ตอนที่ 204 ทดสอบจิตใจ ทำให้แอนน่าโมโห
แอนน่ายิ้มอย่างเฉื่อยๆ “ถ้าอย่างนั้นความรู้สึกของฉันที่มีต่อ คุณ คุณรู้ไหม? ”
หลงเชียวผู้สง่ามองมาทางเธอ เสน่ห์ที่น่าดึงตูดและดูดี เพียงนั้น แววตาคมลึกจ้องเธอ “ดูจากวันนี้แล้ว คุณไม่ได้ รังเกียจผม”
เขาใช้สายตาจ้องมองเธอ เห็นเธออยู่ไม่เป็นสุข แม้จะไม่ ได้ทำอะไรผิดหรือไม่ได้มีเรื่องอะไรให้ปกปิด แต่การถูกชาย ทรงเสน่ห์จ้องมองแบบนี้ ผู้หญิงคนไหนบ้างจะไม่อาย
เธอไม่กล้าสบตาเขาต่อไป จึงหลบตาไปมองทางอื่น เมื่อ ได้สติกลับคืนมาจึงรู้ตัวเองว่าในมือเต็มไปด้วยเหงื่อ
ความรู้สึกแปลกประหลาดในใจนี่คืออะไรกันนะ?
ตอนที่เขามองเธอเป็นฉู่ลั่วหานและใช้กำลังข่มขู่เธอนั้น แม้เธอจะกลัวแต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่หรือปฏิเสธใดๆ แต่กลับเจ็บ ปวดใจ
เช้าตรู่วันต่อมา
แขนของแอนน่าบาดเจ็บแต่เธอก็ยังตื่นมาเปลี่ยนชุดออก กำลังกาย เธอทำแบบนี้ทุกเช้า ไม่เช่นนั้นจะไม่สบายตัว
เธอผลักประตูเปิดออกพบว่าหลงเชียวเพิ่งเดินออกมาจาก ห้องนอนเช่นกัน สายตาทั้งคู่สบประสาน พวกเขาทั้งสอง เลือกที่จะลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
“อรุณสวัสดิ์ หลงเชียว” เธอยิ้มด้วยดวงตาสดใส
หลงเชียวพยักหน้า ในที่สุดเธอก็เรียกชื่อเขาแล้วสินะ ผู้ หญิงคนนี้นับว่ามีไหวพริบเพียงพอ เมื่อเขามองไปที่ชุดของ เธอก็ขมวดคิ้ว “ยังจะไปวิ่งอีกเหรอ? ”
เธอยักไหล่ “เจ็บที่แขน ไม่ใช่ที่ขาสักหน่อยไม่มีผลกระทบ ค่ะ ก็แค่บาดเจ็บภายนอกเล็กน้อย ไม่มีปัญหา”
เธอยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ ขาเรียวงามก้าวลงบันไดไป หลงเชียวยืนงงอยู่ด้านหลัง เขานึกถึงลั่วลั่วขึ้นมา ตอนที่ ขาของเธอบาดเจ็บก็พยายามที่จะไปทำงานเพื่อไม่ให้ส่งผล
ต่อการงาน สิ่งนี้ทั้งสองคนช่างเหมือนกันนัก
เหมือนกันจริงๆ
หลงเชียวเดินลงบันไดไปแล้วยื่นมือมาจับแขนของเธอ “นั่งพักผ่อนซะดีๆ ตอนนี้คุณไม่ควรจะเคลื่อนไหวไปไหน เวลาออกกำลังกายเหงื่อจะออก ทำให้แผลหายช้า”
แอนน่าลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงกัน
เมื่อถูกเขาเตือนเธอจึงนึกได้ “ขอบคุณค่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณไปวิ่งคนเดียวแล้วกัน”
หลงเชียวมองดูแอนน่า “เป็นถึงหมอแต่กลับไม่รู้จักดูแล ตัวเอง เก่งจริงๆ”
ถูกเขาเยอะเย้ยเข้าอีกแล้ว
“ค่ะๆๆ ฉันมันไม่ดี ดังนั้นหลงเชียว คุณหลง คุณชายหลง คุณต้องการจะเปลี่ยนหมอใหม่ไหม? ”
ยกก้อนหินหล่นใส่เท้าตัวเองซะแล้ว หลงเชียว แกก็มีวันนี้ หรือนี่?
หลงเชียวเปลี่ยนรองเท้ากีฬา ยิ้มและพูดว่า “คุณเป็นหมอ ที่ไม่ได้มาตรฐานสักเท่าไหร่ แต่ฝีมือทำกับข้าวพอทนได้
“คุณหลงก็พอฉลาดอยู่บ้างนะคะ”
เธอมองตามเขาไป เมื่อได้สติคืนมา ฝีมือทำกับข้าว? ที่ อาจจะเป็นเหตุผลที่เธอยังต้องอยู่ที่นี่ก็ได้
เธอกลับไม่ได้ปฏิเสธใดๆ สติสัมปชัญญะของเธอถูกเขา กดทับจนคิดอะไรไม่ออก พระเจ้า ตายแล้ว
โรงพยาบาลหวาเซีย บนดาดฟ้า
หลงเชียว2กำหมัดแน่น เธอแทบหายใจไม่ออก
เกาหยิ่งจือในชุดสีขาวเดินเข้ามาแล้วมองดูสีหน้าของซุน เจียลี่ คล้ายกับเตาออกว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นไร เธอเอ่ยถาม ขึ้นด้วยเสียงสั่นว่า “ผลตรวจ.ออกมาแล้ว? ”
ซุนเจียลี่ถือผลตรวจเลือดอยู่ในมือ เธอพยักหน้าและ กัดฟันพูดว่า “ออก.ออกมาแล้ว”
เกาหยิ่งจือใจตกไปที่ตาตุ่ม!
มือเรียวยาวของเธอยื่นออกไปรับผลตรวจมาดู คอแหบ แห้งคล้ายกับต้นไม้ไม่ได้รดน้ำมาหลายวัน “ขอดูหน่อย”
ซุนเจียลี่ยื่นผลตรวจไปให้แล้วกลืนน้ำลาย “ผลเพิ่งออกมา กรุ๊ปเลือดเธอ..จริงแท้แน่นอน”
เกาหยิ่งจ๊อลูกตาแทบกระเด็นออกมา! เธอจ้องเขม็งไป ยังกระดาษที่มีตัวอักษรสีดำ!
กรุ๊ปเลือดบ่งบอกชัดเจนว่าเป็น RH-
ชั่วขณะนั้น ท้องฟ้ามืดครึ้มเหมือนกับกำลังหมุนไป เกา หยิ่งจือปวดหัวมาก เท้าของเธอสูญเสียการทรงตัวอย่าง กะทันหัน เธอก้าวถอยหลังไปด้วยความยากลำบากเซจน เกือบล้มลงที่พื้น รองเท้าส้นสูงของเธอกระแทกเข้ากับ กระเบื้องบนดาดฟ้า ดวงตามืดมิดหมองคล้ำ
“ทำไม..เป็นไปได้ยังไง? ”
เธอถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอถูกความจริงเหล่านี้โจมตี จนไม่รู้จะหนีไปทางไหน ไม่มีทางเลย!
แอนน่าก็คือู่ลั่วหาน ถ้าอย่างนั้น…เธอจะรู้หรือเปล่า ว่าที่ตัวเองตกลงไปในหุบเหวนั้น เป็นการกระทำของใคร? จะรู้ไหมว่าการกระทำทุกอย่างของจินเสี่ยวเย้นมีใคร
บงการอยู่เบื้องหลัง? บัดนี้เธอปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในฐานะแอนน่า เธอกำลัง
ปกปิดบางอย่างอยู่ หรือจำไม่ได้จริงๆกันแน่?
สองปีมานี้ เธอไปทำอะไรมา? ไปเจออะไรมาบ้าง?
ทำไมเธอถึงกลายเป็นคุณหนูไปได้? เป็นไปได้ยังไง! เป็นไปไม่ได้! ทำไปเป็นแบบนี้!
ในสมองของเกาหยิ่งจือมีความคิดนับไม่ถ้วนระเบิดออก มา คำถามนับหมื่นพันกำลังโจมตีความคิดของเธอ แรงผลัก ตันคล้ายกับจะทำลายเธอให้สิ้นซาก
“คุณ..ไม่เป็นไรใช่์ไหม? 4
ท่าทีของเกาหยิ่งจือท่าให้ซุนเจียลี่ตกใจมาก เธอไม่กล้า เดินหน้าขึ้นไปรับไว้
เมื่อรับรู้ว่าแอนน่าคือจู่ลั่วหานเธอเองก็ตกใจเช่นกัน แต่ ไม่ได้ตกใจถึงเพียงนี้ เกาหยิ่งจือหลับตาลง เธอคิดไปถึงผลการตรวจเลือดที่
เห็นเมื่อครู่ น้ำเสียงเยือกเย็นและพูดว่า “เรื่องนี้อย่าให้คน อื่นรู้เข้าล่ะ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ห้ามพูดทั้งสิ้น”
เธอคล้ายถูกก้อนหินหนักหลายร้อยกิโลทุบลงมาบนหัว ในมือที่ถือ ใบตรวจเลือดอยู่นั้นราวกับเข็มกำลังที่มแทง ในลำคอเหมือนถูกอะไรบางอย่าง ขวางเอาไว้กลิ่นไม่เข้าและคายไม่ออก
เธอกัดฟันกลืนน้ำลายลงไป
ซุนเจียลี่พยักหน้าแล้วพูดว่า “วางใจได้ ตอนนี้ยังไม่มีใคร รู้ว่าเธอเป็นใครทั้งสิ้น เรื่องนี้ฉันไม่พูดออกไปอย่างแน่นอน”
เกาหยิ่งจือกำมือแน่น ดวงตาของเธอล่องลอยไป เธอ รวบรวมสติกลับมาอีกครั้งแล้วพูดว่า “ฉันจะหาวิธีจัดการ เอง”
ปัญหาที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือความทรงจำเธอหายไป จริงหรือไม่?
ถึงแม้เธอจะความจำเสื่อม แต่ถ้าสักวันหนึ่งเธอเกิดจำได้
ขึ้นมาล่ะ?
จากเดิมจู่ลั่วหานเป็นคนที่ไม่มีครอบครัว เธอไม่เหลือใคร แม้แต่คนเดียว แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปเธอคือแอน น่า เป็นถึงคุณหนูตระกูลเฉียวเป็นทั้งเป็นหมอวิเศษที่ทุกคน รู้จักดี
มีผู้คนมากมายจับจ้องมองเธอ
จะให้ลงมือง่ายๆได้อย่างไร
0-
เกาหยิ่งถอนหายใจยาวและนึกถึงคนๆหนึ่งได้ “เธอ กลับไปก่อนนะ ฉันต้องการอยู่เงียบๆคนเดียวสักพัก”
ซุนเจียลี่พยักหน้าแล้วตอบว่า “โอเค ถ้างั้นฉันไม่กวนคุณ แล้ว รักษาสุขภาพด้วย”
หลังจากชุนเจียลี่เดินออกไป เกาหยิ่งจือก็หยิบโทรศัพท์ ขึ้นมา
ณ ห้องทำงานของบริษัทอื่นเคอ ประธานเกาจิงอานกำลัง หยอกล้อเล่นกับเลขาสาวสุดเซ็กซี่ เมื่อเห็นโทรศัพท์ดังขึ้น เขาก็ใช้มือตีสะโพกของเลขาสาวและให้เธอออกไปก่อน
“ฮัลโหลพี่ โทรหาผมมีเรื่องอะไร? ” เกาจิ่งอานรับสาย แล้วถามขึ้น
เกาหยิ่งจือหลับตาลง สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วบอกว่า “เคย ได้ยินเราพูดว่าชอบแอนน่าใช่ไหม? ”
“ทำไมล่ะ? ”
เขามีความสนใจแอนน่าก็จริงแต่แอนน่ามีนิสัยที่เย็นชา และไม่ง่ายต่อการเข้าถึง ประกอบกับช่วงนี้ตัวเขาเองก็วุ่น มากจึงไม่มีเวลาไปสนใจเธอ
“ตอนนี้เธออยู่กับหลงเขียวที่คฤหาสน์ชานเมืองและสอง วันมานี้เธอพักผ่อนอยู่บ้าน เนื่องจากแขนได้รับการบาดเจ็บ เป็นโอกาสที่ไม่เลวใช่ไหม? ”
เกาจิงอานแววตาลุกวาวและถามอย่างตื่นเต้นว่า “นี่พี่ สนับสนุนให้ผมจีบเธอเหรอ? ”
จากที่เขารู้มาพี่สาวของเขาไม่ค่อยชอบแอนน่าเท่าไหร่นัก ไม่ใช่ว่าไม่ชอบแต่เกลียดเลยว่าก็ได้
เกาหยิ่งจือหัวร้อนแล้วพูดต่อไปว่า “ถึงแม้ฉันจะไม่ชอบ เธอสักเท่าไหร่ แต่ในเมื่อน้องชายชอบ เราจะขัตขวางเพื่อ อะไรล่ะ”
เมื่อได้รับแรงสนับสนุนจากเกาหยิ่งจือ เกาจึงอานก็เกิด ความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก แอนน่า….เพียงแค่นึกถึง รูปร่างและหน้าตาของเธอก็ทำให้จิตวิญญาณหลุดลอยไปได้ แล้ว หากสามารถร่วมชีวิตกับเธอผ่านค่ำคืนอันร้อนแรงได้ คงดีไม่น้อย
“โอเคพี่ ขอบคุณมาก ถ้าผมจีบเธอได้เมื่อไหร่รับรองว่าจะ ขอบคุณพี่เป็นคนแรกเลย”
“เดี๋ยวๆ จีบเธอก็ได้แต่มีข้อแม้ว่าแกต้อง0-77
ช่วยพี่พิสูจน์ว่า เธอความจำเสื่อมจริงหรือว่าแกล้งกันแน่ โดยเฉพาะความจำเมื่อสองปีก่อน ถ้าเกิดเธอจำอะไรขึ้นมา ได้ สิ่งที่สำคัญกับฉันมาก”
เกาจึงอานขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ความจำเสื่อมหรอ? ”
เขารีบหยิบกุญแจรถแล้วขับเฟอร์รารี่สีขาวออกไปจาก กลางเมือง ไม่นานนักก็มาถึงยังหน้าคฤหาสน์ไหญ่ชานเมือง หลังใหญ่
เกาจึงอานถือไวน์ชั้นดีมาด้วยหนึ่งขวดพร้อมกับดอก กุหลาบช่อใหญ่สีแดง
เมื่อเห็นหน้าผู้มาเยือนที่ปรากฏขึ้นในจอภาพ แอนน่า ชมวดคิ้วแล้วคิดว่าเขามาได้ยังไงกัน?
“คุณเกาคะ หลงเชียวไม่อยู่ ถ้าคุณมาหาเขาเชิญไปหาที่ บริษัทค่ะ”
“คุณแอนน่าครับ ผมมาหาคุณ”
เมื่อเข้ามาในบ้าน เกาจิ่งอานยังไม่ทันจะยื่นดอกไม้ไปให้ เธอก็เห็นว่าในแจกันดอกกุหลาบสีแดงสดปักอยู่แล้ว
แอนน่ายืนอยู่ไม่ไกลจากดอกไม้นั่นมากนัก แสงจาก ตอกไม้กระทบลงบนใบหน้าอันขาวผ่องของเธอ แต่แววตา อันน่าเบื่อนั้นไม่สามารถปิดบังความงดงามของเธอได้เลย
ทุกครั้งที่เห็นเธอรู้สึกว่าช่างงดงามเหลือเกิน
“คุณแอนน่าครับ มองดูแล้วมีคนจีบคุณไม่น้อยเลยเชียว”
เกาจึงอานยิ้มที่มุมปากแล้วเอ่ยถามขึ้น เขาสวมใส่ชุดสูท สีดำอย่างสง่ามองดูก็รับรู้ได้ว่าแตกต่างจากผู้คนทั่วไป แต่ ท่าทีเช่นนี้เธอไม่ชอบมันเท่าไหร่นัก
“คู่หมั้นฉันส่งมาให้นะคะ คุณเกามีธุระอะไรหรือเปล่า? ”
เกาจิ้งอานพยักหน้าแล้วถอนหายใจยาวพูดว่า “คู่หมั้นเห รอครับ…ไม่เป็นไรก็แค่คู่หมั้น แสดงว่าคนอื่นยังพอมี โอกาสอยู่ คุณแอนน่า ได้ยินว่าแขนคุณได้รับอาการบาดเจ็บ ผมเลยมาดูครับ”
ชายที่อยู่ต่อหน้าเธอตอนนี้รูปร่างสูงใหญ่สง่างาม ยื่น ดอกไม้สีแดงสดมาให้เธอด้วยท่าทีที่มั่นใจ
แอนน่ายื่นมือไปรับแล้วตอบว่า “ขอบคุณค่ะ คุณเกางาน ยุ่งไม่ใช่เหรอคะ? กลับไปทำธุระได้แล้ว ฉันไม่เป็นไรมาก หรอก”
เกาจึงอานนั่งลงบนโซฟาเหมือนกับเป็นเจ้าของบ้าน ขา ยาวของเขานั่งไขว่ห้างแล้วหยิบไวน์ขึ้นมาบนโต๊ะ “นี่เป็นไวน์ แดงชั้นเลิศที่ผมเก็บสะสมมากกว่า 20 ปีไวน์รสดีควรคู่กับ หญิงสาว ขอเชิญคุณแอนน่าร่วมดื่มด้วยกันสักแก้วเป็นยังไง ครับ? ”
แอนน่ายิ้มและมองไปที่ไวน์ขวดนั้นพูดว่า “คุณเก่าก็รู้ดีว่า ฉันได้รับบาดเจ็บ ยังจะให้ฉันดื่มเหล้าอีกเหรอคะ? นี่คุณมา เยี่ยมฉันหรือมาทำร้ายฉันกันแน่? ”
เกาจิงอานยืดตัวขึ้นแล้วพูดว่า “ให้ตายสิ ผมลืมไปจริงๆ ขอโทษด้วยนะครับ ในเมื่อคุณดื่มเหล้าไม่ได้งั้นเรามาดื่มชา กันไหม โบราณพูดว่า ชายหนุ่มกับหญิงสาวร่วมดื่มชาด้วย กันมักเกิดความรู้สึกที่ดี”
เหอะๆ กลับหยิบยกวรรณกรรมขึ้นมาพูดเสียอย่างนั้น
แอนน่าเดินอ้อมไปที่โซฟา เธอนั่งลงอีกฝั่งหนึ่งแล้วพูดว่า “ฉันมองดูแล้วคุณเกาคงไม่ได้มาที่นี่เพื่อดื่มน้ำกับฉันหรอก ใช่ไหมคะ? ”
เกาจิงอานหัวเราะออกมา เขาชอบใจกับคำพูดตรงไปตรง มาของแอนน่า “สมกับเป็นคุณแอนน่าจริงๆ ฉลาดหลัก แหลม ถูกต้องแล้วครับที่ผมเดินทางมาวันนี้ก็เพราะคิดถึง คุณ และต้องการจะมาเจอหน้าคุณมากๆ เป็นยังไงบ้าง ชัดเจนไหม? ”
ชื่อตรงชัดเจนไม่อ้อมค้อมแต่เธอไม่ชอบ
เกาจึงอานเปลี่ยนหัวข้อสนทนาว่า “ได้ยินว่าคุณพ่ออยู่ที่ นิวยอร์กเหรอครับ ผมเคยเรียนที่นิวยอร์กตอนสมัยมปลาย กับมหาวิทยาลัยนะไม่ทราบว่าคุณแอนน่าเรียนที่โรงเรียน ไหนหรอครับ? ”
โรงเรียน?
* โรงเรียนมัธยมเซนต์จอห์น มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด”
เกาจึงอานตบมือแล้วพูดว่า “พรหมลิขิตจริงๆ ผมบอกแล้ว ว่าเราสองคนมีโชคชะตาที่คล้ายกัน สมัยมัธยมปลายผมก็ เรียนที่เซนต์จอห์นคุณจำอธิการบดีได้ไหม นายในเท่อแล้วก็ รองอธิการบดีพูชาน อ้อ เพื่อนตอนสมัยมัธยมปลายของคุณมีใครบ้างผม อาจจะรู้จักก็ได้นะ”
แอนน่ามองดูเขาที่ท่าทางตื่นเต้นขึ้นมาเมื่อพูดถึงโรงเรียน เธอขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ขอโทษที่ค่ะฉันจำไม่ได้”
จำไม่ได้?
“ทำไมจำไม่ได้แล้วล่ะครับ เพื่อนตอนสมัยมัธยมปลายให้ ความทรงจำดีๆเสมอไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรก็ทำด้วยกัน เรื่อง ตอนประท้วงที่นิวยอร์กตอนนั้นคุณแอนน่าจำได้สินะครับ? ”
เกาจิงอานมองดูท่าทีของเธอ
เธอนิ่งสงบมากแล้วตอบว่า
“ไม่รู้ค่ะ”
ไม่รู้อย่างนั้นหรือ?
เกาจิงอานหรี่ตาลงแล้วพูดด้วยเสียงต่ำทุ้มว่า “คุณจะไม่รู้ ได้ยังไง? เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ ทำไมถึงจำอะไรไม่ ได้เลย? ”
สายตาของแอนน่าแหลมคมมองไปทางเขา “จำไม่ได้ก็คือ จำไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณคะ?
ดังนั้นเธอคงจำไม่ได้จริงๆสินะ
“อ่าๆๆดูคุณพูดเข้าสิ ผมชอบคุณ ต้องการจีบคุณ ต้องการ รู้จักคุณมากขึ้นกว่านี้ไม่ได้เหรอครับ? เมื่อสองปีก่อนผม เจอคุณที่อเมริกา ใช่สิต้องเป็นคุณแน่ๆ ตอนนั้นคุณน่าจะจำ ได้ดีที่ไทม์สแควร์คุณเข้าร่วมอาสาสมัครตรวจสุขภาพ ผม เคยเจอคุณ”
สองปีก่อน? อาสาสมัครตรวจสุขภาพ?
” จำไม่ได้ค่ะ”
“เป็นไปไม่ได้นะ คุณต้องจำได้แน่ๆ ผมจำได้ชัดเจนว่าเป็น คุณ ผมว่าแล้วว่าทำไมถึงคุ้นหน้าคุณนัก แอนน่าที่แท้พวก เราเคยเจอกันมาก่อน พวกเรามีพรหมลิขิตต่อกันนี่เอง”
“เป็นไปไม่ได้ค่ะ เมื่อ2ปีก่อนฉันไม่เคยไปที่ไทม์สแควร์ สิ่ง ที่คุณพูดทั้งหมดไม่เกี่ยวกับฉันเลย”
“ผมจำคนไม่ผิดแน่ๆ หรือว่าคุณแอนน่ามีปัญหานิดหน่อย กับความทรงจำหรือเปล่าครับ ทำไมเรื่องแค่นี้คุณถึงจำไม่ได้ กัน? ”
แอนน่าถูกเขาทำให้รู้สึกโมโหขึ้นมา เธอเกลียดการที่มีคนพูดถึงความทรงจำของเธอเป็นที่สุด
เธอรีบลุกขึ้นจาก โขฟา ชี้ไปทางประตู “คุณเกาคะ ระหว่าง คุณและฉันไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกเชิญกลับไปได้แล้ว”