ตอนที่ 226 ตามหาความจริง เปิดโปงทุกสิ่ง
โรงพยาบาลอีกแล้ว แล้วก็เป็นโรงพยาบาลที่แอนน่าเคย นอนมากว่าสามร้อยวันอีกด้วย
เพียงแต่ครั้งนี้เธอมาในฐานะคนในตระกูล โดยมีแม่อยู่
ข้างๆ
อีกอย่าง มาจนถึงตอนนี้แอนน่าก็เพิ่งได้รู้ว่าที่แท้ได้มิ้นก็ เคยได้รับกระทบกระเทือนทางประสาทอย่างรุนแรงมาก่อน จนสมองแทบจะอยู่ในสภาพใช้การไม่ได้ และหากถูกสิ่งใด กระทบกระเทือนอีกครั้งล่ะก็ มันต้องปะทุออกมาแน่ๆ โรคประสาททางสมองแบบนี้ แทบจะไม่มีวิธีรักษาใดๆ เลย ด้วยซ้ำ
“แอนน่า ตอนนี้อาการของคุณป้าดีขึ้นแล้วล่ะ ที่นี่มี ศัลยแพทย์ทางประสาทที่ดีที่สุดเลยนะ คุณป้าต้องไม่เป็น อะไรแน่” ตู้หลิงเซวียนบีบไหล่ของแอนน่าเบาๆ เขาเองก็ อยากที่จะสนับสนุนแล้วช่วยเหลืออะไรเธอได้บ้าง แต่แอนน่า กลับลุกขึ้นยืน เพื่อปัดแขนของเขาออก
“พ่อคะ สรุปว่าอาการของแม่เป็นยังไงบ้างคะ?” แอนน่า แทบไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับอาการของ ได้มิ้นเลย เพราะไม่ว่าจะเป็นเฉียวหย่วนฟานหรือว่าได้มิ้น ก็ ไม่เคยบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน
เฉียวหย่วนฟานเห็นว่าไม่อาจปิดบังได้อีกต่อไป จึงหันไป พูดกับตู้หลิงเซวียน “กลับไปก่อนเถอะนะเควิน ที่นี่ไม่เป็น อะไรแล้วล่ะ”
ตู้หลิงเซวียนเห็นว่าเรื่องที่เฉียวหย่วนฟานจะพูดกับแอน น่านั้น เขาไม่สมควรที่จะอยู่ฟังด้วย จึงหันไปมองทางเฉียว หย่วนฟานด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนจะเดินจากไป
“หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ให้เรียกผมได้เลยนะครับ ผมจะ รออยู่ข้างนอก” หลังจากเขาเดินจากไป ในห้องผู้ป่วยก็เหลือเพียงได้มิ้นที่
ยังนอนไม่ได้สติ กับสองพ่อลูกตระกูลเฉียวเท่านั้น
ในที่สุดแอนน่าก็อดทนเก็บไว้ไม่ไหว ไม่ว่าเฉียวหย่วน ฟานจะพูดความจริงหรือไม่ เธอต้องถามให้ชัดแจ้งไปเลย
“พ่อคะ มันมีเรื่องเกิดตั้งมากมาย ไม่ว่าหนูจะคิดยังไงหนูก็ ไม่เข้าใจได้โปรดพ่อช่วยอธิบายให้หนูฟังเถอะนะคะ” แอน น่ารินน้ำชาให้ เฉียวหย่วนฟาน ที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาแก้วหนึ่ง ด้วยน้ำ เสียงที่ไม่ได้ดูแข็งกร้าวมากนัก แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความ แน่วแน่ ในการอยากได้คำตอบกลับไป
เฉียวหย่วนฟานกลับรู้สึกได้ว่า แก้วซาในมือของตัวเองนั้น มันดูราวกับมีน้ำหนักเป็นพันกิโลกรัม ถ้าหากได้มิ้นไม่ได้เกิด อะไรแบบนี้ขึ้น เรื่องพวกนี้ก็ยังคงปิดไปได้ต่อ แต่ดูจากวันนี้ แล้ว คงจะปิดต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ
“พ่อรู้อยู่แล้วล่ะ ว่าไม่ช้าก็เร็วลูกต้องถามพ่อ”
คำพูดที่ดูตรงไปตรงมาของเฉียวหย่วนฟาน ทำให้แอนน่า รู้สึกประหลาดใจหน่อยๆ นี่หรือว่าเขาคงจะไม่ได้คิดหาวิธีมา ปิดบังอีกใช่ไหม?
แอนน่านั่งอยู่ที่เก้าอี้ตรงข้ามเขา และถูกกั้นกลางไว้ด้วย โต๊ะตัวหนึ่ง ส่วนได้มิ้นก็กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง ที่ห่าง ออกไปเพียงสองเมตร ภายในห้องตอนนี้ เต็มไปด้วยความ เงียบสงัด
“พ่อบอกหนูก่อนสิคะ ว่าหนูเป็นใครกันแน่? หนูไม่ใช่แอน น่า ใช่ไหมคะพ่อ?” เธอพูดด้วย สีหน้าเรียบเฉย พยายามอดกลั้นความรู้สึกที่พรั่งพรูออกมา ไว้ในใจ เพื่อทำให้ตัวเองยังตูสุขุม
เฉียวหย่วนฟานพยักหน้า เขาเงยหน้าที่ดูเหนื่อยอ่อนขึ้น มอง เพราะค่ำคืนนี้ ใบหน้าที่ดูได้รับการบ่ำรุงรักษามาอย่าง ดีเปลี่ยนไปราวกับชราลงมาก “ใช่แล้วล่ะ ลูกไม่ใช่แอนน่า ลูกสาวของพวกพ่อหรอกนะ”
แอนน่ากำมือแน่น ถึงเธอจะเตรียมใจมาพร้อมแล้วก็ตาม แต่พอได้ยินเฉียวหย่วนฟานพูดยืนยันด้วยตัวเองแบบนั้น ทำให้แววตาของเธออดไม่ได้ที่จะเงียบขรึมลง “ทำไมถึงได้ หลอกหนูล่ะคะ?”
หากไม่ใช่แอนน่า ก็ต้องเป็นฉู่ลั่วหานแน่ๆ
เฉียวหย่วนฟานหันไปมองภรรยาของเขาเอง ที่กำลังนอน ไม่ได้สติอยู่บนเตียง ก่อนจะถอนหายใจดังเฮือก “ถ้าหากให้ พ่อพูด พ่อก็จะบอกว่าที่ทำไปก็เพื่อภรรยาของพ่อ ลูกจะเชื่อ หรือเปล่า?”
จะมีอะไรที่ไม่น่าเชื่อได้อีกล่ะ? เพราะสิ่งที่เธอพบเจอมาก็มี แต่เรื่องมหัศจรรย์ทั้งนั้น “หนูเชื่อค่ะ”
เฉียวหย่วนฟานวางแก้วชาลง เขาวางมือที่มีรอยกระเนื้อ ละเอียดๆ บนตัก ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ยิ่งทุ้มต่ำมากขึ้น “ลูกสาวของพวกพ่อที่ชื่อว่าแอนน่านั้น จริงๆ แล้วเป็น นักศึกษาศัลยกรรม ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แต่เมื่อสามปี ก่อน เกิดอุบัติเหตุแล้วก็เสียชีวิตไป..”
“.พ่อกลัวว่าภรรยาของพ่อจะรับไม่ได้ พ่อจึงเลือกที่จะ ปิดบังความจริงมาตลอด แต่ด้วยความที่เธอขี้สงสัยขี้ ระแวง…มันก็เลยเกิดภาพหลอน…ทำให้จิตได้รับการกระทบ กระเทือนอย่างหนัก ก็เลยกลายเป็นโรคเรื้อรัง พอพูดชื่อของ แอนน่ามาเมื่อไหร่ เธอก็จะสูญเสียการควบคุมไป จนมีอยู่ ครั้งหนึ่งที่ร้ายแรงที่สุด ถึงขนาดกระโดดลงมาจากตึกสูง จน ขาทั้งสองข้างหัก ก็อย่างที่ลูกเห็น เธอก็เลยนั่งรถเข็นมา ตลอด”
แอนน่าแทบพูดอะไรไม่ออก ยิ่งพอได้ยินน้ำเสียงทุ้มต่ำ ของเฉียวหย่วนฟาน ที่พูดออกมาอย่างเจ็บปวดเหลือทน
พร้อมทั้งเล่าเรียงเรื่องราวที่เจ็บปวดในใจ
“ต่อมา ตอนที่พ่อกำลังไปสำรวจที่แอฟริกา พ่อก็พบลูกตกจากหน้าผา ลูกในตอนนั้น ใบหน้าเละแทบจะ ไม่อยู่ในสภาพเดิม จนมองไม่ออกเลยว่าหน้าตาแบบไหน แต่รูปร่างของลูก กลับเหมือนกับของลูกสาวพ่อเลยไม่มีผิด ตอนที่พ่อไปพบลูกนั้น ลูกใส่ชุดคลุมยาวสีขาว จะยังไงพ่อก็ คิดไม่ถึงเลย ว่าลูกเองก็เป็นหมอเหมือนกัน..
เฉียวหย่วนฟานหยุดพูดไป เรื่องราวต่อจากนั้น เขาคงไม่ จำเป็นต้องเล่าละเอียด เพราะเขาเชื่อว่าเด็กที่ฉลาดอย่างเธอ ก็น่าจะรู้อยู่ก่อนแล้ว
แอนน่าแทบไม่อาจบอกความรู้สึกในใจตอนนี้ได้เลย เธอ รู้สึกเพียงแค่ลำคอแห้งผาก แต่ก็ยังพยายามพูดออกมาด้วย เสียงแหบแห้ง จนรู้สึกเจ็บที่ลำคอ “ดังนั้น ตอนที่หนูไม่ได้สติ พ่อก็เลยให้คนมาเปลี่ยน โฉมหนู ให้กลายเป็นอย่างลูกสาว พ่อยังงั้นหรือ?”
เฉียวหย่วนฟานพยักหน้า “ตอนแรก พ่อก็ไม่ได้คิดจะทำ แบบนั้นหรอก แต่หมอบอกกับพ่อว่า สมองของลูกได้รับ การกระทบกระเทือนอย่างหนัก ทำให้ตอนตื่นอาจจะจำอะไร ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ…ตอนนั้น…ตระกูลเฉียวก็กำลังประสบ ปัญหาวิกฤตการเงินอยู่พอดี…” พอพูดถึงตรงนี้ เขาก็ถอนหายใจดังเฮือก “ตลอดชีวิตของ พ่อ พ่อเป็นคนที่จิตใจกว้างขวาง และตรงไปตรงมา แต่เพื่อ ธุรกิจของตระกูลเฉียว พ่อจึงได้ทำเรื่องๆ หนึ่งที่ผิดพลาด และไม่อาจจะย้อนกลับไปแก้ไขได้ โดยการใช้ประโยชน์จาก ลูก แล้วไปบอกเควินว่าลูกคือแอนน่า…”
แอนน่าเอามือหยิกชายเสื้อไว้แน่น ก่อนจะปิดตาปี ในใจ ของเธอตอนนี้ มีอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลายวนเวียนไป มา ชั่วขณะนั้น มันรู้สึกเจ็บปวดจนตัวเกร็งไปหมด แต่ความ เจ็บปวดนั้น กลับไม่มีใครที่สามารถปลดปล่อยมันออกไปได้ อีกทั้งเมื่ออยู่ต่อหน้าเฉียวหย่วนฟานแบบนี้ แม้กระทั่งจะ
ต่อว่าก็ยังทำไม่ได้เลย
“เควินเป็นคนดูแลเรื่องเงินทุนของตระกูลตู้ จากนั้นเขาก็ เป็นคนดึงบริษัทเฉียวซื่อกรุ๊ปกลับมา ขณะเดียวกัน พ่อก็ได้ ให้สัญญากับเขา ว่าจะให้แอนน่าได้แต่งงานกับเขาแน่ๆ”
เป็นเพราะไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองใช่ไหม จึงได้ยอม ปล่อยไปง่ายๆ แบบนี้?
“แล้วเควินล่ะคะ? เขารู้เรื่องสถานะจริงๆ ของหนูหรือ เปล่า?” แอนน่ารีบถามขึ้น เฉียวหย่วนฟานตอบ “เควินซอบแอนน่าอย่างมาก แต่แอ นน่าแทบไม่ได้สนใจอะไรเขาเลย ดังนั้นทั้งสองคนจึงไม่ค่อย สนิทกันมากเท่าไหร่นัก หากจะพูดว่าสนิทล่ะก็ ก็คงเป็นตอน หลังจากที่ลูกตื่นมาช่วงนั้น เพราะฉะนั้นแล้ว…พ่อเองก็ไม่รู้ เหมือนกันว่าเขาจะรู้หรือเปล่า”
พอเฉียวหย่วนฟานพูดจบ เขาก็พูดเสริมขึ้นมาอีกว่า “หรือ ไม่บางที คนที่เควินชอบในตอนนี้ อาจจะไม่ใช่แอนน่า ลูกสาวของพ่อแล้วก็ได้นะ แต่กลับเป็นลูกมากกว่านะ”
หญิงสาวที่นั่งอยู่ในห้องผู้ป่วย ที่เติบโตมาพร้อมกับ ใบหน้าของแอนน่า ในตอนนี้พลันยิ้มขึ้น เธอรู้สึกได้ว่าตัวเอง ตกเข้ามาเป็นของเล่นที่ไร้สาระที่สุด มันเหลวไหลเสียจนไม่รู้ ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
เฉียวหย่วนฟานเอามือยันหัวเข่าเพื่อลุกขึ้นยืน “ขอโทษ ด้วยนะ…ตอนนี้พ่อก็ได้เล่าความจริงให้ฟังหมดแล้ว…ไม่ได้ หวังว่าลูกจะให้อภัยพ่อหรอก เพียงแต่…ลูกเองก็เป็นเด็กที่ดี เป็นเพราะพ่อมีบุญวาสนาน้อยเท่านั้น ที่พ่อไม่อาจจะเป็นพ่อ ให้ลูกได้”
แอนน่าปิดตา พร้อมด้วยริมฝีปากที่สั่น เทิ่ม พลันน้ำตาเม็ดใสๆ ก็ร่วงรินลงมาจากขอบตา จนอาบ แก้มทั้งสองของเธอจนเปียกปอน
เมื่อได้รู้คำตอบกับความจริงแล้ว ไม่ว่าจะยังไงเธอก็คงจะ ทำใจให้ร่าเริงไม่ได้ เฉียวหย่วนฟานที่มีอายุกว่าครึ่งร้อยที่ ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ ทุกคำเขาพูดด้วยความจริงใจ ไม่มี การปิดบังและเย้ยหยัน และยังเป็นคนเปิดเผยจนทำให้เธอ รู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมา
“ถ้าอย่างนั้น หนูเป็นใครกันแน่ล่ะคะ?” แอนน่าเงยหน้า ขึ้น ชั่วขณะที่กำลังเงยหน้านั้นเอง น้ำตาก็พรั่งพรูออกมาอีก ระลอก จนใบหน้าของเธอมีแต่คราบน้ำตา ที่เปื้อนไปทั้ง ใบหน้าที่ขาวผ่องของเธอ
เฉียวหย่วนฟานได้ยินก็กำมือแน่น พร้อมทั้งหลุบตาลง “ขอโทษด้วยนะ พ่อเองก็ไม่รู้เหมือนกัน…”
แอนน่าที่ได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วแน่น ไม่รู้ยังงั้นหรือ?
ถ้าหากเธอกลายเป็นภรรยาของหลงเซียว ด้วยอำนาจที่ หลงเชียวมีอยู่ตอนนี้ จะไม่สามารถออกข่าวประกาศตามหา ที่อยู่ของเธอทั่วทั้งโลก นี่ได้ยังไงกันล่ะ? นี่เขาไม่รู้จริงๆ งั้นหรือ?
แอนน่าเองก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินก้าวไปหยุดอยู่ข้างๆ เฉียวหย่วนฟานอย่างช้าๆ มันก็นานมาแล้ว ที่เธอเคารพเขา ในใจเธอเองก็ถือว่าเขาเป็นพ่อของเธอไปตั้งนานแล้ว มา ตอนนี้ที่ได้เปิดเผยเรื่องราวทุกอย่าง ช่องว่างระหว่างทั้งสอง ก็เหมือนจะเริ่มกว้างใหญ่ขึ้น จนเกรงว่าไม่อาจจะสามารถ เป็นพ่อลูกได้อีกต่อไป
“ถ้าหากพ่อไม่รู้งั้นหนูจะบอกพ่อไว้แล้วกันนะ…หนูเป็น ภรรยาของหลงเซียว ถึงแม้หนูจะไม่มีความทรงจำอะไรอยู่ เลย เพราะได้รับอิทธิพลทั้งหมดมาจากแอนน่า แต่สายเลือด ของหนูก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง หนูคือภรรยาของหลงเชียว หนูคือคู่ลั่วหาน”
ถึงคำพูดจะดูนุ่มนวล แต่กลับแฝงไปด้วยความแข็งแกร่ง แอนน่ายื่นมือออกมาจับมือที่กำลังสั่นเทิ่ม ด้วยความตื่น ตกใจของเฉียวหย่วนฟานเอาไว้ ตาทั้งคู่ประสานมองกัน พลันเธอก็เห็นความตื่นตระหนก ที่อยู่ในแววตาของเฉียว หย่วนฟาน เพียงชั่วประเดี๋ยวเดียวนั้น ร่างกายของเขาก็แข็ง ที่อไปทันที!
หลงเซียว…เป็นสองคำที่ราวกับสายฟ้าฟาดลง มาไม่ปาน!
เฉียวหย่วนฟานนิ่งตะลึงแบบนั้นอยู่นาน โดยที่ไม่ได้พูด และขยับอะไรเลย!
เขาคิดว่าเธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาเท่านั้น แต่ ทำไม….ทำไมถึงไปมีความสัมพันธ์กับหลงเชียวคนนั้นได้?!
หลงเชียว…หากเขาลงมือล่ะก็ บริษัทเฉียวชื่อต้องประสบ ภัยพิบัติครั้งใหญ่แน่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขาเลยด้วยซ้ำ
“พ่อวางใจเถอะค่ะ หลงเชียวไม่มีทางจะทำอะไรกับบริษัท เฉียวชื่ออยู่แล้ว เพียงแต่ ในเมื่อความจริงถูกเปิดเผยออกมา แล้ว หนูก็คงไม่สามารถจะแต่งงานกับเควินได้หรอกนะคะ”
เฉียวหย่วนฟานเพิ่งจะตะลึงไปหยกๆ นี้เอง แต่พอได้ยิน แอนน่าพูดปฏิเสธเรื่องแต่งงาน อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร ทำให้ หลังมือของเขาราวกับมีเส้นเลือดปูดออกมา ขาของเขาเองก็ อ่อนยวบลง ก่อนจะเซล้มลงบนโซฟาอย่างหนักหน่วง
“แล้วลูก..จะกลับมาที่ประเทศจีนไหม?” เขาน่าจะคิดออก ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ว่าไม่ควรให้เธอกลับประเทศจีน แอนน่าพยักหน้าพร้อมทั้งส่ายหน้าไปด้วย “ถึงแม้ว่าพ่อจะ ไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของหนู แต่พ่อก็ทำดีกับหนูไว้มาก แถมยังมี ความจริงใจให้หนู หนูคงไม่อาจทิ้งบริษัทเฉียวชื่อไปได้ หรอกค่ะ และก็คงไม่อาจจะยืนมองดูบริษัทล้มละลายไปด้วย พ่อวางใจเถอะนะคะ หนูจะทำอย่างสุดความสามารถ ให้สม กับในฐานะลูกสาวของพ่อนะคะ”
เฉียวหย่วนฟานจ้องมองแอนน่า อย่างไม่เชื่อสายตาตัว เอง อีกทั้งยังรู้สึกประหลาดใจ จนแทบไม่อาจจะพูดออกมา เป็นคำได้
แต่แอนน่ากลับยิ้ม แล้วพูดด้วยหัวใจที่รู้สึกสดชื่นขึ้น “ถ้า หากหนูบอกว่าหนูไม่ใช่แอนน่า แล้วแม่จะเป็นยังไงล่ะคะ? หนูจะทำตัวใจร้าย ทำให้แม่เสียลูกสาวไปอีกครั้งได้ยังไง กัน?”
พลันดวงตาของเฉียวหย่วนฟานก็เบิกโพลง เขารีบลุก พรวดขึ้นมาจากโซฟา ก่อนจะกำมือของแอนน่าไว้แน่น “ลูก…ลูกยอมเป็นลูกสาวของพ่อต่องั้นหรือ? ลูกยอมจริงๆ หรือ?”
แอนน่าหลับตาลง “อย่างน้อยก่อนหน้าที่แม่จะฟื้นฟูกลับ มาได้ หนูก็ยังเป็นลูกสาวของทั้งพ่อและแม่อยู่ล่ะค่ะ แต่เรื่อง แต่งงานกับเควิน หนูคงต้องขอยกเลิกไปนะคะ พ่อวางใจเถอะ หนูไม่มี เกี่ยวข้องอะไรกับเขาถึงขนาดนั้น แล้วหนูก็มีวิธีทำให้บริษัท เฉียวชื่อ กลับมาสงบสุขไม่มีปัญหาใดๆ เลยค่ะ”
เฉียวหย่วนฟานพยักหน้า ก่อนจะบ่นพึมพำขึ้น “ดีแล้ว…ลูก…การที่ลูกเป็นภรรยาของหลงเชียว แล้วยอมมา ช่วยบริษัทเฉียวชื่อแบบนี้ ก็คงจะไม่มีอะไรไม่คาดฝันเกิดล่ะ
นะ”
แอนน่ายกมือเช็ดน้ำตา ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก “พ่อ อยู่ดูแลแม่ก่อนนะคะ หนูยังมีเรื่องที่อยากจะพูดกับเควินอยู่ หนูขอตัวก่อนนะคะ”
เฉียวหย่วนฟานพยักหน้ารับ “โอเค..ขอบคุณมากนะ คุณ ไม่สิ..ต้องเรียกว่าคุณนายหลงแล้วสินะ”
แอนน่าไม่อยากจะซักถามอะไรมากมาย ส่วนการแก้ไข กรุ๊ปเลือดค่อยถามเอาแล้วกัน เธอเองก็ไม่อยากที่จะไปซักใช้ อะไรคนแก่มาก
หลังจากเดินออกมา ยังไม่ทันที่จะยืนได้ดี จู่ๆ เควินก็พุ่ง เข้ามาโอบไหล่ของแอนน่าเอาไว้ “แอนน่า… หญิงสาวที่กำลังถูกโอบอยู่ในอ้อมกอดของเขา ก็ยิ้มบางๆ “เควิน นี่คุณรู้อยู่ก่อนแล้ว ใช่ไหม?”
เควินนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าลงมองเธอ “นี่คุณพูด อะไรนะ?”
แอนน่าดิ้นออกจากอ้อมแขนของเขา ก่อนจะพูดด้วย ใบหน้าเรียบเฉย “คุณรู้ตั้งนานแล้วใช่ไหมว่าฉันไม่ใช่แอน น่า ด้วยคนที่ฉลาดแบบคุณ คุณคงไม่ใช่ว่าแม้แต่ผู้หญิงที่ คุณชอบเปลี่ยนไป แล้วคุณจะไม่รู้สึกถึงเลยนะ”
แววตาของเควินดูหลุกหลิกไปมา ก่อนจะเข้าใจได้ทันที
“นี่คุณ…”
“ฉันรู้หมดแล้วล่ะค่ะ ถ้าหากฉันเดาไม่ผิด คุณไม่เพียงแต่รู้ ว่าฉันไม่ใช่แอนน่าเท่านั้น แต่คุณยังรู้ถึงความสัมพันธ์ของ ฉันกับหลงเชียวด้วยอีก ถูกไหมคะ?”
พลันแอนน่าก็พูดขึ้นต่อทันที โดยไม่รอให้เควินได้ตอบ “พ่อฉันบอกว่า เขาไม่ได้เห็นข่าวอะไรเกี่ยวกับฉันที่อเมริกา เลย ฉันก็เลยคิดว่า มันก็ต้องเป็นฝีมือของคุณแน่ๆ เลยใช่ ใหม? ด้วยอำนาจที่คุณมี การจะปิดข่าวการตามหาคน มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย”
ทันใดนั้นเควินก็รู้สึกเหมือนตัวเองถูกมองจนทะลุปรุโปร่ง
สายตาของเธอราวกับแสงอาทิตย์ ที่ส่องทะลุผ่านดวงตา ของเขา จนกระทั่งเข้าไปถึงวิญญาณลึกภายใน
“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไม คุณถึงต้องช่วยเขาสร้างแอนน่าขึ้น มาอีกคนด้วย แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไม ถึงแม้ว่าคุณจะรู้ว่าฉัน ไม่ใช่แอนน่า แต่ก็ยังจะแต่งงานกับฉัน แต่สิ่งที่ฉันยืนยันได้ แน่นอนก็คือ…เป้าหมายที่คุณจะแต่งงานกับแอนน่า ต้องไม่ บริสุทธิ์แน่ๆ”
แอนน่าพุ่งตรงประเด็นโดยไม่อ่อนข้อให้แม้แต่นิด ทำให้ ใบหน้าที่ดูดีของเขา พลันเปลี่ยนสีหน้าไปหลายต่อหลาย
รอบ
เควินค่อยๆ โอบไหล่ของเธอไว้เบาๆ พร้อมด้วยแววตาที่ เต็มไปด้วยเส้นเลือด ที่มองไปยังใบหน้าของหญิงสาวด้วย ความกระสับกระส่าย และร้อนรนใจ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียง ที่หนักอึ้ง จนสามารถได้ยินความเจ็บปวดที่เขาอดกลั้นเอาไว้ “มีอยู่เรื่องหนึ่งที่คุณพูดผิดไปนะ ผมรัก แอนน่ามากที่สุดกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ ถึงแม้ว่าเสียง ของเธอจะเปลี่ยนไป หรือความทรงจำของเธอจะเปลี่ยนไป หรือจะเปลี่ยนไปทั้งหมดก็ตามแต่ ขอเพียงแค่ได้เห็นเงาหรือ ภาพจางๆ ผมก็จะรักสุดหัวใจไม่ว่าจะเป็นแอนน่าคนก่อน หรือว่าคุณในตอนนี้ ตัวผมเองก็ยังแยกไม่ออก แต่ผมก็รักไป แล้ว ไม่ว่าเป็นใครก็ตาม…สัญญากับผมสิ อย่าจากผมไป ไหนเลยนะ แต่งงานกับผม ได้ไหม?”
เควินกับหลงเชียวนั้น ช่างไม่เหมือนกันเลยจริงๆ
น้ำเสียงแกมอ้อนวอนของฝ่ายชาย ราวกับมือที่ยื่นออกมา จากนรก เพื่อรอคอยความช่วยเหลือจากเธอถ้าหากเธอไม่ เอื้อมมือออกไปล่ะก็ เขาก็คงจะตกลงไปท่ามกลางหุบเหวที่ กว้างใหญ่ไพศาลแน่ๆ
แต่…เธอทำไม่ได้จริงๆ
หากเธอเอื้อมมือออกไปล่ะก็ เธอก็คงจะหันกลับมาไม่ได้
แล้ว
“ขอโทษนะคะ…” แอนน่าแกะมือของเขาออก พร้อมทั้ง ถอดแหวนที่สวมไว้เมื่องานเลี้ยงก่อนหน้า นั้น แหวนเพชรวงนั้นส่องประกายสว่างเจิดจ้าออกมาจนแสบ ตา โดยเฉพาะตู้หลิงเซวียน
ทันทีที่เขาได้ยินแบบนั้น หลังของเขาก็กระตุกขึ้นอย่างแรง “นี่คุณ…คุณจะทำอะไรน่ะ?”
เธอนำแหวนวงนั้นใส่ไว้ในมือของตู้หลิงเซวียน จากนั้นก็ ห่อมือของเขาเอาไว้ “ขอบคุณที่คุณชอบฉันนะ แต่ ฉันเป็น ภรรยาของหลงเซียว ฉันมีสามีแล้วนะคะ”