ผู้ใหญ่จิกับนางพิมพ์ – ตอนที่ 107

ตอนที่ 107

107 ผู้หญิงคนนั้นคือใคร

ออกไป! ”

ตอนที่ได้ยินสองคำนี้ออกจากปากของจันวิภา พิมพ์ลดา พลันมึนงงอยู่ตรงนั้น

ฉันบอกให้เธอออกไป! ”

จันวิภาแผดเสียงคำรามออกมาทีหนึ่ง พิมพ์ลดาตกใจจน พลันเบิกตากว้าง

จิรฐาพลันเอาตัวเข้ามาขวางด้านหน้าเธอ กอดรัดเธอไว้ ในอ้อมอกแน่นๆ แต่ครู่ต่อมา พิมพ์ลดาก็เห็นแก้วน้ำใบหนึ่ง กำลังกระแทกเข้าที่หลังของจิรฐา น้ำสาดไปทั่วบริเวณ จาก นั้นแก้วก็ตกลงบนพื้นดังเพลง ชิ้นส่วนแตกกระจัดกระจาย

‘จันวิภา หนูไม่มีเหตุผลเกินไปแล้วนะ! ” เสียงเข้มของนิ รวิทย์ดังขึ้นในเวลาประจวบเหมาะ

พฤษารีบเข้ามาถามจิรฐาว่าเป็นอย่างไรบ้าง อิงนราถือ โอกาสในเวลานี้ต้องการจะพาพิมพ์ลดาออกจากห้องพักผู้ ป่วย แต่จิรฐากลับกอดรัดเธอไว้ในอ้อมอกแน่นแบบนี้ เนิ่น นานก็ไม่ได้ปล่อยออก

กรี๊ด! ” บนเตียงผู้ป่วย จันวิภาเปล่งเสียงกรีดร้องคลั่ง เหมือนเป็นบ้า ธนัทกดเธอไว้ไม่อยู่ อิงนราก็ทำได้เพียงล้ม เลิกความคิดที่จะพาพิมพ์ลดาออกไปก่อน ไปเรียกหมอมาก่อน

เสียงกรีดร้องในห้องพักผู้ป่วย แว่วออกมาเป็นระยะๆ เหมือนใช้มีดเล่มหนึ่งที่มแทงร่างกายและหัวใจของคนที่อยู่ นอกประตูเหล่านี้

“ จิรฐา ลูกไม่คิดน้อยเกินไปแล้ว ก่อนที่ลูกจะพาพิมพ์ลดา มา ปรึกษาพวกเราก่อนไม่ได้หรือ? ” นั่งบนเก้าอี้ พิมพ์ลดา ได้ยินคำพูดที่แม่สามีพูดกับจิรฐา เงยหน้าขึ้นมองไปทาง พวกเขา

นิรวิทย์กับชาตพลออกไปแล้ว ในห้องนี้เหลือเพียง พฤษา อิงนรา ธนัท จิรฐา และเธอ

ตัวเองก็แค่อยากมาเยี่ยมเพื่อนเก่าของจิรฐาด้วยความ หวังดี แต่ใครจะบอกเธอได้ว่า จันวิภาในห้องผู้ป่วยห้องคน นั้นเป็นใครกันแน่?

ทำไมเธอถึงสามารถทำให้คุณปู่เดินทางออกจากหอพัก หมู่ทหารเพื่อรีบมาเยี่ยมเธอได้? และเธอยังสามารถทำให้ แม่สามีตำหนิลูกชายที่รักและเอ็นดูที่สุดได้ ยังทิ้งลูกสะใภ้ คนนี้อย่างเธอไว้ข้างๆ

เหมือนรู้สึกถึงสายตาที่ทอดมองมาของพิมพ์ลดา จิรฐา หันหน้ามามองเธอ ผ่านไปนาน จึงจะตอบพฤษาว่า “ แม่ครับ ” ว่าแล้ว เขาดึงเส้นสายตามองไปยังแม่ของตัวเองที่อยู่ตรง หน้า “ สิบปีก่อน ก็เป็นเพราะท่านพูดว่ากังวลว่าการปฏิเสธ ของผมจะทำร้ายจันวิภาได้ ดังนั้นผมจึงเก็บคำพูดประโยคนั้นไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งถึงเวลาที่ไม่สามารถเก็บ ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ผมคิดว่า ถ้าตอนนั้นที่จันวิภาเปิดเผย ความรู้สึกของตัวเองเป็นครั้งแรก ผมก็ไม่เคยตอบสนอง ความต้องการของเธอ แต่กลับปฏิเสธเธอตามความคิดของ ตัวเอง บางทีก็จะไม่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ในครั้งนั้น ก็จะ ไม่ทําให้เธอนอนนิทราในห้องพักผู้ป่วยเป็นเวลาสิบปี ดัง นั้น ครั้งนี้ ผมจะไม่ทำผิดแบบเดิมซ้ำอีก ผมจะไม่ปิดบังพิมพ์ ลดา ที่นี่มีผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยกลายเป็นผักเพราะผมนอน อยู่ ผมก็ไม่อยากปิดบังจันวิภา ผมแต่งงานแล้ว มีครอบครัว เป็นของตัวเองแล้ว อีกอย่าง ไม่นานก็จะมีลูกเป็นของตัวเอง แม่ครับ ผมไม่ได้ก้าวร้าวรุนแรงเลย ” ว่าแล้ว จิรฐา นมา ก็ ดึงให้พิมพ์ลดาลกขึ้น “ พิมพ์ลดาตั้งครรภ์แล้ว เธอจําเป็น ต้องพักผ่อนให้มากๆ ผมส่งเธอกลับไปก่อน งานแต่งงานที่ จะมีในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า จัดขึ้นตามกำหนดการ จะไม่ เปลี่ยนแปลงเพราะใครก็ตาม หรือเพราะเรื่องอะไรก็ตาม “

พิมพ์ลดาก็ถูกจิรฐากึ่งกอดรัดกิ่งผลักให้เดินออกไปข้าง หน้าแบบนี้ ตอนที่เดินผ่านแม่สามี เธอเห็นน้ำตาที่มีอยู่ใน ดวงตาของ เธอ เธอก็มองเห็นความตกตะลึงในดวงตาของ อิงนรา อีกทั้งความเห็นใจบนใบหน้านั้นของธนัท

เดิมทีเธอคิดว่าเรื่องที่ตัวเองตั้งครรภ์ จะประกาศตอนที่ ทั้งครอบครัวทานข้าวกันพร้อมหน้า หลังจากนั้นทำให้ทุก คนล้วนดีใจมาก แต่ตอนนี้ ในพวกเขากลับไม่มีใครยิ้มออก เลย

เข้าไปนั่งในรถ ในที่สุดพิมพ์ลดาก็หลั่งน้ำตาอย่างอดไม่

ได้
เธอไม่รู้ว่าตัวเองร้องไห้ทำไม แต่พอนึกถึงคำพูดนั้นที่ ผู้หญิงในห้องพักผู้ป่วยห้องนั้นตะโกนใส่เธอ นึกถึงแก้วน้ำ แก้วนั้นที่จิรฐาเข้ามารับไว้แทนเธอ อีกทั้งที่แม่สามีบ่นว่าเขา พิมพ์ลดาก็ร้องไห้อย่างห้ามไม่อยู่แล้ว

พอจิรฐาขึ้นรถแล้ว เห็นน้ำตาที่อาบเต็มใบหน้าของพิมพ์ ลดา ในใจก็เป็นกังวลอย่างควบคุมไม่ได้

เขาหันไปทางเธอก็โน้มตัวลง สองมือใหญ่ประคอง ใบหน้าเรียวเล็กของเธอ เช็ดน้ำตาที่ขอบตาให้เธอ แต่น้ำตา นั้นกลับเป็นเหมือนลูกปัดที่ขาดออกจากสายสร้อย ไหลออก มาทีละหยดๆ เขายิ่งเช็ด ก็เหมือนจะยิ่งไหลออกมามากขึ้น

พิมพ์ลดา ” เขาดึงเธอเข้าในอ้อมอก ประคองไว้แน่นๆ ขอโทษ! ผมทำให้คุณเสียใจแล้ว “

ซบหน้าลงบนไหล่ของเขา พิมพ์ลดาสะอื้นไห้ ถามเขา ว่า “ ผู้หญิงคนนั้น เป็นใครกันแน่? ”

เธออยากรู้ ตอนนี้เธออยากรู้เหมือนเป็นบ้าว่าระหว่าง พวกเขาเคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกันแน่ ทำไมคนในตระกูล พยุงพงษ์เหมือนจะสนใจเธอมาก ใส่ใจเธอมาก

สิบปีก่อน ในคฤหาสน์ตระกูลพยุงพงษ์

“ ว้าว คุณจันวิภา ทำไมวันนี้คุณกลับมาเช้าขนาดนี้ล่ะคะ? ” ป้าอินออกมาจากในห้องครัว เห็นเด็กสาวที่สะพายกระเป๋า เดินจากประตูใหญ่เข้ามาในห้องรับแขก ก็ยิ้มอย่างอดไม่ได้
จันวิภาก็เผยยิ้มหวานให้ป้าอิน รีบเปลี่ยนรองเท้าเข้าไป ในห้องรับแขก หลังจากนั้นก็วิ่งมาข้างตัวป้าอิน ถามอย่าง ลับๆล่อๆว่า “ จิรฐากับคุณน้าอยู่บ้านมั้ยคะ?

ได้ฟังเด็กสาวถามเช่นนั้น ป้าอินเหมือนจะรู้ทัน วางผล ไม้ที่เพิ่งจะล้างเสร็จลง เธอยื่นมือไปบิดปลายจมูกของจัน วิภา หัวเราะแล้วตอบเสียงกดต่ำว่า “คุณน่ะ! ฉันว่าที่คุณ อยากถามจริงๆ คงไม่ใช่เรื่องนี้ล่ะมั้ง! “

“ โธ่ ป้าอิน… ” ความคิดเสี้ยวหนึ่งล้วนถูกคนเดาได้แล้ว บนใบหน้าของจันวิภาพล้นปรากฏรอยแดง

มองใบหน้าเอียงอายแดงระเรื่อของเธอ ป้าอินก็ไม่ หยอกล้อเธอแล้ว เพียงทำปากจู๋ มองไปที่ชั้นบน “ ไปเถอะ ค่ะ คุณจิรฐาก็กลับมาเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนแล้ว อยู่ในห้อง ของเขานั่นแหละ “

“ จริงหรือคะ? ” พอได้ยินแบบนี้ ดวงตาคู่สวยของจันวิภา พลันเป็นประกาย “ ขอบคุณค่ะ ป้าอิน! ” กล่าวขอบคุณแล้ว เธอรีบถือกระเป๋า วิ่งขึ้นชั้นบนดังตึกๆๆ

เพียงแค่ว่า ตอนที่มาถึงหน้าประตูบานนั้นแล้ว เธอกลับ ไม่กล้าเคาะประตู ตอนที่เธอกำลังลังเล ยกมือขึ้นก็ปล่อยลง ก็ยกมือขึ้นอีก ประตูห้องถูกคนเปิดออกมาจากด้านใน

เดิมทีจันวิภาคิดว่าคนที่เปิดประตูจะเป็นจิรฐา เสียงเรียก พี่จิรฐาด้วยความดีใจคำนั้นของเธอมาถึงข้างปากแล้ว ใน ช่วงเวลานั้นที่เห็นคนที่เปิดประตูออกมา กลับกลืนกลับไปอย่างกระด้าง

“ธะ…ธนัท…

“ จันวิภา? วันนี้เธอมีเรียนไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงกลับมาเร็ว แบบนี้ล่ะ? ”

“เออ ฉัน…ฉัน… ” จันวิภาปิดบังไว้อยู่นาน ก็ไม่ได้บอก เหตุผลออกมา

ธนัทโบกมือ บอกเป็นนัยว่าเธอไม่ต้องอธิบายแล้ว หลัง จากนั้น เขาหันหน้าไปตะโกนเข้าไปในห้อง “ จิรฐา สาวสวย มาหานายแหละ ” ตะโกนเสร็จ เขาก็ขยิบตาให้จันวิภาที่อยู่ ตรงหน้า “ ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก ไปนะ!”

พูดจบ ธนัทก็ออกไปแล้ว

จันวิภาค่อยๆเดินเข้าไปทางประตูที่เขาไม่ได้ปิด หลัง จากนั้นก็ค่อยๆปิดประตู

พอหันไป เธอก็เห็นชายหนุ่มกำลังนั่งที่โต๊ะเขียน หนังสือกำลังเขียนงานอย่างขะมักเขม้น จิรฐาเมื่อสิบปีก่อน ตอนที่ตั้งใจทำงาน ก็สงบนิ่ง น่าหลงใหลเหมือนตัวเขาใน ตอนนี้

แต่ก่อนจันวิภาเคยพูดว่า เธอก็รู้สึกถึงความโดดเด่นของ จิรฐาตั้งแต่ตอนที่เริ่มจำความได้แล้ว
เธอก็ไม่รบกวนเขา ก็ยืนมองอยู่เงียบๆ จนกระทั่งจิรฐา จัดการกับงานในมือเสร็จแล้ว เงยหน้าขึ้นมองเธอ

ปีนั้น จิรฐาเป็นผู้ช่วยนายกเทศมนตรีเมืองแอลแล้ว แต่ จันวิภา เป็นนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งของมหาวิทยาลัยเอ เดิมที เธอยังอยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยคิวตามจิรฐา แต่ใครจะรู้ ว่า เขากลับจบการศึกษาก่อนกําหนด แต่เธอ หลังจากสอบ เข้ามหาวิทยาลัยเสร็จแล้ว คะแนนสอบก็ไม่พอที่จะเข้า มหาวิทยาลัยคิวได้

จากเมืองแอลถึงเมืองเอสก็ไม่ไกลกันมาก แต่จิรฐางาน ยุ่ง ปกติก็เห็นเขากลับบ้านน้อยครั้งมาก

ดังนั้นครั้งนี้ พอได้ยินว่าเขากลับมาแล้ว จันวิภาก็โดด เรียนเพื่อกลับมาหาเขา

ปีที่แล้ว ตอนที่เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัย เขาพูดว่าเธอ

ยังเด็ก เป็นแค่น้องสาว

งั้นวันนี้หลังจากผ่านมาแล้วหนึ่งปีล่ะ?

ตอนนี้หลังจากผ่านมาแล้วหนึ่งปี เธอสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว หนึ่งเซนติเมตร รูปร่างก็มีน้ำมีนวลขึ้น อีกทั้ง เธอยังเรียนรู้ ที่จะแต่งตัวแบบผู้หญิง เรียนรู้ที่จะใส่ส้นสูง ตอนนี้ เขาไม่ สามารถพูดว่าเธอยังเด็ก หรือพูดว่าเธอเป็นแค่น้องสาวได้ อีกแล้วล่ะมั้ง?

“ จันวิภา? ” เห็นว่าจันวิภาเหม่อลอยอยู่ตรงนั้นคนเดียว จิรฐาเรียกเธอไปทีหนึ่ง เรียกความคิดของเธอกลับมา

“ต๊ะ? ” พอจันวิภาตกใจ บนใบหน้าพลันยกยิ้มหวานขึ้น เธอหันไปทางเขาก็เดินเข้าไป ยืนปักหลักอยู่หน้าโต๊ะเขียน หนังสือของเขา เงยหน้ามองจิรฐาที่อยู่ตรงหน้า จันวิภารู้สึก ว่า เขาเหมือนจะหล่อขึ้นอีกแล้ว ทุกครั้งที่เขากลับบ้าน ล้วน ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาโดดเด่นยิ่งกว่าเดิม

เขาโดดเด่นน่าหลงใหลเช่นนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เธอกังวล จริงๆว่า สักวันหนึ่ง เขาพลันกลายเป็นอีกคนไปแล้ว

ไม่เอา เธอไม่ต้องการ ถ้าพี่จิรฐาของเธอกลายเป็นอีก คน เธอต้องรับไม่ได้อย่างแน่นอน

คิดอะไรอยู่ล่ะ? ” เห็นว่าเด็กสาวคนนี้เดินมาหยุดอยู่ตรง หน้าตัวเอง เหมือนก็เริ่มจ้องมองเขาแล้วนิ่งไป จิรฐายกมือ ขึ้นชูห้านิ้วก็แกว่งไกวตรงหน้าเธอ

“ไม่…ไม่มีอะไรค่ะ ” จันวิภาสั่นศีรษะ ทันใดนั้น ก็มองเห็น กุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะของเขา “ พี่จิรฐา ” มองไปทางจิร ฐา เธอถามว่า “ พี่ทำงานเสร็จหรือยังคะ? ”

มองเอกสารบนโต๊ะที่อีกนิดเดียวจะทำเสร็จหมดแล้ว จิร ฐาพยักหน้า “ ทำไมหรือ? มีธุระอะไรกับฉันหรือ? ”

เห็นเขาพยักหน้า จันวิภาก็รีบหยิบกุญแจรถของเขาขึ้น มา หลังจากนั้นก็วิ่งไปข้างตัวเขา ดึงมือเขาขึ้น พูดว่า “ ใน เมื่อพี่ก็ทำงานเสร็จแล้ว งั้นก็พาฉันไปสักที่หนึ่งได้มั้ยคะ? ”
ช่วงนี้เธอเพิ่งได้ยินมาว่ามีสถานที่ที่เหมาะแก่การ สารภาพรักเป็นพิเศษอยู่ที่หนึ่ง

ล้วนพูดว่าผู้หญิงจีบผู้ชาย ก็จะเบาบางเหมือนมีเพียง เส้นด้ายมากั้น เธอจีบจิรฐาอย่างโจ่งแจ้งมาหลายปีขนาดนี้ วันนี้ เธอพูดอะไรก็ต้องให้เขารับไว้

“ไปไหน? ” เขายังอยากจะถามให้แน่ชัด กลับถูกเธอดึง ให้ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้ว

“ ถึงแล้วพี่ก็จะรู้เอง! ” เธอยิ้มอย่างมีเลศนัย จากนั้นจึงลาก

เขาวิ่งออกประตูไป

ช่วงนี้จันวิภาเพิ่งจะได้ใบขับขี่ เธอก็ต้องให้จิรฐาขับรถ ให้เธอ แต่เขากลับให้เธอขับไป อย่างไรเสียที่แห่งนั้น เขาก็ ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน

นั่งในรถ วนไปวนมาผ่านทางแยกหลายสาย จนกระทั่ง ในที่สุด จันวิภาก็ขับออกไปนอก9y;เมือง

ตอนนั้นเป็นฤดูใบไม้ร่วงพอดี ต้นไม้สองฟากถนน ชานเมืองล้วนมีใบไม้สีเหลือง รถขับผ่าน แรงลมปะทะทำให้ ใบไม้ร่วงโปรยปราย สวยงามเป็นพิเศษ

ที่นี่เงียบสงบ ไม่มีคนรบกวน

จันวิภาคิดว่า สารภาพรักกับจิรฐาอีกครั้งที่นี่ เขาต้อง ยอมรับเธออย่างแน่นอน
จอดรถ หมุนกระจกรถลง เธอปลดเข็มขัดนิรภัยออกขยับ ตัวสักพัก กลับไม่มีความคิดที่จะลงจากรถ แต่หันมายิ้มให้ ร ฐาที่นั่งอยู่ข้างๆ

เห็นว่าทิวทัศน์ด้านนอกไม่เลวจริงๆ จิรฐาถามว่า “ นี่คือที่ ที่เธอว่าหรือ? ”

“ ใช่แล้วค่ะ! ” เธอยิ้ม ตอบเสร็จแล้ว ก็กัดริมฝีปากล่าง ผ่านไปนาน จันวิภาจึงสร้างอารมณ์ดี ปลุกความกล้า ” พี่จิร ฐา ” เสียงของเธอ ดึงดูดให้สายตาของจิรฐาที่กำลังมอง ทิวทัศน์นอกหน้าต่างหันเข้ามา เธอมองตาเขา พูดอย่าง จริงจังว่า “ ฉันชอบพี่ ให้ฉันเป็นแฟนพี่ได้มั้ยคะ? ”

จิรฐาไม่เคยคิดจะทำร้ายเธอ ก็เพราะไม่อยากทําร้าย เธอ ดังนั้นเขาจึงเชื่อฟังพฤษา ไม่ว่าจะอย่างไร ต้องรอให้ จันวิภาสอบเข้ามหาวิทยาลัย สอบติดมหาวิทยาลัยให้ได้ อย่างราบลื่นไปก่อน แล้วค่อยปฏิเสธ ดังนั้น แต่ก่อนเธอ สารภาพรักกับเขา แม้เขาจะไม่ยอมรับ แต่ก็ไม่สามารถ ปฏิเสธได้อย่างเด็ดขาด เพราะเขาเป็นห่วงว่าเด็กผู้หญิงที่ ไม่มีครอบครัวแล้ว จิตใจเปราะบางถึงขั้นสุดคนนี้ เพราะการ ปฏิเสธของเขาจะก็ยิ่งเสียใจได้

แต่ตอนนี้ จิรฐาคิดว่าหากทำให้เรื่องยืดเยื้อต่อไป เขาก็ เหมือนจะสามารถทำร้ายเธอได้มากขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าเขามักจะแสดงออกอย่างคลุมเครือแบบนี้ จันวิภาก็มัก จะมอบความรักของเธอให้เขา มองไม่เห็นผู้ชายดีๆที่อยู่รอบ

ข้าง
จิรฐาก็รักเธอ แต่ความรักที่เขามีต่อเธอ เป็นเพียงความ รักในแบบที่พี่ชายคนหนึ่งมีให้น้องสาวคนหนึ่ง ไม่เคยเป็น ความรักในแบบที่ผู้ชายคนหนึ่งมีให้ผู้หญิงคนหนึ่ง

แบบนี้ แม้เขาจะยอมรับเธอ หลังจากนี้ก็มอบความสุขให้

เธอไม่ได้

” พี่จิรฐา ” เห็นว่าจิรฐาไม่ได้ตอบกลับมาตลอด จันวิภาก็ เรียกเขาอีกครั้งอย่างทนไม่ไหว

จิรฐาคิดไม่ถึงเลยว่า การปฏิเสธของเขาในวันนั้น จะนำ การโจมตีที่รุนแรงแบบนี้มาให้แก่จันวิภาได้จริงๆ

หลังจากที่ได้ยินเขาพูดว่าพวกเขาเป็นเพียงพี่น้องกัน เธอก็ไม่คาดเข็ดขัดนิรภัยอย่างไม่ใส่ใจตัวเอง ก็เริ่มสตาร์ท รถแล้วขับออกไปทันที

จิรฐาอยากดึงเธอไว้ แต่กลับถูกเธอผลักออก

ตอนที่รถเลี้ยวเข้าทางโค้งหนึ่งอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ชน เข้ากับรถบรรทุกสินค้าที่ขับมาทางด้านหน้า

ตอนที่ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว

แต่น่าเศร้า คนที่ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง มีเพียงจิรฐา แต่จันวิภา ก็นอนบนเตียงแบบนี้มาสิบปีเต็มๆ

จันวิภาเป็นเด็กที่ถูกพฤษารับมาเลี้ยง พ่อแม่แท้ๆของเธอ เคยเป็นคนที่ชายพลหามาคุ้มกันคนในครอบครัว ในปี นั้น ตอนที่พฤษาพาจิรฐาวัยหกขวบไปเยี่ยมญาติที่บ้านคุณ ยาย ระหว่างทางประสบเหตุโดนลักพาตัว เพื่อคุ้มกันพวก เขาสองแม่ลูก สามีภรรยาตระกูลไชยมีสละชีวิตของตัวเอง

ก่อนที่ธนพลจะสิ้นลมหายใจ เพียงขอร้องให้พฤษาต้อง ดูแลลูกสาวของเขาให้หน่อย ตอนนั้นจันวิภาเพิ่งจะอายุ ได้สามขวบ เหมือนจะยังไม่ค่อยเข้าใจว่าพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว หมายความว่าอย่างไร

ก็เพราะแบบนี้ พฤษาล้วนรักและเอ็นดูเธอประหนึ่ง ลูกสาวแท้ๆมาตลอด ที่เธอให้อิงนราและจิรฐาได้ ก็ต้อง แบ่งส่วนหนึ่งให้จันวิภาด้วย เธอกลายเป็นผู้ปกครองตาม กฎหมายของจันวิภา แต่กลับไม่ได้ให้เธอเปลี่ยนมาใช้ นามสกุลพยุงพงษ์ เพราะเธอต้องเก็บไว้ให้ลูกหลานตระกูล พยุงพงษ์ของพวกเขาใช้

ตอนที่หมอประกาศว่าจันวิภากลายเป็นผักไปแล้ว เธอ ปล่อยโฮอยู่นอกห้องพักผู้ป่วย ไม่ว่าอิงนราจะเกลี้ยกล่อม อย่างไรก็ไม่มีประโยชน์

หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น จิรฐาก็กลับเมืองเอสน้อยครั้ง มาก ก็ยิ่งกลับบ้านน้อยครั้งกว่าเดิม

ก็เป็นเพราะการปฏิเสธของเขาจันวิภาจึงเกิดอุบัติเหตุ ทางรถยนต์ ดังนั้นตอนที่แม่ของเขาอ้างว่าจะตัดขาดการ รักษาของจันวิภาเพื่อบังคับให้เขาแต่งงาน เขายอมรับแล้ว
เขารู้ว่า ด้วยความรู้สึกที่แม่ของเขามีต่อจนวิภา ไม่อาจ ล้มเลิกการรักษาของจันวิภาเพราะเรื่องการแต่งงานของเขา ได้จริงๆ บางที เขาก็ไม่อาจลงโทษตัวเองเพราะเรื่องนี้ได้ อีกแล้ว

เขาก็เคยคิดว่า ถ้าสักวันหนึ่งจันวิภาพลันตื่นขึ้น เขาก็จะ ดูแลเธอแบบนี้ไปทั้งชีวิต

แต่ในตอนนี้ เขารู้ว่า นั่นยังไม่ใช่ความรัก สิ่งที่เขา สามารถจะให้เธอได้ ยังคงมีเพียงความรักและการดูแลที่พี่ ชายคนหนึ่งมีให้น้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น

เขายังสามารถดูแลเธอได้ทั้งชีวิต แต่ เขาก็จำเป็นต้อง ให้เธอรู้ว่า เขามีครอบครัวของเป็นตัวเองแล้ว มีผู้หญิงที่รัก เป็นของตัวเองแล้ว

บ่ายวันจันทร์ ตอนที่พิมพ์ลดานั่งตรงข้ามกับดนัส ปรึกษาเขาเรื่องแผนนโยบายใหม่ชุดหนึ่ง ริงโทนมือถือของ เขาก็ดังขึ้น ปกติแล้วตนัสจะไม่รับโทรศัพท์ส่วนตัวในเวลา ทำงาน แต่หยิบมือถือขึ้นมา ตอนที่เขาเห็นว่าที่ปรากฏขึ้น บนหน้าจอเป็นเบอร์ของพี่ชาย เขาเงยหน้ามองพิมพ์ลดาที่ นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะทำงานตัวเองอย่างอดไม่ได้

เธอยังคงก้มหน้าอ่านข้อมูลอย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่ได้ สนใจเขาเลยสักนิด

คิดแล้ว ในที่สุดตนัสก็กดปุ่มรับสาย
“พี่ชาย ตอนที่ได้ยินตรัสเรียกพี่ชาย เดิมทีความคิดที่ พุ่งลงบนข้อมูลโฆษณาของพิมพ์ลดาก็ขยับขึ้นลงเล็กน้อย

หนัสถือมือถือไว้ในมือ พิมพ์ลดาก็ไม่ได้ยินว่าจรฐาพูด อะไรกับเขาบ้าง ก็ไม่ได้อยากถาม แต่หลังจากที่ตนัสวาง สายไปแล้ว กลับนำสายตาจ้องค้างไปบนร่างของเธอ

พิมพ์ลดาเงยหน้าขึ้นมองไปทางเขาสบสายตากับเขา

“พิมพ์ลดา” เขายังคงแค่เรียกชื่อเธอ ไม่เคยเรียกเธอว่า พี่สะใภ้เลย คุณตั้งครรภ์แล้ว? ”

ที่จริงแล้วจิรฐาโทร.หาเขา เพื่อพูดเรื่องนี้เนี่ยนะ? เพียง เพื่อบอกเขาว่าเธอตั้งครรภ์แล้ว? เดิมทีพิมพ์ลดาคิดว่าจิรฐา จะบอกเขาว่ากันวิภาตื่นขึ้นแล้วซะอีก

เธอคิดว่า แม้จันวิภาจะโตที่บ้านพยุงพงษ์ อย่างนั้นก็ ต้องรู้จักกับตนัส กลับคิดไม่ถึงว่า ที่แท้ก็เพื่อบอกเรื่องที่เธอ ตั้งครรภ์แล้ว

ดึงรอยยิ้มที่มุมปากเส้นหนึ่งขึ้น เธอพยักหน้า “ อืม ” พิมพ์ลดายังไม่อยากพูดคุยเรื่องที่ตั้งครรภ์กับน้องเขย ดัง นั้นก็ก้มหน้าไปอ่านข้อมูลอีกรอบ

“ อารมณ์ไม่ดีหรือ? “ เห็นรอยยิ้มที่ฝืนดึงขึ้นนั้นของพิมพ์ ลดา ตนัสก็ดูออก เธอไม่มีความสุข

หลายครั้งตั้งแต่เมื่อก่อนตอนที่เธอคบหากับจิรฐา ตนัสคิดว่า เธอน่าจะมีความสุข ถ้างั้นพวกเขาก็กำลังจะมีลูกของ เป็นตัวเองแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ก็ยิ่งสมควรจะมีความสุขไม่ใช่ หรือ?

ทําไมดูเหมือนว่า เธอเหมือนจะมีการตอบสนองที่ไม่มี ความสุขเลยสักนิด?

ได้ยินคำถามอีกข้อหนึ่งของตนัส พิมพ์ลดาไม่ได้ตอบ กลับ เพียงสั่นศีรษะ

ที่จริงแล้วบางครั้ง พิมพ์ลดากำลังคิดว่า ถ้าตนัสไม่ใช่ เจ้านายระดับสูงของเธอ ไม่ใช่น้องเขยของเธอ แต่เป็น เพื่อนสนิทของเธอ งั้นก็น่าจะดีมากล่ะมั้ง

อย่างน้อยเธอก็รู้สึกว่า ผู้ชายที่มีสีหน้าเย็นชาคนนี้ น่าจะ เป็นเพื่อนที่ไม่เลวคนหนึ่ง

น่าเสียดาย สมมุติฐานดังกล่าวเหล่านั้น ล้วนไม่มีทางจะ ตั้งได้

พิมพ์ลดาไม่อยากตอบ ตนัสก็ไม่ได้บังคับเธอ ก็ปล่อย ผ่านไป

จิรฐาโทร.หาเขา เพราะอยากบอกเขาว่าพิมพ์ลดาตั้ง ครรภ์แล้ว ดูแลเธอดีๆหน่อย อย่ามอบหมายงานที่มากเกิน ไปหนักเกินไปให้เธอ ยิ่งไม่ต้องให้เธอไปทำงานนอกสถาน ที่กะทันหันอีก
จิรฐาหวังจะให้พิมพ์ลดาอยู่ในที่ที่ไม่นานเขาก็สามารถ เข้าไปดูแลได้

งานเลี้ยงวันเกิดปีที่แปดสิบของคุณปู่ตระกูลพยุงพงษ์ มาถึงแล้ว คืนนี้ พิมพ์ลดาต้องกลับคฤหาสน์เก่าตระกูลพยุง พงษ์กับจิรฐาเพื่อฉลองวันเกิดให้ท่านผู้เฒ่า

พวกเขาอาศัยอยู่ที่หอพักหมู่ทหารมาตลอด พิมพ์ลดา ยังไม่รู้ว่า ที่จริงแล้วตระกูลพยุงพงษ์ของพวกเขา ยังมีบ้าน เก่าหลังหนึ่งแบบนี้ที่เมืองเอส

ท่านผู้เฒ่าตระกูลพยุงพงษ์ไม่ชอบคนสิ้นเปลือง วันเกิด ครั้งนี้ก็เพียงจัดให้คนในครอบครัวพยุงพงษ์กับญาติสนิทไม่ กี่ครอบครัวมาทานข้าวด้วยกัน ก็ไม่ได้เชิญคนนอก

ก่อนเลิกงาน พิมพ์ลดาไปพูดกับตนัสโดยเฉพาะว่า “ ผู้ อำนวยการ วันเกิดครอบแปดสิบปีของคุณปูในวันนี้ คุณกลับ

ไปเยี่ยมท่านกับพวกเราเถอะ ”

แน่นอนว่า ตนัสไม่ได้กลับไปกับพวกเขา จนกระทั่งมื้อ เย็นเริ่มขึ้น เขาก็ไม่ได้ปรากฏตัว

แต่ ตอนที่ทุกคนกำลังเตรียมจะเริ่มทานอาหาร ทันใดนั้น นอกประตูก็มีคนมาส่งของขวัญ

ผู้ใหญ่จิกับนางพิมพ์

ผู้ใหญ่จิกับนางพิมพ์

Status: Ongoing

เธอเผลยไปดูคู่กับคนที่ผิด ดื่มกาแฟไปสองคำ เธอโยนทะเบียน บ้านขึ้นโต๊ะ”คุณ เราไปจดทะเบียนสมรสกัน” เขาเป็นนยกเทศมนตรี ยังเป็นหนุ่มโสดระดับทองคำ “ข้อแม้ในหลังแต่งงาน ผมมีแค่3ข้อ 1 .อย่าให้ผมไปคุ้นเอาสิ่งที่ ผมไม่สามารถเอาได้ 2.ต้องกินอาหารเย็นที่บ้านด้วยกัน 3.ห้าม หย่า”แต่งตากกับข้อแม้ที่ไม้ยุติธรรมของพิมพ์ลดา จิรฐาเอียงพิง อยู่บนโซฟา อ้าปากเสนอ3ข้อแม้นี้ออกมา เท่านี้ เขาสองคนเลยแต่งงานกันแล้ว มาดูพนักงานตัวเล็กที่ฉลาด รับมือกับผู้ใหญ่เจ้าเล่ห์ยังไง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท