ตอนที่ 128 ฟังแผนลับๆ
ในค่ำคืนที่ฝนตกหนัก หลังจากที่คมสรได้รับสายของจงกล ก็รีบ ไปที่โรงแรมที่นัดกัน
ที่ผ่านมาพวกเขาเจอกันที่นี่บ่อยมาก
แต่ครั้งนี้เขามาที่นี่ด้วยความไม่เต็มใจ
“ไม่ต้องดื่มแล้ว!” คมสรไปแย่งแก้วไวน์มาแล้วถอนหายใจยาวๆ จากนั้นดื่มไวน์ที่อยู่ในแก้วคำเดียวหมด
“ทําไมไม่ดื่ม? การงานของฉันชีวิตของฉันจะพังพินาศแล้ว ……….นอกจากดื่มเหล้าแล้วจะทําอะไรได้อีก”จงกลกำลัง โวยวายเพราะดื่มเหล้าและกระชากเนคไทของคมสร พร้อมกับเข้า
ใกล้เขาเรื่อยๆ
เสียงของเธอนั้นฟังแล้วรู้สึกเธอนั้นขี้เกียจมาก “นายไม่คิดถึงชี วิตเก่าๆเลยหรอ?ตอนนี้ภพธรกลับมาแล้ว ชีวิตดีๆของพวกเราก็จบ แล้ว!”
“เธอมีสติหน่อยได้ไหม” คมสร กระชากมือของเธออย่างไม่
เกรงใจ
“เฮ้อ ถึงตอนนี้แล้วนายยังจะมาแอ๊บใสซื่ออีก? พรุ่งนี้ ประธาน เตรียมงานอลังการใหญ่ขนาดนี้ให้กับภพธร นายไม่เข้าใจว่า หมายความว่ายังไงหรอ ตำแหน่งนั้นว่างมา 5 ปีแล้ว เธอกำลังรอ คมสรถอยหลังไปครึ่งก้าว และหยิบกระเป๋าของจงกลจากเตียง “เธอเมาแล้วฉันส่งเธอกลับไป
กลับไปงั้นหรอ?ฉันไม่! คมสร นายก็ควรจะมีสติหน่อยแล้ว ถึง เวลาภพธรได้ตำแหน่งนั้นไป โอเลยังจะมีที่ของพวกเราอยู่หรอ? คนที่ญาณินีเชื่อใจมากที่สุดมีแต่เขา” จงกลล้มลงบนเตียงแล้วยิ้ม
อย่างเสียดสี
ถึงแม้เธอจะเมาแล้วแต่สิ่งที่เธอพูดนั้นถูกต้อง
หลายปีมานี้ ความกลัวในใจนั้นที่เกี่ยวกับเรื่องนั้นไม่เคยหายไป
“เป็นเพราะพวกเราแชร์เรื่องที่เขานั้นอยู่กับคู่รักถึงทำให้เรื่องแบบ นั้นเกิดขึ้น เป็นเพราะพวกเราแบ่งสิ่งที่เขาควรจะได้ นายคิดว่าเขา จะปล่อยพวกเราไปหรอ?”
“ดังนั้นเธอก็เลยเรียกฉันมา..
พวกเราควรจะลงมือก่อน! “จงกลยิ้มแล้วพูด”ฉันคิดเสร็จแล้ว แต่ ถ้าพวกเราร่วมมือกันคุยกับท่านประธานญาณินี และเธอนั้นก็ต้อง ทำให้มันเท่าเทียมกัน ถ้าเธอยังจะตัดสินใจให้ภพธรนั่งตำแหน่งผู้ จัดการนั้น ฉันก็จะพาเด็กของฉันออก”
“เธอวางแผนนานเท่าไหร่แล้ว?”
คมสรตั้งสติมองไปทางผู้หญิงตรงหน้าอย่างเย็นชา ภพธรกลับมากะทันหัน เวลานั้นไม่ได้ยาวมาก แต่คืนนี้จงกลพูดค่า นี้กับเขา ก็หมายความว่าเธอเตรียมแผนนี้ตั้งนานแล้ว ถึงแม้ไม่มีภพ ธรก็หมายความว่าเธอเตรียมแผนนี้ตั้งนานแล้ว สักวันเธอก็จะทรยศ ญาณินี
“เรื่องนั้นนายไม่ต้องยุ่ง ฉันแค่ถามนายคำเดียว จะร่วมมือกับฉัน หรือว่าอยู่ที่ โอเล ถูกภพธรทรมานจนตาย”
ปลายปีนี้พวกเขาไม่มีที่มาให้กับนักแสดงมากมายหลายที่ ถ้าเอา ตัวนักแสดงไปกะทันหันจะทำให้บริษัทโอเลนั้นลดประสิทธิภาพลง มาก เป็นไปไม่ได้ที่ญาณินีจะไม่คิดดูเพราะตอนนี้ในมือของภพธร นั้นไม่มีนักแสดงเลย
ถ้าคิดแบบนี้แล้วโอกาสที่พวกเขาจะชนะมีเยอะกว่า
จงกลเห็นเขาไม่พูดอะไร ยิ้มอย่างเยือกเย็นแล้วพูดว่า “พวกเราไป คุยกับญาณินีก่อนที่งานจะเริ่ม เป็นไง?”
มือของเธอนั้นเริ่มไปกอดที่คอของคมสร เผยความเป็นผู้หญิง
ของเธอออกมาทั้งหมด
“คมสร…….
แผนของพวกเขานั้นดูเหมือนจะไม่มีอะไรพลาด แต่ใครบอกพวก เขาว่าภพธรนั้นไม่มีนักแสดงในมือ!
จงกลอยากจะมีหน้ามีตาแต่กลับเลือกทางเลือกที่ไม่ควรเลือก เช้าวันที่สองพวกเขาเดินเข้าไปที่ประตูโอเลพร้อมกันและมุ่งเดิน ไปทางห้องทํางานของญาณินี
ญาณินีเห็นพวกเขามาพร้อมกันก็รู้สึกสงสัย เธอวางเอกสารที่อยู่ ในมือลงและมองไปทางพวกเขา “มีอะไรหรือเปล่า?”
ประธานญาณินีคะ ฉันมาลาออกค่ะ” จงกลยิ้มแล้วพูด และเอา “ ใบลาออกไว้บนโต๊ะ
ระหว่างนั้น คมสรก็พูดขึ้น “ผมเช่นเดียวกันครับ”
สีหน้าของญาณินี้เปลี่ยนไปทันที เธอนิ่งไปสักแป๊บ “พวกเธออยาก จะทําอะไร?”
“ท่านประธาน พวกเรารู้ว่าคุณเห็นความสำคัญของภพธรมาก ใช้ วิธีมากมายถึงจะเชิญเขากลับมาได้ แต่ว่าเรื่องที่ผ่านมาของพวกเรา ถึงตอนนี้เขายังเข้าใจผิดอยู่ ถ้าเขาเข้ามาทำงานในบริษัทอย่างเป็น ทางการ พวกเราสามคนก็จะทำตัวไม่ถูก ดังนั้นพวกเราขอจากไป เองค่ะ”
ญาณินีมองไปทางพวกเขาอย่างเหลือเชื่อ เงียบไปสักแป๊บแล้วพูด ว่า “พวกเธอกำลังขู่ฉัน?”
“ไม่ใช่ขู่ค่ะท่านประธาน พวกเราทำงานกับท่านมานานขนาดนี้ ไม่เคยหวังอะไร แค่อยากให้บริษัทดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าภพธรกลับ มา……” จงกลพูดถึงครึ่งแล้วยิ้ม “คมสร นี่ก็คือความคิดของนายใช่ไหม?นายก็ไม่ถูกกับภพธร?” เห็นได้ชัดว่าญาณินีผิดหวังมาก
สายตาของคมสร ดูแปลกๆจากนั้นก็พยักหน้า
จงกลยิ่งได้ใจมากขึ้น “เมื่อวานฉันได้รับบทละครจากผู้กำกับขยน แล้ว แต่ภพธร กลับมาแย่งบทละคร นี้ไป ฉันไม่รู้ว่าบริษัทนั้นหวังยัง ไงกับเขา เพื่อนร่วมงานในบริษัทเดียวกันยังหาเรื่องกันแบบนี้ ฉัน คงจะอยู่ต่อไปไม่ได้จริงๆค่ะ ฉันไม่อยากให้นักแสดงที่อยู่กับฉันนั้น ยากลำบากขนาดนั้น
“ฉันดีใจมากที่เขาสามารถกลับโอเลได้ แต่ฉันเลือกที่จะพาเด็ก
ของฉันไปค่ะ”
สายตาอันเย็นชาของญาณินีมองไปทางจงกล
เมื่อกี้เธอบอกว่าเด็กของเธอ?
ตลกจริงๆ คนของโอเลกลายเป็นคนของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่!
ญาณินีกำลังอยู่ขอบเขตของความโมโหแล้ว แต่เป็นเพราะ ตอน เย็นยังมีงานอยู่เธอก็เลยไม่ได้เอาซองจดหมายลาออกนั้นโยนไปที่ หน้าของพวกเขา
สถานการณ์ดูกดดันขึ้นมาก “โอเค ฉันรู้ความหมายของพวกเธอแล้ว กลับไปเถอะ ฉันจะให้คำ ตอบที่พอใจกับพวกเธอ”
ญาณินีไล่พวกเขาไป จงกลและคมสรสบตากันแล้วเดินออกจาก ห้องทํางาน
ฉันพูดถูกใช่ไหม! ว่าเด็กในมือฉันน่ะ พอที่จะให้ท่านประธานคิด “ ดีๆ ว่าให้ภพธร กลับมาที่โอเลนั้นคุ้มค่าหรือไม่!
จงกลยิ่งซ่าขึ้นกว่าเดิม “คอยดูเถอะ งานต้อนรับในช่วงเย็นจะ กลายเป็นงานเลิกรา!”
คมสรนึกถึงสีหน้าของญาณินีแล้วเขารู้สึกแปลกๆ
ญาณินี้ไม่ได้บอกว่าตกลงและไม่ได้บอกว่าไม่ตกลง เป็นไปได้ หรอที่เธอนั้นจะถูกขู่และปล่อยภพธรไป
ที่ห้องทำงานนั้นญาณินียิ้มอย่างเยือกเย็น เป็นเพราะว่าเธอนั้น ใจบุญเกินไปจนทําให้สองคนนี้กลายเป็นคนแบบนี้ คิดที่อยากจะ เอานักแสดงในบริษัทไป?
อีกด้านหนึ่ง จิดาภาเตรียมตัวกับงานที่จะถึงในตอนเย็นนี้แล้ว
เธอใส่ชุดกระโปรงยาวที่นักออกแบบอิตาลีเป็นคนออกแบบเอง กระโปรงสีชมพูอ่อนๆนั้นเหมือนหางนางเงือก ที่ไหปลาร้าอันนั้นมี ลายดอกไม้ทําให้ผิวพรรณของจิดาภานั้นขาวขึ้นมากกว่าเดิม เธอ ปล่อยผมอันยาวเหยียดลง ทำแค่ผมเรียบๆที่ม้วนเก็บไว้พร้อมกับ มๆสวยๆ
ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนที่ดูอ่อนหวาน วันนี้เธอเหมือนเป็นราชินีเลย
ความสวยของเธอนั้น สวยเป็นธรรมชาติ เหมือนเป็นแรงมรสุมที่
ทำให้คนทั้งหมดนั้นละลายเพราะเธอ
จิรภาสยื่นมือไปกอดที่เอวของเธอ และไปกระซิบที่หูของเธอเบาๆ กลับมาเร็วๆนะ”
จิดาภากระพริบตาแล้วแกล้งถามว่า “นายชอบที่ฉันแต่งตัวแบบนี้ หรอ?”
“เธอเป็นยังไงฉันก็รัก” เขาชมเธอด้วยความจริงใจและส่งเธอขึ้น ไปบนรถเอง