หวานรักจับหัวใจท่านประธาน – ตอนที่ 195 แผนที่ดีที่สุด / ตอนที่ 196 ผมก็จะเป็นของคุณเหมือนกัน
ตอนที่ 195 แผนที่ดีที่สุด
เธอลืมว่าตัวเองจะพูดอะไรไปในทันที ได้แต่มองเขาอย่างงุนงง
นัยน์ตาสีดำล้ำลึกเผยพลังที่ทำให้คนรู้สึกมั่นคง
นี่คือ…ลูบหัวด้วยความเอ็นดูเหรอ
เขากำลังปลอบใจเธอเหรอ
เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันดึงสติกลับมา มือข้างที่หยุดอยู่บนหัวเธอก็ออกแรงเล็กน้อย แล้วดันหัวของเธอไปข้างๆ จากนั้นก็เลิกคิ้วมองผู้ช่วยที่เดินเข้ามาจากข้างหลัง
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
เมื่อกี้เขาแค่รำคาญที่เธอขวางทางอย่างนั้นสินะ
ซาบซึ้งอะไรกัน เธอตาบอดแล้วแท้ๆ!
“คุณชาย ผมตรวจสอบมาแล้วครับ เห็นเธออยู่ในโทรทัศน์ระบบปิดของคอนโดมิเนียมที่อาศัยอยู่ เธอออกจากที่นั่นตามแผนงานที่วางเอาไว้ตั้งแต่เช้า แต่หลังจากออกจากคอนโด เธอก็ถูกรถตู้คันหนึ่งพาขึ้นรถไป ยืนยันแล้วว่าเธอถูกพาตัวไปครับ!”
ผู้ช่วยรีบเดินมาข้างหน้า แล้วรายงานอย่างเร่งร้อน
เขาหอบหายใจแรงมาก น่าจะวิ่งมาตลอดทางโดยไม่ได้หยุด
“ประธานถังเจอที่อยู่ของรถตู้คันนั้นแล้วครับ ตอนนี้เขากำลังอยู่ระหว่างทางไปหาซ่างซิน แต่ให้ผมวกกลับมาหาคุณชาย ซ่างซินให้ความสำคัญกับงานพรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้มาก หวังว่าคุณจะถ่วงเวลาไว้ได้ และรอเขาหาซ่างซินพบครับ!”
ในเมืองเอชนี้ อิทธิพลของตระกูลถังเป็นรองก็เพียงแต่ตระกูลอวี๋เท่านั้น
มีถังหยวนซืออยู่แล้ว พวกเขาไปเพิ่มอีกก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ตอนนี้แน่ใจได้แล้วว่าซ่างซินถูกคนลักพาตัวไป
เมื่องานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่มีปัญหา ไม่เพียงจำนวนขายผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าจะได้รับผลกระทบ ชื่อเสียงของซ่างซินก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน
ถังหยวนซือไม่สนใจงานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่สนใจชื่อเสียงของซ่างซิน
ตรงนี้มีแฟนคลับรออยู่มากมาย ถ้าเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นแม้แต่นิดเดียว ผลลัพธ์ก็ยากจะจินตนาการได้แล้ว!
ดังนั้นไม่ว่าอีกฝ่ายมีจุดประสงค์อะไร พุ่งเป้ามาที่ตัวซ่างซิน หรืองานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้ แต่การทำให้สถานการณ์ตอนนี้สงบเรียบร้อย รอให้ซ่างซินปรากฎตัวเป็นแผนที่ดีที่สุด!
อวี๋เยว่หานเข้าใจความคิดของถังหยวนซือได้อย่างรวดเร็ว ดวงตาสีดำของเขาหยั่งลึกลง ก่อนจะหันหน้าไปมองเหนียนเสี่ยวมู่
“วันนี้คุณเป็นคนรับผิดชอบงานโดยรวม มีวิธีถ่วงเวลาบ้างไหม”
“…”
สมองของเหนียนเสี่ยวมู่เอาแต่แข็งทื่อตั้งแต่ผู้ช่วยปรากฏตัว
ในหัวเธอตอนนี้มีแต่คำถามที่กำลังวนเวียนอยู่
โดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่าถังหยวนซือไปตามหาซ่างซินด้วยตัวเอง เธอก็ยิ่งเบิกตาโพลงอีก
แต่สุดท้ายก็ดึงสติกลับมาได้ และสบตาที่ไม่เป็นสุขของอวี๋เยว่หาน ก่อนจะรีบตอบว่า “เอาช่วงที่ไม่ค่อยสำคัญของงานมาไว้ข้างหน้าก่อนได้ ฉันจำได้ว่ามีรายการจับรางวัล น่าจะถ่วงเวลาได้ครึ่งชั่วโมง”
“เพิ่มของรางวัลในรายการ พยายามถ่วงเวลาจากพวกเขาให้ได้หนึ่งชั่วโมง” อวี๋เยว่หานเงียบไปสองสามวินาที แล้วกำชับเสียงเรียบเย็น
“ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”
เมื่อได้รู้ว่าเธอเป็นคนเดียวที่จะช่วยซ่างซินได้ เหนียนเสี่ยวมู่ก็หมุนตัวเดินไปหากลุ่มคนทำงานข้างๆ โดยไม่ลังเล
ปรับแก้แผนงานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ชั่วคราว
เมื่อถึงเวลา ก็ให้พิธีกรเริ่มงานไปตามปกติ
อีกด้านหนึ่งของเมือง
รถตู้คันสีดำจอดลงหน้าผับที่ไม่เปิดร้านในตอนกลางวันแห่งหนึ่ง
เมื่อประตูรถเปิดออก ผู้ชายสวมเสื้อยืดสีดำมีรอยสักเต็มแขนหลายคน ก็แบกหญิงสาวที่กำลังสลบไสลคนหนึ่งเดินเข้าไปทางประตูหลังของผับอย่างมีลับลมคมใน
แต่เพิ่งเข้าไปในผับ บนบาร์ที่เดิมทีมืดมนก็มีไฟสว่างขึ้นมา
หลายคนไม่หยุดฝีเท้า แบกคนเดินตรงไปยังห้องส่วนตัวข้างในสุด
เมื่อประตูห้องส่วนตัวเปิดออก ก็เห็นคนคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา
ใบหน้าขาวเกินกว่าปกติ ราวกับเป็นคลุกคลีอยู่ในสถานบันเทิงเป็นเวลานาน
ขอบตาดำใต้ตาออกไปทางเหลือง และดวงคู่นั้นแสดงความเถื่อนถ่อยออกมาด้วย
ตอนที่ 196 ผมก็จะเป็นของคุณเหมือนกัน
“คุณชายหลิน พาตัวมาแล้วครับ!” ผู้ชายมีรอยสักหลายคนแบกหญิงสาวเดินมาข้างหน้าหลินเชา ก่อนจะเอ่ยปากราวกับขอความดีความชอบ
เมื่อได้ยินดังนั้น หลินเชาก็เงยหน้าขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นทันที
เขาเดินมาข้างหน้าโดยไม่สนใจสิ่งอื่น ก่อนจะปัดผมของหญิงสาวออก เมื่อแน่ใจว่าเป็นคนที่ตัวเองเฝ้าฝันหา เขาก็เบิกตาโพลงขึ้นมา
“ซ่างซินเอ๋ยซ่างซิน ถึงแม้คุณจะหยิ่งกว่านี้แล้วยังไง สุดท้ายก็ตกอยู่ในกำมือของผม!” หลินเชาหรี่ตาด้วยความดีใจ
เขาอยากพูดมานานแล้ว ว่าซ่างซินทำได้แค่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้เขา
เขาไม่ได้ตัวเธอ ก็ไม่มีใครได้ไปทั้งนั้น!
และจะไม่มีใครเห็นเขาเป็นเรื่องตลก!
หลินเชามองสาวสวยตรงหน้า รู้สึกใจอ่อนเสียแล้ว
ก่อนหน้านี้ได้แต่มองไกลๆ แต่เพียงเท่านั้นก็รู้สึกว่าซ่างซินสวยมากแล้ว บวกกับความเย่อหยิ่งที่ทำให้ใครๆ ไม่ชอบใจ ยิ่งทำให้ชายหนุ่มควบคุมความต้องการได้ยากมาก
ตอนนี้ได้มองใกล้ๆ ถึงจะพบว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้สวยเพียงอย่างเดียว ยังบริสุทธิ์มากด้วย
กลิ่นกายสะอาดสะอ้าน ราวกับพื้นหญ้าเขียวชอุ่มหลังฝนตก
ทำให้เขาข่มใจอยากจะปกป้องเธอแทบไม่ไหว…
เขารักเธอเหลือเกิน…
“พวกแกทำอะไรกับเธอ” หลินเชาพิจารณาอยู่นาน ก่อนจะควบคุมความคิดของตัวเองได้ และเงยหน้าขึ้นมาถาม
หลายคนรีบอธิบาย “เธอดิ้นแรงมากเลยครับ พวกเรากลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ ก็เลยทำให้เธอสลบไป แต่คุณชายหลินวางใจเถอะครับ อีกเดี๋ยวก็ตื่นแล้ว!”
ระหว่างพูด ชายพร้อมรอยสักคนหนึ่งก็ก้าวมาข้างหน้า แล้วก็วางของบางอย่างลงตรงใต้จมูกของซ่างซิน ทันใดนั้นหญิงสาวก็ขมวดคิ้ว และส่งเสียงถอนใจออกมาแผ่วเบา
จากนั้นเธอก็สะลึมสะลือตื่นขึ้นมา
เมื่อมองเห็นตำแหน่งของตัวเอง ทั้งยังมีคนอยู่ตรงหน้า สมองของเธอก็ทึ่มทือไปเล็กน้อย
วินาทีต่อมา นางแบบสาวก็จำภาพก่อนหน้าที่ตัวเองจะสลบไปได้ จึงยันร่างกายลุกขึ้นนั่งจากโซฟา
พร้อมกับมองคนตรงหน้าอย่างระแวดระวัง
“พวกคุณเป็นใคร”
ขณะเดียวกับที่เธอพูด มือของเธอก็คลำในกระเป๋าเสื้อ อยากจะหาโทรศัพท์มือถือ แต่กลับพบว่าสิ่งที่ตัวเองค้นหาได้หายไปแล้ว
มันน่าจะหล่นหายไปตอนที่เธอดิ้นรนอยู่บนรถตู้ก่อนหน้านี้
ที่นี่ดูเหมือนห้องเก็บเสียง ตะโกนแค่อย่างเดียวคนข้างนอกไม่ได้ยินแน่ๆ
แถมเธอ…ยังถูกมัดไว้ด้วยเหรอเนี่ย
ในดวงตาของซ่างซินฉายแววหวาดกลัวออกมา แต่ไม่นานก็ข่มความรู้สึกตัวเองให้ใจเย็นลงได้
เธอเงยหน้ามองหลายๆ คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
แต่เธอไม่คุ้นหน้าใครเลยสักคน จำใครไม่ได้โดยสิ้นเชิง
แต่ชายหนุ่มหนึ่งเดียวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอนั้น เธอเหมือนจะจำได้บ้าง ส่วนเคยเห็นที่ไหน กลับจำไม่ได้เสียอย่างนั้น…
“ซ่างซิน คุณไม่ต้องกลัว ผมไม่ทำร้ายคุณหรอก ผมแค่มีธุระอยากคุยกับคุณสักหน่อย ขอแค่คุณให้ความร่วมมือ ผมรับรองว่าคุณจะได้ออกไปจากที่นี่โดยไม่มีรอยขีดข่วน” หลินเชากล่าวพลางพยักเพยิดไปทางคนข้างๆ
ทันใดนั้นก็มีคนถือกล่องหนึ่งเดินมาข้างหน้า แล้วเปิดกล่องออก
ในนั้นมีเงินสดอยู่เต็มกล่อง และเหมือนกำลังส่องประกายระยิบระยับด้วย
ล่อลวงอย่างเต็มที่!
เมื่อเห็นซ่างซินตะลึงไป มุมปากของหลินเชาก็ปรากฏรอยยิ้มลำพองใจข้นมา
อย่างที่เขาว่า มีใครไม่ชอบเงินบ้าง
ซ่างซินปฏิเสธเขาในตอนแรก ต้องเป็นการเข้าใจผิดแน่ๆ ตอนนี้ธนบัตรมากมายวางอยู่ตรงหน้า เรื่องอะไรจะเจรจาไม่ได้ล่ะ
หลินเชาหยิบสัญญาฉบับหนึ่งโยนไว้บนกล่องเงิน “ขอแค่คุณเซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ฉบับนี้ เงินพวกนี้ก็จะเป็นของคุณทั้งหมด”
“…”
“ถ้าคุณยอม ผมก็จะเป็นของคุณเหมือนกัน!” หลินเชาพูดพลางหรี่ตาจนเหลือเป็นช่องเล็ก พร้อมกับยื่นมือไปหาหน้าอกของเธอ
แต่ยังไม่ได้ทันที่จะแตะโดน ซ่างซินก็ก้มหน้าลงกัดแขนของเขาเสียแล้ว
เสียงร้องเหมือนหมูถูกเชือดดังออกจากปากของหลินเชาในทันที
“อ๊าก”