ตอนที่ 64 กุหลาบมีหนาม ก็น่ารัก
เนื่องจากแรงกดดันมหาศาลของท่านเซียว หมอ จ้าวทำได้เพียงเลือกการประนีประนอม
ลั่วหานหลับตาลง เธอรู้ว่าเขาจะรู้ไม่ช้าก็เร็ว
หมอจ้าวส่ายศีรษะด้วยความเสียใจ “มือขวาของ คุณนายได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ถึงกล้ามเนื้อและ เส้นเลือด เกรงว่าจะไม่มีทางฟื้นตัวได้ และผมสัมผัส เส้นลมปราณมือขวาเธอ การบาดเจ็บนี้อย่างน้อยต้อง ใช้เวลาห้าปี”
ห้าปี?
หลงเซียวมองฉู่ลั่วหาน เมื่อครู่นี้เธอกำลังหลับตา ไม่รู้ว่าพยายามจะซ่อนหรือหลบหนีอะไร แต่เมื่อเขา มองเธอ เธอก็กลายเป็นฉู่ลั่วหานที่เขารู้จักอย่าง รวดเร็ว
หนามทั้งตัว
“หมอจ้าวเป็นผู้เชี่ยวชาญ ดูฉันออกหมดเลย ห้าปี ก่อนฉันประสบอุบัติเหตุ ได้รับบาดเจ็บที่มือขวาจริงๆ ต่อมาฉันเลยจับมีดผ่าตัดไม่ได้อีก ฉันเปลี่ยนจาก แผนกศัลยกรรมไปเป็นอายุรกรรม แต่ตอนนี้มือฉันไม่ เป็นอะไรแล้ว ตราบใดที่ไม่ต้องผ่าตัดเป็นเวลานานก็ โอเค”
เธอพูดห้วนๆ หลีกเลี่ยงความสำคัญ และทำให้ เรื่องนี้พ้นทาง
หมอจ้าวไม่สะดวกที่จะถาม พยักหน้าพูดขึ้น “คุณนายพักผ่อนให้เต็มที่ คุณชาย ผมกลับก่อนนะ ครับ”
หลังจากหมอจ้าวออกไป หลงเซียวก็มองสำรวจฉู่ ลั่วหาน สำรวจมือเธอ “ร่างกายเธอมีความลับที่ฉันยัง ไม่รู้แค่ไหน?”
ลั่วหานยักไหล่อย่างไม่แยแส “ในเมื่อเป็นความ ลับ ก็ไม่ให้คนนอกรู้อยู่แล้ว ท่านเซียวกล้าพูดไหมว่า ตัวเองไม่มีความลับ?”
ท่านเซียวจับมือขวาเธอขึ้นมา มองอย่าง ระมัดระวัง แต่พื้นผิวไม่มีร่องรอยเลยแม้แต่นิด การ บาดเจ็บเมื่อห้าปีก่อนยังสามารถตรวจพบได้ บาดเจ็บ แบบไหนกัน?
“เธอไม่จำเป็นต้องรู้ความลับของฉัน แต่ต่อหน้า ฉัน เธอห้ามปิดบังอะไร”
เป็นท่านเซียวที่เอาแต่ใจอีกแล้ว แต่เธอมี ภูมิคุ้มกันแล้ว
“ช่างเถอะท่านเซียว คุณเอาตัวฉันไปได้ ฉันติดอยู่ ในคฤหาสน์หรูหรานี้ตลอดชีวิต แต่คุณไม่ได้หัวใจฉัน ฉันเคยบอกคุณแล้ว ถ้าอยากได้หัวใจฉัน ต้องเอาใจมา แลก อยากได้ความลับฉัน? ก็เอาความลับคุณมาแลกสิ”
เธอยิ้มเบาๆ จากนั้นก็หลับตา “ฉันเหนื่อยแล้ว
นอนแล้วนะ” ท่านเซียวจ้องมองสาวน้อยบนเตียง ผู้หญิงคนนี้มี ความลับเยอะมากจริงๆ และพยายามซ่อนอะไรบาง
อย่างจากเขา
คืออะไรกันแน่? เธอไม่พูดก็ไม่เป็นอะไร เขาจะสืบ ให้กระจ่างเอง
วันรุ่งขึ้น ฉู่ลั่วหานตื่นแล้ว พบว่าตัวเองนอนอยู่บน เตียงใหญ่คฤหาสน์ ปรับตัวนิดหน่อยอย่างอึดอัด ช่วง นี้เปลี่ยนหลายเตียง หัวสมองเธอล้มเหลวในการ เปลี่ยนโหมด
“คุณนาย ตื่นแล้วเหรอคะ”
ฉ่ลั่วหานถูกเรียกแบบนี้ก็ตื่นมากกว่าครึ่งทันที หัน ศีรษะไปที่ประตูทางเข้า หญิงวัยกลางคนสวมชุดคน รับใช้ตระกูลหลงยืนอยู่ตรงนั้น ยิ้มอย่างเคารพ
คนรับใช้คนนี้ ฉู่ลั่วหานรู้จัก เคยเห็นตอนไป ตระกูลหลงสองครั้ง ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในป้าแม่ครัว บ้านเก่าแก่ตระกูลหลง
“ป้าเฉิน มาทำอะไรที่นี่คะ?”
“คุณชายใหญ่ให้ฉันกลับมาดูแลคุณน่ะค่ะ หลิง หลิงและชุนชุนก็มาแล้ว คุณมีอะไรก็รับสั่งให้เราทำได้ เลยนะคะ”
ฉู่สั่วหานขมวดคิ้ว เกิดสนามรบครั้งใหญ่? ปกติ คฤหาสน์ที่เย็นยะเยือกเหมือนบ้านร้าง ตอนนี้มีคนเพิ่ม มาสามคน ครึกครื้นทีก็น่าประหลาดใจไปหน่อย
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องรับใช้ฉันหรอก ไปรับใช้
คุณชายเถอะค่ะ”
ป้าเฉินยืนอยู่ไม่ขยับไปไหน “คุณชายสั่งมาว่าให้ มาถามคุณก่อน อาหารเช้าเตรียมเรียบร้อยแล้ว คุณนายอยากจะทานในห้องหรือว่าทานข้างล่างคะ?”
เอ่อ….หลงเซียวเอาจริงแล้วสินะ
“ฉันจะลงไปทานข้างล่างค่ะ คุณช่วยบีบยาสีฟัน
ให้ฉันก็พอ”
มือข้างเดียวบีบยาสีฟันไม่ค่อยสะดวกนัก และเธอ ไม่ชินกับการเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยมีคนยืนอยู่ข้างๆ ป้าเฉิ นรีบพยักหน้า “ได้ค่ะ คุณนาย”
แปลกจัง คนรับใช้ดีกับเธอขนาดนี้เลยเหรอ? ดี
จนแปลก!
หลังจากล้างหน้าแปรงฟันแล้วลงไปข้างล่าง อาหารเช้าแสนอร่อยตั้งอยู่บนโต๊ะ แตกต่างจากอาหาร เช้าเรียบง่ายที่เธอทำเอง อาหารเช้าที่คนรับใช้ตระกูล หลงทำนั้นเป็นไปตามมาตรฐานของหม่านฮั่นฉวนสี ทานสองคนก็ต้องวางเต็มโต๊ะ
หลงเซียวกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์การเงินอยู่บน โต๊ะ หางตาเห็นร่างเธอก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “ใหญ่มาจากไหนกัน ทุกคนรอเธอคนเดียว” ทุกคนไหน? มีเขาทานอาหารคนเดียวไม่ใช่เหรอ
ฉู่ลั่วหานนั่งนิ่งโดยไม่สนใจคำประชดประชันของ เขา “คราวหน้าท่านเซียวก็กินเลย ไม่ต้องรอฉัน จะได้ ไม่เสียเวลาท่านเซียว ฉันชดใช้ให้ไม่ได้หรอก”
หลงเซียวขมวดคิ้ว วางหนังสือพิมพ์ไว้ข้างๆ ปาก ยังดีจริงๆ!
“เห็นหรือยัง? นี่คืออาหารเช้า”
ฉ่ลั่วหานพยักหน้า “เห็นแล้วค่า ตาฉันก็ไม่ได้แย่ ขนาดนั้น มีจานวางเต็มขนาดนี้ จะไม่เห็นได้ไง?”
คนรับใช้เตรียมจาน มีดส้อมให้ทั้งสองคน จากนั้น ก็ถอยไปข้างๆ
หลงเซียวเริ่มทานอาหารอย่างช้าๆ “ไม่รู้สึกตัวเลย สินะ นึกถึงอาหารเช้าที่เธอเตรียมสิ ไม่ละอายใจบ้าง หรือไง?” ฉ่ลั่วหานรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่เธอไม่สนใจ จับ
ตะเกียบขึ้นมาเพื่อตักอาหาร ทานซุป “แน่นอนสิ ไม่งั้น
ฉันก็ไปเป็นเชฟแล้ว จะไปเป็นหมอทำไม”
ผู้หญิงคนนี้….ตอนต่อปากต่อคำนี่ทำให้เขารู้สึก ว่าน่ารักนิดๆ
น่ารักเหรอ? กุหลาบมีหนามน่ารักแต่ก็มีพิษเช่นกัน ทั้งคู่ทานอาหารไปด้วยพูดโจมตีกันไปด้วย ฉู่ลั่วหานเหลือบไปเห็นหนังสือพิมพ์ข้างๆ มือเขา จู่ๆ ก็ เปลี่ยนเรื่อง “หนังสือพิมพ์คุณ ขอฉันอ่านหน่อย”
ท่านเซียวเบนสายตาขึ้นมองเธอ “มันเป็นเฉพาะ ด้าน เธออ่านไม่เข้าใจหรอก”
ฉู่ลั่วหานกัดฟัน “ฉันอ่านเข้าใจ คุณไม่อยากให้ฉัน อ่านเข้าใจเหรอ?”
ท่านเซียวทำเสียงฮึดฮัดเบาๆ อย่างช่วยไม่ได้ “ใน เมื่อเธออยากอ่าน อ่านจบแล้วก็อย่าเสียใจแล้วกัน”
มีอะไรให้เสียใจ?
ท่านเซียวส่งหนังสือพิมพ์ข้ามโต๊ะอาหารใหญ่ไป ให้ฉู่ ลั่วหาน เป็นการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติและ ราบรื่น เหมือนเป็นวันปกติของสามีภรรยา ทันใดนั้นทั้ง สองก็ตกอยู่ในภวังค์
ลั่วหานละสายตาจากมือเรียวของเขา ก้มศีรษะ มองหนังสือพิมพ์เพื่อปกปิดความกระอักกระอ่วนที่ เผยออกมาเมื่อครู่นี้
ดวงตาดำสนิทของท่านเซียวเหมือนตั้งใจมอง อาหาร อันที่จริงแอบสังเกตปฏิกิริยาของฉู่ลั่วหานอยู่ ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าตอนเธอเห็นข่าวนั้นแล้วจะตอบ สนองอย่างไร
แน่นอนว่าเธออ่านข่าวตลาดหุ้นอย่างลำบาก แต่ พอพลิกหนังสือพิมพ์ไปอีกหน้า ฉู่ลั่วหานก็ตาค้างทันที!
บริษัทฉู่ซื่อ?
ตั้งใจอ่านทีละบรรทัด ดวงตาฉู่ลั่วหานก็เบิกกว้าง ขึ้นเรื่อยๆ บริษัทฉู่ซื่อมีเรื่องอื้อฉาวอีกแล้ว
ฉู่ซีหรานเจ้าโง่นี่ให้การเงินทำบัญชีปลอม ถูก คนในสำนักงานตรวจสอบจับได้ ไม่เพียงแต่จะต้อง เสียภาษีทั้งหมดแต่ยังต้องรับผิดชอบทางอาญาอีก ด้วย ก่อนถึงกำหนดการ ฉู่ซีหรานและฟางหลิงหยู้ต้อง ถูกตรวจสอบ ถ้าสถานการณ์ร้ายแรงอาจจะต้องเข้า
คุก เชี่ยแม่ลูกคู่นี้ไม่สร้างปัญหาวันเดียวมันจะตาย ไหม!
ฉลูรั่วหานกำหนังสือพิมพ์แน่น ใบหน้าเล็กปกคลุม ไปด้วยน้ำแข็งเย็นยะเยือก บริษัททำบัญชีปลอม ไม่ เพียงแต่ต้องรับผิดชอบคู่กรณี ชื่อเสียงบริษัทก็เสีย หายอย่างรุนแรงเช่นกัน ปฏิกิริยาลูกโซ่นั้นน่ากลัวมาก
ลั่วหานแอบมองหลงเซียว เขากำลังทานอาหาร อยู่ ไม่มีการตอบสนองใดๆ เขารู้เรื่องนี้นานแล้ว ตอน รับโทรศัพท์ก็รู้
วางหนังสือพิมพ์ลง ฉู่ลั่วหานไม่อ้อมค้อม “บริษัทฉู่ ชื่อเกิดเรื่องแบบนี้ คุณมีอะไรอยากพูดไหม?”
ฉู่ลั่วหานรอเขาอย่างไม่ค่อยสบายใจ หลงเซียว เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารและการเงิน คำพูดเขา เป็นคำพูดสรุป เธอกำหมัด มองเขาอย่างใจจดใจจ่อ
ท่านเซียวทานซุปทีละช้อน สบายๆ ไม่สนใจ “จากจำนวนเงินในบัญชีปลอมของบริษัทฉู่ซื่อ น้องสาวและ แม่เลี้ยงเธอต้องติดคุกสามเดือน ในช่วงตรวจสอบต้อง ไม่มีการเคลื่อนไหวทางการเงิน นั่นหมายความว่า บริษัทฉู่ซื่อต้องปิดให้บริการ
ร้ายแรงขนาดนี้
“มีวิธีไหม? ที่จะ ช่วยบริษัทฉู่ซื่อได้”
ฉ่ลั่วหานมองหลงเซียวด้วยสายตาเป็นประกาย อยากจะข้ามโต๊ะอาหารไปมองแล้วจับแขนเขาเขย่า แรงๆ
ท่านเซียววางชามสังคโลกสีเขียวมรกตลง ใช้ กระดาษทิชชูเช็ดมุมปาก “สถานการณ์นี้เกี่ยวข้องกับ การผิดพลาดทางหลักการ คนทั่วไปไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยอมรับการลงโทษทางกฎหมาย”
“แล้วคุณล่ะ? คุณมีวิธีไหม?!” ฉู่ลั่วหานร้อนรนใจ ร่างกายท่อนบนโน้มตัวไปข้างหน้า เธอเป็นห่วงบริษัทฉู่ ซื่อมาก!
หลงเซียวกำลังจะออกไป “ฉันเป็นคนทั่วไปเหรอ? แต่….ฉันเคยพูดว่า ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งถ้าบริษัทฉู่ชื่อ เกิดเรื่อง”
ลั่วหานยืนตามเขา เดินอ้อมโต๊ะอาหารไปอยู่ข้าง หน้าเขา ใช้ตัวเองกันทางเดินเขาไว้ “หลงเซียว ครั้งนี้ คุณต้องช่วยบริษัทฉู่ซชื่อ มีแค่คุณเท่านั้นที่ทำได้”
ฉ่ลั่วหานจับแขนเสื้อเขาไว้ เงยหน้าจ้องตาเขา”หลงเซียว ในเมื่อคุณมีวิธี ได้โปรดช่วยบริษัทฉู่ซื้อ ด้วย!”
หลงเซียวมองนิ้วเธอ จากนั้นก็พูดเรียบๆ “นี่คือ การอ้อนวอนของเธอเหรอ? ฉู่ลั่วหาน”
ให้ตายเถอะ! ตอนนี้เธอกำลังอ้อนวอนเขาจริงๆ ทำไมรู้สึกแย่ขนาดนี้!
ลั่วหานละมือออกจากเสื้อผ้าเขา ยิ้มขึ้นมา “ดู เหมือนคุณไม่คิดจะช่วย โอเค คุณไม่ช่วย ฉันหาวิธีเอง ก็ได้”
หลงเซียวขมวดคิ้วแน่น ความโกรธยิ่งเพิ่มขึ้นบน หน้า ยัยที่ม ยอมแพ้สักครั้ง ขอร้องสักครั้ง ขอร้องเขา ด้วยความจริงใจสักครั้งจะตายไหม?
เห็นได้ชัดว่าต้องการเขาออกหน้าช่วย แต่กลับ ทำท่าทางหยิ่งผยอง ทรมานไปนั่นแหละ สมควรแล้ว!
“บริษัทฉู่ซื่อตื่นตระหนกกับหน่วยงานธุรกิจและ กระบวนการยุติธรรมของเมืองหลวงแล้ว ฉู่ลั่วหาน สถานะหมอและเครือข่ายเธอ จัดการเรื่องนี้ไม่ได้ หรอก คนที่จะช่วยบริษัทฉู่ซื่อให้พ้นความยากลำบาก ไปได้ ในเมืองหลวงมีแค่ฉันเท่านั้น”
ท่านเซียวพูดจบก็เดินโซเซผ่านไหล่เธอไปยังห้อง รับแขก คนรับใช้หยิบเสื้อคลุมตัวนอกยื่นให้สองมือ ท่านเซี่ยวสวมชุดสูทสีดำแฮนเมดเรียบร้อยแล้ว หันตัว ไปมอง ฉู่ลั่วหาน “ฉันให้เวลาเธอคิดช่วงเช้า คิดดูว่าเธอมีอะไรมาเสนอฉัน”
พูดจบ ท่านเซียวก็เดินออกไปจากประตูใหญ่ คฤหาสน์อย่างโอ่อ่า
ลั่วหานโกรธเกรี้ยวขึ้นมา หลงเชียว คุณคิดว่าตัว เองเป็นเจ้าเหนือหัวเมืองหลวงจริงๆ หรือไง! เธอไม่เชื่อ ว่าเธอจะหาทางไม่ได้!
และในตอนนี้ โทรศัพท์ฉู่ลั่วหานก็ดังขึ้น
อย่างที่คิดไว้ ฉู่ซีหรานโทรมา
เธอทำเสียงฮึดฮัดเบาๆ มีปัญหาถึงจะมาหาเธอ!
“ว่ามา เป็นอะไรอีก?” ฉู่ลั่วหานนั่งโซฟาในห้อง รับแขก เธอจินตนาการได้เลยว่าฉู่ซีหรานอยากหยิก เธอให้ตายแต่ต้องขอความช่วยเหลือจากเธอ
“บริษัทฉู่ซื่อ….เกิดเรื่องแล้ว เธอก็เป็นส่วนหนึ่ง ของตระกูลฉู่ เวลาแบบนี้เธอต้องทำอะไรสักอย่าง”
ฮ่าๆ!
“ฉู่ซีหราน เธอก่อเรื่องเอง มาขอให้ฉันช่วยยังใช้ น้ำเสียงแบบนี้ ใจกล้าดีนี่!”
ในตอนนี้ ฉู่ซีหรานและฟางหลิงหยู้กำลังนั่งอยู่ใน ห้องรับรองสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะ รอคนมาช่วยอยู่ ฟางหลิงหยู้ส่ายศีรษะให้ลูกสาว บอก ให้เธอกล่อมฉู่ลั่วหานก่อน
“พี่ ดูพี่พูดสิ ยังไงเราก็เป็นลูกหลานตระกูลฉุ่นะตอนนี้ตระกูลฉู่เกิดปัญหา ทุกคนต้องทำให้ดีที่สุด ยิ่ง ไปกว่านั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับพี่เขยอย่างหลง เซียว แค่เธอไปขอให้เขาช่วยต้องได้อยู่แล้ว”
ฟางหลิงหยู้ร้อนรนใจ แย่งโทรศัพท์ไป “ลั่วหาน ถ้าบริษัทฉู่ซื่อยอมรับการตรวจสอบตามปกติ ก็จะไม่ สามารถบริหารงานครึ่งเดือน ลูกค้าส่วนใหญ่ของ บริษัทฉู่ซื่อจะหายไป จะรอให้บริษัทฉู่ชื่อล้มละลายเห รอ ความพยายามของพ่อแม่เธอจะสูญเปล่า! เธอรีบๆ ตัดสินใจซะ ถ้าไม่มีมือที่สามเข้ามาแทรกแซงก่อน เที่ยง บริษัทฉู่ซื่อจะจบสิ้น!”
“ฉู่ ลั่วหาน ถ้าเธอเป็นคนตระกูลฉู่จริงๆ เธอต้อง เป็นห่วงสติปัญญาและกำลังของพ่อเธอ รีบไปหาหลง เซียวเดี๋ยวนี้!”