ตอนที่ 673 ดังนั้นคนโบราณถึงตายหมดแล้วไง
วันต่อมา ตอนเช้า
ท้องฟ้าเหนือเมืองหลวงถูกปกคลุมด้วยเมฆสีเทาบางๆราวกับมีลมและฝน
หลงจื๋อผู้ซึ่งนอนไม่หลับมาตลอดทั้งคืนเฝ้าดูท้องฟ้าขาวกระจ่าง มองดูเมืองนี้เปลี่ยนเป็นสีที่คุ้นเคย ดวงตาของเขาเฉื่อยชาโดยไม่มีชีวิตชีวา
เขาถือโทรศัพท์ที่พัง หน้าจอที่แตกนั้นเหมือนเส้นเลือดในหัวใจที่ซับซ้อน ที่ถ้าหากแตะเพียงเบาๆก็อาจจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
หลงจื๋อเหลือบมองนาฬิกาปลุกที่หัวเตียง ตอนนี้หกโมงครึ่งแล้ว
ค่ำคืนที่เขาเอาแต่คิดเรื่อยเปื่อย ค่ำคืนที่เขาต้องขบคิดและการดิ้นรน มันเกือบจะทำลายโลกทัศน์ของหลงจื๋อ ทำให้ทุกสิ่งที่เคยเชื่ออย่างสุดหัวใจกลายเป็นแค่ฟองสบู่ที่พร้อมหายไปในพริบตา
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูเบาๆขัดจังหวะหลงจื๋อที่กำลังคิดอยู่ เขาพูดด้วยเสียงกลัดกลุ้มแผ่วเบา “ใคร?”
คนรับใช้พูดด้วยเสียงต่ำและนอบน้อมว่า “คุณชายรองตื่นหรือยังครับ?”
หลงจื๋อไม่ได้ถอดเสื้อนอน จึงเปิดผ้านวมออกแล้วสวมรองเท้าแตะเดินไปเปิดประตู ใบหน้าหลงจื๋อเหนื่อยล้า ดวงตาเห็นเส้นเลือดสีแดงขึ้น เขาก้มหน้ามองคนรับใช้ “มีอะไร?”
เมื่อคนรับใช้เห็นท่าทางของหลงจื๋อก็รู้สึกปวดใจ เขาเป็นคนรับใช้เก่าแก่ของตระกูลหลง หลังจากหลงจื๋อมาอยู่ที่ตระกูลหลง เขาก็คอยดูแลอย่างใส่ใจ พูดได้ว่าเขาเห็นหลงจื๋อเติบโตมา เมื่อหลงจื๋อในสภาพนี้ คนรับใช้รู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก
“คุณชายรอง คุณ…ไม่ได้นอนทั้งคืนเลยหรือครับ?”
หลงจื๋อไม่ตอบ แต่ถามกลับไปว่า “มีอะไรกันแน่ถึงมาปลุกฉันเช้าขนาดนี้?”
คนรับใช้ชี้ไปที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง หลงถิง หลงเซิ่ง หลงยี่และโจวหยู่เช่นต่างก็นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นทั้งหมดแล้ว ทั้งสี่มีสีหน้าจริงจังราวกับว่ามีบางอย่างที่ไม่ธรรมดาเกิดขึ้น
หลงจื๋อพยักหน้าอย่างเกียจคร้าน “เข้าใจแล้ว”
คนรับใช้พูดเบาๆ “คุณชายรองไปเตรียมตัวสักพักเถอะครับ ผมจะไปบอกท่านให้ อย่างน้อย…อย่างน้อยคุณชายรองจะได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
เขาสวมเสื้อสูทนอนทั้งคืนทำให้ชุดเรียบๆถูกทับจนยับ ดูแล้วไม่เข้าท่านัก ผมของเขายุ่งเหยิง โดยเฉพาะหนวดสีเขียวบนริมฝีปากที่เพิ่งขึ้นในชั่วข้ามคืนราวกับชีวิตของเขาผ่านโลกมาโชกโชน 5 ปีในชั่วข้ามคืน
“โอเค ฉันรีบออกไป” หลงจื๋อกำลังจะปิดประตูแล้วก็เปิดออกอีกครั้ง “เมื่อคืนมีใครโทรหาฉันบ้างไหม?”
เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ซีเหวินคงจะกังวลแย่เลยใช่ไหม? โทรศัพท์ของเขาพัง เธอคงจะโทรหาคนอื่นเพื่อติดต่อเขา หรือไม่งั้นคงโทรเข้าโทรศัพท์บ้าน
คนรับใช้กรุ่นคิดสักพัก “มีคนโทรมาครับ แต่ผมรับแล้วไม่ได้โทรคุณชายรองครับ”
หลงจื๋อถามอีกครั้งอย่างไม่เต็มใจ “แน่ใจนะ? ลองคิดดูอีกทีว่ามีผู้หญิงนามสกุลหลินมั้ย?”
คนรับใช้นึกถึงสายที่ได้รับเมื่อวานและเช้านี้อีกครั้งจากนั้นก็ส่ายหน้าอย่างมั่นใจ “ไม่ครับ ป้าหวังเป็นคนรับสายเป็นสายจากเพื่อนเล่นไพ่ของคุณผู้หญิงครับ ไม่มีสายอื่นเลยจริงๆ”
แววตาของหลงจื๋อเหมือนประทัดที่กำลังระเบิด “อืม เข้าใจแล้ว”
เธอไม่ได้โทรหาหรือติดต่อเขา เป็นเพราะซีเหวินเชื่อความคิดเห็นออนไลน์เหล่านั้นใช่มั้ย คิดว่าเขาพยายามให้แม่ลอบทำร้ายพี่ใหญ่เพื่อฮุบสมบัติใช่มั้ย?
เธอเชื่อใช่มั้ยว่าเขายอมทิ้งความเป็นมนุษย์เพราะเห็นแก่สิทธิ์ในมรดกของตระกูลหลงและทรัพย์สินมหาศาลของ MBK?
หลงจื๋อมีปวดหัวแทบระเบิด ความเศร้าในแววตาไม่สามารถซ่อนเอาไว้ได้
คนรับใช้อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเมื่อประตูปิดลง
“คุณท่านครับ คุณชายรองไม่ได้นอนทั้งคืนเลยครับ ผมจะให้คุณชายรองอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า…” คนรับใช้อธิบายกับหลงถิงถึงเหตุผลว่าทำไมหลงจื๋อถึงยังไม่ออกมา คนรับใช้ยังไม่ทันพูดจบหลงยี่ก็พูดขัดจังหวะอย่างหยาบคายขึ้นมา
“แกจะเป็นคนรับหน้าที่! แกคิดว่าแกเป็นห่าอะไร? รับหน้าที่บ้าบออะไร! ไม่รู้หรอว่าเรากำลังพูดเรื่องอะไรอยู่!”
สีหน้าของคนรับใช้แข็งทื่อ รอยยิ้มปรากฏที่มุมของดวงตาที่เหี่ยวย่น เขามองไปที่หลงถิงอย่างลำบากใจ “คุณท่านครับ ผมจะ…ขึ้นไปเรียกเดี๋ยวนี้ครับ?”
หลงถิงพึมพำ “ไม่ต้อง นายออกไปก่อน”
คนรับใช้ไม่ได้มองหลงยี่กับหลงเซิ่งอีก เขาก้มศีรษะแล้วพูดว่า “ครับ”
คนรับใช้เดินออกจากห้องนั่งเล่น หลงถิงยิ้มอย่างไม่สบอารมณ์ “หลงยี่อารมณ์ของแกขึ้นแล้ว”
หลงยี่รีบก้มหน้ายิ้มเยาะ “ลุงรอง ผมไม่ได้หมายความเช่นนั้น ผมแค่คิดว่าคนรับใช้คนนี้กลับทำตัวเหมือนเป็นผู้รับหน้าที่ ทำตัวเหมือนตัวเองสลักสำคัญเกินไป ลุงรองเป็นคนใจอ่อน ผมแค่อยากจะสอนแทนลุงรองเท่านั้น”
เหอะๆ สอนแทน?
ทำไมหลงถิงจะไม่รู้ว่าตอนนี้ฐานะหลงเซียวยังไม่ชัดเจน หลงยี่จึงต้องการใช้โอกาสในการขึ้นเป็นทายาทอันดับหนึ่งของตระกูลหลง การที่ฐานะของหลงเซียวเปลี่ยนค่อนข้างส่งผลดีต่อเขา
เขาแทบรอไม่ไหวที่จะแสดงความเหนือกว่า!
หลงถิงรู้แก่ใจ แต่สีหน้ากลับไม่แสดงอารมณ์ใดๆราวกับเมื่อกี้เขาเพิ่งได้ยินเสียงสุนัขเห่าเท่านั้น “พูดถึงไหนแล้ว ต่อสิ”
หลงเซิ่งหันกลับมาพูดเปลี่ยนหัวข้ออย่างชาญฉลาด “ในเมื่อเรารู้ที่อยู่ของอาเฟินอยู่แล้ว เราจึงควรพาคนไปรับมาอยู่ที่บ้านโดยตรง การพักฟื้นอยู่บ้านดีกว่าอยู่โรงพยาบาลมาก โรงพยาบาลน่ะเสียงดังวุ่นวาย”
โจวหยู่เช่นยิ้มแล้วพูดว่า “ลุงรอง ป้ารองเป็นคนใช้ชีวิตอย่างละเอียดรอบคอบ โรงพยาบาลนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นยา เกรงว่าอาจทำให้ป้ารองพักผ่อนไม่เต็มที่ได้ หากได้กลับบ้านคงจะดีกับอาการของป้ารองที่สุด”
การพักผ่อนก็เพื่อสุขภาพที่ดีของเธอ การหยุดปากของนักข่าวก็เป็นเพียงวัวหายล้อมคอกเท่านั้น!
หลงถิงได้ประโยชน์มาก “ในเมื่อทุกคนคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด งั้นก็ไปรับฮาเฟินกลับมา แต่…” เขาพับชายกางเกงที่ยาวแล้วพูดอย่างเกียจคร้าน “อาเฟินชอบที่เงียบ ในบ้านนั้นคนเยอะวุ่นวาย มันยังไม่สะดวกมากพอ”
โจวหยู่เช่นหัวเราะแล้วพูดว่า “มันยากตรงไหน? คนรับใช้ในบ้านสามารถแก้เบื่อได้กี่คน ก็เหลือคนใช้ที่ทิ้งป้ารองมันจะเรียกใช้ก็จบแล้ว”
หลงยี่กับหลงเซิ่งสบตากันอย่างเงียบๆ พวกเขาต่างเข้าใจสิ่งที่หลงถิงพูด
แต่ไอคิวของโจวหยู่เช่นนั้นตามหลงถิงไม่ทัน
หลงถิงพูดอย่างเงียบๆว่า “หากคนรับใช้ถูกไล่ออก ก็จะอยู่กันไม่สะดวกสิ ฉันได้จัดเตรียมบ้านพร้อมคนรับใช้ไว้แล้ว พวกแกไปอยู่ที่นั่นจะสะดวกกว่า”
นี่คือการขับไล่พวกเขา!
หลงยี่ทนไม่ไหว “ลุงรอง พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน นี่ลุงรองไม่ได้ขับไล่พวกเราอยู่เหรอ? และในเวลาอย่างนี้ลุงรอง…”
หลงถิงเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างมีนัย “เพราะเป็นครอบครัวเดียวกัน เพราะในเวลาอย่างงี้ถึงต้องระวังให้มาก เอาตามนี้นะ วันนี้คนรับใช้จะช่วยทุกคนขนของ”
หลงยี่โจวหยู่เช่นสบตากันด้วยแววตาเย็นชา
ไม่ว่าบ้านจะดีแค่ไหน จะใหญ่แค่ไหน การออกจากบ้านเก่าแก่ของตระกูลหลงก็เท่ากับถูกไล่ออกจากตำแหน่งหลักของตระกูลหลง!
และ! ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือหลงถิงต้องการปิดปากแล้วพาหยวนชูเฟินกลับมา และยังต้องการเอาหลงเซียวและฉู่ลั่วหานกลับมาเพื่อสร้างภาพถึงความสามัคคีในครอบครัว!
หลงจื๋อรีบเก็บข้าวของอย่างรวดเร็ว การหารือกันที่นี่เพิ่งจะจบลง พวกหลงเซิ่งและคนอื่นๆออกจากห้องนั่งเล่นด้วยความคับแค้นใจ
“พ่อเกิดอะไรขึ้น?” เสียงของหลงจื๋อแหบเล็กน้อย หนวดยังไม่ทันโกนดูรุงรังมาก
หลงถิงตอบ “พวกเราวางแผนที่จะพาแม่แกกลับมาอยู่ด้วย”
หลงจื๋อพยักหน้าอย่างสงบ “ครับ”
หลงถิงกล่าวต่อว่า “พาแม่ของแกกลับมารักษาตัวที่บ้าน หลงเซียวกับฉู่ลั่วหานก็ต้องกลับมาดูแลเธอด้วย ดังนั้นพ่อจึงขอให้ลุงย้ายออกวันนี้”
เหอะๆ
ในตอนนั้นจู่ๆก็อยากหัวเราะเยาะ ไม่คาดคิดเลยว่ามีท่าทีขับไล่คนที่ไร้ประโยชน์ออกชัดเจนขนาดนี้ ชัดมากจริงๆ!
ข่าวก่อนหน้านี้เพิ่งทำให้ตระกูลหลงเสื่อมเสียชื่อเสียง การเข้ามาอยู่ของพี่ใหญ่ก็สำคัญขึ้นทันที พี่กลายเป็นเครื่องมือล้างมลทินของพ่อ
เขาจะพูดอะไรได้อีก?
“ครับ ในเมื่อพ่อตัดสินใจแล้วก็ตามนั้น” หลงจื๋อรู้สึกผิดหวัง เขาผิดหวังและสะเทือนใจ ทรมานและวุ่นวายยิ่งกว่าเมื่อคืนเสียอีก ความหนาวในขณะนี้ชัดเจนมาก
มิน่าล่ะตอนนั้นพ่อถึงชอบแม่ ที่แท้ก็เป็นคนแบบเดียวกัน!
ความสามารถของพ่อในการตัดสินสถานการณ์นั้นแทบจะเป็นสัญชาตญาณ ในขณะที่แม่อาศัยประโยชน์จากความอ่อนแอเป็นความสามารถที่สมบูรณ์แบบมาก เหอะๆ!
“ไปเตรียมตัวเถอะ เก็บของทำความสะอาด หลังกินข้าวเสร็จแกก็ไปโรงพยาบาลกับฉัน” หลงถิงออกคำสั่งแล้วยันเข่าลุกขึ้น
“ครับ” หลงจื๋อตอบรับราวกับหุ่นยนต์
หลงถิงเดินไปสองสามก้าวแล้วหันกลับมา ถามราวกับไม่ใส่ใจว่า “แกไม่คิดจะพาแฟนมาให้พ่อเจอหน่อยเหรอ?”
น่าแปลกที่เขาถามถึงซีเหวิน
“รอหลังเรื่องนี้เสร็จละกันครับ สถานการณ์ที่บ้านตอนนี้ไม่ดีนัก จะให้เธอมาก็ไม่สะดวก”
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เธอไม่สนใจฉันแล้ว
หลินซีเหวินเป็นผู้หญิงที่เกลียดคนชั่วเรื่องชั่วๆมาก เธอจะทนกับบรรยากาศแย่ๆของตระกูลหลงได้อย่างไร
หลงถิงพยักหน้า “อ่อ”
——
ตระกูลหลิน
หลินซีเหวินอยู่ในห้องนอนชั้นสอง หน้าต่างถูกปิดตายจากข้างนอก ห้องนั้นจึงกลายเป็นห้องลับ
“เฮ้!! เปิดประตู! เปิดประตูให้ฉันนะ! ปล่อยฉันออกไป! ฉันจะไปทำงาน!!”
หลินซีเหวินทุบประตูอย่างบ้าคลั่ง ทำลายข้าวของ ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี้ของที่สามารถทุบทำลายได้ก็ถูกทำลายหมดแล้ว ในห้องเต็มไปด้วยซากของ
ในห้องรกราวกับผ่านการรบมา แต่ทว่าการต่อต้านทั้งคืน จนถึงขั้นเอาความตายมาขู่นั่น สุดท้ายแล้วผลก็คงยังไม่เปิดประตู!
หลินซีเหวินเตะประตูสองสามครั้ง “คิดว่าถ้าไม่เปิดประตูให้ฉันจะไม่เป็นไรงั้นหรอ? ฉันบอกไว้เลยนะว่าฉันเป็นหมอ ถ้าฉันอยากตายก็ไม่มีใครห้ามได้ทั้งนั้น!”
“พ่อ! พ่อหักหลังหนูด้วยอีกคน! หนูเกลียดพ่อ!!”
“แม่เปิดประตู! เปิดประตูให้หนู!!”
หลินเหว่ยเย่เดินเอามือไขว้หลังเดินไปมาอยู่ชั้นล่างแล้วถอนหายใจ “คุณปล่อยลูกออกมาเถอะ ต่อให้ขังลูกไว้ก็แก้ปัญหาไม่ได้หรอก ถ้าเกิดลูกเกิดคิดสั้นจริงจะทำยังไง?”
แม่หลินนั่งเหยียดขาบนโซฟาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้าลูกมันอยากจะคิดสั้นจริงมันคงทำไปนานแล้ว จะรอจนถึงตอนนี้หรอ? คิดหรอว่าฉันไม่รู้ว่าลูกคิดอะไรอยู่? ฉันเป็นคนคลอดออกมา ฉันรู้จักลูกดีกว่าคุณ!”
หลินเหว่ยเย่เดินวนไปวนมาหลายสิบครั้งจนเวียนหัว “คุณ เหวินเหวินกับหลงจื๋อชอบกันจริงๆนะ คุณดูคุณสิ…เอาแต่จะพรากคนรักกัน!”
แม่หลินส่งเสียงดูถูก “ชอบกันจริงบ้าอะไรกัน! ฉันจะบอกให้ลูกสาวของเราต้องไม่แต่งงานกับคนอย่างนั้น! แค่ไอ้ลูกเมียน้อย ไม่มีทางเจริญหรอก! เมื่อก่อนฉันเคยดูถูกว่าไม่มีทางได้เป็นทายาทได้รับมรดกหรอก แล้วดูตอนนี้สิ? เหอะๆ เพื่อมรดกแล้วเรื่องแบบนี้ก็ทำออกมาได้! ถุ้ย!”
เธอถุ้ยไกลไปจึงทำให้ฟองน้ำลายก็พ่นลงบนหน้าของหลินเหว่ยเย่ หลินเหว่ยเย่เช็ดหน้าแล้วยิ้มเยาะตาหยี “คุณ คนโบราณเขาว่ากันว่า วีรบุรุษจะมีหัวนอนปลายเท้าเช่นไรนั้นไม่สำคัญ คุณดูสิ…”
แม่หลินตอบกลับอย่างประชดประชัน “ดังนั้นคนโบราณถึงตายหมดแล้วไง! ให้ฉันดูบ้าดูบออะไร?!