บทที่596 ช่วยเขาที
ด้านนอกคฤหาสน์ตระกูลหลี มีฝุ่นฟุ้งกระจาย การสังหารจู่โจมมาไม่หยุด
รูปร่างเล่ยิงดุจเหยี่ยว ไวราวกับสายฟ้าแลบ แต่ละการโจมตีล้วนเป็นการสังหารที่สยองขวัญ
แต่ความเร็วของเฉินเป่ยกลับไวกว่า มักจะเร็วกว่าก้าวหนึ่ง หลบเลี่ยงการสังหารของฝ่ายตรงข้ามในชั่วขณะนั้น นี่คือศึกแห่งยุคสมัยครั้งหนึ่งเลยทีเดียว
ดวงตาเล่ยิงแข็งทื่อ หมัดคู่นั้นโจมตีสังหารเข้ามาแบบสยดสยอง ระเบิดรูปร่างขึ้น ไวยิ่งขึ้น เดิมทีไม่ให้โอกาสเฉินเป่ยได้หลบหลีกแต่อย่างใด ครั้งนี้หลบก็หลบไม่ได้แล้ว
“ตึง!” หมัดทั้งสองของเล่ยิงโจมตีบนหน้าอกของเฉินเป่ยอย่างแรง
ทั้งตัวของเฉินเป่ยกระเด็นออกไปโดยตรง
“ปึง!” เฉินเป่ยกระแทกลงบนกำแพงที่อยู่ไกลหลายสิบเมตรอย่างแรง กำแพงที่หนาแข็งนั้นยุบลงในชั่วขณะนั้น ทั้งตัวเขาโดนซากปรักหักพังของเศษหินทับไว้ ดูระเกะระกะอย่างยิ่ง
เฉินเป่ยดันเศษก้อนหินบนตัวออก ค่อยๆ ปีนขึ้นมาจากบนพื้น…แต่ทันทีที่ลุกขึ้นมา หมัดหนึ่งก็ต่อยมาฉับพลัน
“ตึง!” หมัดหนึ่งต่อยเข้ามาบนหน้าของเฉินเป่ยอย่างแรง พลังมหาศาลจู่โจม ทำให้ทั้งใบหน้าของเฉินเป่ยเหมือนเปลี่ยนรูปแล้ว เขาถูกหมัดนี้ต่อยจนลอยออกไปทั้งตัว
เฉินเป่ยยังไม่ได้สติเข้ามา ภาพเงาที่น่ากลัวของเล่ยิงนั้นก็จู่โจมเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง
“ปึง——!” เท้านั้นของเล่ยิงดุจเหล็กกล้าทุบโจมตี พลังสั่นสะท้าน
เฉินเป่ยโดนเหยียบย่ำเข้าในหลุมยุบของพื้นไปทั้งตัว คอนกรีตใต้ตัวเขาแตกร้าวพังลง ฝุ่นฟุ้งตลบอบอวลไปทั่ว
“เฉินเป่ย…” ที่ไกลออกไป ในรถไมบัค หลีชิงเยียนใบหน้าซีดเซียว เธอในเวลานี้ วิตกกังวลแบบไม่เคยเป็นมาก่อน
หลีชิงเยียนไม่เข้าใจ ทำไมเจ้าหมอนี่ถึงกล้าพุ่งออกไป
ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้างแล้ว เขาทำแบบนั้นคือออกไปหาที่ตายน่ะสิ
“ซูเหลย…เธอไปช่วยเขาหน่อย…เธอรีบไปช่วยเขาเร็ว เธอเก่งกาจขนาดนี้! รีบไปดูเขาหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง!!” หลีชิงเยียนสีหน้าซีดเผือด เธอคว้าแขนของซูเหลยไว้แน่น พูดอ้อนวอนอย่างร้อนใจ
ซูเหลยกวาดตามองเธอเบาๆ ทีหนึ่ง ในตาเหมือนมีอารมณ์ที่ซับซ้อนกำลังไหลเวียน
“ประธานหลี เขาไม่เป็นไรค่ะ” ซูเหลยตอบกลับ
ดวงตาหลีชิงเยียนตื่นตระหนกร้อนรน ในตาแอบมีน้ำตาเปล่งประกาย พูดเสียงหลง “ไม่เป็นไรได้ยังไงกัน คนคนนั้นต้องเป็นนักฆ่าแน่ ตอนนี้เขาอันตรายมาก!”
ความซับซ้อนในตาสีฟ้าเข้มของซูเหลยยิ่งเข้มขึ้น…วินาทีนี้ ในที่สุดเหมือนหล่อนรู้แล้วว่าทำไมหลีชิงเยียนถึงเป็นห่วงราชาหลงขนาดนี้…ผู้หญิงคนนี้ ภายนอกหนาวเหน็บดุจน้ำค้างแข็ง…แต่ภายในใจ…กลับสนใจห่วงใยราชาหลงเสียยิ่งใครทั้งนั้น… หลีชิงเยียน…เธอเก็บซ่อนอารมณ์ความรู้สึกของตนเองมาโดยตลอด…ซ่อนไว้ลึกเช่นนี้
ซูเหลยดึงมือของเธอเอาไว้ พูดด้วยเสียงต่ำ “คุณวางใจได้ เฉินเป่ยเขาจะต้องไม่เป็นอะไร จุดนี้ฉันสามารถรับประกันกับคุณได้…”
“ไม่เป็นอะไรได้ยังไงกัน!!” ใบหน้าหลีชิงเยียนซีดขาว ความชุ่มชื้นในดวงตานับวันยิ่งเข้มข้น เธอร้อนรนจนทำอะไรไม่ถูกถึงที่สุด สูญเสียการควบคุมอารมณ์ไปแล้ว
วินาทีนี้ แม้แต่ซูเหลยยังสัมผัสได้ส่วนหนึ่ง…หลีชิงเยียน…คาดไม่ถึงใส่ใจราชาหลงเช่นนี้? หรือว่าเธอรักเขาจริง……?
ซูเหลยลังเลอยู่ตั้งนาน ถึงค่อยๆ อธิบายว่า “เฉินเป่ยเขาเพียงแค่กำลังสำรวจความสามารถของฝ่ายตรงข้าม คุณวางใจได้ ทุกอย่างล้วนอยู่ในการควบคุมของเขา”
หลีชิงเยียนไม่เชื่อคำพูดของซูเหลยโดยสิ้นเชิง “เธอไม่ช่วย…งั้นฉันไปช่วยเขาเอง!” หลีชิงเยียนพลิกหาของในรถครู่หนึ่ง ในที่สุดพลิกหาปืนบราวนิงขนาดเล็กที่ซ่อนไว้ในรถกระบอกหนึ่งเจอ
ปืนบราวนิงอันนี้ หลังจากเธอเจอการลอบสังหารครั้งแรก เป็นเฉินเป่ยที่เตรียมพร้อมไว้ให้ ยัดปืนบราวนิงกระบอกหนึ่งไว้ระหว่างช่องที่นั่ง เพื่อเตรียมไว้สำหรับเรื่องไม่คาดคิด…ตอนนั้นหลีชิงเยียนเหน็บแนมเฉินเป่ยอย่างแรง…
เดิมทีเธอไม่เคยใช้ แม้แต่ใช้อย่างไรยังไม่รู้เลย…แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ เธอยังคงจะลงจากรถเพื่อช่วยคน หลีชิงเยียนในเวลานี้ถูกอารมณ์นั้นในใจยึดครองไว้ถึงที่สุด เธอเพียงแค่อยากช่วยเฉินเป่ย เธอไม่อยากให้เฉินเป่ยเกิดเรื่องอะไร ไม่อยากเด็ดขาด ไม่ได้เด็ดขาด
ซูเหลยทนดูต่อไปไม่ได้อยู่บ้าง จับมือของเธอไว้เบาๆ พูดขึ้นอย่างจริงจัง “หลีชิงเยียน คุณเชื่อฉัน เฉินเป่ยจะต้องไม่เป็นอะไร”
“ฉันไม่เชื่อ! ฉันจะไปช่วยเขา เธอปล่อยฉันนะ!” ใบหน้าหลีชิงเยียนซีดเซียว ในดวงตาที่แดงก่ำนั้นมีน้ำตาเอ่อเต็มไปหมด ทำเอาขนตาที่เรียวยาวงดงามของเธอเปียกชุ่ม เห็นได้ชัดว่าสับสนขนาดนั้น จนทำให้คนปวดใจ เธอในเวลานี้ถึงเป็นหลีชิงเยียนที่แท้จริง หลีชิงเยียนที่ไม่มีหน้ากากท่านประธานแต่อย่างใด ภายใต้ภูเขาน้ำแข็ง หัวใจของผู้หญิงที่แท้จริงได้เปิดเผยออกมาแล้ว
“หลีชิงเยียน แม้แต่ใช้ยังไงคุณยังใช้ไม่เป็น คุณเข้าไปมีแต่จะเพิ่มความยุ่งยาก…” ซูเหลยแย่งปืนบราวนิงในมือของหลีชิงเยียนมา พูดจาจริงจัง
หลีชิงเยียนเงยหน้าที่ในดวงตาเต็มไปด้วยหยดน้ำตาแวววาว มองซูเหลยแบบสับสนทำอะไรไม่ถูก “เธอ…ทำไมไม่เป็นห่วงเขาเลยสักนิด…?”
ซูเหลยถอนหายใจเบาๆ สีหน้าซับซ้อนขึ้นมามาก
ท้องฟ้าที่สูงหลายหมื่นไมล์ บนเครื่องบินลำหนึ่งกำลังถ่ายทอดสดภาพที่คมชัด พนักงานทีมทำงานจ้องสถานการณ์การต่อสู้บนหน้าจอไม่ขยับ สายตาของแต่ละคนล้วนสาดส่องความตื่นตระหนกออกมา พวกเขาถูกฝีมือสยองขวัญของเล่ยิงทำให้หวาดผวาค้างไปถึงที่สุด นี่…คือความสามารถแท้จริงของเล่ยิงเหรอ? สยองขวัญระดับนี้ ช่างสั่นสะเทือนผู้คนเหลือเกิน มิน่าตระกูลถึงปิดซ่อนเขาไว้ แทบจะไม่มีใครรับรู้ บุคคลสยองขวัญระดับนี้ พอจะเที่ยวใช้อำนาจบาตรใหญ่โดยไม่ต้องสนใจบนอาณาเขตหัวเซี่ยแห่งนี้ได้โดยไม่มีใครขวาง นี่คือไพ่ตายของพวกเขาตระกูลหวาง สามารถสังหารการมีตัวตนที่น่ากลัวทุกอย่างได้
ส่วนสิ่งที่ยิ่งทำให้พวกเขาตื่นตกใจคือผู้ชายที่อยู่ด้านหน้าของเล่ยิงคนนี้ ถึงตอนนี้คาดไม่ถึงยังไม่ได้ล้มลง
……
หวางอู๋ตี๋หรี่ตาขึ้น จ้องหน้าจอโทรทัศน์ไม่กะพริบตา เห็นว่าเฉินเป่ยโดนเล่ยิงโจมตีอย่างบ้าคลั่ง ในที่สุดมุมปากเขาเผยเส้นรัศมีวงกลมออกมา เส้นรัศมีวงกลมที่น่าสะพรึงกลัวแต่กลับมีรอยยิ้มอยู่ด้วย วินาทีนี้ ในที่สุดเขาก็หัวเราะแล้ว หวางอู๋ตี๋อยู่ที่เมืองหู้ไห่กลัดกลุ้มมาหลายเดือนเต็มๆ วันนี้ ในที่สุดเขาก็หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง นี่คือความสุขหลังได้แก้แค้น นี่คือความสุขที่บดขยี้สังหารศัตรูคู่อาฆาตได้
หวางอู๋ตี๋เปิดไวน์แดงที่หรูหราแสนแพงขวดหนึ่งออกแล้ว กลิ่นไวน์ที่เข้มข้นลอยออกมา คืนนี้…เขาต้องฉลอง ฉลองช่วงเวลานี้ เฉินเป่ยกำลังจะตายไป ส่วนเขานั้น ในที่สุดก็พัฒนาก้าวสำคัญในแผนการของตนเองอีกขั้นหนึ่ง บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป…หลีชิงเยียน เขาต้องได้รับมาในท้ายที่สุด ทุกอย่างล้วนอยู่ในการควบคุมของเขา เพราะ——เขาคือหวางอู๋ตี๋
…
ในด้านนอกคฤหาสน์ ทั้งตัวเฉินเป่ยล้มจมลงไปในหลุมยุบของพื้น ทั่วตัวเต็มไปด้วยฝุ่น แม้แต่เสื้อผ้ายังขาดรุ่งริ่งทั้งหมด ทั้งตัวเหมือนร่างพังพ่ายแพ้ยับเยินถึงที่สุด วินาทีนี้เขาเหมือนแพ้แล้ว…แพ้ถึงที่สุด
เท้าข้างนั้นของเล่ยิงยังคงเหยียบบนหน้าอกของเขาอย่างรุนแรง ราวกับการจ้องมองของราชา
เล่ยิงจ้องเฉินเป่ยที่ใต้เท้าแบบตาไม่กะพริบ ในตาเผยความเย็นชาที่ผิดหวังออกมา โดยเฉพาะเป็นเพียงพวกต่ำต้อยที่ไม่มีแรงโต้กลับสักนิดเท่านั้น เดิมทีไม่คุ้มค่าให้เขาลงมือเช่นนี้ เดิมที…ไม่คู่ควร…….
เขาค่อยๆ เก็บเท้ากลับไป ล้วงอินทรีทรายที่ดำขลับหนาวเย็นอันหนึ่งออกมาจากในกระเป๋าเสื้อ สวะต่ำต้อยแบบนี้ เดิมทีเขาไม่อยากลงมือสังหารด้วยตนเอง เขากลัวจะสกปรกมือของตนเอง…ดังนั้นเขาจึงคิดจะใช้วิธีเรียบง่ายตรงไปตรงมาที่สุด จัดการเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นสิ้นสุดภารกิจ…แล้วออกไป
อาวุธบรรจุกระสุนเต็มที่ อินทรีทรายในมือของเล่ยิงเล็งไปยังเฉินเป่ยบนพื้นแล้ว จากนั้นลั่นไกปืนออกฉับพลัน
“ปัง——!” ประกายไฟระเบิดยิงกระจายอย่างรุนแรง กระสุนลูกหนึ่งยิงออกมา ทะลุโจมตีไปยังกลางคิ้วของเฉินเป่ยทันใด
“ตูม!” ทันใดนั้นเสียงระเบิดของผืนดินดังขึ้น กระสุนยิงเข้ากลางพื้นผิวของดิน ยิงเข้าที่ว่างเปล่าแล้ว
เป้าหมายเฉินเป่ย…ได้หายไปจากที่เดิมแล้ว…
สายตาเล่ยิงแข็งทื่อฉับพลัน ชั่วขณะนั้นหันหน้ากลับไป
เห็นเพียงเฉินเป่ยกำลังยืนอยู่ด้านหลังของเขา มองเขาด้วยหน้าตาที่สงบนิ่งเฉย
ซู่! เล่ยิงตกอกตกใจ ใช้ทักษะหายตัว หมัดและเท้าสั่นสะเทือนพุ่งโจมตีออกไป
ในเวลานี้เอง ภาพเงาของเฉินเป่ยวาร์ปหายตัวไปอีกครั้ง เหลือเพียงภาพวืดที่ไร้จุดสิ้นสุด
เล่ยิงระเบิดโจมตีไปยังที่ว่างเปล่า ร่างกายเขาหยุดค้างทันที ก้อนหินบนพื้นแตกร้าวยุบตัวลง เห็นได้ว่าพลังพุ่งโจมตีของเขาเมื่อสักครู่นี้นั้นแกร่งกล้ามากแค่ไหน
“นึกไม่ถึงว่าแกจะแอบซ่อนความสามารถไว้ น่าสนใจ” ในที่สุดดวงตาของเล่ยิงเคร่งขรึมขึ้นมา “แกคู่ควรที่จะเป็นเหยื่อของฉัน”