บทที่ 1077 ความจริงพิสูจน์แล้วว่าเขาคิดมากเกินไป!
เนื่องจากภูเขาไฟปะทุอยู่บ่อยๆ ภูเขาทั้งโลกล้วนเต็มไปด้วยหมอกควัน เข้าใกล้เล็กน้อยก็หายใจไม่ออกแล้ว
ตี้ฝูอีร่อนลงบนที่ราบกลางภูเขาแห่งนั้นที่อบอวลด้วยเขม่าเถ้าภูเขาไฟ ควันภูเขาไฟหนาแน่นยิ่งกว่าหมอกเสียอีก ระยะห่างสิบกว่าก้าวก็มองเห็นตัวคนไม่ชัดแล้ว
ครั้งนี้ตี้ฝูอีสวมเสื้อคลุมสีควันอ่อนจางตัวหนึ่ง บนเสื้อคลุมมีกลุ่มเมฆสีดำ ราวกับหมู่เมฆทะมึนที่ซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ นี่เป็นเครื่องแต่งกายเฉพาะของผู้นำหน่วยอนธการ ในโลกนี้มีอยู่เพียงตัวเดียว กันน้ำกันไฟ ใช้วัสดุพิเศษมาตัดเย็บเป็นชุดนี้ วัสดุชนิดใดก็ลอกเลียนแบบไม่ได้ มีเพียงสายสืบของหน่วยอนธการที่รู้จักอาภรณ์ชุดนี้
ดังนั้นทันทีที่เขาร่อนลงไป ก็มีสายสืบของหน่วยอนธการเข้ามาทำความเคารพแล้ว
สายสืบคนนี้ค้นพบสิ่งใหม่แล้ว เขาพบซากศพของสตรีนางหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่หลงซือเย่ร่อนลงมา…
ตี้ฝูอีก็ไม่พูดจาไร้สาระเช่นกัน ให้เขาพาตนไปดูทันที
ศพของสตรีนางนั้นอยู่ในถ้ำภูเขาแห่งหนึ่ง ตี้ฝูอีมองแวบเดียวก็จำได้ทันที
นี่คือร่างของเย่หงเฟิง!
ที่นี่มีอุณหภูมิสูง ศพนั้นจึงหดตัวอย่างหนัก สภาพแห้งกรังเสียรูป เหมือนมัมมี่ที่ถูกอบจนแห้ง เสื้อผ้าบนร่างถูกเผาจนขาดวิ่นแล้ว แทบปกปิดร่างกายไม่อยู่แล้ว
ถึงแม้ศพนี้จะเสียรูปจนแม้แต่บิดามารดาของนางก็ยังจำไม่ได้แล้ว แต่ตี้ฝูอีจดจำผู้คนจากโครงกระดูก รูปลักษณ์ของเย่หงเฟิงคล้ายคลึงกับกู้ซีจิ่ว โครงกระดูกก็ย่อมคล้ายคลึงเช่นกัน ดังนั้นเขามองแวบเดียวก็จำได้แล้ว
หัวใจเขาเสมือนจมดิ่งสู่ธารน้ำแข็ง เขาคิดมาตลอดว่ากู้ซีจิ่วกับเย่หงเฟิงสลับร่างกัน แต่ยามนี้เย่หงเฟิงคืนชีพขึ้นมาในร่างของกู้ซีจิ่วแล้ว แต่ร่างนี้ของเย่หงเฟิงกลับถูกโยนทิ้งไว้ที่นี่ราวกับขยะ
เช่นนั้นดวงวิญญาณของกู้ซีจิ่วไปอยู่ที่ไหนกัน?!
เขาตัดสินใจในทันใด เริ่มคลำไปบนซากศพนี้…
สายสืบที่นำทางผู้นั้นเบิกตากว้าง นายท่านผู้ลึกลับคนนี้ไม่เพียงแต่ไปมาไร้ร่องรอยเท่านั้น ยังรักความสะอาดยิ่งนักอีกด้วย ปกติแล้วอย่าว่าแต่ศพเลย ต่อให้เป็นโฉมสะคราญเขาก็ไม่แตะต้องอีกฝ่ายเลยแม้เพียงสักนิ้ว หนนี้เป็นอะไรไป?
ตี้ฝูอีกลับไม่แยแสต่อความประหลาดใจของลูกน้องคนนี้ เขาต้องการดูว่าดวงวิญญาณของกู้ซีจิ่วถูกผนึกไว้ในซากศพแห้งกรังนี้หรือไม่ ศัตรูมีวิชามารชั่วช้ามากเกินไป เขาไม่ปล่อยให้ความหวังเพียงน้อยนิดเล็ดรอดไปได้
ความจริงพิสูจน์แล้วว่าเขาคิดมากเกินไป!
ดวงวิญญาณของกู้ซีจิ่วไม่ได้อยู่ในร่างนี้ เช่นนั้นสรุปแล้วนางไปอยู่ที่ไหนกัน?
“นายท่าน ยังต้องหาต่อหรือไม่?” สายสืบผู้นั้นถาม
“หา!” ตี้ฝูอีตอบมาเพียงคำเดียว
….
ระยะเวลาสามวันสำหรับคนส่วนใหญ่แล้วเสมือนหลับตื่นหนึ่ง กะพริบตาไม่กี่ทีก็ผ่านไปแล้ว
แต่สำหรับตี้ฝูอี สามวันนี้กลับเป็นสามวันที่ยาวนานนับปี
สามวันมานี้สายสืบที่เหลือของเขาไม่ได้ส่งข่าวคราวที่เกี่ยวกับหลงซือเย่มาอีกเลย และภูเขาไฟลูกนั้นก็ถูกสายสืบหลายสิบคนตรวจค้นอย่างละเอียดปานร่อนตะแกรงแล้ว ผลคือไม่พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์อีกเลย
ราวกับหลงซือเย่กระโดดลงไปในลาวาที่เดือดพล่านเพื่อสังเวยชีพบูชารักแล้ว แม้แต่เศษผ้าสักชิ้นจากร่างเขาก้หาไม่พบเลย
ตี้ฝูอีย่อมคิดจะจะง้างปากเย่หงเฟิงที่อยู่ที่นี่เช่นกัน เคยใช้วิชาสะกดจิตควบคุมนางครั้งหนึ่ง คิดจะให้นางคายความจริงออกมา
แต่เห็นได้ชัดว่าเย่หงเฟิงผู้นี้ได้รับการฝึกฝนให้มีความอดทนในด้านนี้มาแล้ว วิชาสะกดจิตของตี้ฝูอีที่ใช้ร้อยครั้งได้ผลครั้งทำให้คนที่โดนสะกดจิตพูดความจริงออกมากลับไม่มีผลกับนางเลย…
เนื่องจากเกรงว่าจะแหวกหญ้าให้งูตื่น เขาจึงไม่สามารถลงทัณฑ์นางได้ชั่วขณะ เลี่ยงไม่ให้เกิดผลร้ายต่อกู้ซีจิ่วมากกว่าเดิม
ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ที่อยู่ของกู้ซีจิ่วที่เป็นปริศนา แม้แต่ที่อยู่ของหลงซือเย่ก็เป็นปริศนาด้วย
ในช่วงนี้ตี้ฝูอีได้ทำการเรียกวิญญาณของกู้ซีจิ่วกับหลงซือเย่คนละสองครั้งแล้ว ล้วนไม่มีผลเลย
————————————————————————————-
บทที่ 1078 เจ้าอยู่ที่ไหนกันแน่?
และถึงแม้ดวงดาวที่เป็นตัวแทนของนางและหลงซือเย่จะหม่นแสงลง แต่ยังมิได้ร่วงหล่นไป ยืนยันได้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ ดวงวิญาณไม่ได้ถูกผู้อื่นทำร้ายจนแตกสลายไป
แต่ว่า พวกเขาไปอยู่ที่ไหนกัน?
นางจะมีชีวิตอยู่ในฐานะอื่นใดอีกหรือไม่? ตกระกำลำบากไหม? ได้รับความทุกข์ยากหรือเปล่า?
หลงฟั่นที่วิปริตผู้นั้นจะทำอะไรนาง?
ความกังวลสารพัดปีนป่ายอยู่ในหัวใจ ทำให้เขาแทบไม่อาจสงบเยือกเย็นได้ และเป็นครั้งแรกที่เขาได้ลิ้มรสความเป็นห่วงคนผู้หนึ่งจนถึงขั้นกระสับระส่ายนั่งไม่ได้นอนไม่ติด สามวันมานี้เขาไม่หลับไม่นอนเลย
มู่เฟิงที่รับใช้อยู่ข้างกายท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มาโดยตลอดเพิ่งเคยเห็นเจ้านายตนซูบผอมลงเป็นครั้งแรก ตัวคนดูทรุดโทรมไปไม่น้อย
ด้วยความหวังดีจึงพร่ำเกลี้ยกล่อมให้เขาเข้าฌานฟื้นฟู บางเรื่องนั้นมีเพียงเขาฟื้นฟูสู่สภาพเดิมอย่างสมบูรณ์เท่านั้นถึงจะทำได้
ตี้ฝูอีก็ทราบแก่ใจดี เพียงแต่ความกังวลนี้เสมือนใยแมงมุม พันแน่นอยู่ในหัวใจเขา ทำให้เขาไม่อาจสงบใจได้
ผู้ที่ไร้พันธะถึงจักไร้พ่าย เขาเป็นเทพ ยามที่เขาไม่แยแสใส่ใจผู้ใด เขาสามารถกระทำเรื่องราวต่างๆ อย่างสุขุมได้ พบเจอความบากอันใดล้วนตอบโต้อย่างเยือกเย็น ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้
แต่ยามนี้ในใจของเขามีนางแล้ว นางกลายเป็นจุดอ่อนขอเขา กลายเป็นเกล็ดย้อนของเขา ยามนี้จุดอ่อนของเขาถูกผู้อื่นกุมไว้แล้ว!
เขานึกว่าการสวมกำไลคู่บุพเพไว้บนร่างนางก็สามารถจับตามองความเคลื่อนไหวของนางได้ตลอด หากนางเผชิญอันตรายเขาสามารถไปช่วยเหลือได้นางได้ทันกาย
แต่ตอนนี้ดวงวิญาณนางหายไป เขาทุ่มเทกำลังทั้งหมดแล้วก็ยังหาไม่พบ…
เขาสูดลมหายใจ เห็นทีว่าภายหน้าหลังจากหานางพบ เขาจะต้องประทับตราไว้บนดวงวิญญาณของนางเสียแล้ว! ไม่อาจรอจนนางอายุสิบแปดได้แล้ว…
เช่นนี้ไม่ว่านางจะสับเปลี่ยนไปอยู่ในร่างไหนเขาล้วนหานางพบและพากลับมาได้แม่นยำทันท่วงที!
เขารออยู่อีกหนึ่งวัน ในที่สุดวันนี้ก็ตัดสินใจเรื่องหนึ่งแล้ว ทำให้มู่เฟิงตกใจจนแทบอ้าปากค้าง “จงบอกมู่เตี่ยน ว่าเผยเรื่องที่เหยียนนั่วก็คือข้าให้เย่หงเฟิงรู้ซะ!”
มู่เฟิงตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี “นายท่าน ยามนี้ท่านยังไม่ฟื้นฟูสู่สภาพเดิม หากปล่อยให้มารสวรรค์ตนนั้นรู้จุดอ่อนนี้ของท่าน เกรงว่าเขาจะบุกมาโจมตีอย่างบ้าคลั่ง!” นี่คือความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนายท่าน หากถูกคนชั่วรู้เข้า เกรงว่าต่อไปจะมีเรื่องวุ่นวายตามมาไม่หยุดหย่อน!
ตี้ฝูอีกำมือตนเบาๆ เอ่ยอย่างเฉยเมย “ก็ให้เขามาสิ!”
ในเมื่อเขาไม่อาจตามหารสวรรค์ตนนั้นได้ ก็ทำได้เพียงให้ตัวเองล่ออสรพิษออกมาจากโพรง!
มู่เฟิงพูดอะไรไม่ออกแล้ว
กู้ซีจิ่ว เจ้าอยู่ที่ไหนกันแน่? เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพื่อตามหาเจ้าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จ่ายค่าตอบแทนไปมากมายเพียงใด?
….
ยามที่กู้ซีจิ่วตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนอยู่ในโลงใบหนึ่ง
เป็นโลงแก้วผลึกใบหนึ่ง
ภายในโลงแก้วมีของเหลวอยู่เต็มโลง และเธอก็นอนอยู่ในสิ่งที่คล้ายกับฟองอากาศที่ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในของเหลวนั้น บนฟองอากาศเชื่อต่อกับท่อมากมายที่ส่งผ่านของเหลวที่อยู่ด้านนอกเหล่านั้นเข้ามา
กู้ซีจิ่วทึ่มทื่ออยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกว่าสถานการณ์ของตนคล้ายทารกที่อยู่ในครรภ์มารดายิ่งนัก ฟองอากาศนี้ก็คล้ายกับถุงน้ำคร่ำ ท่อพวกนี้ก็เหมือนเส้นเลือดที่เชื่อมต่อสารอาหาร ส่วนโลงแก้วผลึกก็คือมดลูก
เธอไม่ต่างกับเด็กทารกเลย ทารกที่อยู่ในครรภ์ร่างกายเปลือยเปล่า แต่เธอกลับสวมเสื้อผ้าอยู่!
บนร่างเธอสวมกระโปรงยาวตัวหนึ่งซึ่งไม่ทราบว่าทำมาจากวัสดุชนิดใด นุ่มนวลกว่าน้ำ เรียบลื่นกว่าไหม แนบไปกับร่างเธอ ทำให้เธอสบายใจไม่น้อย
เริ่มแรกเธอแค่ลืมตาขึ้นแวบหนึ่งเท่านั้น เมื่อสัมผัสได้ว่ารอบกายไม่มีผู้คนเธอจึงลืมตาขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ กาดตามองรอบข้าง จากนั้นก็พบว่าโลกแก้วผลึกของตนตั้งอยู่ในห้องวิจัยแห่งหนึ่ง
รอบด้านมีเครื่องมือสารพัดที่เรียกชื่อไม่ถูก
เธอหรี่ตาลงนิดๆ
เมื่อครู่นี้ก่อนที่เธอจะตื่นขึ้นมา ได้ยินเสียงพูดอยุ่หลายประโยค
“เช่นนี้ถือว่าสำเร็จแล้วหรือ? นางจะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่?”
————————————————————————————-