ตอนที่ 604 ท่านเซียวก็เป็นคนขี้โกงอย่างนี้
อาคารใหญ่บริษัทMBK
“บัดซบ!”
หลงจื๋อนำเอกสารฉบับหนึ่งฟาดปังลงบนโต๊ะ เสียงของความสั่นสะเทือนกระทบถึงถ้วยชาที่อยู่บนโต๊ะ น้ำในถ้วยชาสั่นไหวเล็กน้อย
เลขาฯหลักของหลงจื๋อคือลินดาที่เมื่อก่อนเป็นเลขฯรองให้กับหลงเซียว ความสามารถในการทำงานของเธอเป็นรองแค่แอนดี้เท่านั้น แต่การเป็นรอง ก็หมายความว่ามีช่องว่าง ช่องว่างก็หมายถึงความหวัง
ลินดาถูกเขาขู่จนไม่กล้าพูดมาก รับใช้อยู่ที่โต๊ะทำงานตรงข้ามอย่างตัวสั่นงันงก รอให้เขาลดความโมโหลง
“ฉันต้องการให้คุณช่วยฉันหาแผนการของตู้หลิงเซวียนสำหรับการเข้าร่วมโครงการพลังงานใหม่ แผนการนี้คือกำจัดMBKออกไป ไม่นึกเลยว่าคุณจะบอกฉันว่าไม่มีแฟ้มข้อมูล?! คนของแผนกวางแผนล่ะ? เรียกเข้ามาให้ฉัน!”
ลินดาพยักหน้า ใบหน้าที่แต่งอย่างละเอียดงดงามซีดเผือด “ท่านประธาน นี่คือท่านประธานจัดการด้วยตัวเอง คนใต้บังคับบัญชาล้วนไม่มีคุณสมบัติที่จะร่วมทำงานโดยตรง คนของแผนกวางแผนก็ไม่ทราบ”
“ให้ผู้จัดการแผนกวางแผนเข้ามา ฉันจะถามเขาด้วยตัวเอง!” หลงจื๋อล้มตัวลงบนเก้าอี้เจ้านาย จ้องเขม็งไปที่ลินดา
“ค่ะ”
ลินดาเชิญคนรับผิดชอบของแผนกวางแผนเข้ามา แต่เขาบอกว่าตนเองไม่ทราบข้อเท็จจริง ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าบริษัทได้เข้าร่วมโครงการพลังงานใหม่เมื่อใด
“ไปให้พ้น! ไสหัวออกไป! ไม่มีประโยชน์ทั้งกลุ่ม!”
หลงจื๋อเกรี้ยวกราดอยู่ในห้องทำงาน ข่าวได้ไปเข้าหูของหลงถิงอย่างรวดเร็ว เขารู้ถึงความคิดของหลงจื๋อ กำชับเหลียงจ้งซุนด้วยความไม่สบายใจเล็กน้อย
“คุณคอยดูเสี่ยวจื๋อให้ฉัน ในใจของเขายังคงห่วงที่จะช่วยหลงเซียว ฉันต้องการให้เขาทุ่มเทพลังและจิตใจทั้งหมดให้กับ MBK!การต่อสู้นี้ พวกเราไม่สามารถพ่ายแพ้ได้!”
ไม่เพียงแต่ไม่สามารถพ่ายแพ้ได้ เขายังต้องนำฉู่ซื่อและโม่ซื่อทั้งหมดรวบรวมมาอยู่ภายใต้ชื่อของMBK การแข่งขันครั้งนี้ ชนะแล้วก็จะสามารถได้ทุกสิ่งทุกอย่าง หากพ่ายก็จะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง
ไม่มีตรงกลาง
เหลียงจ้งซุนกล่าว “ให้แม่เขากลับมาจะไม่ดีกว่าหรอ?”
“ไม่ได้ ตอนนี้อาการป่วยของอาเฟินไม่แน่นอนอย่างมาก ไม่สามารถได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจได้” หลงถิงนั่งลง ครุ่นคิด
เหลียงจ้งซุนพยักหน้า “ท่านประธานคิดจะทำยังไง?”
ทั่วทั้งตัวของหลงถิงปกคลุมไปด้วยความเยือกเย็น ดวงตาทั้งคู่ที่ลึกลับ “ผู้หญิงคนนี้ ครั้งนึงเคยสูญเสียการควบคุมแล้วทำให้เรื่องดีๆของฉันพังทลาย หาคนสองสามคน เฝ้าดูเธอไว้ ให้เธอพักสงบๆอยู่ที่อเมริกา แล้วก็ อย่าให้เธอรู้ถึงเรื่องอาการป่วยของอาเฟิน”
“ครับ”
……
หลินซีเหวินคิดไม่ถึงว่าหลงจื๋อจะมาหาเธอในช่วงเวลางาน เอามือรองคางแล้วมองเขาด้วยความดีใจและประหลาดใจ
“คุณชายรอง ฉันติดหนี้คุณเท่าไร? สีหน้าที่แสดงออกของคุณนี่คืออะไร?”
หลงจื๋อและหลินซีเหวินนั่งอยู่ที่ร้านHaagen-Dazs หลินซีเหวินถือไอศครีมรสมัทฉะถ้วยนึง ใช้ช้อนขนาดเล็ดตักไอศครีมเข้าปากทีละนิดๆ
หลงจื๋อใช้มือข้างนึงดันขมับ “เหวินเหวิน ฉันขัดแย้งกันอย่างมาก”
“ดูออก อีกทั้งตอนนี้คุณยังเดือดดาลอย่างมากด้วย ทานไอศครีมเพื่อดับไปสักหน่อยเถอะ ได้ผลมากเลยนะ มีอยู่รสนึงอร่อยมาก ฉันชอบทานมากเลย คุณรอแปปนะฉันจะไปซื้อมาให้คุณ”
หลินซีเหวินซื้อกลับมา ก็พบว่าหลงจื๋อกำลังกินส่วนที่เหลือของเธอ “คุณชายรอง ทำไมคุณตะกละแบบนี้? สามนาทีก็รอไม่ได้หรอ?”
หลงจื๋อหาความสุขในความทุกข์ “คุณไม่ได้บอกว่าคุณชอบทานถ้วยนั้นหรอ? ในเมื่อชอบก็ทานให้เยอะๆนะ ฉันชอบทานที่คุณเหลือไว้”
หลินซีเหวินหัวเราะเจื้อยแจ้ว ในใจอบอุ่นและมีความสุขมาก เธอใช้ช้อนตักในถ้วยนั้นของตนเอง รสชาติของทอฟฟี่โมจิ ให้แรงยืดหยุ่นที่ดีมาก กัดเคี้ยวอยู่ในปาก “คุณอยากจะพูดอะไรกับฉัน? พูดมาเถอะ”
หลงจื๋อทานไอศครีมไปพลาง มองหลินซีเหวินไปพลาง ความมืดมนภายในใจก็เจือจางลงเล็กน้อย “พ่อฉันให้ฉันแข่งขันกับพี่ใหญ่ของฉัน มากจนกระทั่งใช้กลอุบายเบื้องหลังเพื่อทำให้สำเร็จ ฉันไม่เต็มใจที่จะทำร้ายพี่ใหญ่”
หลินซีเหวินใช้ช้อนคนไอศครีม “คือร้ายแรงมาก พ่อของคุณอยากจะปรับความคิดของคุณ”
“อืม เขาพูดว่า ถ้าMBKล้มลง ฉันและแม่ของฉันก็อย่าคิดว่าจะได้พบหน้ากันอีกตลอดชีวิต ดังนั้นฉันจึงต่อต้านอย่างมาก”
ดูท่าหลงจื๋อจะทุกข์ทรมานอย่างมาก คิ้วทั้งสองข้างเห็นร่องลึกหลายร่อง
หลินซีเหวินยิ้มอย่างเย็นชา เป็นพ่อจริงๆ! เป็นผู้นำของตระกูลหลงที่ดีคนนึง!
“หลงจื๋อ คุณเชื่อมั่นในพี่ใหญ่ของคุณไหม? คุณคิดว่าเขาคือคนเลวหรือเปล่า?” หลินซีเหวินนำไอศครีมคนจนเข้ากันแล้ว แล้วตักขึ้นมาช้อนนึง
“ฉันไม่รู้ พี่ใหญ่ฉันเคยยอมรับว่า เขาต้องการMBK”
หลินซีเหวินกล่าวว่า “คุณเชื่อมั่นในพ่อของคุณไหม?”
“ไม่”
หลินซีเหวินนำไอศครีมเข้าปาก เคี้ยวด้วยฟัน “นั่นก็ถูกแล้ว คนนึงไม่แน่ใจ คนนึงแน่ใจ อย่างนั้นก็เดินไปตามความรู้สึกของคุณ”
“ถ้าฉันพ่ายแพ้ให้กับพี่ใหญ่ของฉันล่ะ?”
“คุณโง่หรือเปล่า? ยังไม่ได้เริ่มเลยนะ”
“ฉันไม่อยากชนะพี่ใหญ่ของฉัน” หลงจื๋อไม่ทานแล้ว จิ้มๆที่ด้านในไปมา
“คนโง่ คุณก็ยิ่งขัดใจพ่อของคุณสิ พ่อของคุณปกป้องให้คุณอย่างแข็งแกร่ง คุณก็จะต้องมีท่าทีที่ว่านอนสอนง่าย ฟังเขา ทำให้เขาเชื่อมั่นในตัวคุณ จนกระทั่งควรจะทำยังไง คุณจะต้องมีเส้นขั้นพื้นฐาน นี่เรียกว่ากลยุทธ์สร้างความสับสนให้ศัตรูที่อยู่ตรงหน้า โดยการโจมตีอย่างคิดไม่ถึงจากด้านข้าง!”
หลินซีเหวินเคยถามพ่อของเธอ นำความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของหลงจื๋อไปบอกเขา พ่อหลินวางแผนการนึงให้หลินซีเหวิน หลินซีเหวินเพียงแค่เลียนแบบคำพูดเดิมของพ่อก็เท่านั้น
ใช้กลวิธีสองด้านในการเดินหมากนี้ สมองน้อยๆอย่างหลินซีเหวินนี้จะคิดออกได้ยังไงล่ะ?
คำพูดนึงทำให้เรียกสติคนได้ สิ่งที่หลงจื๋อคลุมเครือก็ถูกคลี่คลายทันที กุมมือของหลินซีเหวินกระโดดโลดเต้นขึ้นมา “เหวินเหวิน คุณคือผู้สูงศักดิ์ของฉันจริงๆ! ฉันรักคุณที่สุดเลย!”
หลินซีเหวินตกใจ “จริงหรอ? งั้นคุณเปิดร้านไอศครีมให้ฉันร้านนึงแล้วกัน”
“ไม่ให้” หลงจื๋อปฏิเสธอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
“บัดซบ! พูดเล่นใช่ไหม!” หลินซีเหวินพลิกกลับมือเล็กๆ จับไปที่ข้อมือของเขา ใช้แรงกดลงไป “ให้ไม่ให้?”
ข้อมือของหลงจื๋อเจ็บปวด ขมวดคิ้วร้องโอ้ย “ไม่ใช่ไม่เต็มใจ คือไม่สามารถซื้อได้ คุณชอบทานไอศครีมขนาดนี้ ทานมากมันทำลายกระเพาะ ทำให้ร่างกายไม่ดี ฉันจะต้องควบคุมคุณแทน”
มือของหลินซีเหวินคลายออกเล็กน้อย กัดๆริมฝีปาก มองสายตาที่อยู่ใกล้ๆ “หน้าไม่อาย!”
“ใช่ๆๆ ฉันหน้าไม่อาย….ยังจะทานไหม? วันนี้กรณีพิเศษ ให้คุณทานสองถ้วย”
“ทาน!”
——
การประชุมเปิดประมูลพลังงานใหม่จัดขึ้นที่อาคารใหญ่ของเมืองหลวง เวลาบ่ายสองโมง คนที่เข้าร่วมการแข่งขันทยอยกันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
หลงเซียวและจี้ตงหมิงมาถึงอาคารใหญ่ ยังไม่ทันได้ลงจากรถก็เห็นซุนปิงเหวินและโม่หรูเฟยมาถึงแล้ว โม่หรูเฟยเข็นรถเข็นคนพิการ คนทั้งสองเดินกันไปพูดคุยกันไป ผู้ช่วยด้านหลังถือกระเป๋าเอกสาร
Rolls-Royceสีดำจอดลง จี้ตงหมิงดึงกุญแจรถออก “เจ้านาย ซุนปิงเหวินก็อยากจะได้โครงการนี้ เขากล้าคิดจริงๆ”
หลงเซียวเป่าปากอย่างเย็นชา “ความฝันก็ยังต้องมี เขาไม่มีความฝัน ฉันจะทำให้เขาดับสูญได้ยังไง?”
จี้ตงหมิงกระแอมไอสองครั้ง “เจ้านาย……นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินว่าความฝันยังสามารถถอดความว่าแบบนี้ได้”
พีค!
“บริษัทของซุนปิงเหวินกำลังเจริญเติบโต ถึงแม้ว่าแผนการของเขาจะดีมากพอ ก็ไม่สามารถนำเงินทุนจำนวนมากออกมาได้ ซุนปิงเหวินไม่ใช่ภัยคุกคามของพวกเรา”
หลงเซียววิเคราะห์ได้ทะลุปรุโปร่งชัดเจน ก้าวเท้าลงจากรถ ขณะเดียวกันที่เขาลงจากรถ BMWสีดำก็มาจอด
คนที่ลงมาจากรถก็คือตู้หลิงเซวียน
ตู้หลิงเซวียนเห็นหลงเซียว ก็พยักหน้าข้ามหลังคารถ “คุณหลง บังเอิญจัง”
หลงเซียวใช้มือขวาไปจัดระเบียบนาฬิกาข้อมือVacheron Constantinที่มือซ้ายให้เรียบร้อย “ไม่ได้บังเอิญ ฉันกำลังรอกระต่ายอยู่ใต้ต้นไม้”
ริมฝีปากบางๆที่ฝังเข้าด้วยคำพูดเสียดสีที่เยือกเย็น อุณหภูมิสักเล็กน้อยก็ไม่มี
ตู้หลิงเซวียนฟังออกถึงความนัยที่แฝงอยู่ของเขา คุณภาพทางจิตใจที่ดีช่วยให้เขารักษาความสง่างามได้อย่างสม่ำเสมอ “การรอกระต่ายใต้ต้นไม้ก็เท่ากับการนั่งกินนอนกิน ไม่เหมือนกับคนฉลาดๆอย่างคุณหลงเซียวนี้ควรจะทำนะ”
หลงเซียวก้าวขายาวที่ห่อหุ้มด้วยกางเกงสีดำออก รองเท้าหนังแฮนด์เมดสไตล์อิตาลีขัดเงาและการเผชิญหน้าของเขา “กระต่ายหนังหนาเนื้อเยอะตัวนึง สามารถผ่านไปได้ทั้งฤดูหนาว”
ตู้หลิงเซวียนฉีกยิ้ม ลมฤดูใบไม้ร่วงพัดมา ความเย็นไหลเข้ามาที่แขนเสื้อและคอเสื้อสูท อากาศเริ่มหนาวแล้ว
“ฤดูหนาวจะมาถึงแล้ว ใช่ ควรจะสะสมอาหารแล้ว”
มือข้างนึงของหลงเซียวเสียบเข้ากระเป๋ากางเกง หัวเราะเบาๆจนแทบไม่ได้ยิน “ใช่ สมควรแล้ว”
จี้ตงหมิงอยู่ที่ด้านหลังก็ฟังอย่างตกตะลึง รอกระต่ายใต้ต้นไม้อะไรกัน นั่งกินนอนกินอะไรกัน อะไรกับอะไรเขาคิดทบทวนกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบ ในที่สุดก็เข้าใจ!
ที่เจ้านายรอคือจี้ตงหมิงกระต่ายตัวนี้!
เชรด! เชรด! ฟินโคตร!
ภาพเงาของทั้งสองที่สูงพอๆกันเดินไปบนพรมต้อนรับแขกในเวลาเดียวกัน สูทสีดำเหมือนกัน ลักษณะท่าทางที่สง่างามเหมือนกัน ท่ามกลางฝูงชนกลายเป็นจุดโฟกัสที่เจิดจ้าสองจุด
เกาจิ่งอานนั่งบนเก้าอี้รับแขกแล้ว เห็นหลงเซียวคาดไม่ถึงว่าจะมาด้วยตนเอง เขาก็ลุกขึ้นยืนรวดเดียว “พี่ใหญ่ คุณก็มาหรอ?”
ตู้หลิงเซวียนยิ้มเบาๆ “คุณก็รอกระต่ายอยู่ใต้ต้นไม้ใช่ไหม?”
เกาจิ่งอานไม่เข้าใจความหมายของเขา อ้าปากตอบกลับมาคำนึง “คุณชอบนิทานสุภาษิตหรอ? 《ท่านตงกั๋วะและสุนัขจิ้งจอก》คุณจะต้องอ่านหลายรอบ”
จี้ตงหมิงแอบยิ้ม! คุณเกา คุณเป็นเพื่อนของเจ้านายจริงๆ! เหมือนกันเลยจริง!
ตู้หลิงเซวียนไม่ยิ้มอีก แต่ในใจมองเกาจิ่งอานไม่ออกเลยโดยสิ้นเชิง
ผู้เข้าร่วมทยอยกันเข้าประจำที่อย่างต่อเนื่อง อย่างรวดเร็วก็ครบจำนวน สำหรับโครงการของประเทศ ทุกคนก็ยังกระตือรือร้นอย่างมาก
โม่หรูเฟยแอบๆมองไปทางด้านของหลงเซียว ปลายนิ้วก็จิกไปที่ฝ่ามือ เล็บสวยงามดั่งคริสตัลก็กดลงไปที่ผิวหนังกลางฝ่ามือ แทบจะจิกจนเลือดออก!
“แขกผู้มาเยือนทุกท่าน ลำดับต่อไปกรุณาอธิบายแบบแผนโครงการของพวกคุณ ตัวแทนแต่ละคนมีเวลาสี่สิบนาที กรุณาใส่ใจเวลา”
พิธีกรทำการกล่าวเปิดแนะนำอย่างสั้นๆ ต่อไปเป็นลำดับการเริ่มต้นด้วยหมายเลขซีเรียล
มือถือของจี้ตงหมิงสั่น เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้หูของหลงเซียวแล้วกล่าวว่า “เจ้านาย บริษัทไห่ลุนเริ่มแล้ว มีห้าร้อยล้านไหลเข้ามาในบัญชีแล้ว ทั้งหมดจะโยกย้ายเสร็จประมาณคร่าวๆใช้เวลาครึ่งชั่วโมง”
หลงเซียวมองไปที่ซุนปิงเหวินที่กำลังคุยโวโอ้อวดอยู่บนเวที “อืม ดีมาก”
การนำเสนอครั้งนึงต้องใช้เวลาสี่สิบนาที สามสิบนาที…..เหอะๆก็พอแล้ว!
เกาจิ่งอานฟังแล้วหาวอย่างต่อเนื่อง “น่าเบื่อจริงๆ แบบแผนอย่างนี้ก็ยังนำออกมาโอ้อวด”
หลงเซียวกล่าวว่า “ในเมื่อคิดว่าเบื่อ แล้วยังมาอีก?”
เกาจิ่งอานกระแอม “พี่ใหญ่ คุณบอกว่าคุณ…..คาดไม่ถึงเวลานี้คุณจะมาเอง…..”
เขาคิดว่าไป๋เวยและกู้เยนเซินจะมา ถือโอกาสพาโจวโร่หลินมาด้วย แบบนั้นก็…….เหะๆๆ! ใครจะรู้ ผิดแผน!
“จิ่งอาน ฝีมือในการยั่วสาวของคุณไม่เลวนะ แต่ก็ต้องใส่ใจกาละเทศะด้วย”
เกาจิ่งอานถูกเขามองทะลุความคิด รอยยิ้มแฝวไปด้วยความเก้อเขิน “ฉันมาเพื่อเรียนรู้ ฉันรอการบรรยายที่ยอดเยี่ยมของพี่ใหญ่!”
ครู่หนึ่ง โทรศัพท์ของตู้หลิงเซวียนก็สั่น
เนื้อหาของเอสเอ็มเอสดังต่อไปนี้: “ท่านประธาน บริษัทไห่ลุนกำลังซื้อหุ้นของบริษัทบริษัทการเงินหลิงเฟยจำนวนมาก ขณะนี้โอนเงินเข้าไปแล้วห้าร้อยล้าน อีกทั้งดูท่าแล้วบริษัทไห่ลุนยังต้องการที่จะซื้อต่อไปอีกจำนวนมาก พวกเขาต้องการที่จะโยกย้ายทรัพย์สินขององค์กรไปที่นั่น!”
“บริษัทบริษัทการเงินหลิงเฟย? บริษัทอะไรกัน?”
“บริษัทใหม่บริษัทนึงที่เพิ่งจะจดทะเบียน”
ดวงตาของตู้หลิงเซวียนหรี่อย่างสุดกำลัง “ติดต่อคนของบริษัทไห่ลุน ถามถึงสถานการณ์ของพวกเขาให้ชัดเจน”
บัดซบ! บริษัทไห่ลุนคือสะพานและเครื่องจ่ายเงินของเขา คาดไม่ถึงว่าตอนนี้จะโยนเงินออกไป! ทั้งยังไม่มีการแจ้งล่วงหน้ากับเขาด้วย!
“ครับ ฉันจะไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้”
ตู้หลิงเซวียนมองเวลา อีกแปปเดียวเขาก็จะต้องขึ้นเวทีแล้ว
“เวลาของการบรรยายคือสี่สิบนาที เฝ้าดูกิริยาท่าทางของบริษัทไห่ลุน เริ่มเตรียมแผนการในสถานการณ์ที่คับขันทันที”
เอสเอ็มเอสของตู้หลิงเซวียนเพิ่งจะส่งออกไป ชื่อของเขาก็แพร่ออกมาจากไมโครโฟน
“ลำดับต่อไป เรียนเชิญคุณตู้หลิงเซวียนของบริษัทหลันเทียนขึ้นบนเวที”
หลงเซียวไขว่ห้างขึ้นอย่างเฉยเมย พิงที่พนักพิงเก้าอี้ “จิ่งอาน ช่วงนี้คุณยุ่งไหม?”
เกาจิ่งอานหาวเสร็จ ปิดปากลงแล้วกล่าวว่า “พอได้ มีธุระอะไรหรอ?”
หลงเซียวกล่าว “ฉันให้คุณไปเรียนรู้การต่อสู้กับพันตรีหวังของกองทัพนกอินทรีพิเศษ เรียนมาเป็นยังไงบ้าง?”
เกาจิ่งอานสั่นๆไหล่ “เรียนก็ไม่เลวนะ! เรียนรู้มาครึ่งชีวิตแล้ว การป้องกันตัวไม่ได้มีปัญหา!”
หลงเซียวยิ้มๆ ดวงตาดำขลับพลางมองตู้หลิงเซวียนที่เดินขึ้นเวที “อย่างนั้น ต่อยคนล่ะ?