บทที่ 1710 เขาไม่เคยสอนให้นาง!
นอกเสียจากว่านางใช้วิชาต้องห้ามอะไร อย่างเช่นวิชามารสวรรค์สลายร่าง…
วิชามารสวรรค์สลายร่างให้ผลลัพธ์ถึงขั้นนี้ได้จริง ทว่ามันก็มีผลตามมาที่อันตรายมาก โดยปกติคนที่ใช้วิชามารสวรรค์สลายร่างแล้ว สถานเบาจะสูญเสียพลังวิญญาณไปมาก กลายเป็นสวะไร้ค่า สถานหนักก็จะสิ้นชีพในทันที…
ไม่ได้! เขาต้องหยุดยั้งนาง!
วิชามารสวรรค์สลายร่างเป็นวิชาที่หยุดยั้งได้ ดูจากลำแสงสีรุ้งนางมีสัญญาณของตะเกียงที่ขาดน้ำมันแล้ว เขาจำเป็นต้องใช้วิธีที่รวดเร็วที่สุดเพื่อหยุดยั้ง!
เขาพุ่งตัวไปอย่างแรง เมื่อใกล้ถึงละแวกนั้นกลับถูกสิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็นดีดกลับออกมา
เขตแดน!
ที่แห่งนี้มีเขตแดน!
ตี้ฝูอีเป็นยอดฝีมือในการทำลายเขตแดน ภายใต้ความร้อนใจ เขายังไม่ทันได้ดูให้ชัดเจนว่าเป็นเขตแดนอะไร ก็เริ่มลงมือทำลาย วิชาที่ใช้เป็นวิชาสลายเขตแดนที่ทรงพลังและใช้ร้อยครั้งได้ผลร้อยครั้ง
ลำแสงสีขาวสายหนึ่งสาดส่องอักษรรูนประทับลงบนเขตแดนนั้น!
วิชาสลายชนิดนี้เป็นวิชาสลายเขตแดนสารพัดประโยชน์ เทียบเท่ากับกุญแจผี ไขเปิดทุกเขตแดนได้…
สิ่งที่เขานึกไม่ถึงก็คือ หลังจากที่เขาใช้วิชานี้ เขตแดนนั้นเพียงสั่นสะเทือนเล็กน้อย แทบจะไม่มีทีท่าการทำลาย
เขามองกู้ซีจิ่วที่กำลังต่อสู้อยู่ด้านในอีกครั้ง จู่ๆ ร่างกายนางก็สั่นสะท้าน เหมือนกับโดนโจมตีเข้าอย่างกะทันหัน แล้วกระอักเลือดออกมา
โม่เจ้าฉวยโอกาสใช้กระบี่ฟันไปตรงที่ศีรษะของเธอ ทว่าเธอหลบหลีกได้
เขตแดนที่กู้ซีจิ่วสร้างขึ้นยิ่งใหญ่นัก ตี้ฝูอีมองทั้งสองคนด้านในจากด้านนอกเขตแดน มองเห็นเพียงสองเงาร่างที่เคลื่อนไหวรวดเร็วปานกระต่ายโดดเหยี่ยวโผประกอบกับลำแสงสีรุ้งและเงากระบี่มากมายนับไม่ถ้วน ทว่ามองเห็นหน้าไม่ชัด เพราะห่างไกลเกินไป
ทว่าเขาเห็นนางกระอักเลือด
หัวใจพลันสั่นสะท้าน!
เขตแดนนี้
เขายกมือขึ้นสัมผัสเขตแดน รับรู้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคย ไม่ต้องเอ่ยถาม เขตแดนนี้เป็นเขตแดนที่กู้ซีจิ่วสร้างขึ้น
ทว่า เขตแดนที่นางสร้างขึ้นนี้เขาไม่เคยเห็น ถึงขั้นที่ไม่เคยได้ยิน
ไอพลังวิญญาณของเขตแดนนี้เข้มข้นยิ่งนัก ด้านบนเหมือนมีกลิ่นอายของดวงวิญญาณรางๆ ราวกับใช้ดวงวิญญาณสร้างขึ้นมา
สีหน้าเขาแปรเปลี่ยน!
หากเขตแดนนี้สร้างด้วยดวงวิญญาณ เช่นนั้นตอนที่เขาทำลายเขตแดนก็เท่ากับโจมตีนาง…
การสร้างเขตแดนด้วยดวงวิญญาณเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะหากผู้ใดต้องการทำลายเขตแดน ก็เท่ากับลงมือโจมตีดวงวิญญาณของคนสร้างเขตแดน หากเขตแดนชนิดนี้สร้างในสถานที่ที่มีผู้ฝึกฝนมากมาย นั่นช่างรนหาที่ตายเสียจริง!
นางเรียนรู้การสร้างเขตแดนด้วยดวงวิญญาณตั้งแต่เมื่อใด? เขาไม่เคยสอนให้นาง!
หากต้องการทำลายเขตแดนชนิดนี้มีเพียงสองวิธีเท่านั้น ไม่คนสร้างเขตแดนปลดออก คนสร้างเขตแดนก็ต้องล่วงลับ…
มือของตี้ฝูอีสั่นระรัว เขาลองใช้วิชาดำดินดู ผลก็คือดำลงไปได้ไม่ถึงด้านใน
เห็นได้ชัดว่าเขตแดนชนิดนี้ปิดกั้นทุกคนที่เข้ามาจากทั่วทุกสารทิศในใต้หล้า!
“ซีจิ่ว เปิดเขตแดน! ให้ข้าเข้าไป!” เขาตะโกนเสียงดัง
ยามนี้พลังวิญญาณเขาสูงส่ง มีอานุภาพทะลุทะลวงที่แข็งแกร่ง อย่าว่าแต่ห่างไกลกันไม่กี่ลี้เลย ต่อให้ห่างไกลกันเป็นร้อยกว่าลี้ ก็ได้ยินอย่างแน่นอน
ซุ่มเสียงดุจหุบเขาที่ว่างเปล่าดังไปโดยรอบแล้วสะท้อนกลับมา ทว่าเหมือนคนทั้งสองที่ต่อสู้กันอยู่ในเขตแดนจะไม่ได้ยินเลย
เขาไม่ยอมลดละ ตะโกนเสียงดังกึกก้องติดต่อกันอีกหลายครั้ง ถึงขนาดใช้วิชาแทรกซึมทะลวงหลากหลายชนิดแล้ว คนด้านในเขตแดนกลับไม่ตอบสนองเลย ยังคงต้อสู้กันอย่างดุเดือดเร่าร้อน
หรือว่าเขตแดนนี้เก็บเสียง?
ทว่าเขากลับได้ยินเสียงการต่อสู้ด้านใน!
บางทีอาจจะเก็บแต่เสียงด้านนอก? จะได้ไม่มีผู้ใดรบกวน?
เขายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกมีความเป็นไปได้เช่นนี้ ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่สีหน้าไม่แปรเปลี่ยนแม้ภูเขาไท่ซานจะถล่มลงต่อหน้ารู้สึกตื่นตระหนกจนแข้งขาสั่นไปหมดแล้วเป็นครั้งแรก
—————————————————————————-
บทที่ 1711 เกรงว่าเจ้าคงช่วยนางไม่ได้แล้ว!
เดินวนเป็นวงอยู่ตรงนั้น
เขาใช้วิชาสลายเขตแดนที่ค่อนข้างนุ่มนวลหลายชนิดต่อเนื่องกัน ทว่าล้วนไม่เป็นผลทั้งสิ้น ในทางกลับกันกลับทำกู้ซีจิ่วที่อยู่ด้านในส่ายโซเซอยู่สองสามครั้ง มีครั้งหนึ่งที่อันตรายที่สุดเนื่องจากนางส่ายโงนเงนจนถูกโม่เจ้าฟันเข้าที่แขนหนึ่งดาบ!
โลหิตสดๆ ทะลักออกมา ย้อมท่อนแขนซ้ายนางจนแดงฉานไปหมด
ตี้ฝูอีไม่กล้าลงมือแล้ว!
หัวใจระส่ำระส่ายราวกับมิใช่ของตน มือเท้าของเขาเย็นเฉียบไปหมดแล้ว!
รู้สึกหวาดกลัวเป็นครั้งแรกในชีวิต!
สมองของเขาที่ปราดเปรื่องช่างวางแผนเสมอมายามนี้สับสนว้าวุ่น หลังจากเดินวนไปวนมาอยู่ที่เดิมไม่กี่รอบ ในที่สุดเขาก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ รีบติดต่อหาหลงซือเย่
ถึงแม้เขาจะถอดถอนฐานะสานุศิษย์สวรรค์ของหลงซือเย่แล้ว แต่ไม่ได้ริบป้ายหยกสื่อสารที่เคยมอบให้เขาไว้คืนมา
ได้แต่หวังว่าหลงซือเย่จะยังพกติดตัวอยู่!
ยังดีที่หลงซือเย่ไม่ได้โยนป้าหยกชิ้นนั้นให้สุนัขไปแล้ว รับสายอย่างรวดเร็วยิ่ง “ทูตสวรรค์ตี้ พบตัวซีจิ่วแล้วหรือ?”
ตี้ฝูอีไม่มีแก่ใจมาทักทายปราศรัยกับเขา รีบเอ่ยถามทันที “ซีจิ่วเคยร่ำเรียนเวทวิชาอันใดมาใช่ไหม? ชนิดที่ใช้พลังจากดวงวิญญาณก่อตั้งเป็นเขตแดน…” เขากล่าวถึงลักษณะเฉพาะของเขตแดนที่อยู่เบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว ได้แต่หวังให้หลังซือเย่จะพอรู้บ้าง…
น้ำเสียงของหลงซือเย่เปลี่ยนไปแล้ว “นางอยู่ที่ไหน? นางไล่ตามโม่เจ้าไปใช่ไหม? สู้สุดชีวิตกับโม่เจ้าอยู่หรือ?!”
เวลาเช่นนี้ตี้ฝูอีย่อมไม่ปิดบังอำพราง รีบบอกสถานที่และสถานการณ์ทันที เอ่ยถามอีกว่า “สรุปแล้วเจ้ารู้จักเขตแดนชนิดนี้หรือไม่? จะทำลายได้อย่างไร?”
น้ำเสียงหลงซือเย่แทบจะแตกพร่าแล้ว “ตี้ฝูอี! เจ้ากำลังจะฆ่านาง! นางคิดจะตายตกไปพร้อมกับโม่เจ้าแล้ว!”
ตี้ฝูอีสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง “ข้ากำลังหาทางช่วยนางอยู่! เจ้าบอกวิธีให้ข้าสิ ข้าจะทำลายเขตแดนนี้แล้วไปช่วยนาง ตอนนี้นางยังคงอยู่ดี…”
น้ำเสียงของหลงซือเย่ฟังราวกับยิ้มอย่างปวดร้าวอยู่ “ช่วยนางรึ? เกรงว่าเจ้าคงช่วยนางไม่ได้แล้ว! นั่นคือเขตแดนวิญญาณศักดิ์สิทธิ์! วิชาประหัตวิญญา ไม่ตายไม่เลิกรา!”
“มะ…หมายความว่ายังไง” น้ำเสียงตี้ฝูอีก็สั่นพร่าแล้วเช่นกัน
สุ้มเสียงของหลงซือเย่ราวกับทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ “นั่นเป็นเวทวิชาที่นางเรียนมาจากหมอผีผู้ทรงฤทธิ์ท่านหนึ่งในยุคนั้นของพวกเรา หมอผีคนนั้นเป็นเชื้อสายของหนี่ว์วา วิชาปราบมารเลิศล้ำ ซีจิ่วเคยเรียนรู้ทักษะบางส่วนมาจากนาง ในบรรดาทักษะเหล่านั้นมีเขตแดนวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และวิชาประหัตวิญญาอยู่ด้วย! สองวิชานี้ส่งเสริมขับเน้นกัน และกล่าวได้ว่าเป็นเวทย์วิชาที่เชื่อมโยงกัน วิชานี้ต้องใช้วิญญาณกระตุ้นสำแดงออกมา เมื่อสำแดงออกมาแล้ว พลังยุทธ์จะเพิ่มสูงขึ้นห้าเท่าในชั่วพริบตา! และต้องล้างสังหารมารร้ายอย่างไม่ตายไม่เลิกรา ไม่ว่าจะเป็นนางตายหรือว่าฝ่ายตรงข้ามตาย ก่อนที่จะถึงตอนนั้น ผู้อื่นไม่อาจสอดมือเข้าไปยุ่งได้! และไม่สามารถเข้าไปได้เลย! เจ้าอย่าได้โจมตีเขตแดนที่นางติดตั้งเด็ดขาด! มิเช่นนั้นจะเท่ากับเป็นการโจมตีใส่นาง! เท่ากับเจ้าร่วมมือกับโม่เจ้าสังหารนาง!”
ตี้ฝูอีหนาวเหน็บไปทั้งร่าง เสมือนผลัดตกลงไปในโพรงน้ำแข็ง ปีนขึ้นมาไม่ได้อีก ในหูเกิดเสียงดังหึ่งๆ
เขามองกู้ซีจิ่วที่พลิกเหินโจมตีอยู่ด้านในไม่หยุด เขาเชื่อว่านางน่าจะสัมผัสถึงการมาของเขาได้แล้ว
อย่างไรเสียนางก็เป็นผู้ติดตั้งเขตแดนนี้ เมื่อเขตแดนของนางถูกผู้อื่นโจมตีนางจะไม่รู้ได้อย่างไรเล่า?
เพียงแต่นางไม่คิดจะสนใจเท่านั้น นางถึงขั้นที่ไม่มองมาทางนี้เลยสักแวบด้วยซ้ำ!
ที่แท้ นางก็ตัดสินใจจะเอาชีวิตเข้าแลกจริงๆ นางไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ หรือ?
เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าก้าวข้ามไปได้แล้ว…
มองเขาราวกับมองมองคนแปลกหน้าแล้วชัดๆ ถึงขั้นที่มองเขาเป็นสหายธรรมดาๆ ด้วยซ้ำ ร่วมมือกันนางกระทำเรื่องราวบางอย่าง…
เขานึกว่านางก้าวข้ามเรื่องส่วนใหญ่ไปได้แล้ว นางเริ่มมุมานะเพื่อแข็งแกร่งขึ้นแล้ว…
ที่แท้นางก็แสร้งทำงั้นหรือ?!
ที่แท้นางก็โหยหาความตาย…
ฝ่ายหลงซือเย่ที่อยู่ด้านนั้นก็สิ้นหวังแล้วเช่นกัน น้ำเสียงคล้ายร่ำไห้ “ตี้ฝูอี นางชมชอบเจ้าถึงเพียงนั้น เพื่อเจ้าแล้วสละได้ทุกสิ่ง!…”
————————————————————————————-