ตอนที่ 462 สามีของฉัน ฉันดูแลเองได้
ณ บริษัทMBK ห้องทำงานท่านประธาน
นิ้วหัวแม่มือขวาและนิ้วชี้ของหลงเซียวบีบไปที่ดั้งจมูก เขาก้มหน้าและหลับตาแล้วพูดว่า “กี่โมงแล้ว?”
จี้ตงหมิงรีบเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารจำนวนมาก“ บอสครับ ตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้วครับ คุณไม่ได้นอนมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้วนะ ถ้าทำแบบนี้ต่อไปร่างกายจะไม่ไหวเอานะครับ แล้วตอนนี้ตลาดหุ้นของบริษัท เริ่มคงตัวแล้ว วันนี้คุณรีบกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะครับ”
น้ำเสียงที่แทบจะอ้อนวอนเขา จี้ตงหมิงเกลี้ยกล่อมเขามาหลายครั้งแล้ว แต่หลงเซียวมีเรื่องที่ต้องจัดการมากเกินไป โดยเฉพาะแผนกการเงินและแผนกวิศวกรรม บัญชีที่สะสมมานานหนึ่งเดือนแทบจะกองเป็นภูเขาอยู่แล้ว
ช่วงที่เขาไม่อยู่ หลงถิงดันหาเรื่องย้ายเงินทุนจำนวนหนึ่งไปโดยไม่คิดถึงสถานการณ์การเงินของบริษัทที่ยังตึงตัวอยู่ การเงินดูเหมือนจะสมบูรณ์ไม่มีข้อบกพร่อง แต่หลังจากการวิเคราะห์ของเขาแล้ว เขาก็พบช่องโหว่ขนาดใหญ่
บ้าเอ้ย บริษัท ของตัวเองก็ไม่เว้น นี่มันอยากตายรึไง?
หลงเซียวลูบดั้งจมูกของเขาไปสักพัก ความปวดเมื่อยของดวงตาของเขาบรรเทาลงอย่างมาก
“ เอาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงการเจียงเฉิงให้ผมหน่อย”
เมื่อจี้ตงหมิงได้ยินว่าเขาจะทำงานต่อ เขาก็โกรธมาก เขาไม่สนว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชาหรืออะไร เขาลุกขึ้นอย่างกะทันหัน รองเท้าหนังของเขากระแทกกับพื้นดัง ตับๆๆๆ “บอสครับ บอสจะไม่สนใจชีวิตตัวเองแล้วใช่ไหมครับ? โครงการของเจียงเฉิงรอสถานการณ์มันนิ่งลงแล้วค่อยว่ากันก็ได้ ยังไงก็ตามมันก็โดนหยุดไปชั่วคราวแล้ว บอสทำให้มันกลับมามีชีวิตอีกครั้งภายในวันเดียวได้หรือยังไง? ถ้ายังไม่พักผ่อนอีก อย่าว่าโครงการจะกลับมาดำเนินต่อไม่ได้ แม้แต่ชีวิตของคุณเองก็จะเสียไปด้วย !”
หลงเซียวขมวดคิ้วแล้วเงยหน้ามองจี้ตงหมิงและยิ้มออกมา “เดี๋ยวนี้นายกล้าเสียอารมณ์ใส่ฉันเหรอ? กล้าขึ้นเยอะเลยนะ”
จี้ตงหมิงทั้งกังวลและเป็นห่วง “บอสครับ ….. ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่ว่าช่วงนี้บอสเหนื่อยมากเกินไป เมื่อคืนบอสก็ไม่ได้กลับบ้าน คุณนายเธอจะเป็นห่วงเอานะครับ”
คิ้วของหลงเซียวขมวดลึกขึ้นกว่าเดิมอีก แต่โชคดีที่เขาเคลียร์เรื่องต่างๆเกือบจะเสร็จสิ้นหมดแล้ว
“ โครงการของเมืองเจียงเฉิงล่าช้ากว่านี้ไม่ได้แล้ว ต้องรีบจัดการให้มันเสร็จ เจิ้งเฉิงหลินเขาคอยกันฉันไว้ตลอด ถ้าเขารู้ว่าฉันกลับมา เขาจะต้องกดดันฉันอย่ามากแน่นอน ถ้าตอนนี้ไม่ทำอะไรเลย วันหลังจะโดนเขาโจมตีเอา”
จี้ตงหมิงพยักหน้าและพูดพร้อมดวงตาสีแดงว่า “บอสครับ ครั้งที่แล้วที่บอสทำงานหนักแบบนี้ มันเกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อน ตอนนั้น MBK กำลังเผชิญกับวิกฤตเช่นกัน บอสทำงานหนักอย่างไม่กินไม่นอน…….”
หลงเซียวยิ้มเยาะ เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องน่าขันมาก เมื่อสิบปีก่อนเขามองว่า MBK เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา และพยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยให้ผ่านวิกฤตในฐานะทายาทของตระกูลหลง
แต่สิบปีต่อมา กลับกลายมาเป็นสถานะของศัตรู การวนลูปหนึ่งครั้ง ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปหมดแล้ว
“ อาหมิง ในความคิดนาย MBK กับฉันมีความสัมพันธ์กันอย่างไร?”
หลงเซียวเอามือยันไว้ และจิบกาแฟไปหนึ่งคำ นี่คือกาแฟแก้วที่สิบกว่าของเขาในสามวันที่ผ่านมานี้
“บอสเป็นทายาทของMBK ต่อไปMBK จะตกอยู่ในมือของบอส แน่นอนว่านี่เป็นความจริงที่เถียงไม่ได้ และไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้” จี้ตงหมิงตอบไปตรงๆโดยไม่คิดอะไรในใจ ในใจเขา หลงเซียวและ MBK เชื่อมต่อกัน มันจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อเขาสองคนผูกมัดกัน และจะไม่สมบูรณ์หากไม่มีกันและกัน
หลงเซียวเดินออกจากเก้าอี้เจ้านาย และเดินไปที่หน้าต่างพาโนราม่า แสงระเรื่อของดวงอาทิตย์ที่กำลังตกดิน โปรยปรายมาที่เขา ชุดสูทสีดำล้อมรอบด้วยแสงสีทอง แสงแดดส่องผ่านผมและแขนด้านหลังของเขา แผ่นหลังของเขาดูสง่างามและน่าภาคภูมิใจ หล่อกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
“คุณคิดผิดไปแล้ว สิบปีก่อนฉันกำลังช่วยMBKจริงๆ และฉันทำเหมือนมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน แต่ที่ฉันกลับมาคราวนี้ฉันมาเพื่อทำลายมัน”
“อะไรนะ?!” จี้ตงหมิงตะลึงมาก และก้าวเข้าไปหาเขา “บอส คุณพูดว่าอะไร?!”
หลงเซียวหัวเราะเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เขาชี้ไปที่เมืองครึ่งเมืองที่อยู่ใต้เท้าของเขา รองเท้าหนังสีดำของเขาเหยียบไว้บนเส้นชีวิตเศรษฐกิจของเมืองครึ่งเมืองนี้ “นายไม่ได้ฟังผิด ที่ฉันกลับมาครั้งนี้ ไม่ได้เพื่อทำให้ MBK กลับมารุ่งเรืองเหมืองวันวาน แต่ฉันกำลังจะทำลายมันด้วยมือของฉันเอง”
น้ำเสียงของเขาสงบและไม่แยแส ราวกับว่ากำลังพูดถึงเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องไม่ใส่ใจ
จี้ตงหมิงตกใจมากจนเสียงสั่น“ บอสคุณ … ทำไม?”
หลงเซียวสอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง และมองไปที่ดวงอาทิตย์ที่กำลังตกดินอย่างช้าๆ “เกมเริ่มขึ้นแล้ว อาหมิง”
เสียงของเขาแหบเล็กน้อย แต่ทุกคำที่พูดนั้นชัดเจนและเต็มไปด้วยพลัง พูดจนจี้ตงหมิงเองก็ตกใจ
“ ไม่ว่าเจ้านายจะตัดสินใจยังไง ผมจะตามรับใช้เจ้านายให้ถึงที่สุดครับ”
หลงเซียวหันกลับมาและมองไปที่เขา มองไม่เห็นสีหน้าของเขาเพราะย้อนแสง “อีกสองสามวันฉันจะไปที่เมืองเจียงเฉิง จะต้องเอาโครงการนี้กลับมาให้ได้ ฉันได้ติดต่อกับฝ่ายสหรัฐฯแล้ว พรุ่งนี้นายบินไป แล้วทำตามที่ฉันบอก”
จี้ตงหมิงพยักหน้า “ครับ ผมจะไปพรุ่งนี้เลยครับ แต่เจ้านาย …… แค่เอาโครงการที่อเมริกากลับคืนมาได้มันก็จะกลับมาอยู่ในมือบอสแล้ว แต่ทำไมบอสถึงทำลายมันด้วยตัวเองล่ะครับ? ถ้าทำแบบนี้ ทางอเมริกาก็หมดหวังแน่นอนเลยครับ”
หลงเซียวยิ้มอย่างคาดไม่ถึง แค่เขายิ้มก้อนเมฆที่อยู่ข้างนอกหน้าต่างก็ถูกบดบัง “ถ้าเราเก่งเกินไปเราจะถูกคนอื่นขัดขวางได้ แค่เอาโครงการที่เมืองเจียงเฉิงกลับมาได้ก็พอ ส่วนโครงการที่สหรัฐอเมริกาเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา”
“คุณหมายความว่า … จงใจให้ท่านประธานเข้าใจผิดว่าคุณทำงานไม่ได้เรื่องและยังขาดประสบการณ์เหรอครับ?” จี้ตงหมิงต้องคอยใช้สมองอยู่ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นเขาก็กลัวว่าจะตามความคิดเจ้านายไม่ทัน
ในที่สุดหลงเซียวก็หัวเราะออกมาและพูดว่า “ในที่สุดนายก็เรียนรู้ได้สักที เก่งมาก”
จี้ตงหมิงหัวเราะก็ไม่ใช่ร้องไห้ก็ไม่ใช่ “ แล้ว ตอนนี้บอสมีแผนอะไรครับ?”
หลงเซียวหายใจเข้าลึก ๆ “ ตอนนี้? กลับบ้านไปหาภรรยา”
จี้ตงหมิง: “…….. ”
เปลี่ยนหัวข้อหัวเร็วเกินไหม? !
——
ลั่วหานทำอาหารไว้สี่อย่างและซุป 1 อย่าง เธอไม่ได้ลงมือทำอาหารด้วยตัวเองมานานแล้ว โชคดีที่ฝีมือการทำอาหารของเธอยังไม่แย่ลง เนื้อสัตว์สองอย่างกับอาหารมังสวิรัติสองอย่างมีกับข้าวสี่อย่าง รวมถึงซุปสเต็กฟักทองที่หลงเซียวชอบ กลิ่นหอมและสีที่น่ารับประทานเย้ายวนใจ เธอพอใจเป็นอย่างมาก
รถของหลงเซียวขับไปที่วิลล่า คนรับใช้ก็รีบออกไปต้อนรับเขา ลั่วหานหยุดพวกเขาไว้ และพูดว่า “พวกเธอไปพักผ่อนกันเถอะ ตอนดึกพวกเธอไม่ต้องมารับใช้แล้ว”
หลังจากที่กระจายคนรับใช้ไป ลั่วหานก็ก้าวขึ้นไปบนบันได เธอยืนในชุดใส่อยู่บ้านที่ดูสดใสและสวยงามอยู่หน้าประตู ยิ้มอย่างสง่าและรอคอยคนรักของเธอ
หลงเซียวเปิดประตูรถออกมา และเห็นลั่วหาน กำลังรอเขาอยู่ แสงแดดอ่อน ๆ ของดวงอาทิตย์ตกปกคลุมไปที่เธอ เธอดูสง่างามและสวยมาก เขาห่างกันอยู่ระยะหนึ่ง แล้วเขาเดินเร็วขึ้นอย่างไม่ตั้งตัว แม้แต่ความเหนื่อยล้าที่ดวงตาก็ดูเจือจางลงมาก
“ ทำไมมายืนตรงนี้ล่ะ?” เขาโอบกอดเอวของเธออย่างเป็นธรรมชาติและจูบที่หน้าผากของเธอ
ลั่วหานยืนเขย่งเท้าและจูบเขากลับ ริมฝีปากของเธอกดทับไปที่มุมปากของเขา “รอคุณกลับบ้านไงคะ”
เขายิ้มออกมาอย่างสดใส “โอเค! คุณภรรยามารับที่หน้าประตู ผมมีความสุขมาก”
ลั่วหานจับแขนของเขาไว้ “งั้น … คุณนายหลงอยากมีความสุขมากกว่านี้ไหมคะ?”
“หื้ม?”
“เข้ามาสิ เรามากินข้าวกันเถอะ” ดวงตากลมโตสวยของเธอโค้งงอ และเธอดึงเขาเข้ามาแล้วหารองเท้าแตะให้เขาเปลี่ยน
“คุณไปล้างมือก่อน ฉันจะไปดูที่ห้องครัว”
“…….. ” หลงเซียวมองไปที่รอบๆห้องรับแขก พบว่าคนรับใช้ไม่อยู่สักคน ภรรยาของเขากำลังทำอะไรอยู่?
ไม่ช้าหลงเซียวก็รู้แล้วว่า คำว่ามีความสุขมากกว่านี้นั้นหมายถึงอะไร
ภรรยาที่น่ารักของเขาทำอาหารให้เขาทานด้วยตัวเธอเอง!
ลั่วหานบอกกับเขาก่อนที่เขาจะพูด “ขอบอกไว้ก่อนนะ ไม่ต้องพูดขอบคุณใดๆทั้งนั้น คำชมเชยทั้งหมดให้แสดงออกผ่านการกระทำ กินให้หมดถือว่าเป็นการชมฝีมือการทำอาหารของฉันแบบขั้นสูงสุด”
หลงเซียวพยักหน้าอย่างมีความสุข ดวงตาของเขาดูเหนื่อยล้าแต่ก็มีความสุข “ได้สิ”
ลั่วหานนั่งถัดจากหลงเซียวไป เดี๋ยวก็หยิบปลาให้ เดี๋ยวก็หยิบผักให้ ไม่นานอาหารก็วางเต็มจานของหลงเซียวไปหมด
“ตาของคุณแดง กินแครอทหน่อย ปลามีโปรตีนสูง กินตอนกลางคืนมันดี ฉันคิดว่าถั่วหิมะนี้โอเคดีนะ คุณลองชิมดูสิ”
เธออธิบายอาหารไปด้วยแล้วหยิบกับให้เขาไปด้วย ซ้ำและยังพูดถึงคุณค่าทางโภชนาการให้หลงเซียวได้รับรู้ เธอยุ่งอยู่ตั้งนาน แต่เธอยังไม่ได้กินอะไรเลยแม้แต่คำเดียว
หลงเซียวเคี้ยวอย่างสง่างาม แล้วจับตามองไปที่เธออยู่ตลอด และสุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะจับมือเธอไว้ “เมียจ๋า”
ลั่วหานเงยหน้าขึ้น “หื้ม? มีอะไรรึเปล่า?ไม่อร่อยเหรอ?”
หลงเซียวกินอาหารในจานไปครึ่งจานแล้วมองไปที่เธอและพูดว่า “คุณลืมสิ่งที่ผมเคยพูดเหรอ?เรื่องทำอาหารให้คนรับใช้ไปจัดการ”
“คุณหลงคะ นี่คุณเปลี่ยนไวเกินรึเปล่าคะ คุณกินไปครึ่งหนึ่งแล้วเพิ่งจะมานึกได้หรอคะ? มันสายไปแล้ว! อีกอย่างฉันทำอาหารให้สามีทานด้วยตัวเองมันก็ถูกอยู่แล้วนิคะ ฉันจำได้ว่ามีคนเคยบอกว่า คนรักของตัวเองเราควรดูแลเขาเอง ให้คนอื่นดูแลมันวางใจไม่ได้”
เธอผลักมือของเขาออก ตอบกลับสายตาของเขาด้วยความท้าทาย เอาคำพูดของเขาออกมาพูด มันรู้สึกสะใจมาก!
“ปากเก่งจริงๆ เดี๋ยวนี้เล่นลิ้นเป็นแล้วหนิ”
“คุณสอนดีต่างหาก ฉันเลยเรียนรู้ได้เร็ว คุณกินเยอะๆนะ กินเสร็จแล้วไปอาบน้ำ ฉันปรับอุณหภูมิของน้ำแล้ว เดี๋ยวฉันจะใส่น้ำมันหอมระเหยลงไปให้ ช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าและช่วยให้นอนหลับสบาย คุณเหนื่อยมากเกินไปแล้ว”
“ ลั่วลั่ว … ” เขารู้สึกซึ้งใจแต่ไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร และคำพูดหวาน ๆที่ปกติคุยกันก็ไม่มาพอที่จะแสดงความอบอุ่นในใจออกไปได้
“ มีอะไรเหรอคะ? คุณชายหลงจะพูดจาหวาน ๆ อีกแล้วเหรอ?” เธอกัดตะเกียบไว้แล้วยิ้มเยาะ
หลงเซียวจับมือเธอมาแล้วจูบลงไป“ ไม่ใช่ครับ ไม่ว่าคำพูดที่ฟังดูดีแค่ไหนก็ไม่คู่ควรกับคุณหรอก”
หลงเซียวยังคงกินอาหารต่อ เขาชอบอาหารทุกจานมาก เธอทำเองกับมือ เธอหั่นผักทุกชิ้นด้วยมือของเธอเอง เขานึกภาพที่เธอยุ่งอยู่ในครัวได้ ทั้งทำซุปทำอาหารและจัดจาน
เพราะมันชัดเจนมาก มันก็เลยเป็นห่วง เพราะเป็นห่วงก็เลยอยากทะนุถนอม
ลั่วหานทำน้ำอาบน้ำให้เขาเสร็จ น้ำมันหอมระเหยที่ได้สัดส่วนละลายในน้ำ แล้วแตะเช็คอุณหภูมิ “เอาล่ะ แช่ได้อย่างสบายๆแล้ว”
หลงเซียวเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยเท้าเปล่า โดยเหลือเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียว เขาก้าวเข้าไปในอ่างจากุซซี่ อุณหภูมิของน้ำกำลังพอดี น้ำมันหอมระเหยเป็นกลิ่นหอมของว่านหางจระเข้ที่เขาชอบ ทุกรายละเอียดที่เธอเตรียมไว้ให้เขานั้นมันกำลังพอดีและอบอุ่นมาก
จะให้เขาไม่หวั่นไหวได้อย่างไร? ไม่มีความสุขได้อย่างไร?
เขาเอาตัวแช่ลงในน้ำ หลงเซียวหันกลับไป ลั่วหานยังคงยืนอยู่ในห้องน้ำที่เต็มไปด้วยหมอกไอน้ำ
หลงเซียวประหลาดใจอย่างมาก “ คุณภรรยาของผมจะเฝ้าดูผมเหรอครับ? หรือว่าอยากมาแช่ด้วยกัน?”
เขาชวนเธออาบน้ำด้วยกันมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็จบลงด้วยความล้มเหลว คืนนี้เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ แต่เธอจะให้ความร่วมมือเองเหรอ?
ลั่วหานมัดผมขึ้นด้วยยางรัดผมและมองไปที่หลงเซียวที่กำลังแช่น้ำอยู่ เธอเอามือไปนวดที่ขมับของเขา “คุณกำลังคิดบ้าอะไรกัน? คุณแช่น้ำไปดีๆ ฉันจะนวดให้คุณสักพัก วิธีนี้จะช่วยให้คุณคลายเครียดได้ ตาของคุณแดงมาก คุณดื่มกาแฟไปกี่แก้วเนี่ย? คุณไม่รู้หรือว่าคาเฟอีนมันไม่ดีต่อร่างกาย?”
เขาเหนื่อยมาก เขาจัดการกับงานMBKอย่างไม่ได้หยุดพัก เธอช่วยอะไรไม่ได้ ทำได้แค่ทำให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ ให้เขาได้รับความอบอุ่นมากที่สุดเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน เป็นภรรยาที่ดีของเขา
ครั้งหนึ่งเธอเคยละเลยที่จะดูแลเขา และไม่รู้ว่าการเป็นภรรยาที่ดีมันทำยังไง ตอนนี้เธอรู้แล้วว่า การเป็นสามีภรรยากัน บางทีก็แค่เธอยิ้มให้เขาเมื่อเขากลับบ้านมา และโอบกอดเขาอย่างอ่อนโยนเมื่อเขารู้สึกเหนื่อย
เธอไม่สามารถให้ดวงอาทิตย์ทั้งดวงแก่เขาได้ แต่เทียนสีแดงของเธอสามารถให้แสงสว่างแก่เขาได้จนถึงรุ่งเช้า
หลงเซียวหลับตาและพักผ่อน นิ้วของเธอนวดไปที่หน้าผาก ขมับ ตาและเปลือกตาเบา ๆ เบา ๆ ทำให้เขาสบายตัวมากและเริ่มรู้สึกง่วงนอน
“ลั่วลั่ว ผมเริ่มสงสัยว่าชาติที่แล้วผมเป็นคนยังไง?”
ลั่วหานหยดน้ำมันหอมระเหยลงในมือและนวดไปที่ไหล่และคอของเขา “คุณสงสัยอะไร?”
หลงเซียวกดมือเธอไว้ที่ไหล่ของเขา ไม่ให้เธอขยับ “ฉันสงสัยว่าฉันช่วยมนุษยชาติไว้ทั้งโลกรึเปล่า ฉันถึงได้มาพบกับคุณ และสงสัยอีกว่าฉันสร้างอารยธรรมมาห้าพันปีรึเปล่า ถึงได้แต่งงานกับคุณ”