ตอนที่ 524 นอกจากดีแล้ว คงไม่พูดถึงอย่างอื่นแล้วใช่ไหม
“โอเค เดียวผมจะคุยกับแม่เอง เธอเองก็คงรู้ผลข้างเคียงแหละ ไม่ใช่เรื่องยากเลย” หลงเซียวตอบเธอด้วยเสียงหนักแน่น
ลั่วหานมองก้อนเส้นผมในกำมือของเขา เธอรู้ว่าเขาเองก็รู้สึกเจ็บปวดเหมือนกัน จากนั้นเธอก็พูดขึ้นว่า “ที่รัก ไว้ทำการรักษาทางเคมีเสร็จ ให้แม่ไปรักษาตัวที่เมืองนอกสักพักดีไหม?”
ที่เธอพูดถึงเรื่องในอนาคต เพราะอยากปรับเปลี่ยนบรรยากาศให้ผ่อนคลายมากขึ้น เขาเองก็รู้
“ดีครับ”
สิ่งที่เธอพูด หลงเซียวล้วนรับปากหมดแล้ว ไม่ว่าการรักษาทางเคมี ผ่าตัด หรือชีวิตในอนาคต เขาล้วนรับฟังเธอเสมอ
เมื่อถูกได้รับการปฏิบัติตัวอย่างอ่อนโยนจากหลงเซียว ลั่วหานก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ “คุณอย่าพูดว่าครับอย่างเดียวสิ คุณสามารถแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมาได้”
หลงเซียวสบสายตากับเธอ พร้อมเผยสายตาเป็นประกาย ทำไมเขาถึงมองเธอไม่เบื่อเลย สุดท้ายเขาก็ยิ้มและพูดว่า “ครับ”
“ฮ่าฮ่า!” ลั่วหานหัวเราะอย่างจริงจัง “แม่ยังพักผ่อนอยู่ และไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเราชั่วคราว คุณอยากดูเธอสักหน่อย?”
หลงเซียวมองเวลา แล้วเคลื่อนสายตามองที่กล่องอาหาร “ถึงเวลากินข้าวแล้ว เดียวผมเอาอาหารมาให้”
ลั่วหานดึงเขาไว้ “เดียวฉันจัดการเอง คุณไปดูเธอสักหน่อยเถอะ”
หลงเซียวดึงมือของเธอออก แล้วลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางผ่อนคลาย “แม่พักผ่อนอยู่ อีกสักพักก็ได้”
หมายความว่า ต้องดูแลฉันกินข้าวสำคัญกว่า
โอเค จู่ๆลั่วหานก็นึกประโยคหนึ่งขึ้น เมื่อแต่งเมียก็ไม่เอาแม่แล้ว
คิดไม่ถึงเลยว่า คุณหลงจะเป็นคนแบบนี้ คนที่มีจิตใจอบอุ่น อ่อนโยน และสุภาพ
หลงเซียวถอดเสื้อคลุมสีดำมาใส่บนไม้แขวนเสื้อ แล้วถกแขนเสื้อสีขาวขึ้นมาเล็กน้อย เผยแขนเรียวยาวขาวเนียน จากนั้นก็เดินไปหยิบกล่องอาหาร
ลั่วหานดูเขาเปิดกล่องอาหาร แต่ยังไม่ทันเปิดหมดก็ได้กลิ่นหอมอบอวลขึ้น เมื่อดูอาหารก็ทราบว่าเป็นพ่อครัวภัตตาคารอาหารจีนที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงแน่
“คุณคงไม่จองอาหารให้ฉันหลังเลิกงานหรอกใช่ไหม?” ลั่วหานซักถามอย่างแปลกใจ
หลงเซียววางกับข้าวหกอย่าง ซุปหนึ่งจาน และข้าวสองจานอย่างเรียบร้อย หลังจากเปิดกล่องอาหารพลาสติกที่ผ่านการฆ่าเชื้อเสร็จ เขาก็หยิบตะเกียบใส่ในมือของเธอ
“เปล่า ผมแค่จองกับทางภัตตาคารล่วงหน้า แล้วให้พวกเขามาส่งที่บริษัท” หลงเซียวตอบอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ลั่วหานเม้มริมฝีปากยิ้ม “ในเมื่อภัตตาคารส่งอาหารมาให้ ทำไมไม่ให้เขาส่งมาที่โรงพยาบาลเลยล่ะ? แบบนี้คุณจะได้มาอย่างสะดวก”
หลังจากที่หลงเซียวจัดอาหารเสร็จก็เตรียมไปห้องชุด พร้อมยิ้มและพูดว่า “คนอื่นเอามาให้จะดีกว่าสามีของตัวเองเอามาให้ด้วยตัวเองยังไงกัน? กินข้าวให้อร่อยเถอะ”
ลั่วหานพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงพยักหน้าเล็กน้อย “อืมค่ะ”
ถือเป็นสามีที่เพอร์เฟคมาก จนไม่สามารถกล่าวบรรยายได้เลย!
หลงเซียวเดินเข้ามาในห้องชุด แล้วเดินมายืนเบื้องหน้าของเตียงผู้ป่วย พร้อมกับจ้องมองหยวนชูเฟินที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่ จู่ๆเขาก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา
นี่คือแม่ของเขา เพราะพฤติกรรมที่มีต่อแม่เมื่อก่อน และความเข้าใจผิดของทั้งสองคน เลยทำให้เขาไม่ใกล้ชิดกับแม่เลย ต่อมาเมื่อเขารู้ความจริงทุกอย่างจึงจะหูตาสว่าง สิ่งที่เธอทำทั้งหมดล้วนเพื่อปกป้องเขา
“แม่ครับ”
หลงเซียวเรียกขานด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้น
หยวนชูเฟินขยับขนตาเล็กน้อย เหมือนกับกำลังนอนหลับ และเหมือนกับกำลังตื่นนอน
หลงเซียวรู้ว่าเธอตื่นแล้ว แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ และพูดต่อว่า “ตำแหน่งคุณหญิงแห่งตระกูลหลง ผมสามารถทำให้แม่ครอบครองอย่างมั่นคงได้ ความไม่ยุติธรรมของแม่ ผมจดจำหมดแล้ว ผมสามารถเอากลับคืนมาให้แม่ได้”
มือที่อุ่นวางอนบนใบหน้าของเธอ และสัมผัสถึงความแห้งกร้านของผิวเล็กน้อย “พักผ่อนเถอะครับ”
พูดจบ หลงเซียวก็หันหลังจากไป
หยวนชูเฟินรู้สึกหนักหนังตาเล็กน้อย และไม่ได้ลืมตาขึ้น เพียงแต่มีน้ำตาอุ่นๆไหลลงมาบนแก้ม
ทุกอย่างที่เธอเคยทุ่มเทล้วนไม่เปล่าประโยชน์ มีลูกชายแบบนี้ เธอก็รู้สึกพึงพอใจแล้ว
กลางคืน ลั่วหานกับหลงเซียวอยู่เป็นเพื่อนหยวนชูเฟินที่โรงพยาบาล ลั่วหานกำลังตั้งท้องอยู่ หลงเซียวเลยให้เธอนอนพักผ่อนมากหน่อย จนตัวเองแทบไม่ได้นอนหลับเลย
วันต่อมา หยวนชูเฟินทำการรักษาทางเคมีครั้งแรกด้วยวิธีการรักษารูปแบบใหม่
ผู้ที่เข้าร่วมการผ่าตัดล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญอาวุโส และเป็นแบบแผนการรักษารูปแบบใหม่ด้วย ดังนั้นครั้งนี้หยวนชูเฟินไม่ได้ทรมานมากกว่าครั้งก่อน
นับตั้งแต่ก่อนเตรียมการรักษาถึงการฉีดยา และการสังเกตการณ์ผล ลั่วหานกับหลงเซียวล้วนอยู่เคียงข้างเธอตลอด ซึ่งถือเป็นการให้กำลังใจต่อเธอเป็นอย่างมาก
มะเร็งเหมือนกัน ยารักษาไม่เหมือนกัน หมอคนอื่น ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้มามีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด หยวนชูเฟินเป็นแม่ของหลงเซียว ดังนั้นต้องรักษาด้วยเทคโนโลยีและเทคนิคที่ดีที่สุด หากพูดถึงความรู้สึกทรมานระหว่างการรักษามะเร็งแล้ว เธอถือเป็นคนที่โชคดีมากคนหนึ่ง
เพียงแต่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงอาเจียน และผมขาดหลุดร่วงเท่านั้น
ตอนกลางคืน หลังจากทำการรักษาทางเคมีเสร็จ หยวนชูเฟิน หยวนชูเฟินยืนหยัดให้พวกเขากลับไปพักผ่อนก่อน ส่วนตัวเองอยู่ติดตามอาการป่วยที่โรงพยาบาลต่อ
หลงเซียวกับลั่วหานทำใจปล่อยเธอไว้คนเดียวไม่ได้ แต่เมื่อหยวนชูเฟินอารมณ์ขึ้น พวกเขาก็จนปัญญาเหมือนกัน
“พวกเธอกลับไปเถอะ ลั่วหานกำลังตั้งท้องอยู่ด้วย ถ้าหากเด็กและแม่เกิดมีปัญหาอะไรขึ้น แม่ไม่ให้อภัยแกแน่ หลงเอ๋อร์ รีบพาภรรยาของแกกลับบ้านสิ!”
หยวนชูเฟินด่าทอขึ้น ทันใดนั้นบนใบหน้าขาวซีดไม่มีเส้นเลือดก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าน่าเกรงขามขึ้น คุณหญิงแห่งตระกูลหลงมีความน่าเกรงขามไม่น้อยเลย
จากนั้นสองสามีภรรยาก็เดินจากไป
หลังจากที่พวกเขาจากไป หยวนชูเฟินก็อาเจียนใส่โถที่นางพยาบาลเตรียมไว้ไม่กี่ครั้ง แต่โชคดีที่ไม่ได้อาเจียนรุนแรงมากเหมือนไม่กี่วันมานี้ เพียงแต่อาเจียนแบบนี้สองสามวันติดต่อกัน จนกินข้าวไม่ได้เลย
หยวนชูเฟินรู้สึกหมดเรี่ยวแรงทั้งตัว เธอนอนพิงอยู่บนเตียง ขณะเดียวกันก็ไม่มีเรี่ยวแรงเรียกขานนางพยาบาลด้วย
“นางพยาบาลค่ะ ช่วยฉันซื้อของกลับมาให้หน่อย” หยวนชูเฟินหายใจหอบเล็กน้อย แต่ยังคงมีน้ำเสียงอ่อนโยนอยู่
“ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณต้องการอะไรหรอคะ?”
หยวนชูเฟินลืมตาขึ้น “ช่วยซื้ออุปกรณ์วาดภาพชุดหนึ่งหน่อย เดียวฉันจะบอกคุณว่ามีอะไรบ้าง ยี่ห้อไหนบ้าง และสามารถซื้อได้ที่ไหนบ้าง คุณจำไว้ให้ดีนะค่ะ”
นางพยาบาลรีบหยิบกระดาษและดินสอมาจดทันที “ค่ะ ว่ามาค่ะ”
หยวนชูเฟินมีความคิดนี้มาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ตอนแรกเธอคิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นแบบนี้ แต่ดูเหมือนตอนนี้ไม่สามารถรอคอยได้แล้ว “ถนนฝูฉวน หมายเลข 27 ขาตั้งภาพ กระดาษวาดภาพ…..”
หยวนชูเหินบอกสิ่งของที่ตัวเองต้องการรอบหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้ ไม่เพียงแค่ยี่ห้อที่นางพยาบาลไม่เคยได้ยิน แม้แต่ชื่ออุปกรณ์เธอยังไม่เคยเห็นและรู้มาก่อนเลย
“รบกวนคุณหน่อยนะค่ะ”
“ได้เลยค่ะ เดียวฉันจะไปรีบซื้อมาให้ตอนนี้เลย”
——
หลังจากออกจากโรงพยาบาล หยังเซินขับรถมารับพวกเขากลับบ้าน แล้วพาไปส่งที่รีสอร์ทหยีจิ่ง
อยู่โรงพยาบาลหนึ่งวันหนึ่งคืน ลั่วหานรู้สึกเหนื่อยมาก เมื่อกลับถึงคฤหาสน์ก็นั่งพักบนโซฟาในห้องรับแขกสักพัก ขณะเดียวกันก็มีเวลาว่างสังเกตดูบ้านที่ไม่ได้พักมานาน
ที่นี่เหมือนกับบ้านที่เธอจากมาเลย บนเพดานมีดวงไฟคริสตัลหรูหราแขวนอยู่ และบนพื้นมีตู้นาฬิกาตั้งพื้นขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้วย โซฟาในห้องรับแขกก็เหมือนกัน เพียงแต่ชิ้นนี้ใหม่เอี่ยมครบชุดกว่าเมื่อก่อน และแม้แต่ดอกไม้ที่อยู่แจกันดอกไม้บนโต๊ะก็เป็นดอกพุดซ้อนสีขาวที่เธอชอบด้วย
สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนคือ บนผนังกำแพงมีรูปภาพรวมแขวนไว้อยู่ ซึ่งกรอบรูปภาพมีลวดลายดอกไม้เลี่ยมด้วยเงินและทอง แถมแขวนรูปภาพตำแหน่งฮวงจุ้ยด้วย
ในรูปภาพเป็นรูปคู่ที่เธอกับหลงเซียวถ่ายด้วยกันที่โรงพยาบาล ซึ่งเป็นรูปคู่รูปเดียวของทั้งสองคน หลงเซียวเลยหวงแหนมาก ไม่ว่าจะเป็นที่คฤหาสน์หรือที่นี่ หากพวกเขาพักอาศัยต้องแขวนไว้อย่างแน่นอน
ลั่วหานทิ้งตัวพิงลงบนโซฟา พร้อมมองชื่นชมหลงเซียวในรูปภาพ
หลังจากหลงเซียวล้างมือเสร็จก็เดินออกมา และเห็นลั่วหานกำลังเหม่อลอยอยู่ จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปนั่งข้างๆ และลูบบนใบหน้าขาวเนียนของเธออย่างเอ็นดู
ลั่วหานส่ายหน้า แล้วยื่นมือจับแขนของเขา “ที่นี่เป็นบ้านของเรา ต่อไปพวกเราจะพักอยู่ที่นี่ ถึงแม้คฤหาสน์ชานเมืองจะใหญ่กว่าที่นี่มาก แต่มันไกลเกินไป และเงียบเหงาด้วย”
“ครับ ต่อไปเราจะอยู่กันที่นี่ ผมสั่งให้คนตกแต่งและปรับปรุงห้องทารกชั้นสองแล้ว หากตกแต่งและปรับปรุงตอนนี้ ตอนที่เขาเริ่มเติบใหญ่อีกหน่อยจะได้สามารถอยู่ได้เลย”
ลั่วหานหัวเราะขึ้น “คุณนี่ชอบพูดว่าครับคำนี้ตลอดเลย ฉันว่าอะไรคุณก็ว่าครับ” สองวันมานี้ได้ยินแต่เขาพูดว่าครับนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
สำหรับข้อเรียกร้องของเธอแล้ว เขาไม่เคยปฏิเสธเลย แถมยินยอมอย่างไม่มีข้อแม้ด้วย
หลงเซียวคลายคิ้วที่ขมวดลง ในตอนนี้เขาค่อนข้างผ่อนคลายมาก เขาโอบกอดเธออย่างสบายใจ พร้อมกับสัมผัสกับช่วงเวลาที่ดีของพวกเขาสองคนนี้ในค่ำคืนนี้
“คุณเป็นภรรยาของผม คำพูดของภรรยาต้องเชื่อฟัง ยิ่งไปกว่านั้นภรรยาของผมเป็นเย็นชาและฉลาดด้วย ดังนั้นเธอพูดอะไรก็ถูกต้อง ผมไม่ใช่คนเชื่อใครง่ายนะครับ แต่ผมเป็นคนเชื่อฟัง”
คำพูดที่เขาพูดมาช่างน่าประทับใจมาก แถมไม่ใช่คำพูดประเภทหวานเลี่ยน เลยทำให้ลั่วหานรู้สึกซาบซึ้งใจมาก
“ฝีปากของคุณหลงร้ายกาจมาก ดูเหมือนฉันคงสู้คุณไม่ไหวแล้ว” ลั่วหานพูดประชดประชันขึ้น
“แบบนี้ดูเหมือนมีลางสังหรณ์อันตรายเลย…..”เขายิ้มและพูดว่า “ปกติแล้ว ผู้ชายที่สามารถชนะฝีปากของภรรยาได้ ผลลัพธ์น่าอนาถมาก”
ลั่วหานขยับดวงตาและกระพริบตาเล็กน้อย หลังจากตั้งท้องบนใบหน้าก็มีเสน่ห์มากขึ้น แถมตอนนี้ยังมีสีหน้าเย้ายวนด้วย “คุณไม่ใช่คนปกติ ทฤษฎีทั่วไปไม่สามารถใช้กับคุณได้”
หลงเซียวโอบกอดเธอสองมือ “ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ผมล้วนยินยอมเป็นขุนนางใต้ร่มผ้าของคุณ” เขายิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์เล็กน้อย
ลั่วหานรู้สึกร้อนอุ่นบนใบหน้าเล็กน้อย “ไม่ซื่อสัตย์!”
“คุณหมอฉู่เป็นคนฉลาดและเย็นชาจริงๆ เข้าใจหรอครับ?”
แน่นอนว่าเข้าใจ ในความหมายของเขา ขุนนางใต้ร่มผ้าต้องมีเจตนาไม่ดีแฝงอยู่ด้วยแน่ คุณหลงไม่ไร้เดียงสาเอาเสียเลย
“ไม่เข้าใจ ฉันตั้งท้องจนโง่เขลาสามปี ตอนนี้ระดับสติปัญญาของฉันเสื่อมลงแล้ว”
“ต่อให้กลายเป็นคนโง่เขลา ผมก็ยังรัก จะเป็นยังไงก็ยังคงรักเสมอ”
เขาโอบกอดเธอแน่นยิ่งขึ้น พร้อมกับวางใบหน้าแนบข้างหูของเธอ เมื่อได้ยินคำพูดอ่อนหวานและน้ำเสียงที่นุ่มนวลผ่านเข้าหูก็ทำให้ร่างกายของเธอสูบฉีดเลือดทันที
เขาอุ้มเธอขึ้นข้างบน ไม่นานก็มาถึงห้องนอนชั้นสอง
เมื่อวางลั่วหานลงบนเตียงเสร็จ หลงเซียวก็หยิบหมอนวางใต้ท้องหลังของเธอ “คุณพักผ่อนก่อน เดียวผมไปเตรียมน้ำในอ่างน้ำให้คุณอาบน้ำ สองวันมานี้คุณคงเหนื่อยมาก ต้องผ่อนคลายเส้นเลือดและกระดูกหน่อย”
เขาปฏิบัติต่อเธอเหมือนเด็กน้อยเลย
“คุณก็แช่น้ำสักหน่อยก็ดี คุณเองก็ทำงานหนักเหมือนกัน ต้องวิ่งจัดการสองบริษัท แถมยังต้องมาดูแลคนท้องอย่างฉันด้วย”
เธอจ้องมองเขาด้วยสายตากังวล เธอรู้ว่าเขาไม่ให้จี้ตงหมิงกับหยังเซินช่วยเหลือ แต่เขาเป็นคนทำทุกอย่างด้วยตัวเอง หากจะพูดว่าเหนื่อย คนที่เหนื่อยที่สุดก็คือเขา
ซึ่งเธอรู้สึกเป็นห่วงเป็นอย่างมาก