ตอนที่ 206 ตื่นจากฝันร้าย เขานั่งเป็นเพื่อนอยู่หน้า
เตียง
ท่านเขียวต้องถูกหวยแน่ๆ ถึงอารมณ์ดีขนาดนี้
ไม่งั้นคงไม่เอากระดาษและปากกาออกมา นั่งอยู่บนโซฟา จริงๆ และเริ่มสอน แอนน่าเขียนหนังสือ?
ภาพในห้องรับแขกในวันนี้ เหมือนไม่ใช่เรื่องจริง
ท่านเซียวนั่งอยู่ด้านซ้ายของ แอนน่า ด้านหน้าคือกระดาษ ขาวแผ่นเรียบ มือขวาของเขาจับปากกาอยู่ พับแขนเสื้อเชิ้ต ขึ้นจนเห็นข้อมือเล็กๆ มือซ้ายงอทับมุมกระดาษด้านซ้ายไว้ เล็กน้อย นั่งหลังตรง
กระดูกข้อมือที่จับปากกาเห็นชัดเจน ใกล้เข้ามา ถึงจะเห็น ผิวแขนและหลังของเขาเรียบเนียนไม่มีรอยแผลเป็นเลย แม้แต่น้อย ทุกเล็บโค้งมนและสะอาดสะอ้าน เล็บที่โค้งมน ขาวใส เหมือนกับหยก
เขาขีดเขียนลงบนกระดาษที่ละจังหวะ เพราะว่าต้องสอน เธอเขียนหนังสือ เขาเปลี่ยนการเขียนจากอักษรเฉ่าซูและ อักษรสิงซูเป็นตัวอักษรช่ายซูที่เขียนตัวบรรจง ระหว่างการ เขียน ซีดออก ใช้แรง เลือก หยุด เขียนตัวหนังสือสวยจน เหมือนพิมพ์ออกมาอย่างนั้น
แอนน่ามองอย่างเลื่อมใส สายตาขยับจากมือของเขามา มองใบหน้าของเขา แสงไฟในห้องรับแขกสว่างไสว แสงไฟ เหมือนมารวมอยู่ที่ตัวเขา ผมหน้าม้าย้อยลงมาปิดหน้าเกือบ ครึ่ง ปิดบังดวงตาไว้ในความมืด ขนตาหนาเรียงสวย กระจายเงาเล็ก ๆ ใต้เปลือกตา มันสวยงามและน่ามองยิ่ง กว่าเดิม
ความบ้าผู้ชายทั้งหมดในชีวิตของแอนน่า มาอยู่ที่ผู้ชาย คนนี้หมดแล้ว เขารู้สึกถึงการจ้องมองของหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ ท่านเซียว
ยังคงนิ่งเงียบ แต่ในใจกลับคิดไปต่างๆ นานา
เขาเขียนไปไม่กี่บรรทัด ก็วางปากกาลง
“เสร็จแล้ว”
แอนน่าก็เรียกสติกลับมาได้ทันที เธอปกปิดความบ้าผู้ชาย เมื่อกี้นี้โดยรวดเร็ว ก้มหน้าลงและมองตัวหนังสือที่เขาเขียน
และอ่านออกมาเบาๆ “.กลอนสวยมากค่ะ! คุณแต่งเอง เหรอคะ? เก่งจังเลยค่ะ!”
ท่านเชียว….คนไม่มีวัฒนธรรมนี่น่ากลัวจริงๆ
“ไม่ใช่กลอนที่ผมเขียนเอง ตัวหนังสือผมเป็นคนเขียน ถ้า คุณไม่เรียนเขียนกลอน คัดตัวหนังสือให้สวยก็พอแล้วครับ”
แต่ว่า…
แอนน่ามองตัวอักษรภาษาจีนทั้งสี่บรรทัด “ฉันเป็นผู้เริ่ม เรียน ตัวอักษรพวกนี้ มันซับซ้อนเกินไปรึเปล่าคะ คุณเขียน อะไรที่มันง่ายกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ? เช่น เล็กใหญ่ มาก น้อย ขึ้นลง.”
ท่านเซียวขมวดคิ้ว และจนใจ “ถึงแม้คุณจะเป็นผู้เริ่มเรียน แต่คุณไม่ใช่เด็กสามขวบแล้วนะครับ ผมให้คุณเขียนตัว อักษรแบบนี้ ไม่ใช่เพราะผมดูถูกคุณ? ถ้าคุณยอมให้ผมดูถูก ล่ะก็ ผมก็ไม่ว่าอะไร”
พูดไปเขาก็กลางกระดาษแผ่นใหม่เตรียมตัวเขียน
“ช่างมันเถอะช่างมันเถอะ! เขียนอันนี้แหละค่ะ! อันนี้ก็ดี ถ้าเรียนที่มันซับซ้อนได้แล้ว อะไรง่ายๆ ก็ไม่ต้องกลัวแล้ว”
ในที่สุดท่านเขียวก็ได้ยินคำพูดที่คนที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ควรจะมี วางมือซ้ายไว้บนเข่าอย่างเกียจคร้านเคาะปากกา และกระดาษ “ดีมากเริ่มกันเลย”
เพราะว่าแอนน่าเจ็บมือทั้งสองข้างอย่างหนัก หลังจาก เขียนนานๆ หลังจากดีขึ้นความรู้สึกจากหัวแม่มือทั้งสองข้าง ก็ไม่มีแล้ว ในหัวคิด แต่เขียนไม่ออก
ดังนั้นตัวหนังสือที่เขียนออกมาก็น่าเกลียดไม่น่ามอง
การเรียนของ แอนน่าทำให้ท่านเซียวโกรธจนไม่มีอารมณ์ “ตัวอักษรพวกนี้ มันมากพอให้คุณเรียนได้ครึ่งเดือนแล้ว ถ้าอยากเขียนกลอนทั้งบทให้จบ อย่างน้อยคงใช้เวลาสอง
เดือน”
แอนน่ากำลังใช้แรงเขียนอยู่ “ห้า? นี่ไม่ใช่กลอนทั้งบทเห รอคะ? หลังจากนี้ยังมีอะไรอีกคะ?”
“ฝึกพวกนี้ให้ดีก่อน ค่อยว่ากันอันที่เหลือ”
ยังเดินไม่เป็น จะวิ่งได้ยังไง?
แอนน่าใช้แรงเขียนตัวทุกอักษร เมื่อไหร่จะเขียนได้เหมือน
เขานะ?
“หลงเชียว ฉันสงสัยค่ะ ว่าคุณเป็นคนยังไง? ไม่สิ ฉันควร จะถามว่า คุณยังเป็นคนอยู่ไหม? ทำไมคุณทำอะไรได้หมด เลย?”
ปลายนิ้วของ แอนน่าเปื้อนน้ำหมึก ปลายนิ้วขาวบางมีจุด ดำอยู่ด้านบน มันดูขี้เล่นและน่ารัก
หลงเชียวดูเธอเขียนตัวหนังสือจนรู้สึกไม่อยากทานข้าว ก็ เลยเปิดหนังสือที่วางอยู่ด้านหลังเธอ “คุณรู้สึกว่าผมเป็นคน ยังไง? ง่ายมากๆ ผมทำเรื่องที่พวกคุณทำไม่ได้เยอะแยะ มากมาย”
หลงตัวเอง! อวดดี! หลงระเริง!
เธอฝึกเขียนต่อ เขาก็อ่านหนังสือต่อ อ่านไปอ่านมา สีหน้า ของท่านเชียวก็ชีต “คุณอ่านหนังสืออะไร? แน่ใจว่าหยิบมาจากชั้นวางหนังสือของผม?”
แอนน่าพยักหน้า เธอแน่ใจมากๆ “ไม่ผิดค่ะ เอามาจากชั้น วางหนังสือ ฉันก็งงเหมือนกัน ทำไมคุณถึงยังมีนิยายโรแมน ติกตลก ๆ อยู่บนชั้นหนังสือของคุณคะ ” %3.
หลงเชียวเปิดดู สไตล์วรรณกรรมรูปแบบใหม่ หนังสือเล่ม นี้ เขาไม่เคยอ่านเลย หรือว่าตอนที่ย้ายบ้าน หยิบหนังสือ
ของคนรับใช้มาผิด?
“บัวลอย? นี่คือชื่ออะไรคะ?”
แอนน่ายักไหล่ “ชื่อของผู้แต่ง แต่ว่าแต่งเรื่องสนุกมากนะ พระเอกดีกับนางเอกมากๆ เอาใจทุกอย่าง”
ท่านเชียววางหนังสือลง หันมามอง แอนน่า เมื่อกี้นี้ใน สายตาเธอสดใสเหมือนสายรุ้ง เพราะอิจฉา? เพราะใฝ่หา? บุคคลในหนังสือ ถึงทำให้เธอแสดงออกมาทางสีหน้าแบบ นี้?
“ตูเหมือนคุณจะชอบ?”
แอนน่าตั้งใจเขียนต่อ “ฉัน….ไม่ได้เหรอคะ?” แอนน่าซอบ? เธอชอบสิ่งนี้จริงๆ
ท่านเชียวสงสัย
เขาหยิบหนังสือขึ้นมาใหม่ ขมวดคิ้ว หลังจากนั้นก็วางลงอีกครั้ง ท่านเขียวพูดขึ้น “อย่าใช้เดียงสาหน่อยเลย ท่าน ประธานในชีวิตเขาไม่มีเวลาว่างพาผู้หญิงไปเที่ยวเล่นหรอก แถม ในฐานะที่ต้องดูแลบริษัท เขาจำเป็นต้องเอากำไรของ บริษัทขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง ไม่บุ่มบ่ามเพราะผู้หญิงคนหนึ่งและ ทิ้งกำไรของบริษัทหรอก”
แอนน่าเม้มปาก ไม่มีเลยเหรอ? ลู่ซวงซวงเหมือนเคยบอก ว่า เมื่อก่อนเพื่อกอบกู้ร่างของภรรยาที่เสียชีวิต เสียเงินไป หลายหมื่นล้าน เขาเกือบจะยอมตามเพื่อบูชารัก
“นั่นคือรักไม่พอ ถ้ารักใครคนหนึ่งจริงๆ อย่าพูดถึงเวลา เลย แม้แต่ชีวิตก็ให้ได้ อย่าบอกฉันว่า คุณไม่ได้ทำแบบนี้กับ ภรรยาของคุณ”
เธอพูดออกมา ปากบางๆ ก็ท่านเขียวขยับ สุดท้ายก็ไม่พูด
อะไรออกมา
ถูกเธอพูดจนเขาคล้อยตาม
“ชีวิตไม่ใช่นิยายนะ ไร้เดียงสาให้มันน้อยๆ หน่อย” พูดจบ ท่านเขียวก็ก้าวเท้ายาวๆ เดินออกไป
เซอะ!
ก็ไม่รู้ว่าใคร ชีวิตผ่านไปสวยงามกว่านิยายซะอีก ฟ้ามีตแล้ว แอนน่าก็เข้าสู่ห้วงแห่งความฝัน
ในความมืด ในหน้าที่ดำมืดก็บุกรุกเข้ามาในห้วงความ ฝันของเธออีกครั้ง!
กันหุบเขาลึกที่มองไม่เห็นพื้นดิน ผิวถูกพุ่มไม้เตี้ยกรีดจน ปากแผลเปิดออก เลือดทั่วทั้งตัวไหลออกมาชิบๆ ยื่นมอง ออกไขว่คว้าและกลับจับต้องอะไรไม่ได้!
ร่วงลงไป!
มีคลื่นสีดำขนาดใหญ่กลิ้งอยู่ข้างใต้! เหมือนสัตว์ร้ายที่ กำลังอ้าปากอยู่ ฟันเหมือนน้ำแข็ง! แหลมคม! แสบตา!
ร่างกายของเธอไม่มีเรี่ยวแรงและตกลงไปในช่องนั้น!
“อร้าย! ”
จู่ๆ แอนน่าก็สะดุ้งตื่นขึ้น นั่งอยู่บนเตียงด้วยความตกใจ ทั้งตัวเปียกโชก เหงื่อขึ้นตามหน้าผากและไหลลงมาครึ่งหน้า ชุดนอนผ้าไหมเต็มไปด้วยเหงื่อความฝันที่มืดดำสนิท มันเข้า มาทำทำร้ายเธออีกแล้ว!
บ้าคลั่ง ผิดหวัง ไร้การช่วยเหลือ สยองขวัญ!
ฝันร้ายทำให้เธอทุกข์ทรมาน เกือบทิ้งอีกครึ่งชีวิตนี้ไว้ใน ความฝันซะแล้ว
“ปั้ง! ”
จู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างแรง!
หลงเชียวเดินเท้าเปล่าเข้ามา ลูบสวิตซ์ไฟที่อยู่บนผนัง ภายใต้แสงไฟ เขาเห็นร่างที่เปียกชุ่มด้วยเหงื่อของ แอนน่า สีหน้าซีดขาว เหมือนกับกลัวสัตว์ร้ายจนตกใจขดตัวอยู่บน เตียง ร่างเพรียวหดเป็นวงกลม กอดหัวเข่าอยู่ และมองมาที่ เขาอย่างไร้ความหวังและไร้เรี่ยวแรง
ดวงตาคู่นั้นเป็นยังไงกันแน่นะ?
แววตาเต็มไปด้วยน้ำตา เธอตื่นตระหนกอย่างที่สุด หลงเชียวเสียงแหบแห้ง เดินไปสองก้าว และถามขึ้นเบาๆ
“คุณเป็นอะไรไป?”
แอนน่าตัวสั่นไร้เรี่ยวแรง แผ่นหลังติดกับหัวเตียง ชุดนอน สีขาวเกือบจะเปียกจนหมด เท้าโผล่ออกมาจากผ้าห่ม นิ้วเท้า ทับอยู่บนผ้าห่ม ส่ายหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรง น้ำเสียงแหบพร่า “ฝันร้าย”
หลงเชียวเดินเข้าไปนั่งพิงข้างเตียง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขา โอบไหล่เธอด้วยแขนข้างเดียว โอเคไหม ไม่เป็นไรแล้วนะ”
เหมือนเขาจะมาได้ทันเวลา ความอบอุ่นแบบนี้เธอ ต้องการมันจริงๆ ตอนที่ไปซบไหล่ของหลงเชียว กะทันหันไม่ อยากร้องไห้ แต่น้ำตาก็หยดลงบนไหล่เขาทีละหยดทีละหยด จนเสื้อเขาเปียกชุ่ม มือน้อยเกาะกุมหน้าอกของเขา ซบลงใน อ้อมกอดและสะอื้นให้ออกมา
หลงเชียวขมวดคิ้วแน่น มือใหญ่ลูบหลังเธอเบาๆ น้ำเสียง นุ่มนวลและเบาอุ่นไม่ได้พูดแบบนี้มานานแล้ว “อย่ากลัว ไม่ เป็นไรแล้ว แต่ฝันแค่นั้นเอง ไม่ต้องกลัว”
แอนน่าซุกหน้าในอ้อมกอดของเขา ในสมองได้รับความ ช็อกและความตื่นเต้น ในที่สุดก็เหมือนหาที่ที่สบายใจจนเจอ แทบจะทนไม่ไหวที่จะปลดปล่อยความกังวลภายในใจ
หลังจากร้องไห้หนักขึ้นไหล่ของเธอก็สั่นแรงขึ้น “ฮือ
ชื่อ……”
ผู้หญิงในอ้อมกอด ด้านที่เปราะบางที่สุดถูกแสดงออกมา ต่อหน้าเขา
ฟังเสียงร้องไห้ของเธอ หลงเชียวรู้สึกมากมายในหัวใจ
ของเขา
มันน่าเสียดาย? หรือน่าเห็นใจ?
มันน่าสงสาร หรือน่าเสียใจ?
มันคือการช่วยเหลือกัน? หรือว่ามันคือความรัก?
เขาแยกไม่ออก ในหัวใจกดทับเป็นชั้นๆ มีดครึ้มเต็มไป หมด แยกค่าตอบไม่ออก สองมือของเขาโอบกอดเธอเอาไว้
โอบกอดความอ่อนแอของเธอ
“ไม่เป็นไรแล้ว ผมอยู่นี้ ไม่ต้องกลัว” เสียงแหบพร่าของ เขาอบอุ่น ปัดเป่าความเศร้าหมองและความมืดในห้อง มุมสว่างขึ้นในมุมมืดในหัวใจของเธอ
แอนน่าร้องไห้ออกมา และออกจากอ้อมกอดเขา เช็ด น้ำตาบนหน้า ก้มหน้าอย่างอึดอัด “ขอโทษค่ะ ที่ท่าให้ชุด นอนของคุณเปื้อน”
หลงเชียวไม่ได้สนใจชุดนอน เขายื่นทิชชูให้เธอ ในฝัน มันเป็นยังไง? ถึงทำให้คุณกลัวจนเป็นแบบนี้?”
แอนน่าหลับตาลง “ในฝัน ฉันตกลงไปในหน้าผา และ ตกลงไปในทะเล…ความฝันนี้ มันฝันซ้ำๆ มาหลายครั้งแล้ว ค่ะ”
ห้า?
หลงเชียวแตะหน้าผากเธอเบาๆ ไม่เป็นไข้ “บางทีคุณอาจ จะกลัวหน้าผาอย่างไม่รู้ตัว คนบางคน ยิ่งกลัวอะไร ก็จะฝัน เห็นสิ่งนั้นง่ายๆ บางที่ถ้าคุณขจัดความกลัวได้ ก็คงไม่เป็น แบบนี้แล้ว”
“อาจจะค่ะ”
แอนน่าขมวดคิ้วอย่างเจ็บปวด ใบหน้าของฉันบิดเบี้ยว เป็นกระดาษยับยู่ยี่
นิ้วมือของหลงเชียวสั้น ผมที่ปรกหน้าผากของเธอถูกปัด ไว้ที่หลังใบหู น้ำเสียงของเธอ มันหลอกลวงเกินไปจริงๆ ทำให้เขาอดคิดไม่ได้เลย ว่าผู้หญิงที่ร้องไห้เหมือนหัวใจแตกสลายคนนี้คือลูู่่
ใบหน้า โดนผิวอันเย็นเฉียบของเขาสัมผัส นิ้วมือเหมือน หยก ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทิศ
“ดีขึ้นรึยัง? จะนอนต่อไหมครับ?”
สายตาของเขามองเห็นตัวเลขนาฬิกาบนหัวเตียง ตีหนึ่ง สามสิบห้านาที
แอนน่าพยักหน้า ความจริง จะพูดไป ทุกครั้งที่ฝันถึงเรื่อง นี้หลังจากนั้นครึ่งคืนเธอก็หลับไม่ลง ความกลัวความ กระวนกระวายอยู่ต่อไปต่อจนฟ้าสาง
“นอนหลับอย่างสบายใจเถอะ ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณตรง นี้ รอคุณนอนหลับสนิทผมถึงจะกลับห้อง
ท่านเซียวเปลี่ยนท่าทาง นั่งบนขอบเตียงในแนวทแยงมุม เอียงตัวมองเธอ
ริมฝีปาก แอนน่ากระตุก “แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้งคะ?”
ท่านเชียวพยุงตัวขึ้นจากเตียง นัยน์ตายากเกินบรรยาย ออกมาได้ เขาหัวเราะออกมาเบาๆ “คุณลืมไปแล้วเหรอว่า ผมเคยพูดว่าอะไร? เราสองคนคือคู่ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ผม รอคุณเข้ามาในอ้อมกอดของผม”
เชอะ! นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาขู่ในตอนนี้
แอนนามองค้อนใส่เขา
“พอเถอะ นอนลงได้แล้ว ผมไม่ได้อารมณ์ตีแบบนี้ทุกวัน
นะ
เขาปิดไฟในห้อง ร่างนั้นซ่อนตัวอยู่ในห้องมืด มีเพียงแสง ที่สาดส่องด้วยแสงจันทร์ ส่องสะท้อนแผ่นหลังของเขา
แอนน่าหลับตาลง เพราะรู้ว่ามีคนอยู่ข้างๆ เลยรู้สึก สบายใจขึ้นไม่น้อย ฟังเสียงลมหายใจของเขา รู้สึกถึงเสียง หัวใจเต้นแรงของเขา หลังจากนั้นไม่นานก็หลับไป
หลงเชียวค่อยๆ ลูบหน้าผากของเธอ เธอไม่ได้ไม่สบาย จริงๆ หลังจากรอเธอหลับสนิท เมื่อเห็นเธอหลับใหล ท่ามกลางแสงจันทร์ เขาก็หัวเราะออกมา
นี่เขากำลังทำอะไร?