ตอนที่ 256 ชมเกินไปแล้ว คุณนายหลง
คฤหาสน์ส่วนตัวของ
แขนเสื้อเชิ้ตที่ขาวสะอาดของหลงเซียวม้วนขึ้นมา เป็นรอยพับอยู่ที่ บริเวณข้อพับแขน เผยให้เห็นท่อนแขนช่วงล่างที่กำยำและสันทัด เขา หยิบมะเขือเทศสีแดงสดสองลูกออกมาจากตู้เย็น เตรียมทำมะเขือเทศ ผัดไข่ให้กับภรรยาสุดที่รักของเขา
เพิ่งจะนั่นมะเขือเทศเสร็จไปลูกหนึ่ง โทรศัพท์มือถือของท่านก็ ขึ้นมา
มองเห็นเบอร์โทรศัพท์ที่อยู่บนหน้าจอ ท่านเซียวเลื่อนเปิดรับสาย นำโทรศัพท์คาไว้ที่ระหว่างหูและไหล่ เอียงศีรษะรับสายไปด้วยผัก ไปด้วย เรื่องอะไร?
กู้เยนเซินกำลังขับรถไปที่ท่าเรือ มักจะรู้สึกว่าตัวเองไปแบกรับ ภารกิจสำคัญค่อนข้างที่จะได้รับความไม่เป็นธรรม ไม่ยอมแล้วจริงๆที่ หลงเซียวอยู่บ้านเป็นเพื่อนภรรยาได้อย่างสบาย
คุณชายใหญ่หลง กระผมกำลังอยู่ระหว่างทางที่จะไปท่าเรือ แก ไม่มีอะไรที่อยากจะพูดกับฉันสักหน่อย? คราวนี้ฉันไปบุกน้ำลุยไฟเพื่อ แกโดยเฉพาะเลยนะ แกไม่ควรมีการแสดงออกอะไรสักหน่อยหรอ?”
ท่านเซียวลงมีดหั่นผักอย่างสม่ำเสมอกัน ขมวดคิ้วพร้อมกับเอ่ยขึ้น อย่างไม่แยแสว่า แสดงออก? ฉันแสดงออกว่าน่าชื่นชมมาก”
ทวดแกสิพูดประโยคที่น่าฟังหน่อยได้หรือเปล่า? ตอนนี้ฉันจะไป ตั้งค่ายประชันกับเหลียวไอ้สารเลวนั้น รู้สึกกลัดที่น่าฟังน่ะไม่มี หลังจากที่เรื่องสำเร็จอยากจะเอากี่สิบเปอร์เซ็นแก
เอาไปได้ตามสบาย”
ท่านเซียวไม่ชอบการอ้อมค้อมไม่จริงใจ เอาสิ่งของมาพูด ที่ผ่านมา เขาไม่ทางด้านการเงินมาโดยตลอด
กู้เยนเสียงที่สะท้อนออกมาจากโทรศัพท์วิเคราะห์อย่าง ละเอียดอยู่ครู่หนึ่งอย่างไม่กล้าที่จะเชื่อ โปรดให้อภัยที่เขาไม่รู้ เสียงนี้ ฟังดูท่าไมถึงได้คุ้นหูขนาดนั้น?
“เดี๋ยวก่อน คุณชายใหญ่หลง นี่คุณท่านกำลังทำอะไรอยู่ขอรับ?”
ดูเหมือนกำลังนั่นผัก?
คุณชายใหญ่หลงคงไม่ได้อยู่ที่ห้องครัวหรอกกระมัง? จ้องฉู่ลั่วหา
นทำกับข้าว?
ไม่ถูก ไม่ค่อยน่าจะเป็นไปได้หรอกล่ะมั้ง? นิสัยของหลงเซียวเจ้า หนุ่มคนนี้ เขาเข้าใจดีเหลือเกิน ไม่ต้องพูดถึงว่าทำอาหาร คนที่รัก ความสะอาดมากจนเกินเหตุจนถึงระดับวิกลจริตแบบเขา ได้กลิ่นควัน น้ำมันก็ยังจะพะอืดพะอมไปครึ่งค่อนปี
หลงเซียวนำมะเขือเทศที่นั่นเสร็จแล้ววางลงไปในภาชนะแก้วใส “ฝึกทักษะการใช้มีด”
“ทัก…ทักษะการใช้มีด? มีดอะไร? ตอนนี้ไม่เล่นปืน เปลี่ยนมาเล่น มีดแล้ว? รสนิยมพิเศษมากเลยนะ” กู้เยนเซินไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดว่า หลงเซียวนั่นผักอยู่ที่บ้าน ให้ตายก็ไม่เชื่อ เขายอมเชื่อว่าหลงเซียว เปลี่ยนอาวุธมาเป็นมีดใหญ่ยังจะดีกว่า!
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? มีดก็คล่องมือดีเหมือนกัน”
ไม่เช่นนั้นทำไมถึงนั่นผักได้อย่างเล็กใหญ่สม่ำเสมอกันขนาดนี้ล่ะ?
กู้เยนเซินพยักหน้า “แกสุดยอด! ไม่ว่าแกจะเล่นอาวุธอะไร ฝึก ทักษะอะไร ต่างก็ยอดเยี่ยมไปหมด แกมันก็คือวิปริต! ”
แข็งแกร่งจนวิปริต
หลงเซียวเตรียมผัดอาหารแล้ว “ยังมีธุระอะไรอีกหรือเปล่า? หาก ไม่มีธุระราชการ ก็ตั้งใจขับรถของแกไป”
ระยะทางนี้ของกู้เยนเซินยาวไกลมาก ระหว่างทางเบื่อไม่มีอะไรทำ ไม่ง่ายเลยที่จะจับท่านเซียวมาคลายความเบื่อหน่ายได้ แน่นอนว่าไม่ อาจทำใจที่จะวางสายลง “อย่าสิ คุยเป็นเพื่อนฉันอีกสองสามนาที ฉัน ขับรถรู้สึกง่วงนอน” “ฉันมีธุระ”
“ธุระอะไรจะยังสำคัญกว่าฉันได้? อีกสักพักค่อยทำ”
“เรื่องสำคัญ รอไม่ไหว”
พูดจบ ท่านเซียวก็วางสายลง
เวลาที่ลั่วลั่วจะกลับบ้านใกล้จะถึงแล้ว เขาจะต้องให้ตอนที่เธอกลับ มานั้นได้มองเห็นอาหารร้อนกรุ่นที่เสิร์ฟอยู่บนโต๊ะอาหาร แน่นอนว่าไม่ อาจจะเสียเวลาคุยเล่นเป็นเพื่อนกู้เยนเซินได้
ลั่วหานเปิดประตูเข้าไปในบริเวณทางเข้า ได้กลิ่นของอาหารมาแต่ ไกล ในใจรู้สึกเซอร์ไพรส์ สะบัดรองเท้าส้นสูงออกเปลี่ยนเป็นรองเท้า ใส่ภายในบ้านวิ่งไปทางห้องครัว “หลงเซียว คุณกำลังทำอาหารหรอ คะ?”
หลงเซียวเพิ่งจะตักอาหารใส่ลงไปในจานเสร็จ มะเขือเทศผัดไข่ที่ บ้านๆ ที่สุดง่ายที่สุดใส่ใจที่สุด เขาทำได้คล่องมือมากขึ้นเรื่อยๆ “กลับ มาพอดี อาหารที่คุณชอบเสร็จแล้ว”
ลั่วหานมองดูจานอาหาร ไข่ที่สีเหลืองส้มกับมะเขือเทศที่สีสัน สวยงามแทรกซึมผ่านกันและกัน สีสันสดใส กลิ่นลอยเตะจมูกยังไม่ ได้กินก็อดไม่ได้ที่จะให้ระดับการประเมินที่สูงที่สุด
“สุดยอด! กลิ่นสีสมบูรณ์แบบ! เชฟใหญ่หลง ฉันอยากจะมอบ เหรียญรางวัลระดับห้าดาวให้กับคุณจริงๆค่ะ”
หลงเซียวถือจานอาหารจีวองชี่รุ่นที่ระลึกด้วยมือข้างเดียว ดวงตา
ล้ำลึกสีดำขลับมองลงไปที่ลั่วหาน ริมฝีปากบางที่เซ็กซี่ยกขึ้นเล็กน้อย
“เหรียญก็ไม่ต้องหรอก ผมอยากได้รางวัลที่เป็นจริงมากยิ่งกว่า”
“หม? “ลั่วหานเอียงศีรษะเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจ “รางวัลอะไรคะ?”
ร่างที่สูงโปร่งของท่านเชียวกดลงมาทางเธอ ริมฝีปากบางสองส่วน กลับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มๆที่มีสีชมพูอ่อนของเธอ ผสมรวมกับกลิ่น หอมของอาหาร ริมฝีปากที่อ่อนนุ่มของเธอก็ยิ่งหวานหอมมากยิ่งขึ้นไป
อีก มุมริมฝีปากของลั่วหานฉีกออกเป็นรอยยิ้มบางๆ ยิ้มอยู่บนริมฝีปาก ของเขา พอเธอยิ้ม การจูบก็จำเป็นจะต้องหยุดลงชั่วคราว
ดวงตาของหลงเซี่ยวหรี่ลงเล็กน้อย เอ่ยขึ้นอย่างแสร้งทำเป็นโกรธ “เป็นอะไรไป? รางวัลนี้ไม่ยินดีที่จะให้?”
ลั่วหานที่อยู่ภายใต้ร่างกายอดทนไม่ไหวแล้วจริงๆ หัวเราะคิกคักส่ง เสียงออกมา “หา? ไม่ใช่ๆค่ะ คุณหลง คุณเปลี่ยนเป็นรีบร้อนขนาดนี้ ตั้งแต่เมื่อไรกันคะ? ฉันจำได้ว่าในตำนานของโลกภายนอก คุณหลง ประธานบริษัทMBK ระยะหลังนี้รักษาระยะห่างจากเพศหญิง”
หลงเซียวใช้มือข้างเดียวโอบช่วงเอวของเธอเอาไว้ ร่างกายยังคง กดทับลงไปด้านล่าง รู้จักใช้แผ่นอกของตนเองแนบเข้ากับเธอ “มีด้วย หรอ? ถ้างั้นโลกภายนอกจะต้องไม่รู้อย่างแน่นอนว่า ผมรักษาระยะ ห่างจากเพศหญิง อนุรักษ์ร่างกายดุจดังหยก ต่างก็เพื่อนำพลังและ ความเร่าร้อนทั้งหมดเก็บไว้ให้กับคนๆนึง”
เก็บไว้ให้กับผู้หญิงคนนั้นที่เรียกว่าคุณนายหลง
หัวใจของลั่วหานถูกค่าหวานของเขาทำให้อบอุ่นจนแทบจะระเหย ไป แต่กลับเบ้ปากไม่สนใจ สองมือแย่งอาหารที่ร้อนกรุ่นมาจากมือของ เขา “ถ้างั้นคุณหลงก็นำความเร่าร้อนเก็บไว้ให้กับคนๆนั้นก็พอแล้วค่ะ ฉันขอเพียงแค่ได้ทานอาหารก็พอ! ”
หลงเซียวอุทานออกมาอย่างหมดหนทางที่จะแก้ไข “ที่แท้น้ำหนัก ของผมที่อยู่ในใจของคุณยังสู้อาหารจานหนึ่งไม่ได้”
สายตาที่ส่องสะท้อนความฉลาดแกมโกงของลั่วหานเผยความ อบอุ่นออกมา “นั่นก็ไม่ใช่เช่นเดียวกันค่ะ พูดให้ถูกแล้วน้ำหนักของ คุณก็ยังหนักกว่าเยอะมาก หากไม่มีคุณ ใครจะทำอาหารที่อร่อย ขนาดนี้ให้ฉันล่ะคะ?”
“คุณมันยัยวายร้ายตัวน้อย” หลงเซียวถูกลั่วหานแอบประชดประชัน สองมือนำหญิงสาวกอดเข้ามาไว้ในอ้อมแขนอย่างไม่ยอม สองมือล็อก ช่วงเอวของเธอเอาไว้ หญิงสาวจึงได้แต่ตัวอ่อนอยู่ในอ้อมแขนของเขา อย่างนิ่งๆ คางที่ศีรษะของเธอเอาไว้ ท่านเซียวเอ่ยขึ้นเบาๆว่า “ตอนนี้ล่ะ?”
ลั่วหานหันศีรษะบิดคอกลับไปมองเขา เขย่งปลายเท้าขึ้น ใช้ริม ฝีปากของตนเองสัมผัสที่คางของเขา เพราะแรงกดดันจากความสูงที่ แตกต่างกันมาก เธอทำได้เพียงจูบถึงที่คางของเขา กระทบเบาๆ “ตอน นี้ เข้าใจแล้วสินะคะ”
นิ้วมือของเขาจิ้มลงไปบนสันจมูกของเธอเบาๆ “คุณนายหลง อาหาร จานแรกได้เสร็จแล้ว ต่อไปก็ส่งมอบให้กับคุณแล้วนะครับ”
“หา? ฉันยังต้องเข้าครัวอีกหรอคะ?”
“สมองนี้ฉลาดจริงๆด้วย คุณนายหลง เชิญครับ”
ลั่วหานเบ้ปาก “ฉันยังนึกว่าคุณทำเสร็จหมดแล้วซะอีก!
“ผมจะแย่งชิงโอกาสในการแสดงฝีมือการทำอาหารของภรรยาได้ ยังไงกันล่ะครับ”
ก็ได้! ผู้ชายที่หน้าเนื้อใจเสือน่ะนะ ตลอดชั่วนิรันดร์ก็อย่าไปคาด หวังให้เขาเปลี่ยนเป็นสะอาดบริสุทธิ์
หลังจากรับประทานอาหาร ทั้งสองคนเดินเล่นกันอย่างช้าๆที่ลาน บ้าน
“วันนี้ฉันถามฉู่ซีหรานแล้ว ตอนนี้หุ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทฉู่ซื่อ คือเงินเหลียว ในปีนั้นบริษัทฉูชื่อเกือบจะล้มละลาย คนที่รับซื้อหุ้น ของบริษัทฉู่ซื่อจำนวนมากอย่างลับๆก็คือเขา ไม่เพียงเท่านั้น เขายัง ซื้อคฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูลฉู่ คิดไม่ถึงจริงๆว่า เขาเล็งไปที่ตระกูล นุ่มาตั้งนานแล้ว”
ลั่วหานคิดมาถึงตรงนี้ก็เต็มไปด้วยความแค้นเคือง เสิ่นเหลียวไอ้ สารเลวนี่ วางแผนได้อย่างรอบด้านมากพอจริงๆ !
ใครจะรู้ว่า หลงเซียวกลับพยักหน้าอย่างใจเย็นนิ่งเฉย “ผมรู้
ลั่วหานเงยหน้ามองดวงตาที่ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆของเขา “คุณ รู้? คุณรู้ได้ยังไงกันคะ?” หลงเชียวจูงมือของเธอเอาไว้ เหยียบบนทางเล็กๆที่ปูด้วยหินกรวด ทะลุผ่านพุ่มดอกไม้ที่กว้างใหญ่ มีก้านดอกไม้พาดผ่านจากบ่นไหล่เป็น ครั้งคราว นำมาซึ่งกลิ่นหอมอ่อนๆ “ผมเคยตรวจสอบเสิ่นเหลียว แน่นอนว่าก็เคยตรวจสอบบริษัทจู่ซื่อเช่นเดียวกัน”
“ตรวจสอบเมื่อไรกันคะ?”
“หลังจากที่บริษัทฉู่ซื่อปรับเปลี่ยนหุ้นส่วนก็ตรวจสอบจนชัดเจน แต่ ในตอนนั้นเสนเหลียวแทรกมือเข้าไปในบริษัทฉู่ชื่อผมกลับไม่ได้ใส่ใจ นักธุรกิจของเขาแพร่ขยายไปทั่วโลก การขยายอาณาเขตธุรกิจรับ ซื้อบริษัทคือเรื่องที่เห็นได้ทั่วไป แต่ช่วงก่อนหน้านี้ตอนที่ผมตรวจสอบ เสิ่นเหลียวเพิ่งจะค้นพบว่า ระหว่างเขากับบริษัทฉู่ชื่อไม่ได้ง่ายขนาด นั้น”
นัยน์ตาของลั่วหานสะท้อนแสงสว่างขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หยุดฝีเท้า ลงพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น “พูดเช่นนี้ คุณรู้ว่าตอนนี้เสิ่นเหลียวใช้บริษัทฉ ชื่อทำธุรกิจอะไรหรอคะ?”
หลงเซียวพยักหน้า “เสิ่นเหลียวมีธุรกิจจำนวนหนึ่งที่เป็นด้านมีด เขา ต้องการบริษัทเปลือกนอกบริษัทหนึ่งเพื่อช่วยตนเองในการฟอกเงิน เหตุผลที่บริษัทฉู่ซื่อดำเนินการได้อย่างราบรื่นตั้งแต่ที่เขารับช่วงจนมา ถึงตอนนี้ ไม่ใช่เป็นเพราะธุรกิจภายใน แต่เป็นเพราะมันคือเปลือกนอก ที่ว่างเปล่ามาตั้งนานแล้ว”
ฉ่ลั่วหานเข้าใจขึ้นมาในทันที “ฉันก็รู้ว่าต้องเป็นแบบนี้! คิดไม่ถึงว่าเสิ่นเหลียวจะใช้บริษัทฉู่ซื่อฟอกเงินสกปรก! ไอ้ สารเลว!
หลังจากที่ได้ข้อสรุป ลั่วหานสังเกตสายตาของหลงเซียวอย่าง ละเอียด “ฮัลโหล ในเมื่อคุณตรวจสอบชัดเจนมาตั้งนานแล้ว ทำไมถึง ไม่บอกกับฉันคะ? ฉันยังตั้งใจไปหาฉู่ชีหรานโดยเฉพาะ”
หลงเซียวกลับมีเหตุผลขึ้นมามากยิ่งขึ้น โอบช่วงเอวของเธอเดินต่อ ไป “ผมจำได้ว่ามีคนเคยพูดเอาไว้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างของบริษัทฉู่ซื่อ เธอรับผิดชอบ ในเมื่อมีคนพูดโดยไม่คำนึงถึงความสามารถของตนเอง ผมจะไปกล้าแทรกมือได้ยังไงกันล่ะครับ?”
“ทีคุณหลง คุณนี่จริงๆด้วย! ”
“ชมเกินไปแล้ว คุณนายหลง”
ในขณะที่พูด โทรศัพท์ของท่านเซียวก็ดังขึ้น ยังคงเป็นกู้เยนเซินที่ โทรเข้ามา
“พูดมาเถอะ” น้ำเสียงของหลงเซียวปกติเป็นอย่างมาก ไม่เห็นว่ามี อะไรพิเศษ
“มีเรือลำหนึ่งจอดอยู่ที่ท่าเรือจริงๆด้วย แม่ง ของที่อยู่ด้านในไม่น้อย จริงๆ ใหญ่กว่าจำนวนตัวเลขที่ฉันคาดการณ์เอาไว้อีก คนของพวกเขา สิบเอ็ดโมงเข้ามา หากราบรื่นล่ะก็ประมาณเที่ยงฉันก็จะนำสินค้า ขนส่งไปยังท่าเรือของแกได้”
หลงเซียวตอบรับไปคำหนึ่ง “แกดูเอาก็แล้วกัน”
อะไรนะ?
กู้เยนเซินเรียกได้ว่าไม่กล้าเชื่อเนื้อหาที่ตนเองได้ยิน เรื่องใหญ่ ขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดอย่างหลีกเลี่ยงปัญหาที่สำคัญมาหนึ่ง ประโยคว่าแกดูเอาก็แล้วกัน?
ไม่ได้ผิดพลาดใช่หรือเปล่า?
“คุณชายใหญ่หลง นี่นะคืออาวุธยุทโธปกรณ์? ไม่ใช่หัวหอมผักกาด พริกแดงนะครับ” กู้เยนเซินสงสัยจริงๆว่าตัวเองจะฟังผิดไป
หลงเซียวจูงมือของภรรยาเอาไว้ เดินอย่างช้าๆภายใต้แสงจันทร์ “ฉันรู้ ดังนั้น แกลองดูเอา แล้วก็ หลังจากที่เสร็จเรื่องไม่ต้องโทรศัพท์ มาหาฉันแล้ว”
“หา?”
“เวลานั้น ฉันนอนหลับไปแล้ว”
“ห้ะ?! ”
“ทำไม? ไม่เข้าใจ?” กู้เยนเซินเลียริมฝีปากเล็กน้อย “แกกำลังทำอะไรอยู่นะ? จริงจัง หน่อยได้หรือเปล่า?”
“กำลังทำธุระราชการ สำคัญมาก ทางนั้นส่งมอบให้กับแกแล้ว ไม่ถึง กับชีวิตไม่ต้องมาหาฉัน”
“ฮัลโหล ? ฮัลโหล?”
ไม่ใช่มั้ง?! ก็วางสายลงแบบนี้นะหรอ?
ลั่วหานแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน “ใครคะ? ดึกขนาดนี้แล้ว โทรหาคุณมี
ธุระ?”
หลงเซียวนำโทรศัพท์มือถือปรับโหมดเป็นโหมดเครื่องบิน “เยนเซิน โทรเข้ามา เรื่องเล็กนิดหน่อย”
ยังดีที่กู้เยนเซ็นไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ ไม่เช่นนั้นได้ยินหลงเชียว
นำการลักลอบอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนกี่พันล้านพูดกลายเป็นเรื่อง เล็ก จะต้องกระอักเลือดตายอย่างแน่นอน อ่อ? เรื่องเล็กหรอคะ” ลั่วหานพิจารณาอยู่สักครู่หนึ่ง โลกของสามี
เธอนั้นใหญ่จริงๆเลยเนอะ เธอต่างก็ได้ยินหมดแล้ว เขายังโกหกด้วย
ท่าทีที่จริงจังอีก
“ใช่ ดังนั้นเขาสามารถทำสำเร็จด้วยตัวเองได้” งั้นความหมายก็คือ เล็กจนไม่คุ้มค่าที่เขาจะออกมือ
“รู้คุณชายกู้สุดยอดจริงๆเลยนะคะ”
ได้ยินเธอชมผู้ชายคนอื่น ท่านเซียวแสดงออกว่าไม่ค่อยจะพึงพอใจ
นัก
“กลับไปกันเถอะ? อยากนอนแล้วหรือยัง?”
“ดีค่ะ กำลังง่วงพอดี”
ฉู่ลั่วหานช่างน้ำหนักดูสักหน่อยภายในจิตใจ ตามที่กู้เยนเซินพูดเมื่อ สักครู่นี้ หลงเชียวมีท่าเรือเป็นของตนเอง อีกทั้งยังแทรกมือไปลักลอบ อาวุธยุทโธปกรณ์อีก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจของตนเองหรือว่าธุรกิจของคน อื่น ต่างก็สามารถตัดสินได้ว่า เขากับเส้นทางมืดมีการติดต่อที่ไม่อาจ จะแยกจากกัน
พูดเช่นนี้แล้ว หลงเซียวก็มีอำนาจในการออกความคิดเห็นบนเส้น
ทางมิต