ตอนที่ 191คุณหลงอย่างกับสาวแก่ขึ้นคาน
รถหรูหราสีดำขับวนข้ายวนขวาขึ้นเหนือลงใต้วนอยู่ในเมือง หลวงไม่รู้ที่รอบต่อกี่รอบ ถ้าไม่ได้ดูGPS แอนน่าคงคิดว่าตัว เองขับออกจากเมืองหลวงไปแล้ว
หลงเชียวคงว่างจริงๆนั่นแหละ ถึงได้ให้เธอขับรถวนรอบ เมืองหลวงแบบนี้
“เข้าโค้งแล้วขับตรงไป” หรือ “ถึงสี่แยกแล้วเลี้ยวขวา” ท่านหลงเปล่งเสียงเย็นยะเยือกออกคำสั่งเป็นระยะ
แอนน่าไม่ต่างอะไรกับหุ่นยนต์ขับรถที่มีหน้าที่แค่คอยฟัง คำสั่ง ตลอดทางขณะที่กำลังจะผ่านสี่แยก คุณชายเชียวมัก จะบอกเธอในวินาทีสุดท้ายว่าจะต้องเลี้ยวหรือขับตรง แต่ โชคดีที่เธอมีปฏิกิริยาไว
หลังผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ แอนน่าชักโมโห
“คุณหลง ตกลงคุณจะไปไหนกันแน่? นี่เรากำลังจะขับวน รอบที่สามแล้ว คุณอยากจะวนอีกกี่รอบ?”
ในGPSปรากฏชัดเจนว่าพวกเขากำลังขับอยู่บนเส้นทางเดิมมาสองรอบเต็มๆ อีตาหลงเชียวนี้เป็นบ้าหรือไง ว่างมากเลยมาขับรถผลาญน้ำมันเล่น?
หรือเขาแค่อยากปั้นหัวเธอเล่น?
หลงเชียวยึดแผ่นหลังตรง นิ้วเรียวกดลงตรงกลางระหว่าง หัวคิ้ว เขามองนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยงครึ่ง “อืม ตอนนี้กลับ บริษัทได้”
“กลับ? คุณหลง นี่มันหมายความว่าไง?”
คิดจะหยามกันชัดๆ!
“ฟังไม่ผิดหรอก กลับบริษัท” คุณชายเชียวทำราวกับไม่มี อะไรเกิดขึ้น พร้อมกับออกคำสั่งต่อ
แอนน่าแค่นหัวเราะอย่างโมโหขีดสุด “เหอะ คุณหลง ที่ ให้ฉันขับรถจากถนนสี่ดื้มาถึงนี้ ก็เพื่อจะแกล้งฉันใช่ไหม? ขอประทานโทษค่ะ กลับงั้นหรอ คุณขับกลับไปเองเถอะ ฉัน จะไม่ฟังคำสั่งคุณอีกต่อไป”
แอนน่าพูดจริงทำจริง เธอจอดรถตรงข้างทาง แล้วดับ เครื่องยนต์ ก่อนจะนั่งกอดอกอยู่ตรงเบาะคนขับ โตจนหมา เลียตูดไม่ถึงยังกล้าเอาเรื่องพรรค์นี้มาล้อเล่น สนุกมากไหม?
เห็นเธอมีน้ำโห คุณชายเขียวกลับรู้สึกอารมณ์ดีอย่างบอก ไม่ถูก เขาพูดด้วยน้ำเสียงสดใสที่สุดในชีวิต “คุณแอนน่ารู้ ไหมว่าทำไมฉันถึงให้เธอออกมาขับรถเล่น?”
แอนน่าทำเสียงเหอะๆ “ไม่รู้! แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย”
หลงเชียวขมวดคิ้ว “เมื่อกี้ตอนที่เธอขับรถวน เห็นบริษัทที่ อยู่ในเครือของMBKกี่บริษัท? เห็นร้านที่แปะสัญลักษณ์ ของMBKที่ร้าน? แล้วเห็นรถขนส่งที่เขียนตัวอักษรMBKที่ คัน?”
เมื่อสักครู่เธอไม่ได้สังเกตเรื่องพวกนี้เลยสักนิด เพราะมัว แต่โมโห หงุดหงิดจะเป็นจะตาย อยากจะระบายความโกรธ ที่หลงเชียวแกล้งเธอ
MBKอะไรนั่นช่างมันปะไร!
คุณชายเซียวอธิบายต่อ “ฉันแค่ให้เธอขับวนวงเวียนที่ สองกับวงเวียนที่สามอย่างละรอบ ถ้าเธอตั้งใจดู เธอจะต้อง เห็นบริษัทลูกของMBKอย่างน้อยที่สุดห้าบริษัท ร้านค้า บริการอีกอย่างต่ำๆสิบร้าน และตลอดทางที่ผ่านมามีรถ ขนส่งของMBKประมาณยี่สิบกว่าคัน”
แอนน่าเงียบ หญิงสาวกลอกตาใส่ชายหนุ่มผ่านกระจกมองหลัง “แล้วไง? คุณชายอวดฉลาดเสร็จหรือยัง?” หลงเชียวขยับช่วงบนขึ้นหน้าเล็กน้อย “ไหนพูดความรู้สึก
ของเธอบ้างซิ”
จู่ๆเขาก็ขยับเข้ามาใกล้แผ่นหลัง ทำให้แอนน่าเผลอสะตุ้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมทุกครั้งที่เขาเข้ามาใกล้ แอนน่ามักจะ รู้สึกวูบวาบตรงสันหลัง เธอเกร็งไปทั้งตัว
“ไม่มี MBKเป็นบริษัทชั้นน่าของประเทศ ถ้าไม่นับสาขา แม่ การจะมีบริษัทย่อยไปอีกหลายแห่งย่อมเป็นเรื่องปกติ ถ้า คุณหลงอยากจะอวดร่ำอวดรวยกับดิฉัน โดยใช้วิธีแบบนี้ เกรงว่าจะไม่จำเป็น”
งั้นหรอ?
คุณชายเซียวทิ้งตัวลงบนเบาะอีกครั้ง ก่อนจะพูดเสริมอีก หนึ่งประโยค “ดีมาก งั้นขอถามหน่อย กิจการในอเมริกา ของบริษัทเฉียวชื่อกับ ตระกูลตู้รวมกันแล้วมีเท่าไหร่?”
ไอหมอนี่! พูดอ้อมโลกเป็นชั่วโมง สุดท้ายก็แค่อยากให้รู้ ว่าอำนาจที่มีอยู่ในมือเธอไม่อาจจะสู้อะไรกับเขาได้แม้เพียง สักนิด
“บริษัทเล็กๆอย่างเฉียวชื่อจะมาเทียบอะไรกับตระกูลหลง ได้ล่ะ ส่วนตระกูลตู้แน่นอนว่าก็ไม่อาจสู้อภิมหาเศรษฐีอย่าง คุณชายเชียวได้อยู่แล้ว คุณหลงอยากกลับบริษัทไม่ใช่หรอ? ได้ ฉันจะไปส่งคุณเดี๋ยวนี้”
แอนน่าเก็บความเกรี้ยวกราดลงไปราวกับเธอได้ตกหลุม พรางของหลงเชียวเข้าเต็มๆ ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอถอนตัว
ไม่ทันแล้วด้วย
รถยนต์เคลื่อนตัวออก จู่ๆคุณชายเซียวก็เอ่ยขึ้น “ฉัน เปลี่ยนใจละไม่กลับบริษัท ไปอีกที่นึง”
แม่มเอ้ย! หลงเซียวไอเลว!
แอนนำกัด ฟัน “ได้! ไม่ว่าคุณหลงจะไปไหน ฉันจะก็รับคำ
สั่ง!”
รถหรูมุ่งหน้าไปยังถนนเพิ่งเฉียว คุณชายเชียวจะไปร้าน อาหารหรงเหยียน ด้วยเหตุผลที่แสนง่ายตายคือ เขายังไม่ได้ กินข้าว
คุณชายเชียวตอบกลับคำพูดของแอนน่า “ด้วยทรัพย์สิน และอำนาจของตระกูลหลงจะเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดให้ กับเฉียวชื่อ ต่อให้ต้องสร้างเฉียวชื่อขึ้นมาใหม่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะงั้นจงทิ้งความลังเลนั้น และเลือกฉันซะ”
แอนน่าอดกลั้นไม่อยู่ คราวนี้เธอหัวเราะเสียงเย็นอย่าง ถึงที่สุด “ฟังดูเหมือนคุณหลงกำลังโปรโมทตัวเองอยู่เลยนะ คะ เหมือนสาวแก่ใกล้จะขึ้นคานซะไม่มี”
แววตาคุณชายเซียวเปลี่ยนไปในฉับพลัน “ฉันพูดดีด้วยก็ อย่ามายั่วโมโห”
ว่าแต่ เมื่อกี้นี้เขาแสดงออกชัดขนาดนั้นเลย?
แอนน่าหมุนพวงมาลัยเปลี่ยนทิศ ด้านหน้ามองเห็นร้านอา หารหรงเหยียนอยู่ไม่ไกล ฉันเปล่ายั่วโมโห แต่ฉันมีอะไร บางอย่างอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณหลง”
“อิม?”
แอนนำเลิกคิ้วขึ้น “น้องชายคุณเอาแหวนหมั้นของฉันไป ได้โปรดให้คอนแทคเขากับฉัน หรือรบกวนคุณไปเอาคืนให้ หน่อย”
“งั้นหรอ?”
เสี่ยวจื่อเอาแหวนหมั้นของแอนน่าไป?
“ใช่ ฉันกับคู่หมั้นไม่มีวันล้มเลิกงานแต่งและคุณหลงกับคุณโม่ก็จะต้องครองรักกันไปจนแก่เฒ่า เพราะงั้น หวังว่าคุณจะรีบจบเกมน่าเบื่อๆนี่สักที”
แต่เขากลับรู้สึกว่าเกมนี้มันชักน่าสนุกขึ้นเรื่อยๆ
“แหวนนั่น ฉันเอากลับมาให้ได้”
ส่วนได้คืนมาแล้วจะทำอะไรกับมันต่อ นั่นก็เป็นเรื่องของ
หลังกินข้าวเสร็จ แอนน่าไปส่งหลงเชียวที่บริษัท ขากลับ จ่าข้อความของซวงซวงในfacebookก็เด้งขึ้น
“แอนน่าอยู่ไหนนะ? ฉันมีงานดนตรีอยู่สองใบ ไปดูด้วย
กันไหม?”
พร้อมกับแนบรูปถ่ายบัตรสองใบมาให้งานตนตรีคลาส สิก ทัวร์ระดับโลกของวงออร์เคสตรา
เธอเนี่ยนะชอบดนตรีคลาสสิก?
“ได้”
ราวกันถูกผีผลัก แอนน่าตอบตกลงในทันได เธอกำลังอยากหาที่ระบายจากอีตาหลงเชียวอยู่ และชวงชวงก็มาได้เวลาพอดี
“เยี่ยมไปเลย! งั้น…บกวนเธอขับรถมารับฉันได้ไหม พอดีรถฉันเสีย แล้วแถวนี้ก็เรียกรถยากซะด้วย”
4.ได้สิ”
รถของแอนน่ามาถึงจุดหมายด้วยความรวดเร็ว หลังจาก ที่มาถึง สถานที่นี้ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหลวงนับว่าเปล่าเปลี่ยว มากทีเดียว
ภาพตรงหน้าเป็นโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ถูกทิ้งร้าง ที่ด้าน หน้าแขนป้ายผุพังมีตัวอักษรใหญ่เขียนว่า ” โรงพยาบาล กลางเมืองหลวง” แต่ทำไมถึงถูกทิ้งร้างได้ล่ะ?
ที่ด้านบนยังแขวนป้ายโรงพยาบาลสามอันดับในประเทศ แต่ ทำไมถึงเจ๊งได้นะ?
ไฮ! เทพธิดา! ฉันอยู่นี้! เฮ้อ นับตั้งแต่โรงพยาบาลนี้ปิต ตัวลง พื้นที่แห่งนี้ก็ไม่มีคนเข้ามาพัฒนาอีกเลย จนใกล้จะ กลายเป็นเมืองร้างอยู่แล้ว!”
แอนน่ามองไปรอบๆ เป็นแบบนั้นจริงๆ หลังจากที่โรง พยาบาลปิตตัว กิจการต่างๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับโรงพยาบาลไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เคยเจริญรุ่งเรือง แต่บัดนี้กลับกลายเป็น ร้างไปหมด
“ทำไมที่นี่ถึงกลายเป็นแบบนี้ได้?”
ซวงซวงกัดริมฝีปาก ก่อนจะถอนหายใจยาว คิ้วทั้งสอง ข้างเลิกขึ้นสูง “เฮ้อ! จะอะไรได้อีกถ้าไม่ใช่เพราะหลงเชียว กับ…ลั่วลั่ว”
“หือ? เกิดอะไรขึ้น?”
ในใจของแอนน่าเต็มไปด้วยคำถาม ทำไมช่วงนี้คนที่เธอ ไปมาหาสู่ด้วยถึงได้เกี่ยวข้องกับหลงเชียวไปหมด? ยิ่งไป กว่านั้นลั่วลั่วที่เขาพูดถึง เหมือนจะเป็นภรรยาที่เสียชีวิตไป แล้วของหลงเชียว
สู่ชวงชวงลอบถอนหายใจ แล้วพูดเสียงอุบอิบ “สองปี ก่อน เทพธิดาประสบอุบัติเสียชีวิต ต่อมาถังจิ้นเหยียนบอก หลงเชียวว่าตอนนั้นที่เทพธิดาตั้งใจหนีหลงเชียวไปเป็น เพราะผลตรวจผิดพลาดออกมาว่าเธอติดเชื้อHIV เธอกลัวตัว เองจะแพร่เชื้อให้กับหลงเชียว เลยหนีไปอยู่ที่แอฟริกา เป็น เหตุให้เกิดเรื่องต่างๆ ในภายหลัง”
“what? ซวงซวง are-u-kidding-me?”
เรื่องถูกแต่งจนเวอร์ไปหน่อยมั้ง?
“ฉันก็หวังว่ามันจะแค่ล้อเล่น แต่มันเป็นเรื่องจริง ตอนนั้น หลงเชียวโกรธจนจะลากคอผู้ที่เกี่ยวข้องในโรงพยาบาลเข้า ตาราง แต่เพราะถังจิ้นเหยียนพูดโน้มน้าว เขาถึงได้เปลี่ยน ใจ แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทำให้กระทบไปถึง บุคลากรจำนวนมาก ทุกคนในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ทั้งห้องตรวจเลือด ห้องทดลอง รวมไปถึงคนที่มีส่วน เกี่ยวข้องในการส่งต่อข้อมูลผลตรวจ หลงเชียวจัดการคว่ำ บาตร เขาเล่นโรงพยาบาลนี้จนเจ๊ง”
ถังจิ้นเหยียน ชื่อนี้คุ้นๆจัง
ลู่ซวงชวงหันไปมองตึกร้างที่ตั้งตระหง่านอยู่อย่างเดียว ตาย “สไตล์การจัดการของหลงเชียวเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ใหน แต่ไร เขาเลือดเย็นมาก แต่พอคิดดูแล้ว ถ้าเป็นฉัน ฉันก็คง ใช้อำนาจที่มีอยู่ในมือแก้แค้นให้เทพธิดาเหมือนกัน! เทพธิดาต้องมาโดนคนพวกนี้ให้ร้ายจนต้องตาย แม่งเอ้ย!”
พอคิดถึงเรื่องราวในอดีต ลู่ชวงซวงก็น้ำตาใหลอาบ ใบหน้าอย่างกลั้นไม่อยู่
แอนน่าไม่ชอบเห็นคนร้องให้ที่สุด เธอหยิบทิซซู่ออกมา แล้วยื่นให้ “อย่าร้องเลย…ยังไงเธอก็ไม่อยู่แล้ว เธอคงไม่ อยากเห็นเพื่อนรักต้องเสียใจ…”
สู่ขวงวงหลุดหัวเราะ “เธอกับเทพธิดาเหมือนกันเลย ปลอบคนอื่นไม่เป็น แต่ว่านะ มันก็ผ่านไปแล้ว ตอนนี้มาคิดๆ ดูหลงเชียวเล่นงานพวกนั้นได้แมนสุดๆ!”
แมน? วิธีการแบบมาเฟียเนี่ยหรอที่ว่าแมน?
“ผลตรวจผิดพลาดไม่ถึงกับต้องทำกันขนาดนั้น คนที่ผิด ไม่ใช่พวกแพทย์แต่เป็นเทพธิดาของเธอ วินาทีแรกที่ได้รับ ผลตรวจสิ่งที่เธอควรทำคือตรวจใหม่ เรื่องนี้จะโทษคนอื่นก็ ไม่ถูกซะทีเดียว”
แอนน่าวิเคราะห์ตามหลักเหตุผล ถ้าว่ากันตามความเป็น จริง ไม่ว่าใครก็ต้องทำแบบนี้ทั้งนั้น
สู่ซวงซวงไม่เห็นด้วย เธอทำเสียงชีดฮัดขึ้นจมูก “เธอจะ เข้าใจอะไร? เทพธิดาเป็นคนที่ภูมิใจในตัวเองขนาดนั้น! อีก อย่าง..ก่อนหน้านั้นเธอก็เคยไปหมู่บ้านของผู้ป่วยHIVมา ด้วย…”
ยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งเบาลง พูดกันจากสาเหตุจริงๆ ถ้าตอนนั้น ไม่ใช่เพราะความกดดันที่สั่วลั่วต้องเผชิญอย่างหนักจนทุกข์ ไปทั้งกายใจ เหตุการณ์มันคงไม่เลวร้ายขนาดนี้มั้ง?
แต่เธอไม่อยากจะพูดอะไรกับแอนน่าไปมากกว่านี้
แล้วแต่ว่าเธอจะคิดยังไง
แอนน่ายักไหล่ “ขอโทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจ แต่ฉันเสียใจ จริงๆกับการจากไปของเธอ”
ลู่ชวงชวงเช็ดน้ำตาสั่งน้ำมูก “ไม่ต้องขอโทษ ไม่ใช่ความ ผิดของเธอสักหน่อย”
“ไม่ ฉันขอโทษจริงๆ การมาของฉันไปสะกิดเข้ากับ บาดแผลในใจของเธอ คำพูดของฉันทำให้ทุกคนเกิดความ สงสัยขึ้นมากมาย”
“ไม่เลย! อะ จริงสิ ถ้าฮีโร่ของเทพธิดาได้เห็นเธอ เขาคง ตื่นเต้นมากแหงๆ! แต่ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในประเทศ อืม…หลังจากที่โรงพยาบาลปิดตัว เขาก็บินไปต่างประเทศ แล้ว”
เมื่อคิดถึงการเปลี่ยนแปลงชุดใหญ่ที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมา ความรู้สึกมากมายก็ถาโถมเข้ามาในใจลู่ชวงชวง เหมือนโลกทั้งใบพลิกผันภายในระยะ เวลาไม่กี่เดือน ชีวิตคนมากมายเปลี่ยนไปทันที
คือ? ถ้าคาดการณ์ไม่ผิด แอนน่าน่าจะแน่ใจได้แล้วว่าถัง จิ้นเหยียนที่เธอเคยเจอก็คือผู้ชายที่ลู่ชวงซวงเอ่ยถึง
โลกมันแคบจริงๆ
รถยนต์ขับมุ่งไปทางโรงละครใจกลางเมืองหลวง ทัน ใด นั้นลู่ชวงชวงก็ชี้ไปที่ตึกใหญ่ตึกนึงแล้วตะโกน “เทพธิตา! เห็นนั่นไหม โรงพยาบาลหวาเซี่ย หลังจากที่หลงเชียว ทำลายโรงพยาบาลกลางจนสิ้นซาก เขาก็สร้างโรงพยาบาล นี้ขึ้น แม้ว่าจะเพิ่งสร้างได้ไม่ถึงสองปี แต่ตอนนี้สามารถ ขยายพื้นที่ได้ใหญ่มากๆ! เป็นโรงพยาบาลคณะ
แพทยศาสตร์ชั้นนำของประเทศเชียว!”
แอนน่ามองตามนิ้ว เธอเคยมาที่นี่
ตอนนี้ถึงรู้ว่าที่แท้หลงเชียวสร้างที่นี่ขึ้นภายใต้ สถานการณ์แบบนั้น
ลู่ซวงซวงทำท่ามีลับลมคมใน “งั้นขอถามคุณแอนน่าผู้ หลักแหลม รู้ไหมว่าทำไมโรงพยาบาลแห่งนี้ถึงชื่อว่าหวา เชี่ย?”
“อึม….คนจีนก็มักจะเรียกตัวเองว่าเป็นลูกหลานหวาเซี่ย
ไม่ใช่หรอ?” แอนน่าว่า
ลู่ซวงซวงส่ายหน้า “ไม่ใช่!”
เธอเปิดโทรศัพท์ขึ้น แล้วเสิร์ชไปที่รูปภาพของโรง พยาบาลหวาเซี่ย รูปปันหินแกะสลักก้อนใหญ่ซึ่งเป็นแลนด์ มาร์กสำคัญตั้งเด่นเป็นสง่า ด้านบนแกะสลักกลอนอยู่สอง
บท
“แสงอาทิตย์สาดส่องหยดน้ำจากหิมะทอประกายตั่งเพชร แสงแรกแย้มรุ่งอรุณหลอมละลายน้ำค้าง ทะลายความ
หนาว”
แอนน่าขมวดคิ้ว “แลนด์มาร์กของโรงพยาบาล ทำไมถึง เขียนอะไรแบบนี้?”
เขาควรจะเขียนว่า เมตตาธรรมค้ำจุนโลก หรือช่วยรักษา บรรเทาโรคภัยอะไรเทือกนั้นไม่ใช่หรอ?
ลู่ซวงซวงถอนหายใจอีกรอบ “ดูไม่ออกหรอ? ในสอง ประโยคนั้น มีตัวอักษรลั่วหานอยู่ แล้วก็มีคำว่าหวาเซี่ยอยู่ ด้วย แต่จะให้เอาคำว่าลั่วหานมาตั้งเป็นชื่อโรงพยาบาล หลงเชียวคงไม่ทำหรอกมั้ง? เพราะงั้นเลยตั้งว่าหวาเซี่ยไง ล่ะ”
ลั่วหาน หวาเซี่ย
แอนน่าอ่านทวนอีกหลายรอบ “นี่เขาลอกมาจากไหน
เนี่ย?”
สู่ชวงซวงทำเสียงจี้จะ “ไม่ใช่ลอก นี่หลงเชียวเขียนขึ้นมา เอง คิดไม่ถึงล่ะสิ ว่าสิ่งมีชีวิตเลือดเย็นอย่างหลงเชียวจะ เขียนกลอนเป็น”