ตอนที่ 31 การดูแลที่แตกต่างอย่างชัดเจน
หรือว่าหลงจื้อจะรู้แล้วว่าความสัมพันธ์ของพวกเขานั้น ไม่ดี? หรือเขาจะรู้ก่อนแล้วว่าพวกเขานั้นไม่ได้อยู่อาศัย ด้วยกันตั้งแต่แรก?
ใช่ ครั้งก่อนตอนที่อยู่คอนโดส่วนตัวของเธอ เขาจะ บังเอิญผ่านตรงนั้นได้ยังไง? พอคิดอย่างนี้แล้ว หลงจื่อ ตีหน้าซื่อไม่รู้อะไร แต่ความจริงแล้วเขานั้นรู้เรื่องของ พวกเขาอย่างชัดแจ้งแล้วอย่างงั้นหรอ?
ฉ่ลั่วหานคาดเดาอยู่ในใจ รอคำตอบจากหลงจื่ออย่าง ไม่สบายใจ
“พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ เมื่อวานก่อนทะเลาะกันสินะครับ?”
หลงจือยันไว้ตรงประตู ไม่ได้แสดงอารมณ์ออกมา อย่างชัดเจนนัก น้ำเสียงอย่างเป็นกันเอง “นี่มันก็เป็นงาน เลี้ยงในบ้านเก่าพอดี แล้วพวกพี่ก็ดันมาทะเลาะกันอีก ผมก็เลยเกือบจะเข้าใจผิดถึงความสัมพันธ์ของพี่ใหญ่ กับพี่สะใภ้ ที่แท้ก็ผมเข้าใจผิดเอง พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ก็ดู รักกันดี น่าผิดหวังจริงๆ”
ฉู่ลั่วหานที่เมื่อกี้กุมมือของพลั่วไม้ไว้แน่น ก็ค่อยๆ คลายออก สะบัดข้อมือยกขึ้นแล้วไปคืบไข่ดาวที่เพิ่งจะ ทอดเสร็จแล้ววางลงไปในจาน “อ๋อ อย่างนั้นเองหรอ ฉัน กับพี่นายก็มีปัญหากันนิดหน่อยจริงๆ แต่ว่าตอนนี้ก็ เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว”
ยักหน้าเห็นด้วย หลังจากนั้นก็โยนระเบิดลง มาอีกลูก ปัญหาเล็กๆ? พี่สะใภ้ครับ ผมว่ามันไม่น่าจะใช่ แค่ปัญหาเล็กๆนะครับ ตอนนี้เรื่องของพี่ใหญ่กับโม่หรูเฟ ยก็ทะเลาะวุ่นวายกันไปหมด พ่อกับแม่ก็เข้ามาส่วน เกี่ยวข้องด้วย แล้วถ้าเรื่องมันใหญ่ขึ้นมาจริงๆ พี่สะใภ้ ผมขอเตือนไว้หน่อยนะครับ สถานการณ์อย่างนี้มันไม่ ได้มีข้อดีอะไรกับเลย
แอบหลบหลงจื่อไว้ พร้อมกับมุมปากที่เผย รอยยิ้มเลศนัย “ฟังจากสิ่งที่พูดแล้ว เหมือนว่ากำลัง เข้าข้างพี่อยู่ ไม่กลัวพี่ใหญ่นายรู้?
สีหน้าไม่สนใจ เชิดจมูก “ถึงผมจะไม่ได้หวัง อยากจะได้พี่มาเป็นพี่สะใภ้ แต่ผมนั้นไม่ชอบโม่หรูเฟ ยมากกว่า ถ้าพี่ใหญ่กับโม่หรูเฟยอยู่ด้วยกันขึ้นมาจริงๆ ละก็…” เขาพูดถึงตรงนี้ ชะงักไปสักพัก เอ๋? แต่ก็เหมือน จะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น
โถ่ว ไอ้บัดซบหลงเอ้ย! เธอยังหวังว่าเขาคงจะพูด อะไรดีๆออกมาซะหน่อย เห็นทีว่าคงจะคิดมากไปเอง จริงแหละ คนของบ้านตระกูลหลง จะหวังพึ่งใครไม่ ได้แต่ก็เป็นไร เพราะยังไงเธอก็ไม่คิดพึ่ง
ใครอยู่แล้ว ไข่ดาว3ชิ้นถูกจัดแบ่งลงในจานพอร์ซเลนสีขาว ฉู่ลั่ วหานหยิบแผ่นขนมปังที่เสร็จไปปิ้ง เกรงว่านาย คงจะต้องเสียใจแล้ว ฉันกับพี่ใหญ่นาย เรารักกันมากส่วนโม่หรูเฟย ถ้าฉันไหหล่อนดีๆ หล่อนก็ได้อยู่ดีๆอยู่ แล้ว แต่ถ้าหล่อนมาท้าทายขีดความอดทนของฉัน ฉัน เองก็มีวิธีที่จะทำให้หล่อนนั้นตกลงมาจากบนสวรรค์”
สายตาของหลงจื้อมองตามมือของฉู่ ลั่วหาน มือคู่นั้น ของเธอที่เคยจับสเต็ตโทสโคป(หูฟังของหมอ) ณ ตอนนี้ ที่กำลังจับจานอาหารเช้าอยู่ ทันใดนั้น ก็มีกลิ่นอายของ ความเจ็บปวดจากก้นบึ้งของหัวใจ เผยไว้บนใบหน้าของ เขาได้อย่างเห็นได้ชัด
“พี่สะใภ้นี่สมแล้วที่เป็นภรรยาใหญ่ของตระกูลหลง คำ พูดคำจาช่างมีอำนาจ แต่ว่านะพี่สะใภ้ พี่อย่าลืมว่า เบื้อง หลังของโม่หรูเฟยนั้นเป็นตระกูลโม่ แค่ดึงผมเส้นเดียวก็ สามารถทำให้ร่างกายขยับไปทั้งตัว ถ้าหากว่าตระกูลโม่ มากดดันพี่ ชีวิตของพี่ก็คงจะ.”
“เสี่ยวจื่อ? ”
หลงจื๋อยังพูดไม่จบ เสียงของหลงเซียวก็ดังมาจาก ทางห้องรับแขก แล้วก็ตัดบทสนทนาของทั้งสองคนไป พอดี
“พี่ใหญ่ เร็วจังเลยนะครับ อาหารเช้าของพี่สะใภ้ก็ทำ เสร็จพอดี อย่างที่พี่ใหญ่พูดไว้เลยจริงๆว่าฝีมือพี่สะใภ้ก็ ไม่เท่าไหร่ ถ้าเทียบกับฝีมืออาหารของบ้านเก่านั้นเทียบ ไม่ได้เลย”
หลงจือเบ้มุมปาก หันหลังเดินกลับเข้าไปห้องรับแขก
ฉู่ลั่วหานนึกคิดไปถึงเรื่องที่เมื่อกี่หลงจือยังพูดไม่จบ ก็ หัวเราะอย่างเยือกเย็น เธอไม่กล้ายุ่งกับบ้านตระกูลโม่ งั้นหรอ? ถ้าเทียบกับไม่กล้ายุ่งแล้ว ต้องไม่อยากจะยุ่ง ถึงจะเหมาะกับอารมณ์ของเธอซะมากกว่า
“ถ้ารู้สึกว่าไม่อร่อยก็ไม่ต้องกินก็ได้ อีกเดี่ยวกลับไป
กินที่บ้านเก่าดีกว่าไม่ใช่หรอ?” ฉู่ลั่วหานใช้ถาดยก อาหารเช้าทั้ง3ชุดออกมา อาหารเช้าที่เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยใยอาหาร อีก
อย่างไข่ดาวนั้นก็สีเหลืองเยิ้มๆ หน้าตาเหมาะเอาไปขาย
มาก
หลงจื่อแสดงสีหน้าเด็กไร้เดียงสา “ไม่ได้นะครับ ผม ถ่อมตัวเองมาแต่ไกล ก็เพื่อที่จะมาลองชิมอาหารเช้า ของพี่สะใภ้ ถ้ากลับไปคงเสียดายแย่ พี่ใหญ่ ผมไม่ เกรงใจละนะครับ”
หลงเซียวยกแก้วนมขึ้นมาไว้ข้างๆปาก “ไม่ต้อง เกรงใจ”
เห็นหลงเซียวกำลังจะดื่มนม ฉู่ลั่วหานพูดตักเตือน เสียงเบาๆ “ดื่มนมตอนท้องว่างมันไม่ดี กินไข่ดาวไปก่อน สิ”
คำเตือนประโยคนี้ การกระทำของหลงเซียวก็ชะงักไป
สายตาอันแหลมคมของเขามองจากโต๊ะอาหารไปทางผู้
หญิงที่อยู่ด้านขวาของเขา ใบหน้าของเธอจงใจเผยยิ้มที่
อ่อนโยนไว้ เห็นได้ชัดว่ากำลังแสดงละครให้หลงจื่อดูอยู่สายตาอันบริสุทธิ์คู่นั้นกลับมองความเสแสร้งนี้ไม่ออก ชั่ววูบนั้น เกือบจะคิดว่าภรรยาที่แสนอบอุ่นของตัวเอง นั้นกำลังเตือนเขาอยู่ หลงเซียววางแก้วนมลง ต่อหน้าหลงจื้อ เลื่อนจาน
เข้าหาตัวเอง ฉู่ลั่วหานก็ยื่นมีดส้อมให้เขา สีหน้านิ่งไม่
เปลี่ยน และก็ไม่ได้ปริปากพูดอะไร
แววตาที่ลึกซึ้งของหลงเชียวมองผ่านมือของเธอไป นิ้วเรียวยาวเข้าไปรับมีดส้อมไว้นิ้วทั้งสองคนได้สัมผัส กันเบาๆบนโต๊ะอาหาร ความอบอุ่นที่ส่งผ่านถึงกัน ฉู่ลั่ วหานรีบเก็บมือกลับเข้าไป แล้วหลบหน้าเขา
หลงจื่อกัดไข่ดาวไว้ น้ำเสียงอิจฉาพูดออกมาว่า “ผม ว่านะพี่ใหญ่ พี่สะใภ้ เช้าขนาดนี้ก็โชว์หวานทรมานจิตใจ หมาอย่างผม ไม่ค่อยดีมั้ง? สภาพจิตใจผมตอนนี้นะมืด ครึ้มกว่าสภาพอากาศข้างนอกอีก ให้ผมได้กินข้าวดีๆ หน่อยเถอะนะครับ?”
ฉู่ลั่วหานดื่มนมเข้าไปหนึ่งคำ แล้วแอบหันไปมองหลง เซียว หลังจากนั้นก็ค่อยๆตัดไข่ดาวกินอย่างช้าๆ ค่อยๆ ตักเข้าปาก จริงๆแล้วฝีมือทำอาหารของฉู่ลั่วหานก็ไม่ได้ แย่ แต่ว่ามื้ออาหารเช้านั้นก็ไม่ได้แสดงถึงฝีมือของเธอ มากนัก แต่ว่าที่ท่านเซียวกินนั้นเป็นแค่อาหารเช้าสัก ที่ไหนกันหล่ะ?
“ไม่กินดีๆก็กลับไปตอนนี้เลย ถ้าไม่งั้นก็เงียบปาก”
“แคะ แคะ แคะ ! โอเคครับ โอเคครับ ผมหุบปากกินข้าวแล้วครับ โอ้ย ท้องรองแล้ว ทรมานมาตั้งแต่เช้าเลย เหนื่อยมาก”
คำพูดของหลงจื่อ มีความหมายโดยนัยอยู่ ที่บอกว่า ทรมานมาตั้งแต่เช้านั้น ก็แอบสื่อถึงว่าเขานั้นมารอสอง สามีภรรยาคู่นี้ที่ไม่ยอมเปิดประตูบ้านให้เข้าไปสักที
อาหารเช้ามื้อนี้ ต่างคนก็ต่างกิน สุดท้าย มื้ออาหารที่ แสนจะอึดอัดก็จบลง ฉู่ลั่วหานเก็บจานไปล้างที่ห้องครัว หลงลื่อนวดท้องของเขา ” พี่ใหญ่ ในเมื่อพี่สะใภ้ก็ดี ขนาดนี้ แล้วเรื่องของโม่หรูเฟยนี่มันคืออะไรกันครับ? ถ้าพี่รักพี่สะใภ้จริง ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโม่หรูเฟย”
หลงเซียวเปิดหนังสือพิมพ์ดูตารางตลาดหุ้น ไม่เงย หน้าแล้วพูดว่า “เสี่ยวจื่อ เรื่องของผู้ใหญ่ แกไม่ต้องเข้า มายุ่ง”
หลงจื่อ “.พี่ใหญ่ พี่รู้ความหมายของผมดี โม่หรูเฟย เข้าใกล้พี่นั้นไม่ได้บริสุทธิ์ใจ ขอให้พี่อย่าถูกนางหลอก เลยนะ ผู้หญิงดีๆอย่างพี่สะใภ้ ถ้าพี่”
“เสี่ยวจื่อ อย่าให้พี่ต้องเตือนแกเป็นรอบที่สอง นี่เป็น เรื่องของพี่ แกไม่ต้องมายุ่ง เอ่อยังมีอีกเรื่อง พ่อบอกให้ แกไปเรียนรู้งานบริหารหน่อย แล้วแกอยากไปฝึกแผนก ไหนหล่ะ?”
เห็นได้ชัดว่าหลงเซียวไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้น ก็เลย พูดเปลี่ยนเรื่องไป
“แผนกต่างๆในบริษัทนี้ ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง แหะแหะ ส่วนเรื่องที่ให้ไปเรียนรู้ ที่จริงแล้วก็ทำตำแหน่งอะไรก็ได้ ที่สบายๆหน่อยจะได้เล่นได้ด้วย พี่จัดการให้ผมก็พอ หน่า ผมเชื่อในตัวพี่ใหญ่ครับ”
หลงเซียวเงยหน้ามองน้องชายคนนี้ที่ไม่ได้เจอกัน นาน5ปี “เสี่ยวจื่อ แกไปเรียนบริหารที่นิวยอร์กมาสองปี ตอนนี้มาบอกฉันว่าตำแหน่งอะไรก็ได้? นี่แกโกหกฉัน หรือแกโกหกตัวเอง?”
หลงจื่อขำ อมยิ้ม “ไม่กี่ปีนี้ที่ผมไปเรียนนั้นก็มัวแต่เล่น อย่างเดียว ไม่ค่อยได้ตั้งใจเรียนดีๆ”
หลงเซียวพลิกหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์ “ในเมื่อไม่ เคยตั้งใจเรียนดีๆ ฉันจะหามหาลัยหนึ่งให้แกไปเรียน เรียนมหาลัยนี้ให้จบก่อน ส่วนเรื่องฝึกงาน เดี่ยวรอทาง มหาลัยแกจัดการเสร็จแล้วค่อยว่ากัน”
หลงจือขมวดคิ้วอย่างแรง ต่อต้านอย่างรุนแรง “พีใหญ่ จะให้ผมเรียนต่อในประเทศ? ที่ผมออกจากมหาลัยที่ อเมริกา นั่นก็เพราะว่าไม่อยากเรียนแล้วจริงๆ”
“จะกลับนิวยอร์กแล้วเรียนต่อให้จบ หรือไม่ก็หาที่ เรียนใหม่ในประเทศ แกไปเลือกเองเลย” น้ำเสียงของ ท่านเซียวนั้นไม่เหมือนว่ากำลังปรึกษากับเขา และ แน่นอน หลงจื่อก็ไม่กล้าขัดขืนอะไร
“ก็ได้ครับ งั้นผมจะเรียนต่อในประเทศนี้แหละครับ”
หลังจากที่ถูกพี่ใหญ่บังคับขมขืนใจไป ใบหน้าของ หลงจื่อก็กลับมาร่าเริง ยิ้มอย่างรวดเร็ว “พี่ใหญ่ ได้ยิน พ่อเล่าว่าพี่เป็นสมาชิกของสโมสรเรือใบ สโมสรนั้น เข้าไปได้ยากมากเลยนะครับ หรือไม่ก็ บัตรสมาชิกของ พี่ยืมให้ผมใช้หน่อยสิ ผมอยากเข้าไปเล่นสักหน่อย”
หลงเซียวมองเขาด้วยสายตาที่เยือกเย็น “เพิ่งกลับมา ก็คิดแต่เรื่องเที่ยว? ไม่ได้”
เอาแล้ว โดนไปอีกชุด
ฉู่ลั่วหานเดินออกมาจากห้องครัว มองดูสองพี่น้องที่ กำลังพูดคุยกันอยู่ แทบจะกลั้นรอยยิ้มบนหน้าไม่อยู่ “เสี่ยวจื่อวันนี้ไม่มีงานต้องทำแล้วหรอ?”
ความหมายก็คือยังกินไม่อิ่มหรือไง ทำไมยังไม่ไป?
หลงจื่อหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาหนึ่งฉบับ “ผมจะมา เรียนรู้กับพี่ใหญ่ อีกอย่างวันนี้ฝนตกหนัก ข้างนอกก็ไม่มี อะไรน่าเที่ยว นี่พี่สะใภ้คงไม่ใช่ว่าจะไล่ผมไปหรอกนะ ครับ?”
ฉู่ลั่วหานกัดฟันแน่น กึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม “จะเป็นอย่างงั้น
ได้ยังไงหล่ะ”
ตอนนั้นเอง เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของหลงเซียวก็ดัง ขึ้น เหมือนว่าจะเป็นเวลาเดียวกัน ที่ฉู่ลั่วหานและหลงจื่อ นั้นได้เห็นชื่อบนหน้าจอ หลังจากนั้นทั้งสองคนก็นิ่งเงียบ ไป
“ยุ่งอยู่”
“วันนี้?”
หลงเซียวมองดูเวลา แต่ฉู่ลั่วหานรู้สึกว่าแววตาเขา เหมือนจะแอบมองมาทางเธอ
“โอเค”
วางสายไป หลงเซียวปิดหนังสือพิมพ์ “เสี่ยวจื่อ กลับ ไปก่อน ไว้ค่อยมาวันหลัง”
“พี่ใหญ่”
“กลับไป”
“…ครับ”
ไล่หลงจื้อกลับไปแล้ว ในที่สุดฉู่ลั่วหานก็สามารถเลิก แสดงละครที่ทำตัวเหมือนเป็นภรรยาที่แสนดีอย่างเมื่อกี้ นี้ เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มแล้วพูดว่า “จะไปหาโม่หรูเฟย? ได้ ฉันเองก็กำลังจะไปทำงานพอดี”
น้ำเสียงและท่าทางก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทนไม่ได้ ขนาดนั้นเลยหรอ?
นิ้วมือเรียวยาวของหลงเซียวกำเสื้อกันหนาวไว้อย่าง แน่น สายตาที่เยือกเย็นมองเธอค้างอยู่ไม่กี่วิแล้วค่อย สวมเสื้อ “ไปโรงพยาบาล วันนี้เขาต้องไปตรวจครรภ์”
“เขา? อ๋อ…”
“ดังนั้น ไปด้วยกัน”
คู่ลั่วหานชี้ตัวเอง “ฉัน?”
ท่านเซียวไม่ยอมให้พูด “มีปัญหา?”
เหอะ! กล้าที่ไหนหล่ะ!
ขึ้นรถไป ฉู่ลั่วหานนั่งข้างคนขับ รถขับตรงไปที่บ้าน พักตากอากาศของตระกูลโม่ หลงเซียวไม่ได้เตรียมตัวที่ จะเข้าไป แล้วก็โทรหาโม่หรูเฟยให้ออกมาโดยตรง
โม่หรูเฟยกำลังจะเปิดประตูนั่งข้างคนขับ แล้วตกใจที่ เห็นฉู่ลั่วหานนั่งไว้ด้านหน้า สีหน้าเปลี่ยนไปทันที “พี่ เซียว นี่มันหมายความว่ายังไงคะ? ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่?”
“เขาเป็นหมอ ก็จะได้ดูแลเธอได้ดีกว่า” น้ำเสียงที่เยือกเย็น คำพูดที่เผด็จการ
แววตานิ่งๆของฉู่ลั่วหานกวาดมองใบหน้าที่บึ้งๆของโม่ หรูเฟย “คุณโม่ ขั้นตอนการตรวจครรภ์นั้นซับซ้อนมาก ยังไงคุณก็รีบขึ้นรถและเร่งเวลาหน่อยเถอะค่ะ”
เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย!
โม่หรูเฟยเปิดประตูแล้วขึ้นรถด้วยความโมโห ทั้งๆที่ที่ นั่งนั้นต้องเป็นของเธอ แต่กลับถูกฉู่ลั่วหานแย่งไป ในใจ ของเธอเต็มไปด้วยไฟโกรธ ที่อยากจะปะทุออกมา!
“ฉู่ ลั่วหาน ฉันกับลูกของฉันไม่ต้องการให้เธอมาดูแล เธอลงไป!” ท่าทางที่โมโหแล้วพูดออกมา ทำตัวเหมือน ว่าตัวเองเป็นคุณนายหญิง
“ต้องขอโทษด้วยนะคะคุณไม่ นี่เป็นคำสั่งจากแม่สามี ของฉันค่ะ ท่านเรียกฉันให้ดูแลพวกคุณสองแม่ลูก อยากเปลี่ยนคน สงสัยคุณจะต้องไปคุยกับท่านแล้วค่ะ”
ท่านเชียวคิ้วขมวด “แม่บอกงั้นหรอ?”
คู่สังหารรีบพยักหน้าตอบ “ใช่ค่ะ เมื่อวานแม่โทรมาหา ฉันด้วยตัวเอง”
ถึงกับแสดงสีหน้าไม่รู้อะไร? ท่านเซี่ยว การแสดง ตกต่ำไปแล้วนะ
โม่หรูเฟยรีบนั่งหลังตรง จ้องมองเงาหลังของหลงเซียว “พี่เซียว ลำบากคุณป้าแล้วค่ะ ที่มาเป็นห่วงฉันกับลูก หลายวันนี้คุณป้าก็โทรมาหาฉันหลายครั้ง เอาแต่ถาม เรื่องของลูก ยังบอกให้ฉันไปเที่ยวบ้านหลงบ่อยๆ คุณ ป้าท่านช่าง..”
หลงเซียวนั้นไม่ได้สนใจเธอ “คุณตอบตกลงแล้ว?” ประโยคนี้ พูดให้ฉู่ ลั่วหาน
“ค่ะ ตอบตกลง”
จะไม่ตกลงได้ไง? เห็นได้ชัดว่าถูกแม่และมือที่สามคน นี้รวมตัวกันรังแก ท่านเซียวเขาดูไม่ออกงั้นหรอ?
หัวใจของโม่หรูเฟยพุ่งขึ้นไป สายตาดูแอบยิ้มๆ “คุณ
หมอฉู่ ต่อไปคงจะต้องลำบากคุณแล้วนะ ความ
ปลอดภัยของฉันกับลูกนั้นฝากไว้กับมือของคุณแล้วนะ
คะ”
มือเรียวยาวของหลงเซียวจับพวงมาลัยไว้ หัวรถเลี้ยว ไปข้างหน้าก็คือโรงพยาบาลแล้ว “ในเมื่อฝากให้คุณ แล้ว ต่อไปก็รับผิดชอบดีๆแล้วกัน”
ฉู่ลั่วหานคาดไม่ถึง ที่หลงเซียวเองก็สนับสนุนการกระ
ทำของพวกเขา!
“คุณคิดอย่างนั้นจริงๆหรอ?”
อุ้มความหวังสุดท้ายไว้ น้ำเสียงของเธอสั่นคลอน เพียงแค่เขาพูดประโยคหนึ่งที่ดูเป็นห่วง ไม่สิ แค่คำพูด ธรรมดาไม่กี่คำก็พอ…
หลงเซียวจอดรถ หลังจากลงรถก็ไปเปิดประตูรถให้โม่ หรูเฟยก่อน เธอก็ดีอกดีใจคล้องแขนของเขาไว้ หันไป ยิ้มเยาะเย้ยให้กับฉู่ลั่วหาน
แต่เสียงของเขา นานกว่าที่จะพูดออกมา “ใช่ คุณหมอ ฉู่ชอบช่วยเหลือผู้ป่วย แล้วผมจะไม่ให้โอกาสครั้งนี้กับ คุณได้อย่างไรกันหล่ะ!”