ตอนที่ 537 ความจริง! ฉันนี่แหล่ะคือแม่แท้ๆ! (5)
“ตอนนี้ไม่มีความจำเป็นต้องให้คุณพูดอีกแล้ว แต่คำพูดทุกคำที่คุณพูดออกมา จะถูกตำรวจเก็บเป็นหลักฐานคำให้การ”
“……”
เหวินหย่าไต้นึกไม่ถึงว่า ทางตำรวจจะสืบคดีได้ดีขนาดนี้ สืบมาถึงตัวเธอได้รวดเร็วมาก
เธอยังไม่ทันได้เงิน
เธอยังไม่ทันจะได้หนี
ไม่ เธอยังสาวอยู่ เธอจะได้ติดคุกไม่ได้……
เหวินหย่าไต้มองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า จากนั้นก็เดินถอยหลังไปไม่หยุด ใบหน้าค่อยซีดเผือดลงๆ
เมื่อเธอได้สติ ก็เริ่มหมุนตัวหนีในทันที
แต่ว่าความเร็วของเธอ จะไวไปกว่าตำรวจได้อย่างไร วิ่งไปได้สองก้าว ก็ถูกจับล้มลงบนพื้น
เธอสะบัดตัวดิ้นหนีอย่างสุดแรงเกิด
“ไม่ใช่ฉัน พวกคุณจับผิดคนแล้ว ลักพาตัวอะไรกัน ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันซะหน่อย……ไม่เกี่ยวกับฉัน……”
“คุณชายหาน คุณช่วยฉันสิ คุณเคยบอกว่าจะไม่มีทางยอมให้ฉันตายไปต่อหน้า แค่พวกคุณยอมบอก ว่าฉันไม่ได้ทำ พวกเขาต้องเชื่อแน่ๆ……”
ร่างของเหวินหย่าไต้เปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่น ใบหน้าก็คลุกเคล้าไปด้วยฝุ่นเช่นเดียวกัน
แต่เธอยังคงเอาแต่นึกว่า เธอเป็นคนช่วยชีวิตอวี๋เยว่หาน
เธอจึงพยายามเอื้อมมือไปทางชายหนุ่ม
คลานเข้าไปหาเขา!
เห็นว่าอวี๋เยว่หานเพียงแต่มองมายังเธอด้วยสายตาเย็นชา ในแววตานั้นไม่มีความอ่อนโยนอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว
เธอจึงค่อยๆ ลดมือลง
แววตาของเธอค่อยๆ สิ้นหวังลง
ดูท่าเธอคงต้องโดนตำรวจจับตัวไปจริงๆ
“เดี๋ยวก่อน!” น้ำเสียงเย็นชาของอวี๋เยว่หานดังขึ้น
เมื่อได้ยินเสียงของเขา เหวินหย่าไต้ก็รู้สึกเหมือนคนที่กำลังจะจมน้ำแล้วได้รับความหวังสุดท้าย เธอมองไปยังเขาอย่างคาดหวัง
เห็นว่าเขาเดินตรงมาทางเธอ
ในใจก็เริ่มรู้สึกปิติยินดีขึ้น
เขายังคงเป็นห่วงเธออยู่!
พวกเธอโตมาด้วยกัน แถมเธอยังเคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ด้วย เขาคงทนมองเธอโดนจับตัวไปแบบนี้ไม่ได้หรอก
เขามาช่วยเธอแล้ว!
เหวินหย่าไต้น้ำตาไหลออกมาด้วยความดีใจ แต่วินาทีต่อมาก็เห็นว่าชายหนุ่มหยุดฝีเท้าลงทิ้งระยะห่างจากเธอไปประมาณหนึ่งเมตร
กวาดตามองมาที่ร่างของเธอ สุดท้าย ก็หันไปทางตำรวจที่จับกุมเธอเอาไว้
“นอกจากการจ้างลักพาตัวคราวก่อน ผมอยากจะฟ้องเหวินหย่าไต้เพิ่มในข้อหาสมรู้ร่วมคิดยุยงให้เกิดการลักพาตัวเรียกค่าไถ่”
ทุกคนต้องชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป
เขาเห็นแก่ที่เหวินหย่าไต้เคยช่วยชีวิตเขา ยอมปล่อยเธอไปครั้งหนึ่งแล้ว
แต่เธอกลับไม่สำนึก ทำผิดร้ายแรงกว่าเดิม
ตอนนี้ เธอก็ควรยอมรับผลที่จะตามมาจากการกระทำทั้งหมดของเธอ!
“……”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม สีหน้าที่มีรอยยิ้มของเหวินหย่าไต้ก็ราวกับถูกแช่แข็ง
มองไปทางอวี๋เยว่หานอย่างตกตะลึง อ้าปากค้างอยู่เป็นเวลานาน
จ้างคนไปรักพาตัว ยุยงสมรู้ร่วมคิด จับตัวเรียกค่าไถ่……
แต่ละข้อร้ายแรงทั้งนั้น
ถ้าเกิดจะพิจารณาทุกข้อกล่าวหา เธอต้องได้รับโทษอย่างน้อยยี่สิบปี
ชีวิตของเธอ จบสิ้นลงแล้ว……
เหวินหย่าไต้ไร้เรี่ยวแรง ล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น
โดนคุมตัวออกจากคฤหาสน์ตระกูลอวี๋ไป เช่นเดียวกับเซียวเวย
สิ่งที่รอพวกเธออยู่ คือการลงโทษทางกฎหมายที่ร้ายแรงที่สุด
เหวินหย่าไต้กับเซียวเวยโดยพาตัวจากไปแล้ว บรรยากาศเอะอะที่บริเวณลานสนามกว้างก็สงบเงียบลง
อวี๋เยว่หานนึกอะไรขึ้นได้ จึงหมุนตัวกลับไป แล้วมองไปทางเหนียนเสี่ยวมู่ที่อยู่ตรงหน้าประตู
รูปร่างผอมเพรียวของหญิงสาว เมื่อกระทบเข้ากับแสงอาทิตย์สีส้มยามตกดิน ก็ดูอบอุ่นราวกับนางฟ้าตัวน้อยๆ
ในเวลานี้ เธอไม่ได้สนใจว่าเหวินหย่าไต้จะมีจุดจบอย่างไรทั้งสิ้น
เธอเอาแต่กอดเสี่ยวลิ่วลิ่วเอาไว้ แล้วพูดปลอบด้วยเสียงอ่อนโยน
อวี๋เยว่หานล้วงมือไว้ในกระเป๋าข้างหนึ่ง ก้าวเดินไปทางเธอ เมื่อเดินเข้าไปถึงใกล้ๆ ก็ได้ยินเสียงพึมพำต่ำๆ ของเธอ “เสี่ยวลิ่วลิ่วไม่ต้องกลัวนะ มีแม่อยู่ แม่จะอยู่กับหนูตลอดไป จะปกป้องหนูเหมือนกับเมื้อกี้……”
ตอนที่ 538 ความจริง! ฉันนี่แหล่ะคือแม่แท้ๆ! (6)
ในสมองของเขา นึกถึงคำพูดที่เธอพูดออกมาต่อหน้าเซียวเวยประโยคนั้น
เธอบอกว่า เธอเป็นแม้แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่ว……
แววตาของอวี๋เยว่าหานสั่นไหวเล็กน้อย เดินไปหยุดอยู่ข้างหญิงสาว
กำลังจะเอ่ยเรียก เหนียนเสี่ยวมู่ก็อุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วขึ้นมา แล้วเดินไปทางห้องรับแขกแล้ว
เธอวางเสี่ยวลิ่วลิ่วลงบนโซฟา เดินไปในห้องครัว
รินน้ำร้อนให้เสี่ยวลิ่วลิ่ว แล้วป้อนให้เธอดื่มทีละนิด เมื่อเธอดื่มเสร็จก็ดึงกระดาษทิชชู่มาเช็ดปากเล็กๆ นั่นให้……
เสี่ยวลิ่วลิ่วทำตามอย่างเชื่อฟัง
เมื่อมีเหนียนเสี่ยวมู่คอยปลอบอยู่ ไม่นานใบหน้าของเด็กน้อยก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง เธอยิ้มให้เหนียนเสี่ยวมู่ จู๋ปาก จูบไปที่หญิงสาวหนึ่งที
ออดอ้อนอยู่ในอ้อมกอดของเหนียนเสี่ยวมู่……
ภาพการแสดงความรักของแม่ลูก…… ทำเอาคนที่เห็นภาพนี้เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนตาม
เหนียนเสี่ยวมู่กำลังปลอบเสี่ยวลิ่วลิ่วอยู่ ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังมาจากด้านหลัง จึงหันไปมอง
เมื่อเห็นว่าเป็นอวี๋เยว่หานที่เดินเข้ามา จู่ๆ ในสมองของเธอ ก็นึกถึงปัญหาหนึ่งที่ลืมไปขึ้นมาได้!
ร่างของเธอแข็งทื่อ
ท่วงท่าที่กำลังกอดเสี่ยวลิ่วลิ่วไว้ ก็แข็งค้างไปเหมือนกัน
เมื่อครู่เป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน เธอห่วงความปลอดภัยของเสี่ยวลิ่วลิ่ว เลยไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
แทบจะพูดความจริงออกมาอย่างหมดเปลือกตามสัญชาตญาณ
ตอนนี้เหวินหย่าไต้กับเซียวเวยก็ได้รับบทเรียนไปแล้ว จุดจบของเธอ ก็คงไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่หรอก……
เหนียนเสี่ยวมู่กลืนน้ำลายลงคออย่างประหม่า
เนื่องจากมันย้อนแสง เธอจึงมองไม่เห็นสีหน้าของอวี๋เยว่หาน เห็นเพียงแต่เรือนรางสง่างามของเขา เดินตรงมาทางเธอทีละก้าว
ทุกฝีก้าว เดินอย่างเชื่องช้า
ราวกับเหยียบลงบนใจของเธอ……
แสงอาทิตย์ตกสาดกระทบไปที่แผ่นหลังของชายหนุ่ม ทำให้ใบหน้าของเขามีแสงสีส้มปรากฏอยู่ มันดูลึกลับ ทรงอำนาจ สูงส่ง……
นี่มันแย่มากจริงๆ!
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอรู้สึกผิดหรือเปล่า เมื่อเห็นอวี๋เยว่หานเดินมาทางเธอ เธอก็อยากจะวิ่งหนีไปทันที
เธอหนีได้ แต่เสี่ยวลิ่วลิ่วยังอยู่ในอ้อมกอดของเธอ เธอไม่อาจทิ้งแก้วตาดวงใจของตัวเอง แล้วหนีไปคนเดียวได้……
หญิงสาวยืดตัวตรง ยืนอยู่ตรงหน้าเสี่ยวลิ่วลิ่ว มองดูอวี๋เยว่หานเดินมาหยุดตรงหน้าเธอ
ยกมือขึ้น
เธอผวาไป!
เขาจะทำอะไร
คงไม่ใช่เพราะรู้ความจริงว่าเธอคือผู้หญิงที่แอบคลอดลูกสาวของเขาออกมา แล้วทนไม่ไหว อยากจะต่อยเธอหรอกใช่ไหม!
เหนียนเสี่ยวมู่กลัวจนพุ่งไปที่โซฟา คนที่เมื่อครู่ยืนอยู่ตรงหน้าของเสี่ยวลิ่วลิ่วอย่างกล้าหาญ บัดนี้ ห่อตัวอย่างขลาดๆ หลบอยู่ที่ด้านหลังของเสี่ยวลิ่วลิ่ว
ราวกับหาที่กำบังได้ ให้เสี่ยวลิ่วลิ่วบังอยู่ที่ด้านหน้าเธอ แล้วหันไปพูดกับอวี๋เย่วหาน
“อวี๋เยว่หาน ฉันบอกคุณว่า……”
เธอยังไม่ทันจะพูดจบ ฝ่ามือของอวี๋เยว่หานก็วางลงบนศีรษะของเธอ
ลูบผมเธออย่างอ่อนโยน ริมฝีปากเอ่ยพูด
“เมื่อกี้คุณฉลาดมาก ปฏิกิริยาตอบสนองก็ไว ไม่ใช่แค่เหวินหย่าไต้กับเซียวเวย ผมเองก็เกือบจะเชื่อเหมือนกัน”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความชื่นชม
“……”
นี่มันเกิดอะไรขึ้น
เขาคงไม่ได้คิดว่า เรื่องที่เธอพูดเมื่อครู่คือเป็นเพียงแค่การหลอกเหวินหย่าไต้กับเซียวเวยใช่ไหม
ท่าทีของเขาเมื่อครู่ ก็ไม่ได้เป็นเพราะว่ารู้ความจริงแล้ว อยากจะต่อยเธอ?
กว่าเธอจะรวบรวมความกล้าพูดความจริงออกมามันไม่ง่ายเลยนะ แต่เขากลับคิดว่าเธอทำไปเพราะสถานการณ์บังคับ……
มุมปากของเหนียนเสี่ยวมู่กระตุกขึ้นเล็กน้อย ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
เธอเอื้อมมือไปจับแขนของชายหนุ่มเอาไว้ สูดหายใจลึก มองไปทางเขาอย่างจริงจัง
“อวี๋เยว่หาน ฉันจริงจังนะคะ ฉันคือแม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่วจริงๆ!”
เหนียนเสี่ยวมู่พูดจบ ก็หลับตาลงอย่างตื่นเต้น
มีคนกล่าวไว้ว่า ตายเร็วก็เกิดใหม่ได้เร็ว แต่ว่าช่วงก่อนตายนั้น มันทรมานจริงๆ นะ!