บทที่ 515 แค่นี้เหรอ
หลีเช่าเทียนยืนกำโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอยู่พักใหญ่
เขาจ้องภาพที่อยู่ในหน้าจอทีวีตรงหน้า ในจอค้างอยู่ที่ภาพที่ยักษ์น้อยก่อนที่มันจะตาย
มันเต็มไปด้วยเลือด ใบหน้าของมันมีเลือดไหลออกมาจนทำให้ตาพร่าเลือนไปหมด!
“เอ๋อตงเฉิน..” หลีเช่าเทียนพูดขึ้นเนิบๆ น้ำเสียงของเขาเย็นยะเยือกอย่างแปลกประหลาด แถมยังแฝงไปด้วยแรงอาฆาตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด!
ก่อนหน้านี้เขาได้สัญญากับกองทหารการป้องกันสงครามเยี่ยนจิง ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับการทดลองล่าสุดชิ้นนี้ หลีเช่าเทียนต้องชดใช้ แต่หลีเช่าเทียนคิดไม่ถึงจริงๆ ว่ายักษ์น้อยจะตายเร็วขนาดนี้!
สำหรับเขาแล้ว ยักษ์น้อยอยู่คนละระดับกับเฉินเป่ยอย่างเห็นได้ชัด อย่างมากก็แค่พอสู้กับบอดี้การ์ดหญิงของหลีชิงเยียน
“ไปสืบประวัติของผู้หญิงคนนั้น ฉันอยากรู้ว่ามันเป็นใคร” หลีเช่าเทียนเอ่ยสั่ง
“ครับ” ลูกน้องบ้านหลีรับคำสั่งแล้ววิ่งออกไป
ไม่นานก็มีลูกน้องวิ่งเข้ามาอีก มันมาคุกเข่าลงตรงหน้าของหลีเช่าเทียนแล้วพูดว่า “คุณชาย ศพอยู่หน้าบ้านครับ คุณจะไปดูไหมครับ”
“ไป” หลีเช่าเทียนพูดอย่างเย็นชา
หลีเช่าเทียนเดินออกมาจากบ้านหลีอย่างรวดเร็ว เขาเห็นศพร่างใหญ่นอนแผ่หลาอยู่หน้าประตูบ้าน ด้วยสภาพน่าเวทนา
สีหน้าของหลีเช่าเทียนเปลี่ยนไป ความอาฆาตแผ่ซ่านอยู่รอบตัวเขา
“เห็นหรือเปล่าว่าศพมาอยู่ที่หน้าบ้านได้ยังไง” หลีเช่าเทียนพูดขึ้น
“ไม่ครับ ลูกน้องคนหนึ่งบอกว่าศพนี้หล่นมาจากฟ้า..” ลูกน้องบ้านหลีพูดอย่างอกสั่นขวัญแขวน
“หล่นมาจากฟ้างั้นเหรอ” หลีเช่าเทียนขมวดคิ้วแน่น ลูกน้องคนนั้นพยักหน้า “มันหล่นลงมาจากฟ้าครับ”
“หุบปาก!” สีหน้าของหลีเช่าเทียนไม่สบอารมณ์ เขาแผดเสียงออกมาว่า “พวกแกคิดว่าฉันโง่หรือไง กล้าเอาข้ออ้างแบบนี้มาหลอกฉันงั้นเหรอ!”
“คุณชายหลี ผมพูดจริงนะครับ มันหล่นมาจากฟ้าจริงๆ เรามีกล้องวงจรปิดชัดเจน” ลูกน้องคนนั้นพูดด้วยตัวสั่นเทิ้ม น้ำเสียงของเขาทั้งสั่นและกลัวเมื่อโดนหลีเช่าเทียนตวาดใส่
“หล่นลงมาจากฟ้า?” หลีเช่าเทียนนิ่งไป เมื่อได้ยินลูกน้องคนนั้นบอกว่ามีกล้องวงจรปิด อารมณ์ของเขาจึงเริ่มผ่อนคลายลง
“นี่คือภาพในกล้องวงจรปิดที่หน้าประตูครับ” ลูกน้องคนนั้นถือแท็บเล็ตด้วยมือที่สั่นระรัว หลีเช่าเทียนกวาดตามองไปที่หน้าจอแท็บเล็ต เขาเห็นภาพบนหน้าจอเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ มีศพหล่นลงมาจากฟ้าจริงๆ อีกทั้งบ้านหลีไม่ใช่ตึกที่เป็นสำนักงานใหญ่ เฉินเป่ยไม่มีทางโยนศพลงมาจากที่สูงได้อย่างแน่นอน
สีหน้าของหลีเช่าเทียนเคร่งขรึมขึ้น การกระทำของเฉินเป่ยเป็นการเยาะเย้ยตระกูลหลีอย่างเห็นได้ชัด ผลงานทดลองมูลค่าเป็นร้อยล้านถูกโยนทิ้งเหมือนกับขยะ สุดท้ายหลีเช่าเทียนยังต้องชดใช้อีก นี่จะไม่ให้เขาโมโหได้ยังไง!
หลีเช่าเทียนกัดฟันกรอด เฉินเป่ยแก้แค้นเขาอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ทำให้เขาโกรธเป็นอย่างมาก
“คุณชายหลี จะจัดการกับศพนี้ยังไงครับ” ลูกน้องของบ้านหลีที่ยืนอยู่อีกด้านเอ่ยขึ้นอย่างระแวดระวัง
“ส่งคืนกองทหารการป้องกันสงครามเยี่ยนจิง บอกพวกเขาว่าฉันจะจ่ายให้ทุกบาท แต่ฉันต้องการกองกำลังสนับสนุนจากพวกเขา ฉันต้องการให้พวกเขากำจัดราชาหลง!”
“ครับ”
……
กองทหารการป้องกันสงครามเยี่ยนจิงอยู่ในป่าที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มันเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างลายพราง ศูนย์กลางของอาณาเขตนี้มีอาคารสูงตระหง่าน ภายในอาคารคือศูนย์พละกำลังกองทหารการป้องกันสงครามเยี่ยนจิง คำสั่งทั้งหมดถูกสั่งออกมาจากที่แห่งนี้
ณ เวลานี้ภายในห้องทำงานที่อยู่ใต้ดินลึกกว่าห้าสิบเมตรด้านล่างอาคารการป้องกันสงคราม ชายชราที่แต่งกายด้วยชุดสีกรมท่ากำลังยืนฟังลูกน้องรายงานอยู่ตรงริมหน้าต่าง
คนที่มีตำแหน่งสูงสุดในกองทหารการป้องกันสงครามเยี่ยนจิงยืนรายงานให้ชายชราที่มีตำแหน่งสูงฟังอย่างหวาดระแวง
เพราะว่าชายชราตำแหน่งสูงท่านนี้ได้รับเหรียญรางวัลนับไม่ถ้วน นี่ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาห่างไกลจากคนอย่างชายชราท่านนี้
ชายชรายืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แววตาของเขามองทอดยาวออกไป เหมือนกำลังจ้องอะไรอยู่สักแห่ง แววตาของเขาทอดยาวไปไกลแสนไกล
พวกทหารระดับสูงรายงานเสร็จก็ยืนอยู่ที่เดิม เมื่อไม่มีคำสั่งของชายชราพวกเขาจึงไม่กล้าพูดอะไร แต่ทว่าชายชรายังยืนอยู่ตรงนั้นนานแสนนาน ราวกับเขาลืมเวลาที่ผ่านพ้นไป
คนพวกนั้นมองหน้ากันไปมา เขาไม่เห็นชายชราเป็นแบบนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ที่ชายชราพากองกำลังกลับมาจากเยี่ยนจิงครั้งก่อน ก็มักจะทอดมองไปไกลๆ เสมอ ไม่รู้ว่าในใจของเขาคิดอะไรอยู่
ผ่านไปเนิ่นนาน เสียงประตูห้องทำงานดังขึ้นอีกครั้ง
นายทหารระดับสูงคนหนึ่งวิ่งกุลีกุจอเข้ามา จากนั้นจึงพูดรายงานชายชราด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ตระกูลหลีโทรมาบอกว่าหลีเช่าเทียนอยากได้สิ่งทดลองชิ้นล่าสุดของเราเพิ่มอีก สิ่งทดลองก่อนหน้านี้ได้รับความเสียหายครับ หลีเช่าเทียนบอกว่าราชาหลงอยู่ที่เยี่ยนจิง ขอแค่กำจัดราชาหลงได้ จะเสียเท่าไรเขาก็ยอมครับ”
“ตระกูลหลี!” แววตาของชายชราที่ทอดไปไกลชะงักลง จากนั้นความเย็นยะเยือกก็แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา จนทำให้อุณหภูมิในห้องต่ำลงไปอีก
พลทหารระดับสูงที่ยืนอยู่ข้างหลังต่างพากันตัวสั่นเทิ้ม ความน่าเกรงขามของชายชรายิ่งใหญ่มากจนทำให้พวกเขาตกตะลึง!
“บอกตระกูลหลีไปว่าถ้าเอาอาวุธที่แข็งแกร่งชิ้นสำคัญของพวกเราไปทำเรื่องไม่ดี ฉันจะไม่ช่วยเหลืออะไรเขาอีก!” ชายชราพูดออกมาอย่างเด็ดขาด
“ครับ!”
ขณะที่ทหารคนนั้นจะหันหลังเดินออกจากห้องทำงาน จู่ๆ ชายชราก็เอ่ยปากเรียกทหารคนนั้น
“เดี๋ยว”
ชายชราหันกลับมา คนที่ผ่านอะไรมามากมายแบบเขา จู่ๆ ก็มีสีหน้าสับสน เขานั่งลง ผ่านไปนานจนเขาถอนหายใจออกมา แล้วพูดพึมพำออกมาว่า “หลีหงมีบุญคุณกับฉันไม่น้อย ตำแหน่งที่ฉันมีอยู่ในตอนนี้ก็เป็นเพราะเขาด้วย ช่างเถอะ ฉันทำผิดต่อนาย…”
เมื่อชายชราเงยหน้าขึ้น น้ำเสียงของเขาสับสนจนยากที่จะอธิบายออกมา ชายชรากวาดตามองแล้วพยักหน้า “เอาสิ่งทดลองทุกชิ้นส่งไปให้หลีเช่าเทียน ให้เขาใช้งานได้ตามสบาย”
“นายพลครับ คิดให้ดีนะครับ นั่นมันเป็นหัวใจหลักของการป้องกันสงครามเลยนะครับ ถ้าส่งไปทั้งหมดแล้วเกิดเสียหายขึ้นมา มันจะเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เลยนะครับ!”
“นายพลครับ ทำแบบนี้ดูไม่ค่อยจะดีเท่าไรนะครับ คุณชายตระกูลไฮโซ ไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งทดลองเยอะขนาดนี้ นี่มันเป็นขุมกำลังที่น่ากลัวมากเลยนะครับ!”
“เราได้ข้อมูลที่ต้องการแล้ว การที่จะสร้างกองกำลังพวกนี้ขึ้นมาใหม่นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่หนักหนา ไม่จำเป็นต้องขัดใจตระกูลหลี ถ้าผิดใจกับตระกูลหลี ชีวิตของฉันและนาย รวมไปถึงทั้งกองทหารการป้องกันสงครามเยี่ยนจิงจะอยู่ไม่เป็นสุข!”
ชายชรากวาดตามองให้พวกทหารเหล่านี้หุบปากและออกไป
ขณะที่พวกเขาเดินออกไปจากห้องทำงาน จู่ๆ ชายชราก็นั่งลงบนเก้าอี้อย่างไร้เรี่ยวแรง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสน “ราชาหลง ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้ไม่ใช่ยุคของนายอีกต่อไปแล้ว…”