ตอนที่ 554 นกกระจอกเปลี่ยนเป็นพญาหงส์
น้ำร้อนๆ ไหลจากบนชุดสูทของเกาจิ่งอานลงไปด้านล่างจนหยดติ๋ง ถ้าเป็นแค่นั้นคงจะดีกว่า แต่น้ำร้อนนั้นกลับไหลหยดลงบนพรมเปอร์เซียราคาแพงในรถ ซึ่งเป็นพรมเปอร์เซียที่เป็นลายดอกไม้ถักถอมาจากงานฝีมือโดยเฉพาะ แต่ตอนนี้กลับเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ จนมีทั้งไอของความร้อนและเผ็ดตลบอบอวลไปมา
เกาจิ่งอานกับโจวโร่หลินนิ่งตะลึงไปทันที เกาจิ่งอานมองดูโจวโร่หลินที่โผหน้าเข้ามา ก่อนจะใช้มือของเขาคว้ามือทั้งสองของเธอเอาไว้
สายตาที่ดุร้ายสบเข้ากับสายตาที่ประหลาดใจของเธอชั่วขณะนั้น ราวกับมีดอกไม้ไฟปะทุดังปึ้งปั้งจนตาแทบบอด
โจวโร่หลินโน้มกายลงมาครึ่งหนึ่ง ขึ้นมาอยู่บนตัวของเกาจิ่งอาน พร้อมทำหน้างุนงงมองดูน้ำร้อนที่เปรอะบนตัวเขา เธอไล่สายตามองดูหยดน้ำที่ไหลผ่านตั้งแต่คอเสื้อลงไปด้านล่าง จนไปถึงรองเท้าหนังของเขา
นี่มันจบเห่แล้ว ทั้งชุดสูท ทั้งรองเท้าหนัง ทั้งพรมของเกาจิ่งอาน ทุกอย่างล้วนเสียหายหมด
โจวโร่หลินกัดฟันแน่น ตัดสินใจจะก้มหัวขอร้องเขาให้ถึงที่สุด เพราะเธอชดใช้ให้ไม่ได้จริงๆ โธ่เอ๊ย ยังไงเธอก็ชดใช้ไม่ไหวแน่!
โจวโร่หลินพยายามสะบัดออกสุดแรง แต่ก็หลุดพ้นจากพันธนาการของเขาไม่ได้ ทำได้เพียงประนีประนอม โดยการยืดคอเบือนหน้าหนีไปอย่างไม่สบอารมณ์ “ไม่ใช่ความผิดฉันนะ เพราะคุณไม่ได้ถือมันดีๆ เองต่างหาก”
เกาจิ่งอานหัวเราะหึออกมาสามครั้ง ก่อนจะใช้มือขวาล็อคกระดูกคางที่ผอมแห้งของเธอเอาไว้ “โจวโร่หลิน นี่คุณโตมายังไงกันแน่? นี่คุณโตแต่ตัวหรือไงกัน? มีตาดูหรือเปล่า?”
หลักการของโจวโร่หลินมีเพียงอย่างเดียว คือตัดสินใจไม่ยอมรับ และก็จะไม่ชดใช้ค่าเสียหายอะไรด้วย “เฮอะ คุณพูดถูก ฉันโตมาด้วยดินด้วยหญ้า ไม่มีทั้งสมอง และไม่มีทั้งตาดู”
“ให้ตายเถอะ!” เกาจิ่งอานโกรธจนเค้นเสียงจากลำคอออกมา “แล้วตอนนี้คุณจะทำยังไงดีล่ะโจวโร่หลิน?”
“อะไรทำยังไง? ถ้าหากคุณไม่อยากกินยา พวกเราก็แยกย้ายกันกลับเถอะค่ะ แต่ถ้าหากคุณอยากกินยา ฉันก็จะไปกับคุณด้วย สำหรับเรื่องนี้…มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องที่คุณกินข้าวเย็นของฉันเลยนะ!”
สรุปว่าเขาเป็นผู้เสียหายหรือเปล่าเนี่ย? แค่เพียงกระพริบตาเดียวเท่านั้นนี่นะ?
“โอ้โห! พูดเรื่องใส่ร้ายแบบนี้ไปเรียนมาจากใครเนี่ย? โจวโร่หลินสมองของคุณมีอะไรใส่กันอยู่แน่?” เกาจิ่งอานปล่อยมือของเธอ ก่อนจะแย่งกระเป๋าของเธอมา แล้วเทมันลงบนเบาะที่นั่งจนหมด
“เกาจิ่งอาน!!” โจวโร่หลินพลันฉุนเฉียวขึ้นมาพลัน เธอพยายามแย่งกระเป๋าของเธอกลับมา แต่ว่าของด้านในกลับถูกเขาเทออกมาหมดแล้ว
เกาจิ่งอานดึงเอากระดาษทิชชู่มาหลายแผ่น เพื่อเช็ดน้ำร้อนที่เปรอะบนชุดของเขาไปมา กลับกันเขาก็ไม่ได้ขอให้โจวโร่หลินช่วยเลย เขาเช็ดไปเช็ดมาอย่างรังเกียจ พร้อมทั้งเบ้ปากพูด : “โจวโร่หลินกระเป๋าคุณเป็นถังขยะหรือเปล่า ลองดูด้วยตัวเองสิ นี่มันมีแต่ของอะไรกัน ชิ กรรไกรตัดเล็บหรือ? ผู้หญิงอย่างคุณจะพกของแบบนี้ไปไหนมาไหนทำไมกัน? บัตรรถบัสงั้นหรือ เวลาจะออกจากบ้านยังต้องพกไว้อีกหรือ? นี่คุณอยู่ในยุคสมัยไหนแล้ว? เฮอะ! คูปองเคเอฟซี คูปองพิซซ่า กระดาษเปียก โปสเตอร์ห้องเช่า ขนมโซดา? อมยิ้ม? ขนมเคลือบช็อคโกแลต? ให้ตายเถอะ แม้กระทั่งเบอร์เกอร์ที่ยังกินไม่หมด ยังใส่เอาไว้ในกระเป๋าอีกหรือ?!”
เกาจิ่งอานตะลึงไปทันที! เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนพกของแบบนี้ในกระเป๋ามาก่อน แน่นอนว่าไม่เคย!
โจวโร่หลินแย่งเอาเบอร์เกอร์นั้นกลับมา “นี่มันตั้งแต่เที่ยงต่างหาก ยังไม่ทันกินเสร็จฉันก็ต้องรีบไปประชุมก็เลยลืม ตอนนี้ที่หิวก็กะว่าจะกินพอดีนี่”
พูดจบ เธอก็แกะกระดาษออกมา ก่อนจะกัดคำใหญ่กินมันต่อหน้าเกาจิ่งอาน
พลันทัศนคติของเกาจิ่งอานก็เหมือนถูกทำลายลง ก่อนจะยกมือขึ้นปิดตาไม่มองด้วยความสิ้นหวัง “ให้ตายเถอะ! นี่คุณเป็นผู้หญิงจริงหรือเปล่าเนี่ย! ไม่ว่าอะไรก็กินซะหมด!”
โจวโร่หลินยัดเบอร์เกอร์เข้าไปจนเต็มปาก ก็เพราะว่าเมื่อกี้นี้เธอยังกินไม่ทันอิ่ม ทำให้ตอนนี้เธอรู้สึกสบายขึ้นเยอะ “นี่คือเบอร์เกอร์ มันเป็นของกินนะ!”
เกาจิ่งอานยกมือทั้งสองขึ้นลูกใบหน้าที่หล่อเหลาของตัวเอง ก่อนจะส่งสายตาที่น่าดึงดูด มองดูเธอที่กินอย่างดูไม่สง่างามเอาเสียเลย “โจวโร่หลิน นี่คุณจนมากเลยหรือ?”
โจวโร่หลินกัดเบอร์เกอร์ลงไปคำใหญ่ พร้อมทั้งกินอย่างตะกละตะกลาม “ฉันจะจนไม่จนก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณสักหน่อย รอให้คุณหายดีก่อน พวกเราก็จะได้แยกกันไปคนละทางสักที!”
เกาจิ่งอานมองดูของที่อยู่ในกระเป๋าของเธอ ก็พอจะเข้าใจอะไรคร่าวๆ
ก่อนอื่นก็กระเป๋าของเธอ แค่มองดูก็รู้แล้วว่าเป็นของลอกเลียนแบบในเว็บเถาเป่า ที่เหมือนกับแบรนโคลอี้ที่เพิ่งจะทำการรีสินค้าออกมาใหม่ล่าสุด แค่สัมผัสดูก็รู้แล้วว่าต่างจากของจริงมาก
ส่วนเครื่องสำอางที่อยู่ด้านในก็เป็นยี่ห้อธรรมดา ที่ดูเห็นคุ้นตาก็คงจะมีเพียงลิปสติกของ Saint Laurant เท่านั้น แต่กลับไม่มีตลับแป้งที่มีราคาเกินกว่าหนึ่งพันสักอันเลยด้วยซ้ำ
นี่เธอเป็นผู้หญิงยังไงล่ะเนี่ย!
คิดไปคิดมา ก่อนหน้านี้เกาจิ่งอานก็ได้เจอผู้หญิงมาเยอะ ทุกคนต่างก็เป็นสาวสวยกันทั้งนั้น ทั้งตัวของพวกเธอมีแต่ของแบรนด์เนม จนราคารวมทั้งหมดก็อยู่ที่หลักห้าแล้วด้วยซ้ำ
“สาวรับใช้ตัวน้อย ทั้งตัวของคุณนี่รวมๆ กันแล้วยังมีราคาไม่ถึงสองพันด้วยซ้ำใช่ไหม?”
โจวโร่หลินกินเบอร์เกอร์จนเสร็จหมดแล้ว พร้อมทั้งยกมือขึ้นเช็ดปาก “เกินสิ!” เธอหยิบเอามือถือขึ้นมา “แค่เครื่องนี้ก็มีราคาหกพันแล้ว!”
แน่นอนว่า การผ่อนชำระจะนับด้วยไหมนะ?
“ให้ตายเถอะ!” เกาจิ่งอานฟ้าผ่าจนตัวกรอบ “นี่คุณเป็นผู้หญิงจริงหรือเปล่า เอาเถอะ ตามผมไปซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนแล้วกัน”
โจวโร่หลินเก็บของทุกอย่างจนเสร็จ “เกาจิ่งอาน มาตรฐานการประเมินคนของคุณ คือการดูว่าอีกฝ่ายมีเงินหรือเปล่างั้นหรือ? ถ้าหากเป็นแบบนี้ ฉันก็ผิดหวังในตัวคุณมากนะ”
เกาจิ่งอานบอกให้คนขับรถไปที่ห้างสรรพสินค้า ก่อนจะส่งเสียงหึ “ไม่ได้ดูที่เงินหรอก ผมดูที่อย่างอื่นก็ได้ แต่คุณล่ะ? นอกจากไม่มีเงินแล้ว อย่างอื่นก็แทบไม่มีเลย”
โจวโร่หลินโยนกระเป๋าทิ้ง ก่อนจะยืดอกพูด “ใครบอกกัน! ฉันเองก็มีเถอะ!”
เกาจิ่งอานพินิจดูการอวดดีของเธอ ก่อนจะส่งเสียงทอดถอนใจ “โอ้โห ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน ดูเหมือนว่าจะอวดดีขึ้นนะ คุณคงจะไม่ได้…โอ๊ย!”
ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดจบ โจวโร่หลินก็ตบหน้าเขาลงไป จนหน้าของเขาสะบัด
“นี่หาเรื่องตายหรือ!”
“ใช่ ฉันหาเรื่องตาย เอาสิ มาตีฉัน ตีฉันเลย”
เกาจิ่งอาน : “……”
นี่ใครเป็นเจ้านายกันแน่เนี่ย?
โจวโร่หลินเลิกที่จะเมินเฉยคำพูดเยาะเย้ยของเขา กลับกันก็พูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ฉันเป็นผู้หญิงหรือเปล่าคุณไม่รู้หรือ? แม้แต่ผู้ชายคุณยังไม่ปล่อยไปเลย? แล้วคืนนั้นเป็นเพราะคุณเกาหิว ก็เลยมาหลับนอนกับผู้ชายอย่างฉันงั้นหรือ?”
เกาจิ่งอานโมโหเสียจนอยากจะกระทืบเท้า เขาเจอผู้หญิงมาตั้งมากมาย เกาจิ่งอานที่สง่างามใช้ชีวิตมาอยู่บนโลกนี้กว่ายี่สิบปี กลับไม่ใช่คู่มือของผู้หญิงที่ไม่ได้มีประสบการณ์ชีวิตโชกโชนแบบนี้เลย
โธ่เอ๊ย!
“หุบปาก ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป คุณไม่มีสิทธิ์ในการพูด”
ยิ่งฟังคำพูดที่เผ็ดร้อนออกมาจากปากของเธอ ก็ยิ่งทำให้เขาแทบจะขาดใจตายเสียให้ได้
“มีสิทธิ์อะไรกัน? ฉันไม่ทำหรอก!”
“สิทธิ์ของเกาจิ่งอานยังไงล่ะ! คุณอยู่ในอาณาเขตของผมนะ!” เขาฉุนเฉียวจนแทบแย่!
โจวโร่หลินจัดระเบียบกระเป๋าให้เรียบร้อย ก่อนจะแกะลูกอมออกมากิน “ต้องขอโทษด้วยนะคะคุณเกา ก่อนหน้านี้ฉันยังชื่นชมคุณ แถมยังทิ้งความฝันไว้กับคุณ แต่ตอนนี้พอได้รู้โฉมหน้าจริงของคุณ ฉันก็แทบไม่เห็นคุณอยู่ในสายตา คำว่าเกาจิ่งอานมันไม่ได้มีค่าอะไรกับฉันหรอกนะ”
“นี่คุณ…” เกาจิ่งอานอุดปากของเธอเอาไว้ พร้อมทั้งโน้มตัวกดเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอด พร้อมทั้งประทับจูบลงไป
ริมฝีปากที่เรียวบางเข้าจู่โจม ริมฝีปากที่อ่อนนุ่มของเธอ เขาจูบราวกับจะกลืนกิน พร้อมทั้งเอาฟันกัดลงไปบนเนื้อที่อ่อนนุ่มมุมปากของเธออย่างแรง ทำให้ความเจ็บปวดพุ่งแปลบเข้ามาหาเธอ
เป็นเพราะเธอเพิ่งจะกินลูกอมไป ทำให้รสชาติความหวานยังอบอวลอยู่ในปาก เขาตวัดลิ้นไปมาด้านในจนรู้สึกได้ถึงความหวานฉ่ำ จนไม่อาจจะถอนตัวได้
“อุ๊บ!!” โจวโร่หลินพยายามใช้มือและเท้าขัดขืนดิ้นรน แต่เขาก็กลับยิ่งใช้แรงรัดเธอไว้มากขึ้น
“ครึ่ก!” ฝ่ายหญิงรู้สึกเจ็บปวด จนสูดลมหายใจเข้าลึก พลางเบิกตาโพลงมองหน้าฝ่ายชาย
เขาไม่ได้เพียงจูบปากเธอเท่านั้น แต่นี่มันเหมือนกับการลงโทษ ตาทั้งสี่ประสานกัน จนเลือดสดๆ ค่อยๆ ไหลซึมผ่านซอกฟันของเธอออกมา
“เพี๊ยะ!”
โจวโร่หลินยกมือขึ้นตบหน้าฉาด จนทำให้เกาจิ่งอานนิ่งอึ้งไป
“นี่คุณกล้าตบผมงั้นหรือ?”
“แต่คุณจูบฉัน!! กล้าดียังไงมาจูบฉัน! เกาจิ่งอาน ฉันไม่ให้อภัยคุณแน่!”
พลันในรถก็เกิดเสียงโครมครามโวยวาย ดังไปมาอยู่ประมาณสิบกว่านาที
ผลสุดท้าย ทั้งหัวและเสื้อผ้าของทั้งคู่ต่างก็ยุ่งเหยิงไปหมด น้ำร้อนเหล่านั้นก็เปื้อนตัวโจวโร่หลินจนกระโปรงสีฟ้าอ่อนของเธอ กลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม แถมยังส่งกลิ่นเผ็ดร้อนออกมาด้วย
ขณะนั้นเอง คนขับรถที่ทำเป็นหูหนวกตาบอดมาตลอด ก็พูดขึ้นอย่างนอบน้อม “ท่านประธานครับ ถึงห้างสรรพสินค้าแล้วครับ”
เกาจิ่งอานเดินไปข้างหน้า พร้อมด้วยกางเกงที่ดูเปรอะเปื้อน ที่คลุมขาอันเรียวยาวของเขาไว้สองข้าง ถึงแม้ว่าจะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ไม่สามารถลดความสง่างามที่เขามีได้เลย
โจวโร่หลินก็เดินตามมาด้านหลัง พร้อมทั้งถือกระเป๋าปิดตรงที่มีรอยเปื้อนมากที่สุด และยืนกำหมัดคล้ายตั้งท่าจะต่อยเขา
น่าชกให้ตายจริงเกาจิ่งอาน! ไอ้ชั่ว! ไอ้อันธพาล! ไอ้โรคจิต!
“มาถึงแล้วล่ะ” เกาจิ่งอานเบรกกะทันหัน ร่างกายที่สูงกำยำของเขา ยืนอยู่ด้านหน้าร้านสาขาหลักของแบรนด์ฝรั่งเศสแห่งหนึ่ง
โจวโร่หลินได้เห็นก็นิ่งตะลึง มองดูแบรนด์ที่ว่าเป็นไก่ตาแตก ให้ตายสิ! เสื้อผ้าร้านนี้มีราคาเกินหมื่นทั้งนั้นเลย แล้วเกาจิ่งอานก็คงจะไม่พาเธอมาที่นี่ เพื่อให้เธอซื้อชุดใหม่ชดใช้เขาหรอกนะ?!
“สวัสดีค่ะ คุณเกา” ทั้งพนักงานและผู้จัดการสาขาต่างก็โค้งคำนับทักทายเขาอย่างเป็นระเบียบ พร้อมทั้งเชิญเขาเข้าร้านอย่างสุภาพนอบน้อม และมีพนักงานกว่าเจ็ดแปดคนกำลังยืนห้อมล้อมเขาไปมา ไม่หยุดที่จะแนะนำสินค้าใหม่ๆ ให้เขาเลย
เกาจิ่งอานกวักมือเรียกโจวโร่หลินที่ยืนอยู่ด้านหน้าประตู “เข้ามาสิ”
พอพนักงานเห็นโจวโร่หลินต่างก็มีความคิดในใจผุดขึ้นมา
เฮอะ นี่คุณเกาเปลี่ยนคู่อีกแล้วหรือนี่?
เฮ้อ รสนิยมครั้งนี้ดูจะเป็นเอกลักษณ์มากเลยนะ ผู้หญิงระดับนี้เองก็เข้าตาเขาด้วยงั้นหรือ?
พระเจ้า ชิๆๆ สไตล์การสวมเสื้อผ้าของผู้หญิงคนนี้ทำให้ไม่กล้าจะพูดประจบอะไรเลย เพราะทั้งชุดเป็นชุดที่ซื้อมาจากในอินเตอร์เน็ตทั้งนั้น โอ้โห กระเป๋าในมือก็น่าจะไม่เกินกว่าสองสามร้อยด้วยซ้ำ
รองเท้าDaphneงั้นหรือ? โอ้โห ต้องจนถึงขนาดไหนเนี่ย?
โจวโร่หลินเดินเข้ามาในร้านที่หรูหราโอ่อ่า ท่ามกลางสายตาที่สุกสว่างจ้องมองมายังตัวเธอ พร้อมทั้งสแกนรายเอียดปลีกย่อยต่างๆ ของเธออีกเป็นร้อยเท่า
เกาจิ่งอานเหลือบมองเห็นท่าทีของพวกเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น “เลือกเสื้อผ้าให้เธอหน่อยสิ”
“ได้ค่ะ”
“ไม่ทราบว่าคุณเกาอยากได้สไตล์แบบไหนคะ?” พนักงานอาศัยโอกาสนี้ในการเอาอกเอาใจ เธอค่อยๆ เลิกกระโปรงขึ้นแล้วเอาไปถูกับขาของเขา พลางคิดว่าแม้กระทั่งผู้หญิงคนนั้นยังขึ้นเตียงของคุณชายเกาได้ พวกเธอเองก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้
เกาจิ่งอานเห็นแบบนั้นก็ผลักผู้หญิงคนนั้นออก ก่อนจะพูดด้วยความเย็นชาและรังเกียจ “ใหม่ที่สุด แพงที่สุด และดีที่สุด! รีบไปได้แล้ว”
โจวโร่หลินสะบัดมือไปมาราวกับตะแกรงร่อนแป้ง “ไม่เอาๆ ฉันไม่ซื้อหรอกนะ! ฉันขอตัวก่อนล่ะ!”
เกาจิ่งอานยื่นแขนยาวๆ ของเขาไปโอบรัดเธอที่กำลังจะวิ่งหนี ให้โผเข้ามาในอ้อมกอดของเธอ “จะหนีไปไหน? ที่รัก”
จู่ๆ เขาก็แสดงท่าทางสนิทสนมขึ้นมาทันที จนทำให้โจวโร่หลินและทุกคนที่มองอยู่ ต่างก็ตะลึงพรึงเพริดไปทันที!
โจวโร่หลินเบิกตากลมโต พร้อมทั้งทำตัวแข็งทื่ออยู่ในวงแขนของเขา “นี่คุณ…”
เกาจิ่งอานค่อยๆ สางผมที่ยุ่งเหยิงของเธอ “โจวโร่หลินถ้าหากไม่อยากทำให้เรื่องมันบานปลาย ก็เชื่อฟังผมเถอะนะ”
โธ่เอ๊ย แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับการก่อเรื่องล่ะเนี่ย?
โจวโร่หลินถูกพาเข้าไปในห้องลองเสื้อ เธอลองชุดแล้วชุดเล่า ทันทีที่เสื้อผ้าราคาแพงสวมลงบนตัวเธอ มันก็ทำให้เธอดูสวยงามประณีต จนทำให้เกิดเสน่ห์ดึงดูด ชวนให้คนตกตะลึงไป
เกาจิ่งอานนั่งเอกเขนกอยู่บนโซฟา พอเห็นโจวโร่หลินสวมชุดกระโปรงยาวเดินออกมา โดยเฉพาะเป็นทรงคอ V ลึกอีกด้วย…
ด้วยความเข้าใจที่ผู้จัดการร้านมีต่อเกาจิ่งอาน ผู้หญิงที่เขาเลือกมักจะเป็นแบบหน้าอกใหญ่ ขายาว บั้นท้ายดินระเบิด ดังนั้นการเลือกเสื้อผ้าให้กับโจวโร่หลินจึงเป็นไปตามแนวทางนั้นพอดี
ทรงคอที่เว้าลึก เอวที่คอดกิ่ว และส่วนโค้งเว้าตามร่างกาย มันเป็นแบบแท้ๆ เลย!
ดังนั้น เกาจิ่งอานจึงไม่ได้ดื่มน้ำลงไปแต่อย่างใด แต่กลับจ้องมองจนน้ำไหลออกมาตามมุมปากเลยทีเดียว
พอสายตาของเขาหันไปมองเห็นร่างกายที่ผอมสูงนั้น ในแววตาก็เหมือนปรากฏสายฟ้าพาดผ่านจนสั่นสะเทือนไปทั่ว
คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเก็บความสวยงามไว้แบบนี้
ให้ตายเถอะ เธอไม่ได้สวยซะหน่อย!
โจวโร่หลินถูกกระโปรงที่รัดตัวจนกลายเป็นหางปลาทำให้หายใจไม่ค่อยออก อีกทั้งยังส่งเสียงหัวเราะแห้งๆ อย่างไม่เป็นตัวของตัวเองออกมา “ทะ…ที่รัก ดูดี…ไหมคะ?”
เกาจิ่งอานรีบยกมือขึ้นเช็ดปากให้สะอาด ก่อนจะดึงความคิดในสมองให้กลับเข้าสู่เข้าทางโดยเร็ว “ดูไม่ดีเลย! เปลี่ยน! เปลี่ยนเป็นชุดนั้น เอาเสื้อคอกลมแขนยาว รีบๆ เปลี่ยนซะ! นี่สวมชุดอะไรกัน! ไม่น่ามองเลยเชียว!”