“หุบปากไปให้หมด” พร้อมกับเสียงรองเท้าหนังที่มากับการก้าวของหลีเช่าเทียน ทุกคนต่างเงียบ ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจ คนในตระกูลหลีจำนวนนับไม่ถ้วนต่างเงียบดั่งจักจั่นในฤดูหนาว เมื่อมองไปที่ดวงตาของหลีเช่าเทียนยิ่งเพิ่มความหวาดกลัวเป็นเท่าตัว
สีหน้าที่เต็มไปด้วยความนิ่งขรึมของหลีเช่าเทียน ทำให้ดูไม่ออกเลยว่าเขากำลังโกรธเป็นไฟ ทว่าเขาก็ยังมีความสง่าผ่าเผยอยู่ ทำให้คนในตระกูลหลีต่างยอมก้มหัวให้แก่เขา
ในขณะที่เขาเอ่ยปากพูด ภายในใจของคนบางคนในตระกูลหลีก็ยังมีความสั่น และความสง่าที่เช่นนี้เกิดขึ้นกับหลีหงเท่า แม้แต่หลีเช่าหงก็ไม่มี
ฉะนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างสายเลือดโดยตรงภายในตระกูลหลี มีการเล่ากันตั้งนานแล้วว่าหลีเช่าเทียน ได้รับการถ่ายทอดพลังวิชาต่างๆจากหลีหงเองกับมือ ไม่ช้าไม่เร็วตระกูลหลีก็ต้องตกเป็นของหลีเช่าเทียนอยู่ดี
ก็เป็นเช่นจริงๆ สาขาต่างๆของตระกูลหลีต่างเคารพนับถือหลีเช่าเทียนเป็นอย่างมากทำให้สถานะของเขาในตระกูลเลื่อนขึ้นอย่างไม่หยุดนิ่งเลยทีเดียว
ทันทีที่หลีเช่าเทียนพูดก็ทำให้หญิงสาวตะลึงและมองไปที่เขาแล้วพูดอย่างไม่หวั่นเกรงใดๆ “อย่างแกนะเหรอ คนของตระกูลหลีพวกนี้เดี๋ยวพวกเราสั่งสอนให้เอง คงไม่ต้องถึงมือเด็กน้อยอย่างคุณหรอกมั้ง?
“ออกไปให้พ้น ให้พ่อแม่พวกแกมาเถอะ!”
เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวเหล่านั้นไม่มีความเกรงกลัวหลีเช่าเทียนเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่รู้ทั้งรู้ แต่ก็ยังพูดอย่างหยิ่งผยองและไร้ยางอาย
“ พ่อแม่งั้นเหรอ!” หลีเช้าเทียนก้มลงและหัวเราะขึ้นมาในทันที เขากวาดสายตาไปที่หญิงสาวเหล่านั้นด้วยแววที่สัมผัสได้ถึงการะชดประชัน และถามอย่างเบาว่า “พวกหล่อนรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”
“แกจะเป็นใครมันก็เรื่องของแก ตระกูลหลีของพวกแกส่งพวกไร้ความสามารถอ่อนแอแบบนี้มาแต่งงานกับเรา แล้วยังมีหน้ามาทำเย่อหยิ่งต่อหน้าเราอีกงั้นหรือ เอาอะไรมามั่นใจขนาดนี้!” ทันใดนั้นก็มีหนึ่งในหญิงสาวเหล่านั้นสบถคำด่าเหมือนคนปากร้ายที่ไร้ซึ่งเหตุผลอย่างสิ้นเชิง
หลีเช่าเทียนมองไปที่หญิงสาวเหล่านั้น และหันไปมองเฉินเป่ยอย่างช้าๆ เห็นเพียงเฉินเป่ยที่ยืนอยู่ข้างและยิ้มกริ่มอยู่ตรงนั้น ราวกับหลีเช่าเทียนในตอนเริ่มแรก ทำให้หลีเช่าเทียนถึงกับชะงักในทันที
หลีเช่าเทียนหัวเราะอย่างเย็นชา แล้วมองไปที่หญิงสาวเหล่านั้น จากนั้นพูดด้วยเสียงที่เยือกเย็น “เพื่อเห็นแก่คนเก่าคนแก่ในตระกูลพวกหล่อน ฉันให้โอกาสพวกหล่อนรีบขอโทษ และไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีกต่อไป”
“อย่างแกนะเหรอ มีหน้ามาไล่พวกฉัน เชื่อไหมล่ะ ว่าฉันจะทำให้แกไม่มีโอกาสได้เห็นดวงอาทิตย์ในเช้าพรุ่งนี้อีก หนึ่งในหญิงสาวตวาดขึ้นมาด้วยความเกรี้ยวกราด
“นั้นนะสิ กล้าดีอย่างไงมาพูดแบบนี้กับเรา แกคงไม่รู้ว่าผลที่ตามมาคืออะไรใช่ไหม!”
หญิงสาวเหล่านี้เต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจ และท่าทางที่ไม่เกรงกลัวหลีเช่าเทียนเลยแม้แต่น้อย ทว่าคนในตระกูลหลีที่อยู่โดยรอบเมื่อเห็นความโง่เขลาและไม่หวั่นกลัวของหญิงสาวเหล่านี้ ในแววตาของพวกเขาต่างสัมผัสได้ถึงความน่าขันและสงสารในเวลาเดียวกัน
“ฮ่าๆๆๆ…” หลีเช่าเทียนจ้องไปที่หญิงสาวที่ดุจภูเขาสองสามลูกนี้ มองไปที่พวกหล่อนแล้วหัวเราะเยาะเย้ย ทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้นที่ละคำ “ตามคำสั่งของฉันในนามของตระกูลหลี เพื่อตัดขาดความสัมพันธ์กับบางครอบครัวในตระกูลพวกหล่อน จากนั้น…ก็เอาพวกหล่อนออกไปให้พ้น!”
ทั้งงานเกิดความเงียบสงัด เสียงของหลีเช่าเทียนจึงดังก้องไปในอากาศ จนทำให้หญิงสาวที่เเข็งแกร่งเหล่านี้ถึงกับอึ้งไปในทันที
พวกเขาไม่คาดคิดว่าหลีเช่าเทียนจะโหดร้ายเเกรี้ยวกราดได้ถึงเพียงนี้ ซึ่งต่างกับตอนที่เขาไม่เคลื่อนไหวอย่างสิ้นเชิง
นี่จะเป็นการตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขาหรือไม่?”
หญิงสาวเหล่านี้ตะลึงอยู่พักใหญ่ ถึงจะรู้สึกตัวและตื่นตระหนก
แม้ว่าพวกหล่อนจะมีครอบครัวอื่นในตระกูลรองรับ แต่พวกหล่อนก็ยังสามารถแต่งงานกับคนในตระกูลหลีที่ยิ่งใหญ่นี้ มันก็เพียงพอแล้วที่ครอบครัวของพวกหล่อนจะพลอยได้รับความรุ่งโรจน์ไปด้วย หากพวกหล่อนถูกไล่ออกจากตระกูลหลี ภายในรุ่งเช้าไม่กี่ชั่วโมงตระกูลใหญ่ทั้งหลายในเยี่ยนจิงก็จะต้องรู้เรื่องแน่ ทั้งตระกูลและหน้าตาก็ต้องขายหน้าด้วยน้ำมือพวกหล่อนเอง
เมื่อถึงเวลาที่ตระกูลหลีต้องการกำจัดพวกหล่อนออกไป แต่เกรงว่าตระกูลของพวกหล่อนจะไม่ยอมง่ายๆเป็นแน่
“แก…แกมีสิทธิ์อะไรมาทำอย่างนี้! แกทำไม่ได้นะ แกคนเดียว จะเป็นตัวแทนของทั้งตระกูลได้อย่างไง” หนึ่งในหญิงสาวที่น่าเหลือเชื่อตะโกนโต้อย่างบ้าคลั่ง
“เพียงเพราะฉันเป็นหลีเช่าเทียน ไม่ได้งั้นเหรอ?” หลีเช่าเทียนยิ้มมุมปากขึ้น และเอ่ยเบาๆว่า
“เพียงเพราะฉันเป็นสายเลือดของพ่อแม่ฉัน ทั้งยังสามารถกำจัดครอบครัวแกออกไปจากเยี่ยนจิงได้อีกนะ!” หลีเช่าเทียนใช้มือข้างหนึ่งหยิบแก้วไวน์บนถาดของพนักงานเสิร์ฟ พลางพูดเบาๆไปด้วย
สีหน้าของหญิงสาวคนนั้นซีดเผือก เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเลยทีเดียว หล่อนและหญิงสาวคนอื่นๆจ้องไปที่หลีเช่าเทียน ใบหน้าของเธอและพวกหล่อนเต็มไปด้วยความหวั่นกลัว และตัวสั่นไปทั้งตัว
หลี! เช่า! เทียน!
เขาคือหลีเช่าเทียน!
หญิงสาวเหล่านี้ไม่คาดคิดมาก่อนว่า ชายตรงหน้าของพวกหล่อนจะเป็นหลีเช่าเทียน
“แก…แท้ที่จริงแล้วแกคือหลีเช่าเทียน!” หญิงสาวต่างอยู่ในความโกลาหลและตื่นตระหนก แม้ว่าพวกหล่อนจะเป็นคนในตระกูลหลี แต่พวกหล่อนชินกับอยู่อย่างโดดเดี่ยวแล้ว เพราะเมื่อแต่งงานกับคนในตระกูลหลีก็ประหนึ่งลูกที่ถูกทอดทิ้ง จึงแทบจะไม่ได้สนใจเรื่องของตระกูลหลี แม้แต่หลีเช่าเทียนยังไม่เคยพบ และข่าวสารเกี่ยวกับหลีเช่าเทียนก็น้อยมากที่จะได้รับรู้
ทว่าพวกเขารู้อยู่แล้ว่าหลีเช่าเทียนเป็นใคร เขาคือคนที่พวกหล่อนไม่อาจจะรับมือได้แท้จริง!
“แม้แต่คุณชายหลีก็ยังไม่รู้จัก หมูตอนอย่างพวกหล่อนก็สมควรตายได้แล้ว”
“นั้นนะสิ ไม่รู้จักคุณชายหลีเนี่ยนะ เมื่อครั้งอยู่ในตระกูลเดิมก็ไม่ได้มีสถานะอะไร แต่มาอยู่ในตระกูลหลีกลับทำเย่อหยิ่งผองซะ
คนในตระกูลหลีหลายคนที่เห็นเหตุการณ์ ต่างแสดงสีหน้าที่เย้ยหยันออกมา
“คุณชายหลี เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้มันเป็นเพียงแค่เรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น…” ในที่สุด หนึ่งในหญิงสาวก็ก้มหัวลง และมองไปที่หลีเช่าเทียนด้วยใบหน้าที่ยิ้มทั้งน้ำตา
“เข้าใจผิดงั้นเหรอ?” หลีเช่าเทียนจ้องไปที่หญิงสาวเหล่านั้น และเอ่ยอย่างเนิบๆ “ถ้าแกบอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดงั้นเหรอ?”
น้ำเสียงของหลีเช่าเทียนที่ไร้ซึ่งความโกรธเคือง กลับทำให้หญิงสาวเหล่านั้นสั่นเกรงและตกใจกลัวเป็นอย่างมาก
“คุณ…คุณชายหลี…” พวกหล่อนร้องขอความเมตตา แต่หลีเช่าเทียนไม่มอบโอกาสนี้ให้กับพวกหล่อน
จึงหันไปบอกผู้ใต้บังคับบัญชาของตระกูลหลีท่านหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้าง “พูดในสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไป และในขณะเดียวกันพรุ่งนี้เช้าจะมีแถลงการณ์จากคฤหาสน์ตระกูลหลี ว่าในงานเลี้ยงคืนนี้มีคนดูแคลนและทำร้ายฉัน ฉะนั้นฉันจึงไล่ออกจากตระกูลหลีไป!”
ทันทีที่หลีเช่าเทียนพูดขึ้น ผู้คนต่างสงบลงในทันที มีคนผ่าออกมาจากฝูงชน ชายเหล่านั้นมีลำตัวที่สูงและพละกำลังที่มากกว่าหญิงสาวเหล่านั้น และมุ่งไปหาหญิงสาวเหล่านั้นด้วยความเก็บกด
“คุณชายหลี พวกเราไม่รู้จริงๆว่าคือท่าน ไหว้แล้วหล่ะอย่าทำแบบนี้เลย!” หญิงสาวเหล่านั้นที่ดูตื่นตระนกกล่าว เพราะรู้สึกผิดแล้วจริงๆ
ตอนนี้พวกหล่อนรู้สึกเกลียดตัวเองเป็นอย่างมาก เมื่อตอนที่พวกหล่อนอยู่ในตระกูลหลีพวกหล่อนกลับไม่เคยเห็นหลีเช่าเทียนเลยแม้แต่น้อย ถ้าหากมีหนึ่งในนี้เคยเห็น ไม่มีทางที่จะเกิดเรื่องแบบนี้แน่!
หลีเช่าเทียนไม่แม้แต่จะรับคำร้องขอของคนพวกนี้ ได้แต่โบกมือไปมาอย่างช้าๆ
“รีบออกไปให้พ้นซะ” บอดี้การ์ดร่างสูงคู่กาย ได้ลากหญิงสาวออกไปทีละคน ทีละคน
ทั้งงานเงียบกริบ ความเย่อหยิ่งและอวดดีของหญิงสาวเหล่านั้นไม่เหลือให้เห็นเลยแม้แต่น้อย ในขณะเดียวกันกลับเหลือเพียงความตื่นตระหนกและเกรงกลัว
หลังจากนั้นไม่นานนัก หลีเช่าเทียนก็เงยหน้าขึ้น มองไปที่ผู้คน และพูดอย่างเบาๆ “มีใครอยากตามไปอีกมั้ย”
เสียงกรีดร้องด้วยความดิ้นรนของหญิงสาวค่อยๆจางหายไปจากบ้านตระกูลหลี ในตอนนี้ผู้คนจำนวนมากในตระกูลหลีต่างมองหันไปมามองหน้ากัน และมองไปที่หลีเช่าเทียนด้วยความเกรงกลัวและชื่นชม
“คุณชายหลีช่างแกร่งกล้าเหนือใครๆ หายนะครั้งใหญ่ถูกกำจัดไปจากบ้านตระกูลหลีแต่โดยดี” ทันใดนั้นเองชายชราผมขาวจับมือเขาแล้วกล่าวอย่างถ่อมตน
“นั้นสิ เมื่อกี้พวกหล่อนก็รังคนอื่น พวกเราเองต่างก็เคยโดยทำแบบนั้นเหมือนกัน ครั้งคุณชายหลีมาเพื่อช่วยพวกเราด้วยความกล้าหาญอย่างมีชั้นเชิงจริงๆ มีพระมาโปรดแล้ว!
ในไม่ช้า ชายชราก็พูดพร้อมกับเงยหัวขึ้น ทำให้คนในตระกูลหลีหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน สักพักหลีเช่าเทียนก็อยู่อาการแกว่งเขว
“หลีเช่าเทียน มีความสามารถจริงๆด้วย” ซูเหลยที่ยืนข้างหลีชิงเยียนพูดขึ้น
“เธอคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ” อยู่ๆหลีชิงเยียนก็พูดขึ้น ทำให้ซูเหลยถึงกับผงะและงงงวย
ซูเหลยหันไปมองหลัชิงเยียนด้วยความตกใจ เมื่อเห็นหลีชิงเยียนจ้องไปที่หลีเช่าเทียนด้วยดวงตาที่งดงามของเธอ ที่ส่ายหัวไปมาและถอนหายใจ “คุณประเมินคนในตระกูลนี้ต่ำไปแล้ว นี่เป็นเพียงแผนการที่หลีเช่าเทียนได้วางแผนมานานแล้วต่างหาก”
“กลยุทธ์?” ซูเหลยมองไปที่ร่ายที่ร่างที่เยือกเย็นของหลีชิงเยียน แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
สิ่งที่เกิดขึ้นในเมื่อกี้ดูเป็นธรรมชาติซะจนดูเหมือนว่าไม่เป็นไปตามที่หลีเช่าเทียนตั้งใจไว้เหมือนกัน
“นี่เป็นสิ่งที่หลีเช่าเทียนทำให้คนที่ยังใหม่กับตระกูลหลูเห็นเท่านั้น หลายคนในตระกูลหลี หลายคนในตระกูลหลีไม่สนใจเกับความอ่อนแอของตระกูลหลีเลย แม้ว่าไม่เคยเจอหลีเช่าเทียนมาก่อน แต่เมื่อเขาทำเพียงเท่านี้ ก็ทำให้ต่างผู้คนในงานเชยชมเขาเป็นอย่างมาก เขาได้รับเกียรติศักดิ์มากมายและเป็นหนึ่งในคนที่หลีหงเลือก จึงต้องการสนับสนุนชื่นชมจากทุกคนอย่างแท้จริง” หลีชิงเยียนถอนหายใจ ใบหน้าอันสวยสดงดงามของเธอเต็มไปด้วยความซับซ้อนซ้อนเงื่อน…สิ่งที่เขาไม่ได้บอกกับซูเหลยคือ ระหว่างหลีเช่าเทียนและหลีเช่าหงนั้น หลีหยางต่างหากที่เป็นคนโปรดของหลีหง
ขณะที่ หลีชิงเยียนกำลังคุยกับซูเหลยอยู่นั้น หลีเช่าที่ได้รับคำชื่นชมมากมายอยู่ได้หับกลับมาและมแงไปที่เฉินเป่ย