SC:บทที่509 ขัดแย้ง
ฉันไม่อยากจะพูดถึงมันแล้ว!ฉันจะไปล้างจาน!
เมื่อถูกหลินเฉิงจ้องมองลึกลงไปในดวงตาหยูซานก็รู้สึกเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นเธอก็ลุกขึ้นและรีบเก็บจานต่างๆบนโต๊ะจากนั้นก็พร้อมที่จะเดินไปยังครัวเลย
กลับมา
ดูแล้วเมื่อเห็นว่าเธอไม่ตอบแถมยังทำท่าจะหนีด้วยหลินเฉิงก็ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะพูดอย่างเยือกเย็น
ได้ยินหลินเฉิงเอ่ยเสียงเย็นเช่นนั้นหยูซานผู้ที่หันกลับมาแล้วก็ค่อยๆเดินกลับไปนั่งที่เดิมที่เธอจากมา
เธอน่าจะรู้นี่ว่าฉันจะพูดอะไรใช่มั้ย?
หลังจากที่รอให้เด็กสาวที่กำลังตื่นกลัวค่อยๆกลับมานั่งที่เดิมหลินเฉิงก็ขมวดคิ้วและมองหน้าเธอเป็นเวลานานจากนั้นก็ถาม
อ่าใช่แล้ว!
หยูซานเงยหน้าขึ้นแล้วรีบมองไปที่หลินเฉิงพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ
มองเด็กสาวที่เหมือนกำลังคาดเดาอะไรอยู่หลินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและไม่มีอารมณ์ที่จะสูบบุหรี่ เขางอบุหรี่ไว้ในมือก่อนจะพูดออกไปตรงๆ ในเมื่อเธอรู้แล้วว่าฉันกำลังจะพูดอะไร เพราะงั้นฉันก็จะไม่อ้อมค้อมกับเธอแล้วนะ!
ในตอนนี้เมื่อหลินเฉิงมองหยูซาน เธอก็มองเขากลับมาด้วย เขาอยากจะพูด เพราะงั้นเขาจึงกดมือตัวเองลงเป็นสัญญาณให้เธอฟังเขาพูดจนจบ ฉันยอมรับว่าตั้งแต่ต้น ตอนที่ฉันอยู่ในหุบเขาฟินิกส์ ฉันเห็นความสามารถในการล่องหนของเธอก่อนที่ฉันจะตัดสินใจพาตัวเธอมาด้วย และจนถึงตอนนี้ ฉันไม่เคยเสียใจกับอีกครึ่งหนึ่งของมันเลย ถึงแม้ว่าบางครั้งจะมีใจอ่อนบ้าง แต่งานของเธอนั้นสำเร็จลุล่วงไปหลายชิ้นมากกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีกจากใจจริงเลยนะ ฉันขอบคุณเธอมากๆ!
แต่ผู้คนที่ได้ร่วมเดินทางด้วยกันมาเนิ่นนานไม่ว่าพวกเขาจะรู้จักกันมามากขนาดไหนมาก่อน ยังไงซะก็ย่อมต้องมีความรู้สึกบางอย่าง ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของเธอจะไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่ากับตัวฉันได้อยู่ดี ถ้าหากการเดินทางครั้งต่อไปฉันพาเธอไปด้วย จริงจังเลยนะ ฉันไม่รับประกันว่าตัวเธอจะปลอดภัย…
ฉัน…ฉันจะพยายามเพื่อที่จะพัฒนาตัวเองให้ได้!เพราะงั้นอย่าทิ้งฉันไว้ข้างหลังเลยนะ พี่หลิน!
ได้ยินแบบนั้นหยูซานก็อดที่จะเกิดกลัวขึ้นมาภายในใจไม่ได้เธอรีบหยุดเขาไว้ก่อนที่เขาจะพูดจบและตบอกสัญญา
ฉันไม่ได้อยากจะทิ้งเธอไว้ข้างหลังแต่ว่าฉันคิดจากสถานการณ์ที่มันหนักข้อขึ้นทุกวันหลังจากนี้ และฉันไม่อยากให้เธอตาย
มองไปยังใบหน้าที่กระตือรือร้นของหยูซานหลินเฉิงก็ส่ายหน้าช้าๆ อ่า…ตราบใดก็ตามที่เธอพยายามอย่างหนัก เธอก็จะเทียบเคียงฉันได้ในซักวัน แต่เธอนั้นจะต้องแลกมาด้วยความหนักหน่วงมหาศาลเลยนะ! ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นคนเย็นชาขนาดมากๆด้วยเลือดเหล็กที่ไหลอยู่ในสายเลือด แต่พอผ่านการเดินทางมาเนิ่นนานกับเธอ ในสายตาฉัน เธอน่ะก็เหมือนเสี่ยวเตี๋ย เป็นน้องสาวคนหนึ่งของฉัน ฉันไม่อยากให้เสี่ยวเตี๋ยบาดเจ็บขนาดไหน ฉันก็ไม่อยากให้เธอบาดเจ็บขนาดนั้นแหละ!
ฉันไม่กลัว!ตราบใดก็ตามที่ฉันสามารถอยู่กับพี่หลินได้ จะหนักแค่ไหนก็ได้!
เธอฟังหลินเฉิงเปิดใจดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงและไม่สามารถอดที่จะร้องไห้ได้ พี่หลินน่ะพาฉันออกมาจากหุบเขาฟินิกส์ และสอนฉันให้เอาตัวรอดหลายๆอย่างรวมถึงทักษะการต่อสู้แบบพี่หลินด้วย ฉันไม่เคยคิดเลยว่าวันนึงฉันจะต้องแยกจากพี่! ทำไมล่ะ…ทำไมพวกเรา…
อ่า… ดูเหมือนหยูซานจะกู่ไม่กลับแล้วหลินเฉิงก็เกาหัวด้วยความปวดขมับและให้เธออยู่ในฐานแห่งนี้ต่อไป ในความจริงนั่นก็เพราะเธอได้รับบาดเจ็บอย่างหนักเมื่อ 2 วันก่อน หลังจากที่ต่อสู้แล้วต่อสู้อีกนับครั้งไม่ถ้วน เขาก็พบว่าเธอนั้นช่วยเขาได้น้อยลงเรื่อยๆ และด้วยระดับความแข็งแกร่งของเธอนั้นจะทำให้เขาพัฒนาได้ช้าลง และถ้าเขายังบังคับให้เธอออกไปด้วยอีก เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าวันใดที่เธอนั้นเกิดประมาท วันนั้นเธอก็อาจจะตายได้เลย!
ถึงแม้ว่าหยูซานและโคล่าทั้งสองจะได้รับยาเร่งสมรรถนะแบบ D แต่เหนือสิ่งอื่นใด โคล่านั้นจะตื่นขึ้นมาเป็นอะไรที่หายากมากๆรวมถึงดุร้ายด้วยความสามารถของ ร่างพิเศษ การที่รับยาเพิ่มสมรรถนะแบบ D นั้นก็เหมือนไอซิ่งที่โรยหน้าเค้ก แต่สำหรับหยูซานนั้นต่างออกไป ความสามารถทุกอย่างของเธอมันพุ่งสูงขึ้นหลังจากรับยาไปแล้ว หากตอนนี้เธอไม่ได้รับยาเพิ่มสมรรถนะ เป็นไปได้ว่าเธอจะมีช่องโหว่เต็มไปหมด ไม่มีทางที่ความแข็งแกร่งดั้งเดิมของเธอจะช่วยให้เธอสามารถผ่านงานอันตรายต่างๆมาได้ขนาดนี้!
เมื่อเอาเรื่องนี้มาคิดพิจารณาหลินเฉิงก็ตัดสินใจที่จะทิ้งเธอไว้ที่นี่ ถึงแม้ว่าเธออาจจะตามเขาไม่ทัน แต่เธอก็จะมีชีวิตที่ยืนยาว รวมไปถึงเธอจะสามารถปกป้องครอบครัวของป้าฉินหากเธอไปอาศัยอยู่กับป้าฉินด้วยความแข็งแกร่งที่มีในตอนนี้ นี่เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดเพื่อช่วยให้โลกทั้ง 2 ใบของเขาอยู่ดีที่สุด
คิดได้ดังนั้นหลินเฉิงก็พยายามทำใจแข็งและแนะนำเธอต่อ อย่าร้องไห้สิสาวน้อย ฉันบอกเธอไปแล้วว่าไม่ได้จะทิ้งเธอไว้ข้างหลัง แต่เพราะว่างานของฉันนั้นมันอันตราย ฉันไม่สามารถหลบหนีการต่อสู้ทุกรูปแบบได้และมันสามารถเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา ที่อยากให้เธออยู่ที่ฐานแห่งนี้ ก็เพราะว่าเธอจะได้พัฒนาตัวเธอเองได้รวมถึงสามารถดูแลครอบครัวป้าฉินได้ในเวลาเดียวกัน และเมื่อไหร่ทีงานของฉันมันเสร็จสิ้น ฉันก็จะกลับมาหาเธออย่างแน่นอน!
ไม่…ฉันไม่ต้องการ…
ไม่ว่าหลินเฉิงจะพูดอะไรแต่หยูซานก็ดูจะไม่ต้องการอยู่ที่นี่ สำหรับเด็กสาวที่เป็นคนเก็บตัวอย่างเธอ มันยากที่จะเชื่อใจใครซักคนแบบเต็มอก โดยเฉพาะในโลกที่โหดร้ายและซับซ้อนอย่างตอนวันสิ้นโลกเช่นนี้ เธอรู้สึกเลยว่ามันยากมากๆที่จะได้เจอคนอย่างหลินเฉิง ผู้ที่คอยสอนเธอต่างๆนะๆ เปลี่ยนจากคนที่ไม่มีความกล้าให้กลายเป็นคนใหม่
มันยากมากที่จะบอกหยูซานในขณะนี้เธอต่อต้านแบบสุดๆ หลินเฉิงนั้นก็เริ่มเป็นทุกข์และท้ายสุดก็จุดบุหรี่สูบ ในความเป็นจริง เขานั้นไม่อยากที่จะเสียหยูซานไป ผู้ช่วยมือขวาที่เก่งทั้งทำอาหารและกำจัดสัตว์ประหลาด แต่ก็อย่างที่เขาพูด หลังจากที่ผ่านมาช่วงหนึ่ง หยูซานนั้นนั้นค่อยๆเปลี่ยนจากผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาและกลายมาเป็นครอบครัวเขาคนหนึ่งรวมไปถึงเป็นเพื่อนที่เขายอมรับจากหัวใจ โดยเฉพาะหลังจากที่เขาเห็นแล้วว่าหนทางข้างหน้านั้นจะยิ่งอันตรายมากกว่าเดิม เขาไม่ต้องการที่จะเห็นเด็กสาวที่น่าสงสารนี้ตายลงต่อหน้าเขา!
นัยน์ตาของเขานั้นเหม่อลอยอยู่นานจนท้ายสุดหลินเฉิงก็ตัดสินใจพูดอะไรออกมา แต่เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก่อน!
จริ…
เสียงเคาะประตูเบาๆนั้นทำให้เขาขมวดคิ้วก่อนจะหันมาบอกหยูซาน งั้นเรื่องนี้ไว้คุยกันทีหลัง ขึ้นไปข้างบนก่อนเร็ว!
เขารอจนกระทั่งหยูซานขึ้นชั้นบนไปก่อนจะค่อยลุกขึ้นไปเปิดประตู
พี่ชาย…
ทันทีที่ประตูเปิดหลินเฉิงก็เห็นหลี่เหมิงเตี๋ยยืนรออยู่ด้านนอก เขาช็อคนิดหน่อยก่อนจะกล่าวทักทายด้วยเสียงเบา