ตอนที่ 161 ทางเลือกที่ถูกบังคับด้วย ความจําใจ
อยู่กับจิรภาสมานาน ตฤณเองก็สามารถ มองเห็นความรู้สึกของคนโดยผ่านจาก ดวงตาของเธอได้แล้วเช่นกัน คนอื่นๆเขา อาจจะไม่แน่ใจ แต่กับพี่นัฎแล้วเห็นได้ อย่างชัดเจนว่าเธอจะต้องมีเรื่องอะไรที่ กำลังทุกข์ใจอยู่อย่างแน่นอน
ในเมื่อเป็นคําสั่งของประธาน เขาจะต้อง ตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อนถึงจะกลับไป ได้
เห็นอาการของพนัฎแล้ว เขาเองก็อยาก จะช่วยเธอเช่นกัน “พวกคุณมีอะไรหรือเปล่า? ผมมาแล้ว คุณบอกผมได้นะ บางทีผมอาจจะช่วยคุณ
ไม่มีอะไรหรอก….คุณรีบกลับไปเถอะ ค่ะ ดีกแล้ว” พี่น้ฎอยากจะปิดประตูหนีเขา
ตฤณต้องบังคับเธออย่างเลี่ยงไม่ได้ ยื่น มือออกไปรั้งเธอไว้ “ถ้าคุณไม่พูด ผมก็จะ ยืนรออยู่หน้าประตูแบบนี้แหล่ะ รอจนกว่า คุณจะยอมพูดออกมา หากผมกลับไปแบบ นี้ คุณจิรภาสคงจะตำหนิผมว่าผมไม่มี ความสามารถ
เมื่อตฤณเอ่ยออกมาเช่นนี้ พี่นัฎเองก็ ไม่มีวิธีอื่น
“คุณเข้ามาก่อนแล้วกันค่ะ”
พี่น้ฎไอออกมาเล็กน้อย แล้วรินน้ำชา ร้อมให้ตฤณดิม แล้วหลังจากนั้นจึงเล่า เอง ญาณินีเรียกเธอไปพบ และเรื่อง ทีน้องชายเธอถูกควบคุมโดยพวกเขาให้ ถุณฟัง
“คุณญาณี ไม่ต้องการให้จิดาภาไปเข้า ร่วมในรายการสัมภาษณ์ เธอคงกลัวจิดา ภา และเป็นเพราะฉันกับจิดาภามีความ สัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จึงขู่ฉันหลอกใช้ฉันเพื่อ จะทําให้จิดาภาพูดความจริงออกมาไม่
ฉันไม่รู้จริงๆว่าควรจะทำ ได้… อย่างไรดี”
“พวกนั้นทําเกินไปแล้ว! นึกไม่ถึงเลยว่า จะใช้วิธีเลวๆเช่นนี้!”
“ ฉันไม่มีวิธีแล้วจริงๆ จึงต้องเล่าให้คุณ ฟัง แต่คุณห้ามบอกจิดาภานะ ฉันไม่อยาก เห็นเธอต้องลำบากเพราะฉัน” พี่นักมอง ไปยังตฤณ และเอ่ยขอร้องเขาด้วยความ น่าสงสาร
แล้วคุณละ….คุณก็จะทำให้ตัวเองเป็น ทุกข์แบบนี้ไม่ได้เหมือนกันนะครับ! ” เขา รู้สึกว่า นัฎเป็นคนที่ชื่อเสียเหลือเกิน ยอมให้ตัวเองทนทุกข์ทรมาน และไม่ยอม พูดออกมาด้วย
เขารู้สึกทนไม่ได้และสงสารเธอ….
“ฉันว่าฉันจะแจ้งตำรวจ!” พี่นักคิดออก เพียงวิธีนี้เท่านั้น
“เดี๋ยวผมจะช่วยหาว่าคุณญาณินีเธอเอา ตัวน้องชายของคุณไปกักตัวไว้ที่ไหน คุณ วางใจได้ เรื่องนี้จะต้องหาทางแก้ไขได้ อย่างแน่นอน”
พี่นักพยักหน้ารับ การกระทำของเธอถึง แม้อาจจะดูโง่ไปบ้าง แต่ก็สามารถปกป้อง จิดาภาได้ เพียงแต่อาจจะต้องทำให้ตัว เองเป็นทุกข์ เธอเองก็กังวล ว่าหากญาณี มีหาอะไรร้อนรนกว่านี้ นั่นอาจจะเป็น อันตรายต่อน้องชายของเธอ
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว คุณพักผ่อนก่อน เถอะครับ อย่ากังวลไปเลย” ตฤณปลอม ใจเธอ “โทรศัพท์มือถือของผมเปิดไว้ ตลอด ถ้าหากคุณไม่อยากบอกเรื่องนี้กับ คุณจิรภาสและคุณจิดาภา ก็ติดต่อผมได้ ทุกเวลา!”
…ค่ะ ขอบคุณนะคะ
พี่นักพยักหน้ารับด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง ใจ
จริงๆแล้วพวกเขารู้ดีว่า หากพี่นัฎเล่า เรื่องนี้ให้จิรภาสและจิดาภาฟังนั้น พวก เขาจะต้องจัดการเรื่องนี้แทนเธอได้อย่าง แน่นอน นั่นเป็นเพราะว่าสำหรับจิดาภานั้น พี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ช่วย
ของเธอเท่านั่น
เธอไม่สามารถมองเห็นพี่น้ฎถูกบังคับ ขู่เข็ญหรือโดนรังแกไปต่อหน้าต่อตาได้ แบบนี้
“เวลาสัมภาษณ์เป็นคืนวันพรุ่งนี้ ฉันจะ พยายามขัดขวางคุณญาณี ไว้ คุณบอก กับทางคุณภพธร ว่าอย่าให้จิดาภาพก โทรศัพท์ไว้กับตัว เพียงแค่เธอไม่รู้เรื่องนี้ การสัมภาษณ์ในรายการนี้ก็จะสำเร็จไปได้ อย่างราบรื่น”
พี่นัฎต้องการจะปกป้องจิดาภา ไม่ใช่ให้ ดาภามาคอยปกป้องเธอตลอดเช่นนี้
หลังจากที่ตฤณออกไปจากที่พักของพั นักแล้วนั้น ก็รายงานความคืบหน้าทั้งหมด และท่าดามวิธีของพีนัก เขาจึงติดต่อไป
ยังภพชร
และก็หาปาปารัซซีช่วยติดตามจับตามอง ญาณินและคมสรไว้ เผื่อจะสามารถสืบพบ ร่องรอยอะไรได้บ้าง ซึ่งหากหาตัวคนไม่ เจอ ก็อาจจะได้หลักฐานเก็บไว้ใช้ได้บ้าง
ญาณินีจะทําอะไรเธอมักจะระมัดระวัง และรอบคอบมาก กลอุบายในครั้งนี้ ก็เป็น เพราะเธอกลัวจิดาภาจะทำให้เธอต้องเสีย ชื่อเสียง
แต่การที่เธอท่าเช่นนี้ ก็เป็นการล้ำเส้น ของจิดาภาเองเช่นกัน
และในขณะที่ภพธรกำลังพาจิตาภา ให้ไปเตรียมตัวเพื่อการถ่ายรายการ สัมภาษณ์อยู่นั้น ภารดีก็ถูกเรียกให้ไปหาที่ ออฟฟิศของญา มิ
“คืนนี้ฉันจัดผู้ช่วยคนใหม่ให้คุณหนึ่ง คน พี่นัท” นํ้าเสียงของญาณินีจริงจังเป็น อย่างมาก อีกฝ่ายไม่สามารถปฏิเสธได้
เธอไม่ใช่ผู้ช่วยของจิดาภาหรือคะ?” การ ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของญาณนี้ สักเท่าไหร่นัก
ญาณินีพยักหน้า แล้วเคาะโต๊ะ “งานของ จิดาภานั้นไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่ ฉัน เลยให้พี่นัฎมาช่วยคุณก่อน เรียกใช้ได้ แล้วแต่คุณเลย อยากจะให้ทำอะไรก็ได้ ทั้งนั้น”
ความหมายก็คือ เธอสามารถจะกลั่น แกล้งพี่นัฎอย่างไรก็ได้อย่างนั้นสินะ “ะคุณญาณี คุณวางใจได้ ฉันเข้าใจ แล้วค่ะ”
การคยิ้มตอบรับ แววตาฉายความเยือก เข็นออกมา
แต่พวกเขาลืมไปแล้วว่า พี่นักคือผู้ ช่วยส่วนตัวของจิดาภามาตลอด ไม่ได้ เกี่ยวข้องอะไรกับโอเคเลยแม้แต่น้อย ญาณินี้ไม่มีสิทธิทำเช่นนี้มาตั้งแต่แรก อยู่แล้ว
เวลาทั้งวัน ดฤณยังไม่สามารถหา เบาะแสเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เลย
เขาเกลี้ยกล่อมพี่นัฎ “ไม่อย่างนั้น เรา บอกเรื่องนี้กันเถอะนะครับ
“ไม่ได้! ฉันจะเห็นแก่ตัวแบบนั้นไม่ได้ เพียงแค่ฉันอดทนไว้ก็พอ” พี่นัฎพูดจบก็ สายไปทันที เนื่องจากเธอจะต้องไป คอยรับคําสั่งจากภารดีแล้ว
ดถุณใช้คนของเค.เอฟอย่างลับๆ แต่ก็ยัง ไม่รู้อยู่ดีว่าญาณินิพาคนไปซ่อนไว้ที่ไหน กันแน่?
เขาครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ตลอด จนถูกจิรภาส มองเห็นในความล่องลอยนั่นของเขา
“คุณมีอะไรในใจหรือเปล่า?” จิรภาสเอ่ย ถาม “คุณเลยทางเข้ามาสองทางแล้วนะ
“อา…ขอโทษครับ คุณจิรภาส”ตฤณ ง รีบหมุนพวงมาลัยกลับรถ แล้วมองทาง กระจกมองหลังอย่างระแวดระวัง “คุณ จิรภาสครับ คุณจิดาภาเธอไปอัดรายการ สัมภาษณ์ของคุณจรินทร์แล้วใช่ไหม ครับ?” “อืม…คุณมีอะไรจะบอกผมใช่ไหม?” จิร ภาพเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือพิมพ์มา มองเขา
ตฤณจึงเล่าเรื่องที่พี่นัฎถูกขู่บังคับนั้น ออกมา
หลังจากที่จิรภาสได้ฟังแล้วนั้น ก็มีสีหน้า เย็นชาเป็นอย่างมาก อยู่กับผมมาตั้งนาน ขนาดนี้แล้ว คุณยังทําแบบนี้อีกหรือ?”
คุณจิรภาสครับ ผมผิดเองครับ” ดฤณไม่ ” สามารถแก้ตัวออกมาได้เลย เป็นเพราะ เขามีความสามารถไม่มากพอ ไม่สามารถ ตามหาตัวคนได้
เขาอยากจะช่วยพี่นัฏ แต่…..
จิรภาสครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วจึงกดโทร ออกหาภพธร “จิดาภาถึงสถานีแล้วใช่ ไหม?”
” ง งดรับ มีอะไรหรือเปล่า?”
“ให้เธอรับสายหน่อย” สีหน้าของจิรภาส ที่กำลังโมโหสะท้อนอยู่ในกระจกมองหลัง
เขารักจิดาภา และยิ่งเข้าใจเธอ ว่า หากเธอมารู้เรื่องนี้ทีหลัง เธอจะต้องไม่ สบายใจอย่างแน่นอน เขารู้ว่าเธอจะทนไม่ ได้ที่จะต้องเห็นพี่นัฎเป็นทุกข์เช่นนี้ และ เธอก็มีสิทธิที่จะรู้ความจริงนี้ด้วยเช่นกัน
เขาเชื่อว่าในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เช่นนี้ จิดาภาก็จะสามารถเลือกและตัดสิน ใจได้ด้วยความถูกต้องเช่นกัน
หลังจากที่จิดาภาได้ฟังแล้วนั้น เธอที่ กำลังนั่งอยู่ในรถนั้นเอ่ยถามออกมาอย่าง สงบนิ่ง “ตอนนี้ นัฏอยู่ไหนคะ?” มือของเธอนั้นเย็นไปหมด กังวลว่าพี่นั จะทําอะไรโง่ๆ
เธอควรจะพบได้เร็วกว่านี้ เมื่อคืนดอนที่ คุยกัน ปฏิกิริยาของพี่นักก็ดูไม่ปกติ
“คืนนี้เธอจะไปเป็นผู้ช่วยของภารดี อยู่ที่ ศูนย์การค้าจักรพรรดิ ”
คุณจิรภาส ถ้าเพื่อจะช่วยพี่นัฎได้ ฉัน ” พูดเรื่องความสัมพันธ์เราออกไป หรืออาจ จะ…..คุณจะโทษฉันไหมคะ?”
นอกจากเขาแล้ว ตอนนี้เธอยังจะ สามารถพึ่งใครได้อีก?
“ถ้าหากตำแหน่งประธานของเคเอฟ เป็นประโยชน์กับคุณ ผมเต็มใจอยู่แล้ว ครับ” รกาสรักเธอมาก มากเสียจนไม่รู้จะมาก ได้ อย่างไรกแล้ว
ระหว่างสามีภรรยาควรจะเป็นที่พึ่งให้กัน ได้ในช่วงเวลาแบบนี้อยู่แล้ว หลังจากที่ วางสายไป จิรภาสจึงติดต่อผู้บริหาร ระดับสูงของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งไป ในนามของตัวเขาเอง ประธานเค.เอฟ
“ผมมีเรื่องอยากจะรบกวนหน่อย รูปแบบ ของรายการสัมภาษณ์กับคุณจรินทร์คืนนี้ พอจะเปลี่ยนแปลงได้ไหม?
พวกเขาเป็นเพื่อนกันมาสิบกว่าปี แน่นอนว่าจะต้องยอมช่วยจิรภาสอยู่แล้ว