ตอนที่ 196 แสดงฝีมือเป็นที่ประจักษ์ หมอสุดเทพ
จริงๆ
โถงทางเดินหน้าห้องผ่าตัดที่แสนเงียบสงบ ประธาน รอง คณบดี ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการแผนกโรคหัวใจ ผู้ เชี่ยวชาญ คณะแพทย์ ทุกคนยืนอยู่ในห้องพักด้านนอกห้อง ผ่าตัด ทุกสายตาจับจ้องไปที่แอนน่า อย่างไม่ให้พลาดทุกขั้น ตอนในการผ่าตัด
แอนน่าในชุดฆ่าเชื้อสีฟ้า แววตาของเธอมองไปที่หัวใจ ของผู้ป่วยราวกับมีเครื่องเอ็กซเรย์ล่องหน ในมือจับมีดผ่าตัด ไว้แน่น ใบมีดคมกรีดลงบนเนื้อของคนไข้
“เกิดอะไรขึ้น!? ทำไมเป็นแบบนี้?”
หมอพยาบาลทั้งนอกและในห้องผ่าตัดต่างมองไปที่แอน น่าด้วยความตกใจราวกับเห็นผี
มีดกรีดลงบนผิวหนังของคนไข้จนเปิดออก แต่กลับไม่มี เลือดไหลออกมาแม้แต่หยดเดียว!
“นี่…นี่มันอะไรกัน? มีตกรีดลงไปขนาดนี้แต่กลับไม่มีเลือด ไหลแม้แต่หยดเดียว? เป็นไปไม่ได้!”
รองผู้อำนวยการแผนกโรคหัวใจลุกขึ้นจากเก้าอี้ เขาจ้อง ไปที่แอนน่าผ่านหน้าจออย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา กล้อง วิดีโอจับภาพไปถึงช่วงมือของเธอได้อย่างใกล้ชิด วิธีการจับ มีดและการผ่าต่างจากหมอทั่วไปก็จริง แต่ผลลัพธ์ที่ออกมา มันจะน่าตกใจเกินไปไหม
ผู้อำนวยการอยู่ในความสงบชั่วขณะ ก่อนจะหยิบแว่นตา ขึ้นแล้วพูด “เทคนิคแบบนี้ สมัยก่อนผมเคยได้ยินมาบ้าง ตอนที่ถังจิ้นเหยียนยังเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลกลาง เวลา ที่เขาทำการผ่าตัดเขาก็สามารถทำถึงขั้นนี้ได้เช่นกัน แต่ ไม่ใช่ทุกครั้ง การจะใช้มีดเปิดเนื้อคนไข้โดยไม่ให้มีเลือด ไหลแม้แต่หยดเดียวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย”
ถังจิ้นเหยียน?
เมื่อได้ยินชื่อนี้ หมอทุกคนก็หันไปหาผู้อำนวยการ “น่า
เสียดาย ศัลยแพทย์ฝีมือดีขนาดนี้แถมยังเป็นถึงระดับรอง คณบดีของโรงพยาบาลกลางไม่รู้ว่าป่านนี้ท่านจะไปอยู่ ที่ไหน”
“ถึงตอนนี้คนที่ผมพอจะเอามาเป็นเงาของแอนน่าได้ คงมีแค่ถังจิ้นเหยียนคนเดียว” ประยานเฉินกล่าวเสริม จากนั้นทุกคนก็เงียบลง
การผ่าตัดยังคงดำเนินต่อไป เวลาเดินผ่านไปทุกนาที ทุก
วินาที
ทุกคนที่อยู่ทั้งด้านนอกและในห้องผ่าตัดต่างตึงเครียด พวกเขาอยากรู้ว่าคนไข้รายแรกที่แอนน่าเป็นคนลงมือ ทำการผ่าตัดให้จะสามารถรอดจนออกจากห้องผ่าตัดได้หรือ ไม่
แอนน่าเปิดเยื่อหุ้มหัวใจออกอย่างมืออาชีพ
LisaและCurretให้ความร่วมมืออย่างดี ทั้งสามคนเคลื่อนตัว พลิ้วไหวเหมือนก้อนเมฆ การผ่าตัดที่ประณีตและน่าตื่นเต้น ราวกับระหว่างพวกเขามีเส้นด้ายที่มองไม่เห็นเชื่อมถึงกันอยู่ ซึ่งคนนอกไม่อาจเข้ามาแทรกและทำใด้แค่ยืนสังเกตการณ์
เกาหยิ่งจือเดินเข้ามาในชุดกาวน์ ในมือถือแก้วกาแฟ รองเท้าส้นสูงส่งเสียงตึกตึกยามกระทบกับพื้น ขาเรียวสวย โผล่พ้นกระโปรงทรงเอรัดรูป ใบหน้าสวยเฉี่ยวกับทรง ผมบ้อบเท แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและเซ็กซี่
เมื่อเธอปรากฏตัวขึ้น ศัลยแพทย์ทุกคนก็แห่กันเอาอกเอาใจ “การมาของผอ.เกาทำให้ห้องผ่าตัดลุกเป็น
ไฟเลยครับ!”
ริมฝีปากเซ็กซี่ของเกาหยิ่งจือยกยิ้มเบาๆ “ล้อเล่นอีกแล้ว
นะคะหมอจ้าว”
ขณะพูด สายตาของเธอก็หันไปที่หน้าจอ ในนั้นกำลังจับ ภาพแอนน่าที่กำลังถือมีดทำการผ่าตัดอย่างพลิ้วไหวราวกับ เทพ เกาหยิ่งจือรู้สึกร้อนๆหนาวๆอย่างบอกไม่ถูก
เป็นการผ่าตัดที่คล่องแคล่วและเรียบร้อย หมอผู้หญิงที่ อายุแค่ยี่สิบกว่าทำขนาดนี้ได้ยังไง!
เธอทำได้ยังไงกัน!
หมอจ้าวลุกขึ้นหยิบเก้าอี้ตัวนึงให้เกาหยิ่งจือ “เชิญนั่งครับ ผอ.เกา ใครในนี้ไม่รู้บ้างว่าคุณรับหน้าที่เป็นวิชวลคนดังของ หวาเซี่ย แค่คุณมา ตลอดโถงไม่ต้องเปิดไฟก็ยังได้ ออร่าคุณ มันแสบตาไปหมด!”
เกาหยิ่งจือยิ้มนิดๆ แล้วหันไปพยักหน้าทักทายประธาน เฉิน จากนั้นจึงนั่งลงพูดคุยกับผอ.แผนกศัลยกรรม “ที่อยู่ ด้านในก็คือคุณหมอแอนน่าหรอคะ?”
“ใช่ครับ การผัดตัดเพิ่งจะเริ่มต้นได้แต่ครึ่งชั่วโมง ก็ ทำเอาพวกเราเซอร์ไพรส์กันหมด สมกับที่เป็นควีนในต้านาน เทคนิคแบบนี้ผมเคยได้ยินมาบ้าง แต่เพิ่งเคยเห็นกับตาเป็น ครั้งแรก”
อ้อ?
เกาหยิ่งจือหัวเราะหี “เก่งจริงสมคำร่ำลือใหม ก็ต้องดูให้
ถึงตอนจบค่ะ
หมอผู้ชายสามสี่คนที่นั่งอยู่ข้างๆหัวเราะ “ถึงการผ่าตัดจะ ผ่านไปด้วยดี แต่ในใจพวกเราคุณจะเป็นดาวหวาเซี่ยไม่ เปลี่ยนแปลงครับ! ไม่มีใครจะมาสั่นคลอนตำแหน่งของคุณ ได้”
“นั่นสิ! นับตั้งแต่วันก่อตั้งจนตอนนี้ มีใครไม่รู้บ้างว่าใน หวาเซี่ยมีไข่มุกน้ำงามอยู่เม็ดนึง? คนไข้ตั้งกี่คนพยายามมา รักษาตัวที่โรงพยาบาลเราเพราะหมอเกา”
ในหวาเซี่ยไม่มีใครไม่รู้ว่าบทบาทของเกาหยิ่งจือคืออะไร อย่างแรกเลยคือความสามารถ สิ่งต่อมาคือหน้าตาที่สวย เด่น แต่ที่สำคัญเจ้าของโรงพยาบาลอย่างหลงเชียว เป็นถึงคู่ หมั้นของลูกพี่ลูกน้องเธอ สถานะของเธอจึงเสมือนว่าเป็นญาติของบิ๊กบอส แม้แต่คณบดีกับรองยังต้อง เกรงใจเธออยู่ไม่น้อย
เกาหยิ่งจือนั่งขากระดิกจิบกาแฟ ดวงตาจับจ้องไปยังแอน น่าที่กำลังทำการผ่าตัด
ห้องทำงานท่านประธาน บริษัทMBK
หลงถึงนั่งอยู่บนโซฟา เขาจิบชาอย่างใจเย็น
หลังจากรินชาให้เสร็จ เหลียงจังซุนก็ยืนประสานมืออยู่ ด้านข้าง เขาเอ่ยถามระมัดระวัง “ท่านประธานส่งแอนน่าไปที่ หวาเซี่ย เพื่อจะให้เธอเข้าร่วมโปรเจคของประธานเฉินจริงๆ หรือครับ?”
หลงถึงหมุนแก้วในมือซ้าๆ เหมือนกำลังเล่นของเล่น หรือ จะบอกว่าเป็นของล้ำค่าดีล่ะ แต่ไม่ว่าจะเป็นของล้ำค่าหรือ ของเล่น ก็ล้วนอยู่ในกำมือเขาแล้ว
“เธอเป็นคนฉลาดที่ไม่ได้หาได้ง่ายๆ คนฉลาดก็สมควรจะ ได้แสดงความสามารถของตัวเอง โปรเจค?” เขาหยุดไปนิด หน่อย แล้วมองเหลียงจังซุนด้วยสายตาข่ำขัน “โปรเจคของ เฉินจงหัวใช้เงินทุนถึงร้อยล้าน นายคิดว่าคนอย่างฉันจะจ่าย เงินร้อยล้านเพื่อเล่นเกมกับเธองั้นสิ?”
เหลียงจังขุนรับใช้หลงถึงมาสามสิบกว่าปี แต่จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังเดาความคิดของเจ้านายไม่ออก ดังนั้นจึงถามขึ้นอีก “ถ้าอย่างนั้น….ความหมายของท่านคือ?”
หลงถึงดื่มชาหมดไปหนึ่งแก้ว ก่อนจะเอ่ยขึ้นช้าๆ “เพชร จำเป็นต้องผ่านการเจียระไน ต้องผ่านการขัดเกลาถึงจะ กลายเป็นเพชรเม็ดงาม แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นอาวุธชั้นดี ถ้าไม่เสียเวลาทั้งวันทั้งดินเพื่อหลอม มันก็ไม่ต่างอะไรกับ ขยะ เพชรเราเก็บเอาไว้ใช้ แต่ขยะต้องถูกโยนทิ้ง”
เหลียงจังซุนไม่กล้าถามรายละเอียดต่อ ส่วนหลงถึงจะใช้ หมากตัวนี้เดินเกมยังไง เขาก็ไม่กล้าจินตนาการเช่นกัน แต่ เขารู้สึกได้ว่าแอนน่าได้เดินเข้าสู่กระดานเกมของหลงถึงแล้ว เรียบร้อย ต่อจากนี้ไม่ว่าเธอจะไปไหนทำอะไร ล้วนถูกเขา จับตามอง
กระทั่งต่อจากนี้ไม่ว่าเธอจะดำเนินชีวิตไปทางไหน ก็ขึ้นอยู่ กับว่าหลงถึงว่าจะอนุญาตหรือไม่
เห็นคนข้างๆเงียบไป หลงถึงจึงพูดขึ้น “เรื่องหลายเรื่องก็ ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป รับไม่ได้ ถึงเวลาก็จะรู้เอง”
เหลียงจังซุนพยักหน้า “ครับ”
หลงถึงยืนขึ้น เดินไปที่หน้าจอคอม สายตามองไปยังหน้า จอแสดงผล กราฟแสดงมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฉาย เต็มหน้าจอ สีแดงกับสีเขียวพาดสลับกันไปมา
ทันใดนั้น สายตาของเขาสังเกตไปเห็นเส้นสีเขียวเส้นหนึ่ง มือใหญ่กำขอบโต๊ะแน่น
หัวเม้าท์ขยับไปมา นัยน์ตาของเขาเย็นยะเยียบขึ้น “มูลค่า
หุ้นของบริษัทโม่ชื่อกรู๊ปช่วงนี้มีทิศทางไม่ค่อยดีเลยนะ”
“เป็นแบบนี้มาสามวันแล้วครับ แต่การผันผวนของมูลค่า หุ้นถือเป็นเรื่องปกติ ท่าประธานอย่ากังวลมากจนเกินไปเลย ครับ”
หลงถึงตอบกลับเสียงเย็นคำนึง ถ้าเป็นหุ้นตัวอื่นเขาจะไม่ สนใจก็ได้ แต่เพราะเป็นตระกูลโม่เขาถึงต้องกังวล ในเมื่อ สองตระกูลกำลังจะตองกันในไม่ช้า หลงถึงจะไม่ระวังได้ยัง ไง?
หน้าจอตลาดหุ้นแบบเดียวกันก็ปรากฏขึ้นในห้องทำงาน ของโม่ล่างคุน
โม่ล่างคนนั่งพิงเก้าอี้พนัก บุหรี่ในมือมอดเป็นขี้เถ้ายาว ควันและกลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง
“ท่านประธานครับ นี่คือบัญชีเดือนนี้ของบริษัท…ท่าน
ลองดูครับ”
ผู้บริหารสูงสุดทางด้านการเงินของบริษัท โม่ซื่อกรู้ปนำ รายงานการเงินเดือนนี้มาให้โม่ล่างคุน เขารับมาพลิกดู สีหน้าเปลี่ยนไปในทันใด “เป็นแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว?”
“อาทิตย์นึ่งได้แล้วครับ ช่วงต้นสัปดาห์มูลค่าของหุ้นยัง เสถียรอยู่ แต่ช่วงสองวันนี้เกิดการผันผวน เข้าวันที่สามราคา ก็ตกฮวบ”
โม่ล่างคุนโบกมือ “เข้าใจแล้ว”
“ท่านประธาน ดูจากสถานการณ์แล้ว เหมือนว่าตลาด อสังหาริมทรัพย์รอบใหม่จะอยู่ในวิกฤต เลี่ยงไม่ได้แล้ว ครับ” ผู้บริหารสูงสุดเตือนอย่างระมัดระวัง
“ตลาดอสังหาริมทรัพย์” โม่ล่างคุนกุมขมับด้วยจิตใจที่
วุ่นวาย “ถ้าตลาดอสังหาฯส่อแววอันตราย ทรัพย์สินทั้งหมด ของบริษัทก็จะได้รับผลกระทบทันที เรื่องนี้จะนิ่งนอนใจไม่ได้ อีกต่อไป”
“ตอนนี้ทุกแผนกได้เตรียมรับมือระดับสูงสุดไว้แล้ว พวก เราจะควบคุมความเสี่ยงให้น้อยที่สุด ท่านประธานอย่าง กังวลเกินไปเลยครับ”
ผ่านไปแปดชั่วโมง…
โรงพยาบาลหวาเซี่ย ในกลางตึก
“ขอแสดงความยินดีกับแอนน่า! คุณเปิดโลกให้พวกเรา
จริงๆ !”
แอนน่าเดินออกมาจากห้องผ่าตัด หมอและผู้เชี่ยวชาญ จากแผนกโรคหัวใจทุกท่านโถมเข้ามาปรบมือต้อนรับเธอ ช่วงเวลานี้กลายเป็นที่น่าจดจำของทุกคนในโรงพยาบาล
ประธานเฉินเดินเข้ามาตรงหน้า แล้วจับมือเธออย่างตื่น เต้น เพราะความอดหลับอดนอนทำให้รอยย่นบนใบหน้า เผยออกมาชัดเจนกว่าเดิม แต่วินาทีนี้ร่างกายอ่อนเพลียก็ ต้องพ่ายแพ้ให้กับความตื่นเต้นดีใจ
“แอนน่า! เป็นโชคดีของหวาเซี่ยจริงๆ ที่มีคุณ! ขอบคุณ
มาก ขอบคุณจริงๆ! โรงพยาบาลในประเทศเราผ่าตัดเปลี่ยน ลิ้นหัวใจประสบความสำเร็จการเป็นครั้งแรก นี่มันเพิ่งเคย เกิดขึ้นเป็นเคสแรกเลย!”
แอนน่าถอดหน้ากากอนามัยออก เพราะต้องใช้สมาธิขั้น สูงอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานานใบหน้าจึงซีดขึ้นบ้าง เธอยิ้มๆ ใบหน้าสวยสะท้านเผยเสน่ห์บางอย่างที่ไม่อาจ อธิบายได้ ประธานเฉินชมเกินไปแล้ว เป็นสิ่งที่ฉันสมควร ทำค่ะ”
“ไม่ต้องถ่อมตัวแล้ว ขั้นตอนการผ่าตอนเราทุกคนเห็นกัน เต็มสองตา ไม่ว่าจะฝีมือหรือเทคนิคล้วนไม่มีที่ติ! ไม่มีที่ติ!”
เห็นได้ชัดว่าประธานเฉินตื่นเต้นเกินเหตุ อยากจะชื่นชม แอนน่า แต่ก็หาค่าที่เหมาะกว่านี้ไม่ได้สักที เขาพูดอยู่นาน แต่ก็ยังไม่ตรงกับความในใจสักที สุดท้ายจึงถอนหายใจและ ยอมปล่อยมือเธอออก
ทุกคนกรูกันเข้าไปล้อมแอนน่า เหลือเพียงเกาหยิ่งจือที่ยืน อยู่ด้านหลัง
เธอกัดริมฝีปากแน่น เกาหยิ่งจือแหวกฝูงชนเดินเข้าไป ข้างใน “ยินดีด้วยแอนน่า เธอเอาชนะความท้าทายของ วงการแพทย์ได้”
เธอยื่นมือออกไปอย่างใจกว้าง รอยยิ้มความจริงใจไม่ แสดงถึงความผิดธรรมชาติแต่อย่างใด
ทุกคนช่วยเสริมขึ้น “แอนน่า เธอเป็นคนแรกที่ได้รับคำชม จากผอ.เกาเลยนะ สุดยอด! สุดยอด!”
คืนนั้นห้องผ่าตัดครึกครื้นเป็นพิเศษ เสียงหัวเราะ คำชม และเสียงถอนหายใจดังขึ้นไม่ขาด แต่เมื่อหันไปเห็นเกาหยิ่ง จือแอนน่ากลับรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยียบ เธอเหลือบมอง มือที่อีกฝ่ายยื่นมา ลังเลอยู่เสี้ยววินาทีก่อนจะยื่นออกไปจับ ตอบ “ขอบคุณมาก”
เกาหยิ่งจือหันไปมองหมอสิบกว่าคนที่เหลือ แล้วพูดยิ้มๆ “ดีกป่านนี้แล้ว ทุกคนคงหิวกันแย่แล้วสินะ? ฉันขอเป็นคน เลี้ยงข้าวมื้อดึกเอง อยากกินอะไร สั่งได้ตามสบาย”
“ดีจังผอ.เกาเลี้ยงข้าว! ต้องไป!”
“แอนน่าไปด้วยกันเถอะ?”
เธอดูนาฬิกา ตอนนี้ตีหนึ่งกว่าแอนน่าสายหน้าปฏิเสธ “ขอให้ทุกคนสนุกค่ะ ฉันยังมีธุระต่อ”
เกาหยิ่งจือหัวเราะ “อะไรกัน? จะทำให้ฉันเสียหน้าหรอ?”
แอนน่าถอดถุงมือยางออก “วันหลังฉันขอเป็นเจ้ามือบ้าง แต่คืนนี้ฉันเหนื่อยแล้ว”
ประธานพยักหน้า “เอาล่ะๆๆแอนน่าไปพักผ่อนเถอะ แล้ว ทางโรงพยาบาลจะหาวันจัดงานต้อนรับเธออีกที จริงสิแอน นำ ความก้าวหน้าทางการผ่าตัดของหวาเซี่ยในครั้งนี้ รอให้ คนไข้พ้นขีดอันตราย เราจะจัดงานแถลง ช่วงนี้เธอก็เตรียม ตัวไว้ล่ะ ”
หมอคนอื่นๆ เริ่มเข้ามารุมล้อมเฉินจงหัว “หมายความว่า จะมีนักข่าวมาสัมภาษณ์ใช่ไหมครับ?”
“แน่นอน! นี่ไม่ใช่แค่ความสำเร็จของหวาเซี่ย แต่เป็น ความสำเร็จที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์การแพทย์ของ ประเทศเรา เตรียมตัวให้พร้อมแล้วกัน อีกหน่อยยังมีอะไรที่ คาดไม่ถึงอีกมาก!”
น้ำเสียงของประธานเฉินมีนัยลึกซึ้ง ทุกคนมีปฏิกิริยาที่ ต่างกันอออกไป
เกาหยิ่งจือกำมือแน่น ใบหน้านิ่งสงบไม่พูดอะไรแม้แต่คำ
เดียว
แอนน่าขมวดคิ้วอย่างไม่ยินดีนัก “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉัน
ขอตัวก่อน”
แอนน่าสาวเท้าออกจากโถง เหลือไว้เพียงกลุ่มคนที่ สายตาเต็มไปด้วยความอิจฉาและตื่นเต้น
กลับมาถึงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แอนน่าถอดชุดผ่าตัตออก เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาจากเสื้อกาวน์ หน้าจอปรากฏราย ชื่อสายที่ไม่ได้รับและข้อความยาวเป็นหางว่าว
ตู้หลิงเซวียนโทรหาเธอรัวยี่สิบกว่าสาย ตามมาด้วยอีก แปดข้อความ
“ถ้าอ่านข้อความแล้วรีบโทรมาหาฉัน ไม่ว่าจะกี่โมง ก็ตาม”
แอนนำเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย นิ้วเรียวไถหน้าจอลงไปอีก
จนกระทั่งถึงข้อความที่ส่งมาจากหลงเชียว ราวกับโลกทั้ง ใบก็เงียบขึ้นมา