ประธานหยิ่งยโสของฉัน – ตอนที่ 158

ตอนที่ 158

ตอนที่ 158 เนรเทศออกนอกเมือง ห้องผู้ป่วยจูบลา

ตระกูลหลงที่สังคมระดับสูง เธอคนที่ชาติตระกูลแบบนี้ไม่มี สิทธิ์ได้ไปถึง ยิ่งไปกว่านั้นเธอในตอนนี้ติดเชื้อเอชไอวี

เพียงแต่ฉู่ลั่วหานจะคิดถึงได้ยังไงกันว่า วิธีการที่ตัวเอง จากไป คือการเนรเทศไปตลอดกาล

เนรเทศ

นั่งอยู่ในห้องไต่สวนอย่างเหม่อลอย คู่ลั่วหานรู้สึกว่ามีด

ฟ้ามัวดิน

ก้มศีรษะ หลับตาลง ฉู่ลั่วหานต่ำต้อยราวกับเป็นลูกสัตว์ ป่าผอมแห้งที่ถูกหักกระดูกสันหลังให้ขาดออกจากกันก็ไม่ ปาน เธอเอ่ยขึ้นว่า “ก่อนหน้าที่หนูจะจากไป ขอเห็นหลง เชียวเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหมคะ?”

นี่คือคำขอร้องครั้งสุดท้ายของเธอ อย่างอื่นเธอไม่กล้า คาดหวังแล้ว ขอเพียงแค่หลงถึงสามารถอนุญาตเธอได้พบ กับหลงเชียวอีกสักครั้ง

คิดไม่ถึงว่า หลงถึงจะปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาไม่มีที่ว่างให้เธอจินตนาการเพ้อฝันเลยแม้แต่น้อย “ไม่ จำเป็นแล้ว คู่ลั่วหาน ชีวิตของลูกชายฉันไม่อาจจะพังพินาศ อยู่ในมือของคนอย่างเธอได้”

หากหลงถึงออกสั่ง ใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และเวลาในการเนรเทศที่อยู่ด้านบนเอกสารก็คือวันมะรืน เธอจะถูกบังคับออกจากที่นี่ แต่นี้เป็นต้นไป กลับมากลับ มาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

“ขอร้องล่ะค่ะ ให้หนูได้พบกับเขาเป็นครั้งสุดท้ายอีกสัก ครั้ง หนูคือคนที่จะจากไปแล้ว คุณหลงยังมีอะไรที่ไม่วางใจ อีกคะ? หนูจะไม่ได้เป็นภัยคุกคามของหลงเชียวอีกต่อไปแล้ว คุณยังกังวลอะไรอีก?”

ลั่วหานน้ำตาเอ่อล้นที่รอบดวงตาอย่างทนไม่ไหว เป็นเพราะสะอึกสะอื้นสั่นไหวอย่างรุนแรง ร่างกายที่ผอมแห้ง แทบจะรับแรงกดดันที่มหาศาลนี้ไม่ไหว ดูเหมือนจะพังทลาย กลายเป็นเศษที่นับไม่ถ้วน

หลงถึงอุทานออกมาเบาๆ แม้แต่ในลมหายใจของเขาต่าง ก็คือความรังเกียจและความดูหมิ่นที่มีต่อลั่วหาน ทำใจซะ เถอะ เธออย่าคิดเจอลูกชายของฉันอีกไปตลอดกาล”

ในสายตาของหลงถึง คนที่อยู่ในสังคมชั้นต่ำไม่ว่าจะ เมื่อไรต่างก็เหมือนเป็นเพียงแค่แมลงที่ปืนอยู่ในท่อระบาย น้ำเสียที่สกปรก หยุดคิดที่จะเหยียบเท้าเข้ามาในโลกของ คนชั้นสูง

สำหรับเขาแล้ว ฉู่ลั่วหานคนแบบนี้ ก็คือแมลงที่อยู่ใน สังคมชั้นต่ำ เขาคิดเพียงแค่อยากจะเหยียบเธอให้ตาย! ตัดขาดความคิดถึงอาลัยอาวรณ์ของเธอโดยสมบูรณ์แบบ!

คู่ลั่วหานเจ็บปวดจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ ให้เธอจากไปได้ ให้เธอไม่สามารถกลับมาอีกไปตลอดกาล ก็ได้ เธอรู้ว่าตัว เองก็ไม่ได้มีโอกาสนั้นแล้ว

แต่พอคิดถึงว่าจะไม่ได้เห็นหลงเชียวอีก ก็ทุกข์ทรมานมาก ยิ่งกว่าตาย

ทุกข์ทรมานอย่างอวัยวะภายในแตกเป็นเสี่ยงๆ

ประคองโต๊ะยืนขึ้นมา คู่ลั่วหานหลับตาลง “จะต้องทำยัง ไงกันแน่ คุณถึงสามารถให้หนูพบกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย? หนูขอร้องเพียงแค่มองดูเขาเป็นครั้งสุดท้าย”
หลงถึงเห็นเธอเป็นตัวเรือดที่น่ารังเกียจ หัวคิ้วที่แหลมคม จับตัวกันเป็นกลุ่ม ดวงตาที่คลุกคลีอยู่ในวงการธุรกิจหลาย ปีลับคมจนมองไม่เห็นมุมคู่หนึ่งจ้องจู่ลั่วหานเอาไว้ “ตัวเรือด ตัวหนึ่งยังคิดจะทำอะไรอีก? เธอทำอะไรได้! ”

ฉู่ลั่วหานกัดฟันแน่น หลับตาลง งอเข่า คุกเข่าต่อหน้าของ หลงถึงอย่างกะทันหัน!

ร่างกายที่อ่อนแอตกลงสู่พื้นจนกลายเป็นความเจ็บปวด หัวเข่ากระทบลงบนพื้นดังขึ้นเป็นเสียงก้อง เธอโค้งแผ่นหลัง เล็กน้อย ร่างกายราวกับถูกตอกเอาไว้แน่นก็ไม่ปาน

ก้มศีรษะลง น้ำตาหยดลงบนพื้นเปาะแปะ เธอฉีกความ หยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งออกไปเป็นชิ้นๆ เอ่ยข้อร้องขึ้น ว่า “เหยียบเท้มะรืนนี้หนูก็จะไปจากประเทศจีนแล้ว นี่คือ ค่ำขอร้องครั้งสุดท้ายของหนู คุณหลง หนูคือคนที่ใกล้จะ ตาย ได้โปรด..”

“พอแล้ว” สองคำที่เด็ดขาดหนักแน่น หลงถึงเปิดโปงธาตุ แท้ของการฆ่าคนอย่างไม่ให้เห็นเลือดออกมาอย่างเผ็ดร้อน ใช้น้ำใจเป็นอย่างมาก
“ความสารเลวที่อยู่ในกระดูก จะแก้ยังไงก็แก้ไม่ได้! ”

ที่แท้ ความหยิ่งในศักดิ์ศรีก็ยังไม่เอา สิ่งที่แลกมาก็เพียง เท่านี้..

คู่ลั่วหานประจักษ์สถานการณ์ได้อย่างชัดเจน ต่อให้ตอนนี้ เธอกรีดท้องล้วงเอาอวัยวะภายในออกมาก็ไม่สามารถได้รับ ความสงสารเห็นใจแม้เพียงเล็กน้อยจากหลงถึง งั้นก็ช่าง เถอะ เธอจะไม่ทำเรื่องโง่ๆอีกเป็นครั้งที่สองแล้ว

ใช้มือค่ำขายืนขึ้นมา คู่ลั่วหานหัวเราะขึ้นอย่างประชด ประชัน เอ่ยด้วยคำพูดที่ว่าจะต่อสู้กันจนได้รับบาดเจ็บไปทั้ง สองฝ่าย “ขอเพียงแค่หนูไม่ตาย เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ต้องมี สักวันที่จะถูกเขารู้ คุณหลง ตอนนี้คือยุคอินเตอร์เน็ต หนูอยู่ ประเทศจีนหรือไม่ ต่างก็สามารถใช้อินเตอร์เน็ตประกาศ เรื่องที่คุณข่มขู่ลูกสะใภ้ยังไงออกมา ที ฉันไม่มีอะไร แต่คุณ พนันไหวหรือเปล่า?”

คู่ลั่วหานยืนตรงอย่างมั่นคง หากสุดท้ายจะต้องตาย เธอ เลือกที่จะยืนตาย

ความอัปยศอดสูเมื่อสักครู่นี้ โทษเธอที่โง่งมเกินไปเห็นผิดว่าตระกูลหลงคือคน!

หลงถึงหัวเราะขึ้นอย่างเยือกเย็น เขามองเห็นคู่ลั่วหานที่ เริ่มมีสภาพความเป็นคนขึ้นมาเล็กน้อย

“พรุ่งนี้ ฉันจะส่งคนมา จำไว้ เธอมีโอกาสเพียงแต่ครั้ง เดียว หากเธอพูดผิดสักคำต่อหน้าของเขา สิ่งที่รอคอยเธอก็ ไม่ใช่เนรเทศออกนอกเมืองง่ายๆแบบนี้แล้ว”

ฉู่ลั่วหานพยักหน้า เธอคิดไม่ถึงว่าหลงถึงจะตกลง “คุณ วางใจ หนูมีขอบเขต”

รอจนกระทั่งคนจากไป คู่ลั่วหานถึงได้พิงไปที่ขอบโต๊ะ อย่างไร้เรี่ยวแรง

คนที่สองที่มาเยี่ยมคือหลงจื่อ หลงจื่อนำสถานการณ์การ ฟื้นตัวของพี่ใหญ่ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่รายงานมาหมด รอบหนึ่ง สุดท้ายยังตั้งใจพูดอีกประโยคว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ รอหลังจากที่พี่ถูกปล่อยออกมาอย่างไร้ความผิด จะต้องช่วย ผมระบายความแค้นต่อหน้าพี่ใหญ่ สองวันนี้ผมเรียกได้ว่า รู้สึกได้รับความไม่เป็นธรรมเหลือเกิน! ”

ฉู่ลั่วหานตอบรับเต็มปาก “ได้ พี่จะต้องช่วยเธอระบายความแค้น”

แต่ในใจของเธอล้นทะลักความโศกเศร้าขมขื่นออกมา หลงจื่อมองไม่เห็น

เวลาช่วงบ่าย ถังจิ้นเหยียนก็มา

“มีข่าวดี่จะบอกกับคุณ” ถังจิ้นเหยียนตั้งใจอุบเอาไว้ ช่วง นี้ข่าวดีน้อยมากจริงๆ เขาแทบอยากจะแบ่งใช้ออกเป็นสอง

ท่อน

“ข่าวอะไรคะ” ลั่วหานที่หัวใจแทบจะแห้งเหือด กลับ ไม่ใช่รอคอยมากนัก แต่แฝงไปด้วยการขอให้พูดออกมา อย่างชัดเจน

“ผลการตรวจเลือดของหลงเชียวออกมาแล้ว ในร่างกาย ของเขาไม่มีเชื้อไวรัส แข็งแรงมาก คุณวางใจได้แล้ว”

เป็นข่าวที่ดีมากจริงๆ!

คู่ลั่วหานกลับตื่นเต้นขึ้นมาไม่ออก

นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เธอนำเรื่องที่จะออกนอกประเทศเอ่ย ขึ้นอย่างเลี่ยงงานหนักให้เป็นงานเบาออกไปรอบหนึ่ง “คราวนี้ ฉันจากไปคนเดียว คุณไม่ต้องไปเป็นเพื่อนฉันแล้ว ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันจะไปที่ไหน”
หลังจากที่ได้ยินข่าว การตอบสนองแรกของถังจิ้นเหยีย นก็คือโมโห!

ตระกูลหลงของที่คลุมด้วยเสื้อผ้าที่หรูหราแต่กลับจิตใจ เหี้ยมโหดเยี่ยงสัตว์ป่าเหล่านี้!

“ผมเคยพูดแล้วว่าจะอยู่เป็นเพื่อนคุณ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ผมก็จะรักษาคำสัญญา ผมเต็มใจ คุณไม่ต้องมีความรู้สึก โทษตัวเองใดๆทั้งสิ้น”

“พรุ่งนี้ฉันไปโรงพยาบาลรอบหนึ่ง เหยียบเท้มะรืนนี้ก็จาก

ไปแล้ว”

นิ่งสงบมาก ผ่านการโจมตีของหลงถึง ฉู่ลั่วหานใจเย็นลง

มาราวกับน้ำนิ่งก็ไม่ปาน

ถึงขั้นยังยิ้มกว้างให้กับถังจิ้นเหยียน

“พบหลงเชียว?”

คู่ลั่วหานพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา “อาหารค่ำมื้อ สุดท้าย ทานอะไรดีคะ? ที่จริงแล้วฉันอยากทำกับข้าวด้วยตัว เองให้กับเขาสักมื้อ เสียดาย เขาไม่มีลาภปากนี้แล้ว”

ยิ่งเธอยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติร้อยพิษใดๆไม่กล้ำกราย ผู้ชายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็ยิ่งรู้สึกปวดใจทุกข์ทรมานอย่างยากที่จะหลุดพ้นออกมาได้

คงั้นก็เอาที่เขาชอบไปเถอะ ทานอะไรไม่สำคัญ ที่สำคัญก็ คือ…พวกคุณอยู่ด้วยกัน”

“คิดไม่ถึง เดินวนมารอบหนึ่ง สุดท้ายที่เหลืออยู่ที่ข้างกาย ของฉันมีเพียงแค่คุณ”

“เป็นเกียรติของผม” เขายิ้มอย่างสง่างาม ไม่ทันได้ระวังก็ สร้างความอ่อนโยนขึ้นภายในจิตใจของเธอ

น่าประหลาด รอยยิ้มนั้นทำให้เธอสัมผัสได้ถึงความสั่น ไหวขึ้นมาเล็กน้อย

คืนนั้น ฉู่ลั่วหานไม่ได้นอนทั้งคืน เพื่อวันสุดท้าย ในสมอง ของเธอแทบจะใช้เวลากับเขามาทั้งชีวิต

หลงถึงรักษาคำมั่นสัญญาจริงๆ ตอนบ่ายของวันที่สองส่ง คนมารับเธอ อีกทั้งให้เวลากับฉู่ลั่วหานในการอาบน้ำ เปลี่ยนชุดที่สะอาด

รอยแผลที่อยู่บนใบหน้าทาคอนซีลเลอร์ก็ไม่ได้ช่วยอะไร รอยบากที่ยาวถึงห้าเซนติเมตรเป็นแนวนอนอยู่บนใบหน้า กลายเป็นรอยตกสะเก็ดที่ละเอียด น่าเกลียดยิ่งกว่าตอนที่เพิ่งจะได้รับบาดเจ็บเสียอีก

เมื่อวานตอนเย็นปรึกษากับถังจิ้นเหยียนว่าอาหารค่ำมื้อ สุดท้ายทานอะไรเห็นได้ชัดว่าไร้ประโยชน์ เพราะว่ามาถึง ด้านนอกประตูห้องผู้ป่วยพิเศษจู่ลั่วหานถึงจำเป็นจะต้อง

เผชิญหน้ากับความจริง

เธอมีเวลาเพียงแค่สามสิบนาที

“คุณฉู่ ท่านประธานกำชับว่า ภายในสามสิบนาทีคุณ จำเป็นจะต้องออกมา”

ฉู่ลั่วหานปิดบังความขมขึ้น ยิ้มเล็กน้อย “ค่ะ”

ด้านในนี้ ก็คือคนที่เธอช่วยชีวิตเอาไว้เมื่อห้าปีก่อน สามี ของเธอ วันนี้ เธอต้องบอกลากับเขาโดยสมบูรณ์แบบ

สูดหายใจเข้าเต็มปอด เดินเข้าห้องผู้ป่วย หลงเชียวกำลัง พิงไปบนหัวเตียงดูเอกสาร แสงอาทิตย์ที่สาดเข้ามาด้าน นอกหน้าต่างส่องไปบนร่างกายและใบหน้าของเขาอย่าง อบอุ่น ปอยผมหน้าม้าที่อ่อนนุ่มพาดลงมาที่บนหน้าผาก ทิ้ง เป็นเงากระจายแยกออกจากกัน ทำให้เค้าโครงสามมิติของอวัยวะบนใบหน้าที่นูนออกมาของชายหนุ่มประณีต ประทับใจคนอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น

นิ้วมือที่เรียวงามของชายหนุ่มพลิกเอกสารทีละหน้าๆ บ้าง ขมวดคิ้วเล็กน้อย บ้างพยักหน้า ดูอย่างจริงจังมาก ดูไปดูมา หลงเชียวยื่นมือออกไปยกแก้วน้ำชาที่อยู่บนโต๊ะ

มือเพิ่งจะยื่นออกไป ฉู่ลั่วหานก็นำแก้วยัดใส่ในมือของเขา หลงเชียวนึ่งอึ้งไปหนึ่งวินาที เหลือบตาขึ้นมองเห็นฉู่ลั่วหา

ความปิติยินดีเต็มหัวใจทะลุกระดาษออกมา เขารีบนำ เอกสารทิ้งลงไป ดวงตาที่ล้ำลึกทั้งสองข้างเต็มไปด้วยความ หวานและความรู้สึกเซอร์ไพรส์ “คุณหายแล้วหรอ?”

คู่ลั่วหานพยักหน้า การตอบสนองนิ่งสงบ “ดีขึ้นมากแล้ว ค่ะ คุณเป็นยังไงบ้าง? แผลยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?”

หลงเชียวเติมทีก็เจ็บ แต่พอเห็นเธอ บาดแผลทั้งหมด ราวกับสมานเข้าหากันหมดแล้ว สองมือดึงมือของเธอเอาไว้ วางใส่เข้ามาในฝ่ามือ ไม่ทันได้ระวังมองเห็นรอยแผลเป็นที่ อยู่บนใบหน้าของอู่สั่วหาน หัวใจเชื่อมโยงกับคิ้ว ขมวดเข้าหากัน จนกลายเป็นรอยย่น “บนหน้าไปโดนอะไรมา?”

คำพูดยังไม่ทันจะเอ่ยออกมา นิ้วมือที่อบอุ่นก็ได้ประคอง เข้ามาที่บนใบหน้าด้านข้างของเธอ ลูบไล้ผิวของเธออย่าง ละเอียด รอยแผลที่ยาวขนาดนี้ “เจ็บหรือเปล่า?”

ฉู่ลั่วหานส่ายศีรษะ รอบดวงตาร้อนผ่าว น้ำตาแทบจะไหล ลงมา “ทานผลไม้อะไรดีคะ? ฉันปอกส้มให้คุณก็แล้วกัน”

หลงเชียวส่ายศีรษะ “อะไรก็ไม่ต้อง คุณนั่งลง ผมอยาก ตั้งใจมองคุณให้ดีๆ” ฉู่ลั่วหานสีหน้านิ่งเฉย น้ำเสียงเยือกเย็นเล็กน้อย “ป่วยจน

แสร้งทำกิริยาเกินงามออกมาแล้วนะค่ะ”

ท่านเซียวก็ไม่ปฏิเสธ เพียงแต่มองสังเกตเธอ นิ้วมือลูบไล้ มือเล็กๆของเธอ “ผมจะต้องพักฟื้นหนึ่งเดือน ช่วงระยะเวลา นี้ คุณอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนผม ได้ไหม?”

น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนมาก ราวกับเป็นการรั้งเอาไว้
“ไม่ได้ค่ะ ฉันได้รับการแจ้งประกาศแล้ว ต้องไปแอฟริกา คุณรับปากฉันเอาไว้แล้วว่าให้ฉันไป อย่ากลับใจค่ะ”

ท่านเซียวเงยศีรษะขึ้นอย่างเสียใจที่ได้ทำลงไป “บ้าจริง รู้ แต่แรกว่าจะเป็นแบบนี้ก็ไม่ควรจะรับปากคุณ”

คู่ลั่วหานปอกแอปเปิ้ลอย่างช้าๆ ปอกเปลือกไปด้วยในใจ แอบคิดไปด้วยว่าอย่าขาด อย่าขาด “คุณพักรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาล คนมากมายขนาดนี้อยู่เป็นเพื่อนคุณ มีหรือไม่มี ฉันก็เหมือนกัน อีกทั้งฉันอยู่ที่นี่จะส่งผลกระทบต่อการพัก ผ่อนของคุณได้”

ผ่านการกระทำที่ซ้ำไปซ้ำมาเช่นนี้ ความไม่รื่นรมย์ในคืน นั้นราวกับสูญสลายไปก็ไม่ปาน หลงเชียวคิดถึงบาดแผลที่ อยู่บนร่างกายของเธอได้อย่างกะทันหัน นิ้วมือปลดกระดุม เม็ดแรกของเธอเบาๆ “ขอโทษนะ เจ็บมากใช่หรือเปล่า?”

“เจ็บค่ะ ไม่ถูกคุณกัดตายก็ถือว่าโชคดีมากจริงๆ”

หลงเชียวขมวดคิ้ว “รอผมหาย คุณก็กัดผมทีหนึ่ง ทิ้งรอย ประทับของคุณไว้บนร่างกายของผม
คู่ลั่วหานมือสั่นขึ้น มองดูเปลือกแอปเปิ้ลที่จะต่อกันเป็น พวงขาด ในใจหนังอึ้ง ราวกับรู้สึกได้ถึงสิ่งที่ไม่ชัดเจน

“ฉันไม่ได้เกิดปีจอ ไม่ขอบกัดคนค่ะ”

เขาลองซิมแอปเปิ้ลที่เธอปอกกับมือ เคี้ยวอย่างพึงพอใจ งั้นก็ตบผมสักยก ระบายความแค้น”

อู่ลั่วหานเอ่ยขึ้นอย่างประชดประชัน “ขอโทษนะคะ ฉันก็ ไม่ได้มีนิสัยเสียติดตัวนี้เช่นเดียวกัน”

ท่านเซียวเลิกคิ้วขึ้น “โทรศัพท์มือถือทำไมถึงโทรไม่ติด?”

“ตอนที่เธอเกิดถูกไฟเผาแล้วค่ะ ยังไม่ทำซิมใหม่”

“ผมให้อาหมิงทำคืนกลับมาให้คุณ ต่อไปต้องเปิดเครื่อง ยี่สิบชั่วโมง ไม่อนุญาตให้อยู่ๆก็หายไป” เผด็จการ ค่อนข้าง ข่มขู่

“ไม่ต้องค่ะ ฉันทำเอง ฉันมีมือมีเท้า ไม่ชอบถูกคน ปรนนิบัติ”

ในปากของหลงเชียวมีแอปเปิ้ลอยู่ ด้านบนของคิ้วทั้งสองข้างโค้งขึ้นเล็กน้อย ยิ้มจนฟันที่ขาวกระจ่างออกมา “ครับ คุณหมอฉูอะไรก็ทำได้”

เวลาผ่านไปทีละนิด สามสิบนาที่ไวมาก ไวมาก!

คู่ลั่วหานสูดหายใจเข้าเต็มปอด เตรียมความพร้อมเพียง พอแล้วถึงได้เอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ “ต่อไปอย่าพยายามอย่างสุด ชีวิตเช่นนี้อีก จะแสดงให้เห็นว่าไม่มีสมองเป็นอย่างมาก”

ท่านเขียวขมวดคิ้วขึ้น “ไม่มีสมอง? เพราะว่าประสบ อุบัติเหตุทางรถยนต์ ผมคือ…”

“ฉันไม่ชอบฟังขั้นตอน ดูเพียงผลลัพธ์”

เวลาช้าลงหน่อยเถอะ! ช้าลงหน่อย! แค่นิดเดียว!

ท่านเซียวเอ่ยขึ้นอย่างบิดพลิ้วก็ไม่ปาน “นี่นับว่าเป็นคำสั่ง กำชับที่คุณนายหลงมีต่อสามีหรือเปล่า?”

อู่ลั่วหานหั่นแอปเปิ้ลออกเป็นชิ้นๆ “นับตั้งคะ”

“ในเมื่อเป็นคำสั่งกำชับ ไม่ให้ผลประโยชน์กับผมหน่อย ก็ให้ผมฟังที่คุณสั่ง? คุณนายหลงไม่รู้ว่าทำธุรกิจคือการพิถีพิถันกับการลงทุนและผล ตอบแทนหรอครับ?”

คู่ลั่วหานรู้สึกจนปัญญา “ยังไงคะ? ท่านเซียวยังขาดอะไร

อีก?”

ท่านเซียวสีหน้าล้ำลึก รอยยิ้มชั่วร้าย “จูบขอบคุณ”

ดวงตาทั้งสองข้างของชายหนุ่มปิดลง มุมริมฝีปากมีรอย ยิ้ม ผ่านไปนานก็ไม่ยอมเลิกรา

ได้หรอ?

จูบนึ่งของการแยกจาก

งั้นก็จบเถอะ

ฉู่ลั่วหานยืดตัวขึ้น แนบลงบนริมฝีปากของเขาเบาๆ นิต นึ่งอย่างแมลงปอเดินบนผิวน้ำ

เพียงแต่คนบางคนกลับยังอยากจะลิ้มรสอีกครั้ง เห็นได้ ชัดว่าไม่เพียงพอ มือใหญ่ประคองด้านหลังศีรษะของเธอเอา ไว้มอบจูบที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นให้กับเธอ

ลมหายใจที่เอ้อระเหย ร้อยเข้าด้วยกันอย่างละเอียด ราวกับโชคชะตาพัวพันกันและกัน ใกล้ชิดจนไม่อาจแยก ออก
ในที่สุด ในตอนที่ลมหายใจเริ่มที่จะวุ่นวายนั้น เขาคลาย เธอออก มองดวงตาของเธออย่างลึกซึ้งจริงใจ “ถึงแอฟริกา แล้วติดต่อกับผม อย่าเที่ยวเล่นจนหายไป ยิ่งไม่อาจจะไป แล้วไม่กลับ ผมรอคุณอยู่ที่นี่”

“ฉัน..”

“คุณจู่ มีคนมาหาคุณครับ”

คนชุดดำตัดบทสนทนาของทั้งสองคน ถึงเวลาแล้ว

คู่ลั่วหานปล่อยมือของหลงเซียวออก ความเป็นจริงที่โหด ร้ายทารุณที่สุด เธอยิ้มกลับบางๆ “ไม่ต้องรอฉันแล้วค่ะ ฉัน ไม่กลับมาแล้ว”

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

Status: Ongoing

คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป / ประธานหยิ่งยโสของฉัน หมออายุรศาสตร์มือหนึ่งฉู่ ลั่วหาน แต่งงานมาสามปีแล้ว กลับ ไม่มีใครสักคนรู้ว่าสามีเธอเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลง ตระกูลร่ำรวยอันดับแรกของเมืองเจียงตู ซึ่งเป็นคุณชาย เซียวที่ใครๆได้ยินชื่อก็ต้องหวาดกลัว ตลอดสามปีมาทั้งสอง ไม่เคยมีอะไรกัน เธอต้องทนดูรูปภาพหวานๆของเขากับเมีย น้อยโชว์บนหน้าจอ เธอหัวเราะ “หลงเซียว เราหย่ากันเถอะ” ” เห้อ หย่าเหรอ คุณผู้หญิง คุณคิดว่าผมเป็นอะไร? ” เธอเซ็น ใบหย่าอย่างไม่ลังเล ทิ้งแหวนแต่งงาน ดีมาก! เธอกล้ามาก คอยดูแล้วกันว่าผมจะจับคุณกลับมายังไง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท