ตอนที่ 207 ถ้าหากตกหลุมคุณขึ้นมาจะยังไง
ตื่นจากความฝัน ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว
เงยหน้าขึ้นจากหมอน เห็นแสงแดดส่องเข้ามาจาก หน้าต่าง แสงแดดไม่แรงมาก แต่ว่าหลังจากหลับไปตลอด คืน ก็รู้สึกไม่สบายตา เลยยื่นมือออกมาบัง แสงแดดสาด ส่องผ่านนิ้วมือ อบอุ่นเข้าไปในหัวใจ
จู่ๆ ก็นึกถึงฝันร้ายเมื่อคืน ในใจก็สั่นไหว เมื่อคืนเธอหลับ ไปจริงๆ เหรอ? ผ่านมากว่าสองปีแล้ว หลังจากที่เธอนอน หลับฝันร้ายก็นอนไม่หลับทั้งคืนอย่างไม่มีข้อยกเว้น เมื่อคืน เขาได้ทำลายมันลงไปแล้ว?
จิตแพทย์เคยบอกว่า ฝันร้ายของเธอเกิดจากความกลัวที่ มากเกินไป หากสามารถหาสิ่งที่ทำให้สบายใจได้ ก็ไม่ต้อง ทนทุกข์กับฝันร้ายอีกต่อไป
ในตอนแรก เธอคิดว่าคนคนนั้นคือเควิน แต่ว่าถึงแม้ว่า เขาจะอยู่ข้างเตียงเธอทั้งคืน เธอก็ยังคงนอนไม่หลับ ทำได้ แค่หลับตาลงและแกล้งสงบจิตสงบใจ
เธอคิดไม่ถึงเลยว่า คนคนนั้นจะเป็นหลงเซียว
หรือว่า มันจะเป็นความผูกพันระหว่างเขาทั้งสองคน แต่ ความจริงพวกเขาก็ไม่ได้เพิ่งรู้จักกันสักหน่อย?
ถ้าหากตัดสินใจจากจิตใต้สำนึก มันจะเป็นไปใด้แบบนั้น ไหมนะ ในความทรงจำที่เธอสูญเสียไป มีหลงเขียวอยู่ในนั้น ด้วย?
แต่ว่าทำไมนะ หลงเชียวกลับจำเธอไม่ได้? เขาจำได้แค่ ภรรยาของเขา เพียงเพราะน้ำเสียงของเธอและภรรยาของ เขาคล้ายกันเขาถึงได้สนใจเธอ?
ในสมองสับสนวุ่นวาย แอนน่าสายหน้า เดินเหยียบพรม เท้าเปล่ามาถึงด้านหน้าหน้าต่าง นิ้วมือถึงมุมของผ้าม่านเปิด ออก ก้มหน้าลงไปมองก็เห็นหลงเชียวที่กำลังวิ่งอยู่ที่หน้า ลานบ้านพอดี
ชายหนุ่มหันหน้าวิ่งไปทางดวงอาทิตย์ สวมชุดกีฬาสีขาว ผมพลิ้วไหวเล็กน้อยตามการเคลื่อนไหวจากการวิ่ง ใต้ เส้นผม มีเหงื่อที่ถูกสาดส่องจากแสงแดด
เขาสวมใส่เสื้อผ้าเรียบๆ แต่ก็ยังดูดีและมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว ขายาวตัวสูง แผ่นหลังกำย่า คนทั้งคนเหมือนเจ้า ชายที่เดินอยู่ในเงามืดของดอกไม้และต้นไม้
เอ่อ…แอนน่าตกใจการเปรียบเทียบของตัวเอง เธอมีวิธี คิดที่แปลกประหลาดแบบนี้ได้ยังไงกันนะ?
เขาก็แค่หลงเชียวไม่ใช่เหรอ? ผู้ชายเลือดเย็นไร้ความ รู้สึก
เธอปล่อยผ้าม่านลง แอนน่าไปล้างหน้าบัวนปาก เปลี่ยน เสื้อผ้า พอเดินลงไปชั้นล่างก็ได้กลิ่นขนมปังปิ้งผสมกับ แสงแดดยามเช้า หลงเชียวทำอาหารเข้าอีกแล้ว?
เธอเดินย่องๆ จนถึงหน้าประตูห้องครัว แอนน่าแอบดูหลง เชียวที่กำลังยุ่งอยู่ ระยะห่างแค่ไม่กี่เมตร แผ่นหลังของคนตัว สูงในเสื้อเชิ้ตสีขาว ผมดำขลับหนาและมีสไตล์ ไม่รู้ว่าเขา กำลังวุ่นกับอะไรอยู่ มือทั้งสองข้างเปลี่ยนกันขยับไม่หยุด
แอนน่าควัก โทรศัพท์ออกมา “แซะ” ถ่ายรูปด้านหลังของ
เขา
หลงเชียวได้ยินเสียง ก็รีบหันหน้ากลับมาทันที ใบหน้าไร้ ความรู้สึก เขาทำตัวไม่ถูก และเลิกคิ้วขึ้น ริมฝีปากบางกำลัง ขยับ ก็มีเสียงดังขึ้นอีกครั้ง “แชะ!”
แอนน่าเขย่าโทรศัพท์ “ผู้ชายที่ทำอาหารเช้ามีเสน่ห์มาก ค่ะ ฉันช่วยคุณเก็บความทรงจำ ไม่จำเป็นต้องขอบคุณค่ะ”
หลงเชียวขมวดคิ้ว “อยากจะถ่ายรูป ผมก็ไม่ ปฏิเสธ.คนที่ชอบตามคนอื่น”
แอนน่าปฏิเสธ “หลงตัวเองให้น้อยๆ หน่อย ใครตามคุณ ค่ะ? ! ฉัน….ฉันก็แค่รู้สึกว่าสลัดดูน่าทานดี!”
หลงเชียวยกสลัดที่ทำเสร็จแล้ว สีสันสดใส ผักและผลไม้ นั่นได้สัดส่วนและสวยงาม สลัดหลากสีกับเสื้อเชิ้ตสีขาวบริสุทธิ์ของเขา มันกลายเป็นงานศิลปะ
ขมวดคิ้ว เขาดูผลงานชิ้นเอกของเขา แต่เขากลับไม่สนใจ “ผมคิดว่า ใบหน้าของผมคู่ควรกับภาพของคุณมากกว่าสลัด นี้จะอีก”
เขาเบะปาก แสดงถึงความมั่นใจของเขา แต่มันเป็นความ จริงที่ว่าคนเราไม่สามารถพูดอะไรมาหักล้างได้
“หลงตัวเอง!”
แอนน่ายักไหล่ เธอถือโทรศัพท์ออกจากห้องครัวไป
เปิดหน้าจอ ก็เห็นรูปแผ่นหลังของหลงเชียวอยู่กึ่งกลาง เอวที่แข็งแกร่ง แม้ว่าเสื้อจะผูกเข้ากับกางเกงขายาว แต่ก็ ไม่มีร่องรอยของไขมันที่เอว
นิ้วมือลื่นรูปถัดไป รูปภาพด้านหน้าของหลงเชียว เธอ เหลือบมองกลับไป ความขี้เกียจในแววตาและความจนใจ กลับมีความน่ารัก
แอนน่ามองอย่างมีความสุข
ทานข้าวเสร็จ หลงเชียวขึ้นไปข้างบน เลือกสูทและเนกไท ที่จะใส่ในวันนี้ในห้องเสื้อผ้า ตอนที่กำลังเตรียมผูกเนกไท แอนน่ายื่นหน้าออกมาอย่างไม่รู้ไม่ชี้ หลงเขียวตกใจเมื่อ หน้าของเธอโผล่ออกมาอย่างกะทันหัน
“คุณอยู่ที่นี้ได้ยังไง? ”
แอนน่ายักไหล่ “คุณไม่ได้ปิดประตู ฉันก็เลยเข้ามาเลย และ หน้าประตูห้องของคุณก็ไม่ได้เขียนป้ายติดไว้ว่าคนว่าง งานห้ามเข้านะคะ”
ให้อภัยแอนนำเถอะ เธอที่ได้รับบาดเจ็บตอนนี้ก็รู้สึกเบื่อ หน่ายจนกลัดกลุ่ม และเธอก็วางแผนมาโดยตลอด ว่าจะเอา คำตอบออกมาจากปากเขาได้ยังไง เพื่อแสดงว่าเมื่อก่อนทั้ง สองคนรู้จักกัน
หลงเชียวขมวดคิ้ว ส่องกระจกและผูกเนกไท หันหลังให้ เธอ แต่ในกระจกก็มองเห็นเธอพอดี
แอนน่าลองคิดดูอีกที ก็ลูบคางและพูดว่า “หลงเชียว ฉัน รู้สึกว่าสูทตัวนี้กับเนกไทสีน้ำตาลแดงค่อนข้างเข้ากัน ถึงแม้ ตาข่ายสีฟ้าในมือของคุณจะดูไม่เลว แต่มันแสดงเอกลักษณ์ ของคุณไม่พอค่ะ”
เธอหยิบเนกไทสีแดงเข้มไว้ที่มีอของเธอ หัวเราะสบาย ๆ รู้สึกมีเสน่ห์เล็กน้อย
หลงเชียวขมวดคิ้วแน่น เขาไม่ได้รับมันมา
“คุณอย่าไม่เชื่อฉัน ฉันคิดว่า ถ้าหากภรรยาของคุณยังอยู่ ก็ควรจะเลือกเนกไทเส้นนี้เหมือนกัน เสื้อเชิ้ตสีขาวเหมาะกับ เนกไทสีสดใส บรรยากาศจะไม่หดหู จะพูดอีก ผิวของคุณ ขาวขนาดนี้ ใช้สีน้ำตาลแดง ก็พอแล้วค่ะ”
สีผิว? หรือว่ามันไม่ได้อารมณ์?
หลงเชียวรับเนกไทมา นิ้วมือผูกไปผูกมาอย่างคล่องแคล่ว มองผู้หญิงที่อยู่ในกระจก “คุณสนใจภรรยาผมมากขนาดนั้น เลยเหรอครับ? ”
พูดความจริง ก็ใช่
“หลายๆ คนบอกว่าเสียงของฉันและเธอเหมือนกันมาก แต่ฉันอยากรู้มากกว่านอกจากน้ำเสียง พวกเรายังมีอะไร เหมือนกันอีกไหมคะ? หรือว่า พวกเราเคยรู้จักกันมาก่อน ไหม? ”
หลงเชียวผูกเนกไทเสร็จ มันแตกต่างกันจริงๆ เมื่อเนกไท เปรียบเสมือนลิปสติกของผู้หญิง สีที่เลือก มันจะส่งเสริมให้ดู ดีขึ้น
“พวกคุณรู้จักกันไหม คุณน่าจะรู้ดีกว่าผม” เขาขว้างเสื้อ คลุม ไม่นาน สูทสีดำก็ถูกสวมเข้าไป และค่อยๆ ติดกระดุมที ละเม็ดทีละเม็ด นิ้วเรียวยาว กระดูกข้อมือมีความล่อตาล่อใจ
แอนน่าเม้มริมฝีปาก ก้มหน้าลง และ ท่าทีก็อ่อนลง “พูด แบบไม่ปิดบังคุณเลยนะคะ ฉันเคยได้รับบาดเจ็บ มีบางเรื่อง ที่จำไม่ได้แล้ว ดังนั้นฉันอยากรู้ว่า พวกเราเคย.รู้จักกันใช่ ใหม”
นิ้วมือ สุดท้ายหยุดการกระทำที่ติดกระดุมทุกอย่างลงเห็นหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองผ่านกระจกบานใหญ่ หัวใจอัน บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ดุจน้ำแข็งและหิมะ มันคือความสวยงามที่อยู่ ภายใน
“คุณเคยได้รับบาดเจ็บ? เคยสูญเสียความทรงจำ? ” เขาถาม และหันหน้าไปมองเธอ สายตาประสานกัน เกิด
ประกายไฟ
แอนน่าพยักหน้ารับ ชี้นิ้วมาที่หัว “เหมือนว่าตรงนี้จะมี ปัญหา ตอนที่แด็ดดี้หาฉันเจอ ฉันอยู่ในอาการโคม่าแล้ว หลังจากตื่นขึ้นมา ก็จำเรื่องต่างๆ ไม่ได้เลย”
เส้นเลือดที่หลังมือของเขาก็เต่งขึ้นทันที แต่ว่าหลังจากมี ประสบการณ์ไม่กี่ครั้ง เขาไม่กล้าล้ำเส้นเธออีก เขาระงับ ความเจ็บปวดในหัวใจและถามว่า “ที่….ที่ไหนครับ ? ”
“เทือกเขาแอลป์ แด๊ดดี้ของฉันชอบออกไปผจญภัยข้าง นอก ตอนนั้นฉันกับเขาไปปีนเขาด้วยกัน แค่ครึ่งทางฉันก็ ตกลงไปในหน้าผา ดังนั้น ดังนั้นฉันมักจะพัวพันกับฝันร้าย และก็เป็นเพราะอุบัติเหตุครั้งนั้น ความทรงจำมากมายของ ฉันก็สูญเสียไป”
เทือกเขาแอลป์..
เปลวไฟในใจของหลงเชียวดับลงอีกครั้ง หลับตาลงและ บังคับตัวเองให้ฟื้นคืนสติ ลั่วลั่วตายไปแล้ว เขาจะกอดภาพลวงตาไว้ไม่ได้อีกแล้ว ไม่ได้แล้ว
“บางทีพวกคุณอาจจะรู้จักกัน แต่ผมไม่รู้จักคุณ” เขามั่นใจ
แอนน่าพยักหน้ารับอย่างผิดหวัง “ฉันคิดว่าเมื่อก่อนเรา เคยรู้จักกัน”
“มันไม่ใช่ แน่ๆ ครับ”
สวมเสื้อผ้าเสร็จแล้ว หลงเชียวก็หมุนตัวเดินออกจากห้อง ไป แอนน่าเดินตามไปถึงหน้าประตูห้อง แกล้งทำเป็นยิ้มและ พูดว่า “สีแดงเหมาะกว่าจริงๆ ”
ชายหนุ่มหันหน้ากลับ เห็นเธอยิ้มให้เขายืนอยู่ที่ด้านบน สุดของบันได วางข้อมือบนราวบันได หัวเราะออกมาเหมือน ความอบอุ่นแรกในตอนเช้า
“อยู่บ้านเบื่อๆ ก็ออกไปข้างนอก ผมให้หยังเซินมารับ คุณ” แอนน่ายิ้ม “หลงเชียว จู่ๆ ฉันก็กังวลขึ้นมาเรื่องหนึ่ง”
เขาหยิบกุญแจรถ เอียงหน้ามาถาม “อะไร? ” คนหนึ่งอยู่ข้างบนอีกคนอยู่ด้านล่างบันได มองกันผ่าน
ความว่างเปล่า อากาศลอยอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอก กุหลาบในห้องนั่งเล่น
“กังวลว่าตัวเองจะตกหลุมรักคุณค่ะ” เธอเลิกคิ้วอย่างขี้ “นั่นคือทางเลือกที่ชาญฉลาด ผมรอคอยวันนั้นอยู่” เขา
เล่น
มั่นใจ และใจเย็น
แอนน่ากลับขมวดคิ้ว ยิ้มผิดๆ “นั่นไม่ใช่เรื่องที่ดี ในใจ ของคุณรักภรรยาแค่คนเดียว เอาคนอื่นเข้าไปไม่ได้อีกแล้ว หลงเชียว ผู้หญิงคนไหนที่ตกหลุมรักคุณคงไม่เจอสุดจบที่ดี ไม่ว่าจะดีแค่ไหน ก็เป็นแต่ตัวแทนของเธอ”
เธอพูดจบ ก็เดินลงจากตึก กุหลาบช่อใหญ่บานเต็มห้อง นั่งเล่น ไม่ทันไร เควินก็ส่งมาเยอะขนาดนี้แล้ว “แต่ฉันล่ะ ไม่ อยากเป็นตัวแทน ฉันแค่อยากเป็นที่หนึ่งของใครสักคน หนึ่ง เตียว ตั้งแต่ต้นจนจบ”
เธอยิ้ม ใจกว้างจนทำให้เขาพูดไม่ออก
หลงเชียวไม่ได้โต้เถียง ที่เธอพูด คือเรื่องจริง
ณ รีสอร์ทตี้จึง บ้านพักตระกูลเกา
เกาจึงอานเตรียมตัวออกจากบ้าน เธอถูกเกาหยิ่งจือขวาง ทางไว้
“สุดท้ายเป็นยังไง? บอกพี่”
เกาหยิ่งจือยืนอยู่ตรงหน้าเกาจิงอานพร้อมกับกอดอก แววตาจ้องมองเธออย่างไม่ลังเล
เกาจึงอานสะบัดพวงกุญแจที่อยู่บนมือ “พี่คะ พี่จะสงสัย ทำไม? เธอเป็นแค่หมอคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ? ”
“พูดเรื่องไร้สาระน้อยๆ หน่อย เธอสูญเสียความทรงจำใช่
ใหม จำไม่ได้แล้วไข่ไหม? ”
“พี่ ฉันรีบไปบริษัทนะ พี่เลิกขวางได้รึยังคะ? ”
เกาหยิ่งจือปิดประตูดัง “ปั้ง” “เธอยังอยากปกปิดความ คิดพวกนั้นกับพี่อีกเหรอ? บอกมาเถอะ คุยอะไรกับเธอ? บอกฉัน”
เกาจึงอานสู้เธอไม่ไหว เธอเลือกประเด็นที่สำคัญและพูด ว่า “ฉันพูดจบแล้วค่ะ ให้ฉันไปได้รึยังคะ? ”
ความจำเสื่อมจริงๆ
เกาจิงอานขับรถออกจากคฤหาสน์ไป เสียงโทรศัพท์ก็ดัง
ขึ้น
“ท่านประธาน ร้านอาหารที่คุณจองไว้พร้อมแล้ว สองทุ่ม”
“ครับ”
เกาจิงอานมองนาฬิกาข้อมือ เก้าโมงเช้า
แอนน่านะแอนน่า ผมไม่เชื่อว่าคุณจะตั้งใจจริงขนาดนี้ ผม ไม่เชื่อว่าผู้หญิงที่เกาจึงอานชอบ จะบินหนีไปได้?
โรงพยาบาลหวาเซี่ย
Lisaกอดเอกสารของผู้ป่วยเข้ามาในห้องท่ำงานของผู้อำ นวยการช่วยหายใจหอบและพูดว่า “หัวหน้าคะ จู่ๆ ผู้ป่วยก็ซ์
ant
“ผู้ป่วยที่ถูกส่งมาเมื่อคืนวาน? ”
“ค่ะ! เขาเป็นผู้ป่วยในโครงการนี้ สถานการณ์วุ่นวาย
มาก Curretและหมออีกสองคนกำลังไปปั้มหัวใจค่ะ แต่ว่าผู้ ป่วยต้องรีบผ่าตัดเร็วที่สุด!
ผู้อำนวยการช่ายผลักเก้าอี้ออกและรีบไปที่ห้องฉุกเฉิน
ก้าวเท้าเดินไปก็ถามไปว่า “บอกรายละเอียดผมหน่อย” Lisaบอกอาการอีกรอบ ผู้อำนวยการช่ายก็ไม่เดินต่อไป
เขาหันดวงตาสีฟ้ามามองLisaอยากพูดอะไร เขาถอน หายใจ แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา
“หัวหน้าอยากถามฉันใช่ไหมคะว่าตอนนี้แขนของแอนน่า เป็นยังไงบ้าง? ผ่าตัดได้ไหม? ”
“อึม เธอเป็นยังไงบ้าง? ”
Lisalส่ายหน้า หน้าผากมีรอยย่นขึ้นเป็นชั้น “แอนน่ายัง รักษาอาการบาดเจ็บอยู่ แทบจะทำการผ่าตัดแบบนี้ไม่ได้เลย ใช้เวลามากเกินไป แขนของเธอเสียหาย”
ค่ะ การผ่าตัดชนิดนี้ แต่เริ่มก็ปาเข้าไปเจ็ดแปดชั่วโมงแล้ว
ค่ะ
ทำยังไงดี?
ผู้อำนวยการช่างเคาะหัวตัวเอง “ไป ไปห้องผู้อำนวยการ
โรงพยาบาลกับผม!”
“ทำอะไรคะ? ”
เมื่อLisaถามผู้อำนวยการช่ายดึงแขนเธอและขึ้นลิฟต์ไป หายใจเข้าลึกๆ “วิธีการเดียวในตอนนี้ก็คือให้ผู้อ่านวยการ ไปตามถังจิ้นเหยียน กลับมา”
“เขา? ”
ถังจิ้นเหยียนที่มีข่าวลือว่าเลิกผ่าตัดศัลยกรรมแล้ว?
แค่ผู้อำนวยการช่ายตื่นเต้นเขาก็พูดภาษาอังกฤษไม่ออก ซะแล้ว “ตอนนี้มีแค่ให้ผู้อำนวยการหาวิธีตามถังจิ้นเหยียน กลับมา เขาต้องกลับมาแน่ ผู้ป่วยต้องการความช่วยเหลือ แต่ว่า…ถังจิ้นเหยียน ไอ้คนนี้ ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าบ้าคลั่งอยู่ ไหม? ”
“ไม่สนแล้ว ดูว่าผู้อำนวยการจะจัดการยังไงเถอะ ครั้งนี้ เขาจำเป็นต้องกลับมา! ใช่แอนน่าให้แอนน่าติดต่อเขา ”
Lisaข้องมองผู้อำนวยการช่ายนอกจากชื่อออกแอนน่า เรื่องอื่นเธอก็ฟังไม่เข้าใจสักประโยค