ตอนที่ 112 ไม่มีทางอยู่เหนือเธอได้
พบพรคิดว่าทักษะการแสดงของตัวเองดีมาตลอด แต่ครั้ง นี้พอเริ่มการถ่ายทำ เธอไม่สามารถเข้าถึงแก่นของการถ่าย ทำครั้งนี้ได้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะการสื่อสารทางสายตาไม่ได้ ก็ แสดงแข็งเกินไป ยิ้มโอเวอร์เกินจริง อีกทั้งยังมองกล้องไม่ ตรงจุดเลยด้วย
ผ่านไปยี่สิบนาที ผู้กำกับตะโกนคัต เขาตะโกนเสียจนคอแทบ จะแตกอยู่แล้ว
สถานการณ์เช่นนี้พบเห็นกันได้ไม่น้อย แต่เมื่อเกิดการเปรียบ เทียบกับจิดาภาเมื่อครู่แล้วนั้น ความสามารถของพบพรนั้น ช่าง..
เดิมที่โอกาสนี้เป็นของจิดาภา นั่นก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้ว ว่าคนที่มีความสามารถจริงๆเท่านั้นถึงจะได้ไป แต่พบพรไม่ได้ ดูความสามารถของตัวเอง อยากจะแย่งไป ผลที่ออกมาจึงเป็น เช่นนี้
จงกลและผู้จัดการคนอื่นๆต่างพากันอดไม่ได้ที่จะต้องละ สายตาไปจากตรงนั้น การถ่ายทำเป็นเช่นนี้นั้นช่างเสียเวลา
หรือจิดาภาจะเก่งถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?
จงกลนึกย้อนกลับไปถึงการแสดงออกทางอารมณ์ของจิดา ภา เธอคงจะไม่ยอมรับไม่ได้ว่าศิลปินที่เธอปั้นมาหลายปี ก็ยัง คงทำได้ไม่ดีเท่าเขาอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น คนเรามักจะมีจิตใต้สำนึกที่เป็นของตัวเอง จิดา ภากล้าทำ กล้าแสดง ยากที่จะทำให้คนที่ได้ดูการแสดงของ เธอแล้วจะละทั้งความรู้สึกนั้นไป ราวกับร่างกายของเธอมี เสน่ห์อยู่แบบนึง นั่นคือเธอเกิดมาเพื่อเป็นนักแสดง!
ถึงอย่างไรเธอเคยได้รับรางวัลราชินีแห่งวงการภาพยนตร์มา แล้ว จากการสั่งสมประสบการณ์เป็นระยะเวลาหลายปี ทักษะ การแสดงของเธอก็ยิ่งเป็นประจักษ์ต่อสายตาผู้คน
เมื่อดูการถ่ายทำดำเนินไปจนถึงตอนท้ายแล้ว จิดาภาจึง ลุกขึ้น ผ.อ.บรรพตจึงเดินมาหาเธออย่างลำบากใจ “คุณจิดา ภา คุณยังไม่ได้เปลี่ยนชุด ฉากสุดท้ายให้คุณแสดงแล้วกันนะ ครับ”
จิดาภาเหลือบตาขึ้นมอง แล้วตอบรับกลับไปเบาๆ “ค่ะ”
พอเปลี่ยนแสงไฟ จิดาภาก็นั่งอยู่ตรงหน้าฉาก และเมื่อเปิด เลนส์เริ่มการถ่ายทำนั้น เผยให้เห็นความงามที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก..
แต่เพียงแค่ยี่สิบวินาทีเท่านั้น เธอก็ถ่ายทำฉากนี้สำเร็จ
ทั้งยังเป็นแบบเทคเดียวผ่าน
ผู้กำกับเห็นภาพบนหน้าจอ จึงอดไม่ได้ที่จะปรบมือขึ้นมา “โอ เคครับ เพอร์เฟค เก็บของได้!”
จิดาภาได้ใช้ความสามารถตัวเองพิสูจน์ประโยคนี้แล้วว่า เพชรแท้ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัยก็จะไม่เปื้อนฝุนง่ายๆอย่าง แน่นอน ศิลปินใหม่ๆอย่างพวกเขายังต้องเรียนรู้กันอีกมาก
จงกลมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชา หากถึงเก่งกว่านี้แล้ว อย่างไรกัน! ไม่ได้รับการเซ็นสัญญาจากบริษัทไหนอยู่ดี อย่างไรซะก็ต้องถูกลืมเข้าสักวัน
และเมื่อขณะที่จิดาภากำลังจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้านั้น
ผ.อ.บรรพตก็ได้รับข่าวมาว่า รถของจิรภาสจอดอยู่ตรงที่จอด รถ และจิรภาสก็อยากพบเขาด้วย
ผ.อ.บรรพตจึงรีบวางงานที่อยู่ในมือลง แล้วรีบไปหาเขาทันที
ในใจรู้สึกระแวง ว่าทำไมจู่ๆจิรภาสถึงอยากจะพบเขากัน? แล้วเมื่อคิดโยงกับเรื่องที่เพิ่งจะถ่ายทำเสร็จไปเมื่อครู่นั้น จึง รู้สึกสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของจิดาภาหรือเปล่า?
แต่คิดอีกทีก็อาจจะไม่ใช่ เพราะหากจิรภาสออกโรงแทนจิดา ภาขนาดนี้แล้วล่ะก็ นั่นก็แสดงว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคน นั้นมีความสนิทสนมกันจริงๆ จิดาภาก็ไม่น่าจะมาอยู่ตรงนี้ได้
จิดาภาได้ใช้ความสามารถของเธอพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่มี ใครจะอยู่ตำแหน่งที่เหนือกว่าเธอได้ ตอนสำคัญของโฆษณา ชิ้นนี้ก็ยังจะต้องให้เธอแสดงอยู่ดี!
ผ.อ.บรรพตยืนอยู่ตรงหน้าจิรภาสด้วยความนอบน้อม “คุณจิร ภาสหาผมหรือครับ?”
“ผมผ่านมาแถวนี้พอดี ได้ยินมาว่าตอนทำงานเกิดเรื่องอะไร ที่ทำให้ไม่มีความสุขกัน ผมเลยอยากถามว่ามีคนหาเรื่องคุณ จิดาภาหรือเปล่าครับ?”
จิรภาสเอ่ยปากถามอย่างตรงประเด็น นั่นทำให้ผ.อ.บรรพต ถึงกับตกตะลึง เขารู้สึกเย็นสันหลังวาบ แล้วตอบกลับไปด้วย ความกลัวและหวาดระแวง “เรื่องนี้ …ถ้าจะมีก็ อาจจะเป็นเรื่องที่ คุณพบพรอยากจะแสดงหลายฉากหน่อยนะครับ ก็เลย…จริงๆแล้วก็ไม่มีอะไรหรอกครับ เพราะสุดท้ายช่วงตอน ของคุณจิดาภาก็ดีกว่าอยู่ดี”
ผ.อ.บรรพตมีเหงื่อเม็ดเล็กๆผุดออกมาเต็มบนหน้าผากของ
เขา
จิรภาสละสายตาออกไป แล้วสั่งให้คนขับรถออกรถ
ผ.อ.บรรพตมองดูรถคันที่แล่นห่างออกไป รู้สึกขาอ่อนจน แทบจะยืนไม่ไหว แล้วอยากจะรีบกลับไปยังสถานที่ถ่ายทำ เพื่อไปขอโทษจิดาภา หากเขารู้ก่อนหน้านี้ว่าจิดาภามีจิรภาส เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเช่นนี้ โฆษณานี้เขาคงจะให้จิดาภาแสดง เพียงคนเดียว!
ดูในวงการบันเทิงนี้ จะมีศิลปินเพียงกี่คนที่จะได้รับเกียรติเช่น นี้ สามารถทำให้จิรภาสออกหน้าแทนเธอได้ขนาดนี้!
แต่จิดาภาพอถ่ายทำเสร็จเธอก็กลับไปเสียแล้ว ผ.อ.บรรพต เจอแต่เพียงความว่างเปล่า จึงตัดสินใจ ให้ทีมงานทุกคนทำโอ ที่จะต้องตัดต่อแก้ไขโฆษณาชิ้นนี้ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด แล้ว
ฉายออกไปอย่างรวดเร็ว
นี่คงจะเป็นสิ่งที่เขาพอจะชดเชยให้กับจิตาภาได้ เวลาเช่นนี้ การได้มาเข้าร่วมถ่ายทำโฆษณาสาธารณประโยชน์ชั้นใหญ่เช่นนี้ คงจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเธอเป็นอย่างมาก
โชคดีที่จิดาภานิสัยดี ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับพวกพบพร มิเช่น นั้นแล้วคนพวกนั้นคงจะต้องถูกบีบให้ออกไปจากวงการบันเทิง นี้อย่างแน่นอน
แต่ทำไมจิดาภาถึงไม่เซ็นสัญญากับทางเค.เอฟกัน? หากมี เกราะป้องกันเช่นนี้ คงสามารถเข้าออกในวงการนี้ได้อย่างไม่ กล้ามีใครมาขัดขวาง
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ผ.อ.บรรพตก็ได้รับโทรศัพท์จากญาณินี
“ได้ข่าวว่าการถ่ายทำเสร็จสิ้นแล้ว การแสดงของจิดาภาเป็น
อย่างไรบ้างคะ?”
“สมบูรณ์แบบมากครับ ผมไม่ได้เจอนักแสดงที่มีความโดด เด่นเช่นนี้มานานมากแล้ว” ผ.อ.บรรพตประเมินด้วยจิตใจที่สงบ
เมื่อนึกถึงเรื่องที่จิรภาสออกหน้าแทนจิดาภาแล้ว จึงไม่ได้ พูดอะไรออกมามากนัก เพื่อหลีกเลี่ยงการหาเรื่องใส่ตัว แต่ที่ ญาณินีดูจะใส่ใจจิดาภาขนาดนี้ ใช่ว่า….
แต่ผลออกมาไม่เป็นอย่างที่เขาคิด ญาณินีรีบบอกเขา “จริงๆ แล้วจิดาภาเซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัดของโอเลแล้ว ต่อไป หวังว่าผ.อ.บรรพตมีผลงานใหม่จะรับจิดาภาไว้พิจารณานะคะ”
ญาณินีเองก็คิดจะปูทางไว้ให้จิดาภาเช่นกัน
“แล้วคนใหม่ที่จงกลพาไปเป็นอย่างไรบ้างคะ? หนึ่งในนั้นมี คนนึงเป็นคนใหม่จากstar plan”
“ดาวรุ่งใช่ไหม? ก็อยู่ในระดับกลางๆนะครับ” ผ.อ.บรรพตนึก ไปถึงการแสดงของดาวรุ่ง สามารถมองเห็นการฝึกฝนการ แสดงที่เคยฝึกมาจากโรงเรียนสอนการแสดง ถึงแม้ว่าจะมี ความพยายาม แต่ก็สร้างความน่าจดจำให้กับคนอื่นๆได้ยาก หรือจะพูดได้ว่าไม่ได้มีลักษณะเด่นเฉพาะตัวเลย
“คืออย่างนี้นะคะ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม การถ่ายทำในวันนี้ ต้องขอบคุณคุณมากสำหรับการดูแลเอ่อ…ใช่แล้ว ตอนนี้เรื่อง ที่จิดาภาเซ็นสัญญากับทางโอลังไม่ได้เปิดเผย คุณจะต้องช่วย เก็บความลับนี้ไว้ก่อนนะคะ แม้แต่จงกลก็ให้เธอรู้ไม่ได้”
ผ.อ.บรรพตเพิ่งจะเข้าใจเจตนาของญาณินีก็ตอนนี้ เธอไม่ เพียงแค่จะดันจิดาภา แต่ยังจะทำให้จงกลได้รับรู้ถึงความลำบากด้วย.. ดูแล้วโอเลกำลังจะล้างไพ่เสียแล้วสิ
ผ.อ.บรรพตรับปากญาณินี เพียงแต่เขาไม่คิดว่าพอกลับมายัง ออฟฟิศ กลับได้ยินจงกลกำลังพูดนินทาว่าร้ายกับผู้จัดการ ส่วนตัวคนอื่นๆอยู่
“จิดาภาเก่งจริงหรือ? ก็เป็นแค่ศิลปินแย่ๆที่ไม่มีสังกัดแค่นั้น เอง บังเอิญมากกว่าที่หัวข้อการถ่ายทำวันนี้เหมาะกับเธอ เธอ จะแสดงได้ไปอีกซักกี่ปีกันเชียว? โอเลก็โยนประวัติเธอทั้งไป แล้วด้วยสิ”
ผ.อ.บรรพตขมวดคิ้ว แล้วเดินเข้าไปหาพวกเขา
“คุณสงสัยในความสามารถของคุณจิดาภา นั่นก็หมายความ ว่ากำลังสงสัยในรสนิยมของผมด้วยอย่างนั้นหรือ?”
“ฉันไม่รู้หรอกค่ะว่าจิดาภาจะแสดงต่อไปได้อีกซักกี่ปี แต่ถ้า คุณสลัดเธอไปไม่ได้แบบนี้ ฉันว่าเส้นทางในวงการนี้ของคุณ
คงต้องเจอกับทางตันแล้วล่ะคะ”
“ถ้าคุณญาณินีมาเห็นการแสดงของคุณจิดาภา เธอจะต้องไม่ พูดแบบนี้แน่ๆ คุณเป็นเพียงลูกน้อง เป็นเพียงผู้จัดการส่วนตัว ของศิลปิน จะพูดอะไรก็ระวังไว้หน่อยนะครับ อย่าหาเรื่องให้
บริษัทเลย”
จงกลหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา เธอรู้ว่าผ.อ.บรรพตเป็น เพื่อนกับญาณินี แต่เรื่องของโอเลคงไม่ต้องให้คนนอกอย่าง เขามาชี้นิ้วสั่งเช่นนี้หรอก
“ถึงฉันอยู่ที่โอเลตำแหน่งจะไม่สูง แต่กับพวกศิลปินฉันมี สิทธิที่จะออกความคิดเห็นได้ค่ะ วันนี้ฉันกล้าพูดออกมาตรงนี้ เลย ว่าหากฉันยังอยู่ที่โอเล ฉันจะไม่ยอมให้จิดาภาเข้ามายัง โอเลเป็นอันขาด!”
ผ.อ.บรรพตมองเธอ นับวันเธอยิ่งจะอวดดีมากขึ้นๆทุกวันเสีย
แล้ว
หากดูการให้ความสำคัญของญาณินีแล้ว ที่จงกลพูดจาอวดดี ออกมาเช่นนี้ ก็ไม่แปลกใจเลยที่ญาณินี้ไม่บอกเรื่องที่เธอเซ็น สัญญากับจิดาภากับคนอย่างจงกล