เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก – ตอนที่ 116: ความคิดของเฉินเวย
ตอนที่ 116: ความคิดของเฉินเวย
โดย
Ink Stone_Romance
วันรุ่งขึ้นหวางนิวกินข้าวเช้าแล้วก็ออกไปเลย เฉินเยี่ยนรู้ เธอไปหาเฉินกุ้ยและช่างเหลียนที่ฝั่งนั้น อยากจะรู้ว่าเฉินกุ้ยและช่างเหลียนจะไปหย่ากัน หรือทะเลาะกันอยู่ที่บ้าน
เฉินเยี่ยนก็อยากรู้ แต่เธอไม่ได้ออกไป เธออยู่ที่บ้านรอฟังข่าว สิ่งที่ควรทำเธอทำไปหมดแล้ว ต่อไปก็คือการตัดสินใจของเฉินกุ้ย ถ้าครั้งนี้เฉินกุ้ยไม่หย่า เกรงว่าอีกหน่อยเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ยากที่จะหย่าแล้ว เธอรู้สถานการณ์ดี คิดวางแผนในใจ จะต่อกรกับฝ่ายนั้นยังไง
ตอนเที่ยงหวางนิวกลับมาบอกว่าเฉินกุ้ยพาช่างเหลียนไปที่พรรคแต่เช้า ช่างเหลียนไม่ยอม ด่าเฉินกุ้ยไปตลอดทาง แต่เฉินกุ้ยลากช่างเหลียนไปไม่พูดไม่จาสักคำ สุดท้ายที่พรรคออกใบรับรองให้ เฉินกุ้ยลากช่างเหลียนไปทิ่อำเภออีกรอบ คนในหมู่บ้านมากมายถามกันว่าบ้านหวางนิวเกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่ต้องการลูกสะใภ้แล้ว หรือว่าตอนนี้ที่บ้านฐานะดีแล้ว เลยอยากจะเปลี่ยนลูกสะใภ้ แล้วยังมีพูดว่าเป็นเพราะหวางจวน บอกว่าบ้านเฉินรับหวางจวนเข้ามาอยู่ในบ้าน เตรียมจะหาลูกสะใภ้คนเล็กให้เฉินกุ้ยหรือเปล่า บางคนก็บอกว่าซี้ซั้วพูด บอกว่าเฉินกุ้ยและหวางนิวมีอะไร ให้ช่างเหลียนเห็นแล้วก็ทะเลาะขึ้นมา ดังนั้นบ้านเฉินก็ไม่ต้องการช่างเหลียนแล้ว
คำพูดนินทาอะไรมีมาหมด แน่นอน คำพูดนี้หวางนิวจะไม่พูดกับหวางจวน
แต่หวางนิวโกรธมาก รู้สึกว่าคนในหมู่บ้านพูดจาแย่มาก แต่เธอก็ไม่สามารถอธิบายได้ จะพูดอะไรได้? บอกว่าก่อนช่างเหลียนแต่งงานก็เคยผ่านผู้ชายมาแล้ว ท้องมาก่อน? ส่วนเฉินกุ้ยอีกหน่อยก็อย่าคิดจะเงยหน้าขึ้นมองในหมู่บ้านได้เลย
บอกว่าช่างเหลียนขโมยเงินในบ้าน? ในบ้านมีขโมย ชื่อเสียงบ้านเฉินของพวกเขาจะดีได้ยังไง? ดังนั้นต่อให้เธอทุกข์ใจแค่ไหนก็ไม่พูด
ตอนบ่ายเฉินเวยวิ่งเข้ามาบอกว่าเฉินกุ้ยกลับมาแล้ว พอกลับมาก็ล้มลงนอนบนเตียงเลย พอถามเขา เขาบอกแค่ว่าจัดการเรื่องช่างเหลียนเสร็จแล้ว เขาไปส่งช่างเหลียนกลับบ้าน ต่อจากนี้ช่างเหลียนไม่ใช่ภรรยาของเขาแล้ว ใบหน้าเขายังมีแผล เหมือนตอนคนตีมา แต่ว่าเฉินกุ้ยไม่ได้พูดเรื่องโดนตี แค่นอนอยู่บนเตียงไม่ขยับเขยื้อน ดูแล้วน่าตกใจ
เฉินจงและหวางนิวตามเฉินเวยไปปลอบเฉินกุ้ย ถึงตอนเย็น เฉินกุ้ยและเฉินเวยมากินข้าวเย็น เฉินเยี่ยนเห็นเฉินกุ้ยถึงแม้จะดูไม่ค่อยมีชีวิตชีวา แต่ก็ไม่ได้เศร้าซึม เธอเลยวางใจได้ ตอนนี้ในใจเฉินกุ้ยย่อมเสียใจอยู่แล้ว แต่ก็จะค่อยๆ ดีขึ้น
วันต่อมาคนบ้านช่างมาโวยวาย บอกว่าช่างเหลียนแต่งงานมาบ้านเฉินสามปี บ้านเฉินบอกไม่ต้องการก็ทิ้งเธอเลย ไม่มีเหตุผล ต้องการให้บ้านเฉินชดใช้
บ้านช่างต้องการเงินฝั่งนี้ แต่แยกบ้านกันแล้ว เฉินเยี่ยนไม่มีทางให้พวกเขา สุดท้ายบ้านช่างเลยเอาผ้าห่ม ที่นอน ผัก ขอแค่ฝั่งนั้นมีอะไร พวกเขาก็เอาไปหมด
ตอนแรกเฉินเยี่ยนจะออกหน้า แต่เฉินกุ้ยห้ามไว้ไม่ให้เธอไปที่นั่น บอกว่าพวกเขาต้องการก็ให้เขาไป พวกเขาไปแล้ว ตั้งแต่นี้เขากับบ้านช่างไม่มีอะไรต่อกันแล้ว สิ้นสุดกับช่างเหลียน เฉินเยี่ยนเป็นผู้หญิง ไม่ควรเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นจะเสียชื่อเสียง
ถ้าแบบนี้แล้วจะทำให้เฉินกุ้ยสบายใจ ก็ให้บ้านช่างเอาของไปเถอะ ถ้าของเก่าไม่ไป ของใหม่ก็ไม่มา เฉินเยี่ยนเลยไม่ได้ไปสนใจแล้ว
เฉินกุ้ยและหวางนิวก็ไม่ได้ห้าม ขอแค่คนบ้านช่างไม่ลงมือทำร้ายคน ของไม่มีก็ไม่มี วันหลังยังซื้อใหม่ได้ ไม่มีสะใภ้ที่ก่อเรื่องวุ่นวาย ที่บ้านจะได้สงบสุข พวกเขาอายุยืนขึ้นอีกหลายปี
ผ่านไปสามวัน ฝั่งนั้นถึงค่อยสงบลงได้ ช่างเหลียนไม่มาอีกแล้ว บอกว่าให้ตายก็จะไม่ไปมาหาสู่บ้านเฉินอีก คนบ้านเฉินค่อยโล่งใจออกมา
“เยี่ยนจื่อ เสี่ยวเวยบอกว่าเธอกับพี่ชายอยู่ฝั่งนั้นก็ไม่ใช่เรื่อง ตอนนี้พี่ชายไม่มีภรรยาแล้ว อย่างนั้นพวกเราก็กลับมาอยู่ด้วยกันดีไหม ไม่มีช่างเหลียนมาหาเรื่อง ก็ไม่มีคนทะเลาะแล้ว แม่ว่าเธอพูดถูก ลูกว่ายังไง?”
หวางนิวกะเทาะไปป์บุหรี่ไปพลางปรึกษาเฉินเยี่ยนไปด้วย ไปป์บุหรี่นี้เจ้าอ้วนเพิ่งเอามาส่งให้เมื่อเช้า เทศกาลโคมไฟผ่านไปแล้ว เลยเริ่มพันบุหรี่ใหม่
“แม่ พี่ชายไม่ใช่ว่าจะไม่แต่งงานอีกแล้ว ถ้าอยู่ด้วยกันอีก หนูกับเสี่ยวเวยก็ไม่ได้ออกเรือน หู่จื่อก็ไม่ได้แต่งงาน ฝ่ายหญิงเห็นพวกเราต้องแบกรับความผิดชอบเยอะขนาดนี้ ในใจเธอคงต้องกังขา พี่ชายก็ไม่ได้แต่งง่ายๆ พวกเราแยกกันอยู่ ฝั่งนั้นมีแค่พี่ชายกับเสี่ยวเวย ฝ่ายหญิงเห็นว่าไม่ได้รับผิดชอบอะไร แต่งเข้ามาก็เป็นผู้นำได้ คงยอมแต่งแน่ อีกอย่างตอนนั้นแยกกันแล้ว ตอนนี้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก ไม่ใช่เด็กเล่นขายของเหรอ? คนนอกจะหัวเราะเอาได้ รวมๆ แยกๆ ใครจะกล้าแต่งเข้าบ้านเราล่ะ”
เฉินเยี่ยนคิดไว้แล้วว่าเฉินเวยต้องออกความเห็นนี้ ดังนั้นเลยคิดคำตอบไว้แล้ว เฉินเวยอยากจะมาอยู่ด้วย ไม่มีทาง
“ที่ลูกพูดก็ถูก แม่แค่เห็นเสี่ยวเวยเล่าแล้วสงสาร งั้นก็ให้เธออยู่กับพี่ชายที่นั่นต่อ พ่อ พ่อว่าไง”
หวางนิวคิดว่าที่ลูกสาวพูดก็มีเหตุผล
“แยกบ้านแล้วไม่มีกลับมาอยู่ด้วยกันอีก ถ้าวันไหนพวกเขาไม่อยากทำอาหารก็มากินที่นี่ แต่คุณต้องบอกกับเสี่ยวเวยว่า สิ่งที่ควรทำสิ่งที่ควรเรียนเธอต้องทำได้หมด อีกหน่อยแต่งงานไป ถ้าทำไม่เป็น คนอื่นจะหัวเราะพวกเราได้”
เฉินจงก็เห็นด้วยกับความคิดเฉินเยี่ยน ลูกสาวคนเล็กนี้ขี้เกียจไปแล้ว ทั้งวันไม่ทำอะไร อาศัยแบบนี้ นี่ไม่ใช่เรื่อง
“ก็ได้ กลับไปฉันจะไปบอกลูก”
หวางนิวฟังสามีก็พูดเห็นด้วย ในใจไม่คิดเรื่องจะกลับมาอยู่ด้วยกันอีกแล้ว
เฉินเวยรู้ก็โกรธมาก เดิมทีคิดว่าพี่ชายกับช่างเหลียนหย่ากันแล้ว ก็ถือเป็นโอกาสจะได้กลับไปอยู่ด้วยกันอีก แบบนี้เธอก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ที่บ้านมีเฉินเยี่ยนหาเงิน มีหวางนิวและหวางจวนทำงานบ้าน เธอจะได้อยู่อย่างสบาย แต่คิดไม่ถึงว่าฝั่งนั้นไม่ยอม เธอและเฉินกุ้ยสองคนอยู่ที่นี่ เธอต้องทำอาหารให้เฉินกุ้ยทุกวัน ถึงแม้เธอจะทำไม่อร่อย แต่ก็ต้องทำ มือเธอหยาบไปหมดแล้ว เธออยากจะเป็นคุณหนูมีคนมาปรนนิบัติเธอ ไม่ใช่ทำงานเป็นคนใช้จนแก่ ชีวิตแบบนี้เมื่อไรจะสิ้นสุดลงสักทีนะ
ทุกครั้งเธอถามอวี๋เหวยหมิน อวี๋เหวยหมินจะให้เธออดทนไปก่อน บอกว่าอีกหน่อยต้องให้เธอมีชีวิตที่ดีแน่ แต่ต้องอดทนถึงเมื่อไร? ทนจนเธอแก่จนไม่มีใครเห็นหัว? ถ้าอย่างนั้นจะมีประโยชน์อะไร!
เธอก็มองออก ตอนนี้อวี๋เหวยหมินก็ยังไม่มีวิธีหาเงินที่ดี ตอนปีใหม่เธอขอเงินอวี๋เหวยหมิน บอกว่าจะซื้อชุดใหม่ อวี๋เหวยหมินบอกว่าเขาไม่มีเงิน แม่เขามีอยู่บ้าง แต่ต้องเก็บไว้ให้เขาแต่งงาน เขาให้เฉินเวยรอ บอกว่าผ่านช่วงนี้ไปเขาจะหาเงินได้ ถึงเวลานั้นจะให้เฉินเวยใช้ให้หนำใจเลย
เฉินเวยสงสัย เธอกับอวี๋เหวยหมินมาที่นี่ก่อนเฉินเยี่ยนหนึ่งปี แต่ทำไมเธอไม่ทำอะไรเลย อวี๋เหวยหมินขายของหาเงินได้นิดหน่อย แต่เงินนั่นก็ไม่ได้ให้เธอ ตอนนี้เฉินเยี่ยนหาเงินได้แล้ว เฉินเยี่ยนอยากจะกินอะไรก็ซื้อ อยากจะใส่อะไรก็ซื้อ ส่วนเธอล่ะ? แม้แต่เสื้อหนาวตัวใหม่ยังไม่มี ใส่เสื้อหนาวของหวางนิวออกไปก็โดนคนหัวเราะ นี่ไม่ใช่ชีวิตที่เฉินเวยต้องการ เฉินเวยถูกกำหนดให้อยู่เหนือคน ไม่ใช่โดนคนมาเหยียบย่ำ!
แต่เธอควรทำยังไง? เธอไม่คุ้นเคยกับยุคสมัยนี้ อีกหน่อยอะไรจะเจริญเธอก็ไม่รู้ ส่วนค้าขายมันลำบาก เธอไม่ต้องการลำบาก
เธอควรจะทำยังไงถึงจะมีชีวิตที่ดีนะ? ตอนนี้อวี๋เหวยหมินก็พึ่งไม่ได้ หรือเธอควรจะหาผู้ชายที่บ้านมีฐานะดี? ส่วนอวี๋เหวยหมินรู้แล้วจะทำยังไง เธอเชื่อมั่นว่ารับมือได้ แต่เธอควรจะหาใครดีนะ?
เฉินเวยคิดถึงแต่ละคนที่เธอรู้จัก ไม่มีใครที่เหมาะสมเลย แต่ในเมื่อเธอมีความคิดนี้แล้ว ไม่ช้าก็เร็วเธอจะต้องดำเนินการ
————-