SC:บทที่505 ขั้นการวิวัฒนาการของสัตว์ประหลาด
นายกำลังบังคับให้เธอทำในสิ่งที่เธอทำไม่ได้!
ยามเมื่อได้ยินคำพูดของชูฉิงหลินเฉิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ โลกใบนี้ไม่ได้สงบสุขและรุ่งเรืองเหมือนเมื่อก่อนแล้ว พวกซอมบี้น่ะ ไม่ได้เปิดทางให้เพราะเห็นเธอเป็นผู้หญิงหรอกนะ แล้วก็พวกตัวกินคนก็ไม่ได้เมตตาเธอเพราะความเห็นอกเห็นใจด้วย! ถ้าเธออยากจะมีชีวิตรอดบนโลกที่กำลังวุ่นวายนี้ เธอต้องเอาความอ่อนแอนั้น วางไว้ข้างตัว จากนั้นก็ก้าวข้ามความอ่อนแอทั้งหมดด้วยตัวเธอเอง!
ฉันบอกเธอแล้วนะ…
เห็นหลินเฉิงสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อพูดเรื่องนี้แล้วชูฉิงก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ นายเป็นคนที่แข็งแกร่ง แน่นอนว่านายจะคิดแบบนี้ก็ได้ แต่นายต้องไม่ลืม ถึงความจริงของมนุษยชาติ ว่าทุกๆคนไม่ได้แข็งแกร่งระดับนาย ไม่ว่านายจะได้เห็นทั้งหมดแล้วหรือยังรวมไปถีงฉันเองก็ไม่รู้ด้วยว่าก่อนหน้านี้นายเจออะไรมาบ้าง แต่จากการที่ฉันเฝ้าสังเกตการณ์ ถึงแม้ว่ามันจะผ่านมาเป็นเดือนแล้วก็ตาม สำหรับวันสิ้นโลกที่มาถึงนี่ โลกมันแตกต่างไปจากเดิมมากๆ แถมยังมีเรื่องเหนือธรรมชาติต่างๆเกิดขึ้นอีกมากมาย แต่โลกใบนี้ก็ยังมีพวกเขา โดยเฉพาะ เหล่าชีวิตที่อยู่ในฐานแห่งนี้ พวกเขาอยู่อาศัยกันด้วยความคิดเดิมๆ ไม่เหมือนนายที่มีประสบการณ์น่าตื่นเต้นเยอะแยะไปหมดหรือแม้แต่การที่นายได้รู้ความลับต่างๆมามากมายนั่นอีก ในความคิดของพวกเราน่ะ ตราบใดก็ตามที่พวกเรายังอยู่อาศัยบนโลกที่วุ่นวายนี่ได้ นายก็ไม่ต้องมาสนใจว่าเราจะอยู่กันแบบไหนหรอก เข้าใจหรือเปล่า?
หลินเฉิงถอนหายใจอีกครั้งหลังได้ฟัง เธอพูดถูก มันไม่ได้เกี่ยวกับฉันเลยว่าแต่ละคนจะมีชีวิตอยู่ยังไง แต่เสี่ยวเตี๋ยคือครอบครัวของฉัน ฉันอยากให้เธอสุขสบาย จะให้เธออยู่แบบโง่ๆไม่ได้!
เมื่อเห็นท่าทีที่ดูข่มตนของหลินเฉิงชูฉิงก็ทำได้เพียงใจเย็นลงเท่าที่จะทำได้ เธอพูดด้วยเสียงอ่อน มันโง่มากเลยเหรอที่จะมีความรักในยุคแฟนตาซีแบบนี้? มันโง่เหมือนคนหนุ่มคนหนึ่งที่ดีไปซะทั้งหมดเลยหรือเปล่า? ยังไงก็เถอะ เสี่ยวเตี๋ยควรจะคิดอะไรที่เรียบง่าย ตราบใดก็ตามที่นายให้เวลาแก่เธอ เธอจะเข้าใจทุกๆอย่างด้วยตัวเอง ไม่ช้าก็เร็ว ทำไมนายต้องรีบร้อนขนาดนั้น?
ก็เพราะว่าฉันมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำยังไงล่ะ!ฉันไม่สามารถอยู่ที่นี่นานๆได้เพื่อรอให้น้องสาวฉันค่อยๆเจริญเติบโตหรอกนะ! ฉันยอมรับว่าความคิดของฉันมันบ้าระห่ำไปหน่อยแต่ถ้าเธอเป็นฉัน เธอก็จะเข้าใจเอง ว่าโลกนี้น่ะ เหลือเวลาไม่มากแล้วสำหรับมนุษยชาติ! ถ้าทุกคนยังคงค่อยๆพัฒนาอยู่แบบนี้ ฉันสามารถบอกเธอได้เลยว่า ในอีกไม่นาน เธอและพวกมนุษยชาติทั้งหลายได้ไปรวมตัวกันในสวรรค์โดยเงื้อมมือของพวกปีศาจแน่!
เขาถอนหายใจก่อนจะหันไปทางประตูคุกน้ำแข็งเพื่อฟังบทสนทนาภายในนั้นครู่หนึ่งและนั่นก็ทำให้เขารู้ว่าฉางเหวินฉวนได้ทำงานอย่างซื่อสัตย์ ขณะที่หลี่เหมิงเตี๋ยไม่ได้พูดอะไรมาพักใหญ่ๆแล้ว เพียงแค่อ้าปากหายใจเท่านั้น จากนั้นเขาก็เดินมายังโซฟาและนั่งลง บุหรี่ถูกจุดสูบอีกครั้ง เขาพูดกับชูฉิงด้วยเสียงเบา
กลับกันชูฉิงที่ได้ฟังเรื่องที่หลินเฉิงพูดในตอนนี้ เธอกลับกลายเป็นฝ่ายเครียดหนักแทนและพูดด้วยเสียงขรึม มนุษยชาติเหลือเวลาไม่มาก? นายหมายความว่ายีงไงน่ะ?
หลังจากโบกมือให้เธอหลินเฉิงก็ยื่นมือออกไปและปัดกลุ่มควันนั้นก่อนจะพูด มันเป็นเรื่องที่ยากที่จะอธิบายให้เธอฟัง แต่ก็ตามที่เธอรู้ ว่าความแข็งแกร่งของสัตว์ประหลาดด้านนอกนั้นไม่เหมือนกัน พวกมันมีระบบการพัฒนาการเป็นช่วงอย่างมีประสิทธิภาพดีกว่าพวกเรา และถ้ายึดตามช่วงการวิวัฒนาการของพวกที่ฉันเจอมาตลอดทาง พวกซอมบี้และเหล่าตัวกินคนนั้นเกือบจะอยู่ในขั้นที่ 2 ของการพัฒนากันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น บางจำพวกเองก็เข้าขั้นที่ 3 ไปแล้วด้วย! และพวกที่อยู่ขั้นนั้นก็คือพวกตัวกินคน มันคงไม่น่ารื่นรมย์เท่าไหร่ที่จะพูดว่า ตอนนี้เหล่าคนที่อยู่ในฐานสมุทรสีครามนี่ คงไม่ต่างอะไรกับกระสอบทรายที่คอยโดนกระทำทันทีเมื่อออกจากที่นี่ไป!
หยึย!?
เรื่องนี้ทำเอาชูฉิงนั้นช็อคไปเลยเธอพิงหลังไปกับโซฟาแล้วก็สูดหายใจเข้าลึกๆ สำหรับตัวเธอที่ไม่ได้ออกไปต่อสู้โดยตรง แต่ก็มักจะได้รู้เหตุการณ์ต่างๆมากมายเสียยิ่งกว่านักสู้แนวหน้าหลายๆคนซะอีก แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน เรื่องที่ว่าไม่มีทหารอาชีพคนไหนที่สามารถต่อสู้กับพวกด้านนอกนั่นได้เลย!
ถึงแม้ว่าฐานสมุทรสีครามและเมืองเซียงโจวจะต้องเจอพวกตัวกินคนที่ทรงพลังและบ้าระห่ำอยู่เรืื่อยๆแต่จากการต่อสู้แล้ว พวกเราก็สามารถทำให้พวกมันบาดเจ็บล้มตายกันไปได้บ้าง และนั่นทำให้พวกมันไม่สามารถทำลายแนวป้องกันของฐานสมุทรสีครามนี้ลงได้
แต่เธอนั้นไม่ได้สงสัยในถ้อยคำของหลินเฉิงเลยเหตุผลหลักก็เพราะว่า ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอนี้ คือคนที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งเท่าที่เธอเคยเจอมาในชีวิตเลย ในเมื่อเขาพูดว่าไม่มีทหารมืออาชีพคนไหนที่สามารถเทียบเท่าสัตว์ประหลาดด้านนอกได้ นั่นต้องเป็นเรื่องจริงๆแน่ๆ!
เธอขมวดคิ้วอยู่พักใหญ่หลังจากที่หลินเฉิงสูบบุหรี่เสร็จแล้วและดีดก้นบุหรี่ออกไป ชูฉิงก็เริ่มจะผ่อนคลายลงจากแรงปะทะครั้งใหญ่เมื่อครู่ก่อนจะรีบถามออกไปอย่างเร่งรีบ อะไรคือขั้นที่หนึ่ง ขั้นที่สอง และไอ้สิ่งที่เรียกว่า ขั้นที่สาม ที่นายเพิ่งจะพูดมา?
อ่า…ช่างเป็นผู้หญิงที่ขี้สงสัยจริงๆ…
สายตาที่กระตือรือร้นของชูฉิงนั้นทำเอาหลินเฉิงส่ายหน้าแบบช่วยไม่ได้ตอนแรกเขาไม่ได้ตั้งใจจะลงรายละเอียดลึกขนาดนี้ แต่เมื่อคิดได้ว่า ชูฉิงนั้นเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลรวมถึงเธอเป็นคนที่ฉลาดมากๆในฐานแห่งนี้ ดังนั้นแล้วเพื่อผลประโยชน์ต่อครอบครัวป้าฉิน เขาจึงต้องอธิบาย สิ่งเหล่านี้ฉันได้มาจากการสรุปของตัวฉันเองระหว่างทางมายังเมืองเซียงโจวนี่ มันคือการรวบรวมข้อมูลจากการต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วน ฉันไม่รู้ว่ามันจะถูกหรือเปล่า แต่จากมุมมองของฉัน นี่คือข้อมูลที่ละเอียดที่สุดและเป็นงานวิจัยที่น่าเชื่อถือที่สุดเกี่ยวกับซอมบี้และนิบเบลอร์
หลังจากพูดจบหลินเฉิงก็ยืดหลังขึ้นและเปลี่ยนท่าทางให้สบายตัวขึ้นมา จากนั้นก็พูด ขั้นแรกนั้นคือร่างที่พวกซอมบี้กับพวกตัวกินคนที่กัดแทะเนื้อมนุษย์ซี่งมีมาตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกของวันสิ้นโลก ซอมบี้นั้นไม่ต้องพูดถึงตราบใดก็ตามที่มันไม่ได้ฉลาดไปกว่าเรา เราก็ยังสามารถสุ้มันได้ ในขั้นแรกนั้น พวกนี้จะเร็วและแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ทั่วๆไป มันมีจุดหลายๆจุดที่แข็งแกร่งมากๆ แต่ก็ยังมีจุดอ่อนอย่างเห็นได้ชัด นั่นคือ กลัวของมีคม! เพราะงั้นจะสรุปตรงนี้ก่อนว่าพวกซอมบี้ และตัวกินคนที่อยู่ในขั้นแรกนี้ ต่อให้มนุษย์ที่ยังไม่ได้รับการปลุกให้ตื่นขึ้นมาของพลัง เพียงแค่เราช่วยกัน เราก็เอาชนะมันได้!
ในขั้นที่2 ซอมบี้ที่เริ่มแตกต่างจากตัวกินคน! ในขั้นนี้ เหล่าสัตวประหลาดที่เป็นตัวกินคนในขั้นแรก จะเริ่มแสดงพลังที่หลับไหลอยู่ของมันออกมา ถ้าคนทั่วไปจะจัดการมัน มันจะเป็นเรื่องยากที่จะรับมือแล้ว หรือดีไม่ดีมันก็อาจจะไม่ใช่คู่มือสำหรับพวกเราอีกต่อไป พวกซอมบี้ที่อยู่ขั้นที่ 2 เธออาจจะไม่เชื่อ แต่หลังจากที่ฉันเฝ้ามองขั้นต่างๆของการวิวัฒนาการของมันมา ซอมบี้ที่ทรงพลังบางตัวก็จะเริ่มกลายพันธุ์จากร่างพื้นฐานจนเหมือนจะกลายเป็นสายพันธุ์ใหม่ไปเลย! บ้าน่า!?เป็นไปไม่ได้หรอก นายกำลังจะบอกว่าตัวกินคนบางตัวที่เข้าโจมตีคลังเสบียงของเรารวมถึงโจมตีการ์ดด้านนอกคือพวกที่กลายพันธุ์มาจากซอมบี้เหรอ!?