตัดสินชุดดำลึกลับท่านนี้ ยืนหยัดที่จะต่อต้านว่าหินหยาบก้อนที่ห้าเป็นของเสีย ตนเองคนถูกผู้ตัดสินหลายท่านนั้นร่วมมือกันปัดตกรอบแรกไปแล้ว
หัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอยของทั้งหัวเซี่ย เข้าร่วมสุดยอดดาบสามเล่มที่สมาคมตนเองจัดก็โดนคัดตกรอบในรอบแรก นี่คือเรื่องตลกใหญ่โตอย่างยิ่ง มีความเป็นไปได้มากว่าเขาคงไม่ต้องให้ถึงพรุ่งนี้ บางทีไม่กี่ชั่วโมงหลังงานพนันเพชรพลอยเสร็จสิ้นลง เขาคงเป็นที่รู้จักไปทั้งเยี่ยนจิง ทั้งหัวเซี่ยล้วนกระทบไปหมด
เขาคงกลายเป็นเรื่องสนุกหลังมื้ออาหารของคนหัวเซี่ยนับไม่ถ้วน ตั้งแต่นี้เขาจะปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนได้อย่างไร ยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอยได้อย่างไร
พูดได้ว่า เฉินเป่ยช่วยชีวิตของเขาไว้แล้ว หากไม่มีการช่วยเหลือของเขา จางเป่าเฉิงในเวลานี้ เกรงว่าคงกลายเป็นตัวตลกของทุกคนไปตั้งแต่นานแล้ว ต้องยอมรับสายตาที่แตกต่างสารพัด
จางเป่าเฉิงส่งสายตาที่ซาบซึ้งใจไปยังเฉินเป่ย ส่วนเฉินเป่ยไม่รู้อะไรทั้งสิ้น เขาย่อมไม่ใส่ใจความคิดภายในของจางเป่าเฉิงเป็นธรรมดา ที่เขาทำเรื่องพวกนี้ เป็นเพราะตระกูลหลีโดยแท้ เพื่อหลีชิงเยียนผู้หญิงของเขา
“คะแนนอันนี้ นายพอใจแล้วรึยัง?” ผู้อาวุโสท่านนั้นมองเฉินเป่ยอย่างเย็นชา ยกแบบตารางในมือขึ้น
บนตารางอันนี้ เขียนเติมคะแนนหินหยาบของจางเป่าเฉิง คะแนนสูงมาก ห่างไกลกับคะแนนของผู้เข้าแข่งขันหลายคนก่อนหน้านี้อยู่มาก
อัญมณีสองสี ของในตำนานที่คนทั้งหมดไม่เคยเห็นด้วยตาตนเองปรากฏขึ้นตรงหน้าของผู้ตัดสินเหล่านี้และคนทั้งงาน เดิมทีพวกเขาไม่มีโอกาสจะให้คะแนนต่ำได้เลย
ส่วนสายตาที่ผู้ตัดสินเหล่านี้มองทางเฉินเป่ยก็มีความเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งนิดๆ เฉินเป่ยปกป้องจางเป่าเฉิงขนาดนี้ สำหรับพวกเขานั้น ระหว่างเฉินเป่ยกับจางเป่าเฉิง จะต้องมีความสัมพันธ์อะไรที่พวกเขาไม่รู้แน่นอน
เฉินเป่ยมองตารางของผู้อาวุโสแวบหนึ่ง ดวงตาทั้งคู่ยังคงสงบดุจน้ำนิ่ง ไม่มีการสั่นไหวใดๆ สักนิด เหมือนว่าคะแนนบนตารางนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับเขา
“ผมเพียงแค่ทำไปตามหลักความยุติธรรม” เฉินเป่ยเอ่ยปากนิ่งๆ ถือแบบตารางขึ้น เดินไปยังโต๊ะถัดไป
“ฉันรับหน้าที่ผู้ตัดสินของสุดยอดดาบสามเล่ม กลัวว่าพอเทียบจำนวนครั้งที่เข้าร่วมยังมากกว่าเสียอีก คงไม่ต้องให้นายมาวิจารณ์อย่างสะเพร่า” ผู้อาวุโสท่านนั้นทำเสียงฮึดฮัดด้วยสีหน้าดูแย่ เขาไม่พอใจเป็นธรรมดา คาดไม่ถึงจะโดนเจ้าหนุ่มที่ทำตัวลึกลับและปรากฏตัวต่อสังคมคนนี้ดึงความสนใจไปหมดเลย
ส่วนผู้ตัดสินคนอื่นที่เคยมีเรื่องบาดหมางกับจางเป่าเฉิงเหล่านั้น สายตาเผยความเสียใจและผิดหวังนิดๆ……เห็นได้ชัดว่าคะแนนอันนี้ยากมากที่จะทำให้จางเป่าเฉิงตกรอบแรกไปได้ เพราะความจริงสูงเหลือเกิน ใกล้ทำลายสถิติในประวัติศาสตร์รอบแรกแล้ว
อัญมณีสองสีช่างพิเศษเหลือเกิน ต่อให้ไม่พึ่งหินหยาบสี่ก้อนอื่น เพียงแค่อัญมณีสองสีก้อนเดียวก็สามารถทำให้จางเป่าเฉิงอยู่ในตำแหน่งไม่แพ้ตั้งแต่เกิดแล้ว
แต่ว่าไม่นาน หลายคนนี้พูดคุยกันส่วนตัวสองสามประโยค เหมือนบรรลุข้อตกลงอะไรแล้ว ไม่นานถึงสงบลงมากัน สายตาที่มองทางจางเป่าเฉิงชั่วขณะนั้นเปลี่ยนไปมีเลศนัย
ผู้ตัดสินที่เหลือเหล่านั้นตามฝีเท้าของเฉินเป่ยไป ไม่นานก็เดินผ่านโต๊ะของจางเป่าเฉิงไป ให้คะแนนในแต่ละโต๊ะ ลงคะแนนไปทีละอัน
รอจนพวกเขาเดินมาถึงหน้าโต๊ะตัวที่สิบหก หลังจากนำผลคะแนนที่ทุกคนลงเสร็จกลับมาถึงหน้าโต๊ะผู้ตัดสิน แต่ละคนนั่งลงมา ใช้เวลาสั้นๆ จัดเรียงลำดับ และให้พิธีกรขึ้นเวทีประกาศลำดับ
“จะประกาศผลแล้ว” ตอนที่พิธีกรขึ้นเวที หลีชิงเยียนใบหน้าเคร่งขรึมฉับพลัน ชั่วขณะนั้นประหม่าอยู่มาก
ถึงแม้เธอจะเห็นการกำเนิดของอัญมณีมากับตาตนเอง จางเป่าเฉิงมีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว แต่เธอยังอดประหม่าอยู่บ้างไม่ได้
พิธีกรหยิบการ์ดเล็กขึ้น กวาดสายตามองแวบหนึ่ง ยิ้มเอ่ยปาก “สุดยอดดาบสามเล่มรอบนี้พิเศษกว่าครั้งก่อนๆ นิดหน่อย ทุกคนรู้กันหมดแล้วว่าคนที่เข้าร่วมสุดยอดดาบสามเล่มครั้งนี้ นอกจากม้ามืดของยุคใหม่ ยิ่งมีบุคคลชื่อดังที่อาวุโสกว่าปรากฏตัวด้วย ส่วนการต่อสู้ของสุดยอดดาบสามเล่มในครั้งนี้ ก็ดุเดือดกว่าหลายปีก่อนมากเหลือเกิน”
“สุดยอดดาบสามเล่มในรอบแรก ต้องมีคนจากไป มีคนอยู่ต่อ นี่คือความเป็นจริงที่โหดร้ายมาก แต่สิ่งที่ผมนึกไม่ถึงคือคนเหล่านี้ที่จากไปในครั้งนี้ ทำให้ผมตกใจอย่างมาก”
“คนแรกที่ตกรอบคือ…….เทพพนัน”
พิธีกรตะโกนชื่อหนึ่งออกมา ชั่วพริบตาเดียว ทั้งที่นั่งผู้ชมเกิดความวุ่นวายใหญ่โตขึ้น
“เทพพนัน เป็นไปได้ยัง…เทพพนันตกรอบไปเป็นคนแรก! ฉันไม่เชื่อ!”
“ก่อนหน้าฉันเห็นเทพพนันแสดงออกดีมากอยู่เลย คิดไม่ถึงว่าเขาคือลำดับสุดท้าย! ฉันรับไม่ได้!”
ในใจผู้ชมแต่ละคนสั่นเทา ลำดับสุดท้ายนั้น คนแรกที่ตกรอบก็คือเทพพนันผู้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทุกหัวระแหง นี่ทำให้คนนับไม่ถ้วนต่างตื่นตกใจอย่างมาก
“ตึง!”
ภาพเงาคนคนนั้นที่ถูกคนนับไม่ถ้วนขนานนามว่า“เทพพนัน” ตอนได้ยินผลประกาศ ทันใดนั้นก้นกระแทกลงไปบนเก้าอี้ สีหน้าแวบเดียวเปลี่ยนไปดูแย่ถึงที่สุด
สายตาแต่ละคู่ค่อยๆ รวมตัวเข้ามา เทพพนันสีหน้าซีดเซียว จ้องมองพิธีกรด้วยสายตาที่ยากจะเชื่ออยู่ตั้งนาน จากนั้นค่อยๆ ถอนหายใจยาวๆ ทีหนึ่ง เหมือนว่าในช่วงสั้นๆ เขาได้แก่หง่อมลงไปมาก ไม่มีความมั่นใจและความสงบแบบตอนที่พึ่งเดินเข้ามาโดยสิ้นเชิง เหมือนว่าเขาในเวลานี้ เดิมทียากจะแบกรับฉายา“เทพพนัน”ชื่อนี้ไว้ได้
“ช่างเถอะ กล้าพนันก็กล้ายอมรับผล ดูแล้วฉันคงแก่ไป” เทพพนันเงยหน้าถอนหายใจยาว หัวเราะอย่างขมขื่นหมุนตัวกลับออกไปอย่างรู้ตัวดีมาก
“ถ้าไม่มีโฆษณาเกินจริงครั้งนั้น ใครจะรู้ว่านายเป็นเทพพนัน?” บนที่นั่งผู้ตัดสิน ผู้อาวุโสท่านนั้นมองภาพด้านหลังของเทพพนันออกไป เย้ยหยันอย่างเหยียดหยาม
“หมายความว่าอะไร?” ผู้ตัดสินอีกท่านหนึ่งเห็นได้ชัดว่ามาเข้าใจ
“เทพพนัน ไม่ใช่แค่ในอดีตยืมเหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่งทำการเอามาใช้โดยไม่ชอบและโฆษณาเกินจริงเหรอ ถึงทำให้คนรู้จักไปทั่ว ความสามารถที่แท้จริงในด้านการพนันเพชรพลอยของเขายังไม่ถือว่าโดดเด่น” ผู้อาวุโสท่านนั้นพูดวิจารณ์แบบเรียบนิ่ง เหมือนไม่ได้เห็นเทพพนันอยู่ในสายตาโดยสิ้นเชิง
“ผู้ตัดสินกานพูดถูก” ผู้ตัดสินอีกท่านหนึ่งยิ้มพูดเอาใจ พวกเขาหลายคนต่างเป็นผู้ตัดสิน แต่พวกเขากลับเคารพและหวาดกลัวต่อผู้ตัดสินกานท่านนี้ยิ่งกว่า เพราะความรู้ประสบการณ์ของผู้ตัดสินกานช่างลึกซึ้งเหลือเกิน อย่างที่เขาพูดไป จำนวนครั้งที่เขาเคยเป็นผู้ตัดสินของสุดยอดดาบสามเล่ม เทียบกับจำนวนครั้งที่พวกเขาสองสามคนนี้เข้าร่วมนับขึ้นมายังมากกว่า
และตอนที่เขาชี้แนะ ผู้ตัดสินที่เหลือเหล่านี้ย่อมถือโอกาสทำตามเป็นธรรมดา
แต่ตอนที่ผู้ตัดสินเหล่านั้นกำลังฟังคำแนะนำของผู้ตัดสินกานท่านนี้ มีเพียงเฉินเป่ยผู้เดียวที่แอบสาดส่องสายตาไปยังเทพพนันคนนั้น สายตาล้ำลึกอย่างน่าประหลาดใจ
ผ่านไปไม่นานมาก พิธีกรประกาศชื่อของผู้ที่ตกรอบแต่ละคน ภาพเงาแต่ละคนค่อยๆ ลุกขึ้นออกไป พวกเขามีบางคนเป็นผู้อาวุโสในวงการพนันเพชรพลอย มีบางคนเป็นม้ามืดที่ทางการสุดยอดดาบสามเล่มในครั้งนี้เลือกมา แต่ในรอบแรก พวกเขาทั้งหมดต่างโดนปัดตกรอบไปอย่างไร้ปรานี
บนที่นั่งผู้ชม จากตอนแรกที่ยากยอมรับได้ มาถึงตอนท้ายค่อยๆ ชินชา จนกระทั่งผู้อาวุโสที่มีชื่อในวงการพนันเพชรพลอยท่านหนึ่งออกไป เพียงแค่ทำให้บนที่นั่งผู้ชมเกิดการทอดถอนใจ ไม่มีความตกใจและไม่มีทางยอมรับได้แบบก่อนหน้าหลงเหลืออยู่
และจางเป่าเฉิงที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้รับความสำคัญจากผู้ชมมากนัก ทว่าเพราะอัญมณีสองสีขึ้นมาเป็นลำดับต้นๆ จึงยึดครองตำแหน่งอันดับที่สี่ไป
ส่วนตอนที่ประกาศลำดับที่หนึ่ง ที่นั่งผู้ชมที่ไม่มีปฏิกิริยาร้อนแรงเกินไปอยู่นาน ในที่สุดก็มีปฏิกิริยาอีกครั้งหนึ่ง
“เทพเมถุน ฉันเดาไม่มีผิดสักนิดเดียว ที่แท้เป็นเทพเมถุน หลังเขาออกมาโลกภายนอกใหม่ ที่แท้ก็กระตุ้นความฮือฮาอีกครั้งหนึ่ง!”
“เทพเมถุน เป็นตำนานผู้ไม่แพ้ที่เล่าลือกันมาจริงด้วย……ครั้งก่อนเขาจัดการโลกการพนันเพชรพลอยจนไร้ศัตรู ครั้งนี้ยังอยากแสดงตำนานอีกเหรอ?”
“ตำแหน่งชนะเลิศในครั้งนี้ กลัวว่าคงถูกเทพเมถุนจองไว้ล่วงหน้าแล้ว!”
บนที่นั่งผู้ชม คนดูแต่ละคนถกเถียงถึงเทพเมถุนอยู่ ความแข็งแกร่งของเทพเมถุน พอจะทำให้คู่ต่อสู้หยุดหายใจได้
ถึงแม้พวกเขาคือคนสองคน แต่พวกเขาในฐานะพี่น้องแท้ๆ แทบจะเป็นร่างเดียวกัน ในด้านการพนันเพชรพลอยเรียกว่าพวกเขาความสามารถเกินกว่าปกติ พอที่จะสามารถทำให้คนจิตใจสั่นเทาได้
“เทพเมถุน หัวหน้าสมาคมจางคงอันตรายแล้ว……” หลีชิงเยียนพูดพึมพำ
เธอรับรู้เรื่องราวบางส่วนเกี่ยวกับเทพเมถุนมา ในการต่อสู้ที่ดุเดือดเช่นนี้ เทพเมถุนครอบครองที่หนึ่งได้อย่างมั่นคง ด้วยเหตุนี้สามารถเห็นได้ถึงความสามารถที่น่ากลัวของเทพเมถุน
“ดี! ไม่เสียแรงที่เป็นบุคคลที่คุณปู่เชิญออกมาด้วยตัวเอง เก่งกาจจริง!” ในโซนแขกผู้มีเกียรติวีไอพีของที่นั่งผู้ชม หลีเช่าเทียนมองพิธีกรประกาศชื่อของเทพเมถุน เขาที่เรียบนิ่งสงบมาแต่ไหนแต่ไรลุกขึ้นมาด้วยความฮึกเหิมสักหน่อย มองเทพเมถุนที่อยู่ระยะไกล ชั่วขณะหนึ่งในใจยากสงบ
ชัยชนะของเทพเมถุนเป็นตัวแทนความสำเร็จของหลีเช่าเทียน เพราะเทพเมถุนลงแข่งเพื่อหลีเช่าเทียน
หลีเช่าเทียนพยักหน้าอย่างพอใจแล้ว มุมปากของเขาวาดเส้นรัศมีวงกลมที่หนาวเย็นขึ้น มองหลีชิงเยียนที่อยู่ห่างไป เผยรอยยิ้มที่เหน็บหนาวผิดปกติออกมา
หลีเช่าเทียนอดแสดงสีหน้าทระนงองอาจไม่ได้ หลีชิงเยียนคงคิดว่าสามารถดึงจางเป่าเฉิงหัวหน้าสมาคมคนนี้มาได้ก็แกร่งมากแล้ว แต่หลีหงกลับมีเครือข่ายที่แกร่งยิ่งกว่าหลีชิงเยียน แม้กระทั่งเชิญตำนานผู้ไม่แพ้ของวงการพนันเพชรพลอยมาได้
ในวงการพนันเพชรพลอย ตำนานผู้ไม่แพ้เคยปรากฏตัวเพียงสองรอบ รอบหนึ่งในนั้นก็คือเทพเมถุน สำหรับอีกรอบหนึ่ง……ยิ่งลึกลับกว่าเทพเมถุนเข้าไปอีก แม้กระทั่งไม่มีเคยมีใครเจอเขา
คนที่ดูมายาแบบนี้ มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ยังพูดยาก ดังนั้นในการรับรู้ของผู้คนมากมาย เทพเมถุนยิ่งเป็นตำนานผู้ไม่แพ้ของวงการพนันเพชรพลอย
แม้แต่หลีหงเจ้านายใหญ่ในตำนานท่านนี้ยังเชิญมาแล้ว การกวาดล้างสุดยอดดาบสามเล่มครั้งนี้ คงไม่ใช่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป
หลีเช่าเทียนมองทางหลีชิงเยียนที่ห่างออกไป หัวเราะแบบมีเลศนัย เอ่ยปากบอกกับลูกน้องที่อยู่ด้านข้าง “ไป ให้พวกเราไปสอบถามหน่อย ความคิดในใจของท่านประธานบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปในเวลานี้…….”
นี่คือการรังแกและกดขี่อย่างโจ่งแจ้ง
