ตอนที่ 694 ดูแลผู้หญิงของนายได้แย่มาก
หืม?
หลงเซียวเหลือบมองอย่างเกียจคร้านเพียงแวบเดียว ก็มองเห็นความคิดของเจิ้งซินอย่างทะลุปรุโปร่ง นิ้วเรียวยาวปัดโทรศัพท์ออกไปจากมือของลั่วหาน แล้วโยนมันลงบนโต๊ะ ส่วนตัวเขาก็ถือโอกาสนั่งลงข้างๆ ลั่วหาน เอามือของเธอมากุมไว้กลางฝ่ามือ
“คุณโกรธไหม” หลงเซียวยื่นมือไปแตะหน้าผากของเธอ แต่ถูกลั่วหานเบี่ยงหลบได้อย่างชาญฉลาด
“ฉันต้องโกรธเรื่องอะไรคะ ตอนนี้คุณเป็นแค่สามีเก่าของฉัน คุณเป็นอิสระแล้ว อยากอยู่กับใครก็อยู่ไป อยากชอบใครก็ชอบไป” ลั่วหานย้ายไปนั่งอีกด้านของโซฟาราวๆ สิบเซนติเมตรอย่างโกรธๆ เพื่อผละออกจากแขนของหลงเซียวอย่างราบรื่น
แขนของหลงเซียวว่างเปล่า แขนที่โอบไหล่ลั่วหานอยู่ในตอนแรกถูกเธอเหวี่ยงออกไปอย่างง่ายดาย คิ้วอันน่ามองขมวดมุ่น เขยิบไปนั่งข้างกายลั่วหานตรงที่เธอย้ายไป คราวนี้เขากอดลั่วหานไว้แน่น ไม่ยอมให้เธอขัดขืนได้อีก
“เมื่อกี้ผมพูดผิดไป คุณไม่ได้โกรธหรอก คุณหึงต่างหาก แต่คุณโง่หรือเปล่า คุณหึงเจิ้งซินเนี่ยนะ” ด้วยกลัวว่าลั่วหานจะหนีไปอีก เขาจึงจับมือเธอไว้ และใช้ขาที่ยาวของตัวเองกักเธอไว้ระหว่างช่องว่างกับโต๊ะน้ำชา หนนี้ลั่วหานหนีไปไหนไม่ได้แล้วจริงๆ
“ใช่ ฉันโง่ แล้วไง “ลั่วหานไม่คิดจะใช้แรงขัดขืนอีก อย่างไรก็ไม่ใช่คู่มือของเขา
หลงเซียวมองด้วยสายตาลึกล้ำ ลมหายใจอุ่นร้อนมีกลิ่นอากาเว่ที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวเขา อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ลั่วลั่ว ทำไมผมถึงไม่รู้มาก่อน คุณทำตัวขี้งอนเป็นเด็กๆ ก็เป็นด้วย อืม ท่าทางตอนโกรธของคุณน่ารักมาก”
น่ารักน้องคุณสิ!
ลั่วหานรู้สึกหงุดหงิดมากกับคำพูดของหลงเซียว หันหน้าหลบสายตาที่มีเสน่ห์เกินไปของเขา “หัวข้อนี้หยุดได้แล้ว”
ยิ่งหลงเซียวมองไปที่สีหน้าไม่พอใจของเธอ ก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอน่ารัก ไม่เหลือมาดหญิงแกร่งของหมอฉู่ไว้เลย ยามเธอขดขานอนอยู่บนโซฟาอย่างเกียจคร้านช่างเหมือนกับแมวนัก ยามโกรธก็ราวกับสุนัขจิ้งจอก ยามสงบลงเพียงใช้สายตาฉ่ำชื้นมองเขา ก็เหมือนจิงโจ้ตัวหนึ่งอีกแล้ว
อืม……จิงโจ้ สงสัยคงเป็นเพราะท้องของเธอบวมขึ้น
“วันนี้ที่โรงพยาบาล ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม หืม? ” หลงเซียวลูบท้องน้อยของเธอเบาๆ ในนี้มีชีวิตเล็กๆ กำลังเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ เขามักรู้สึกตื่นเต้นเมื่อนึกถึงเรื่องนี้
“คุณเปิดโปงเสิ่นเหลียวกับซุนปิงเหวินพร้อมกันในคราวเดียว จนโลกโซเชี่ยลระเบิด ตอนนี้ทุกคนต่างโฟกัสไปที่พวกเขา แล้วเราสองคนล่ะ ต่างเป็นผู้ที่ถูกลืมไปแล้ว” ลั่วหานบีบนิ้วมือนิ้วหนึ่งของเขาไว้ นิ้วชี้ของเขาเรียวยาวและสะอาดสะอ้าน น่ามองราวกับงานแกะสลักหยกขาว ส่วนโค้งของเล็บก็ไม่มีที่ติ สัมผัสนุ่มสบายมาก
ดูเหมือนเธอจะชอบเล่นกับนิ้วของเขามาก ทุกครั้งที่นอนอยู่ในอ้อมกอดเขาก็อดไม่ได้ที่จะไปหยอกเย้ากับมัน
หลงเซียวดันหัวเธอเข้ามาในอ้อมแขนของตัวเองอย่างง่ายดาย “ฟังจากความเห็นของคุณ ดูเหมือนจะยังอยากอยู่ในรายการค้นหายอดนิยมต่อไป เรื่องนี้ง่ายมาก ผมสามารถส่งชื่อของเราขึ้นอันดับหนึ่งในวันพรุ่งนี้อีกครั้งได้”
ลั่วหานมองค้อนเขาแวบหนึ่ง โดยใช้สายตาเป็นคำตอบ จากนั้นก็พูดว่า “คุณหลง เราแยกทางกันแล้ว คุณมาหาฉันที่นี่ตอนกลางดึก มีธุระอะไรคะ”
คิ้วกระบี่ของหลงเซียวเลิกขึ้น “คุณว่าไงล่ะ?”
ลั่วหานดันคางเขาไว้ด้วยมือข้างเดียว นิ้วจึงติดอยู่ในช่วงรอยต่อกระดูกของหลงเซียวอย่างพอดิบพอดี แพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องกระดูกมนุษย์นั้นค่อนข้างชำนาญในเรื่องนี้ แต่เขาสามารถบีบมันได้อย่างแม่นยำ
“ฉันว่า คุณหลงกลับไปจะดีกว่า ดึกป่านนี้แล้ว กลับบ้านใครบ้านมัน หาแม่ใครแม่มันเถอะ”
หลงเซียวถูกเธอจ้องที่คาง หัวของเขาเงยขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงก็เย้าเย้าและทุ้มลึกมากขึ้น “ที่นี่เป็นบ้านของผม ผมมาหาแม่ของลูกผมที่นี่ ไม่เห็นแปลกตรงไหน”
ลั่วหานลดสายตาลง มองออกไปนอกหน้าต่าง “คุณลืมเรื่องคราวก่อนไปแล้วเหรอ นักข่าวหูตาสับปะรด คุณเข้าใจไหม ตอนนี้หลงถิงกับโม่หรูเฟยต่างก็อยากจะกุมจุดอ่อนของคุณไว้ เสิ่นเหลียวอาจฆ่าดวงใจทั้งหมดที่คุณมี คุณเข้าใจไหม”
มือหนาของหลงเซียวจับมือลั่วหานไว้อย่างง่ายดาย เพื่อยับยั้งไม่ให้เธอพูด “ผมต้องไปเจียงเฉิงพรุ่งนี้ เป็นเวลาห้าวันซึ่งนานมาก รู้ไหม?”
ลั่วหานรู้สึกเพียงว่าใบหน้าที่หล่อเหลาของหลงเซียวเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และลมหายใจเขาก็ยิ่งมีอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ น้ำเสียงเจือแววหยอกเย้าที่ไม่อาจหยุดยั้งได้พุ่งเข้ามาในโสตประสาทของเธอ เธอสูดหายใจเข้าลึกโดยไม่รู้ตัว “หลงเซียว ที่นี่มันห้องนั่งเล่น รู้ไหม”
หลงเซียวกดมือข้างหนึ่งไว้กับโซฟา เพื่อกันไม่ให้ร่างกายของตัวเองไปกดทับลั่วหาน มืออีกข้างลูบผมที่ติดอยู่กับใบหน้าของเธอให้เรียบ แล้วจูบหน้าผากที่สะอาดสะอ้านของเธอ “ผมรู้ ดังนั้น ผมถึงแค่ใช้ปาก”
อุณหภูมิที่แผดเผาของหลงเซียวกดทับเธอ ราวกับจะแผดเผาชุดนอนที่กำลังกั้นขวางระหว่างทั้งคู่ให้มอดไหม้ ฮอร์โมนอันทรงพลังที่เข้ามาอย่างท่วมท้น ทำให้ระบบประสาทของลั่วหานพังทลายลงในทันที
ริมฝีปากของเขาจูบที่ริมฝีปากของเธออย่างอ่อนโยนและเร่าร้อน ทะนุถนอมไม่อยากแยกจาก ทั้งขบเม้มและหมุนวน หลงเซียวที่ยันมือกับโซฟาด้วยมือข้างเดียวหายใจไม่ติดขัดเลยสักนิด และดูแลผู้หญิงที่อยู่ใต้ร่างของเขาอย่างดี
“ไม่ได้ๆ ”
ลั่วหานผลักหลงเซียวที่ลืมอารมณ์ตัวเองออกไป แล้วรีบจัดการคอเสื้อชุดนอนที่ไม่รู้ว่าถูกเขาแบะออกตั้งแต่เมื่อไหร่อย่างมือไม้พันกันให้ยุ่ง
ใบหน้าของหลงเซียวเป็นสีเขียวจางๆ
คนที่ไม่ได้รับการเติมเต็มแสดงอาการไม่พอใจ “ถ้าคุณไม่ชอบที่นี่ ผมจะอุ้มคุณขึ้นไปข้างบน คุณกำลังท้อง ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก เด็กดี”
ไม่ทำอะไรงั้นเหรอ? ไม่มีทาง? ไม่มีทาง? แล้วคราวก่อนเป็นใครกัน!
หลงเซียวค่อยๆ โน้มน้าว เสียงของเขาเหมือนคลังยาและฤดูใบไม้ผลิที่ทำให้อ่อนไหวได้ง่าย ต่อให้รู้ว่าโกหก แต่ลั่วหานก็ยังต้านทานไม่ได้อยู่ดี!
“ไม่ได้! ดึกแล้วคุณออกไปเถอะ หรือจะพักอยู่ในห้องพักแขกก็ได้” ลั่วหานใช้สองมือกุมคอเสื้อชุดนอนไว้ สายตาแอบมองไปที่บันได แย่ละสิ ลู่ซวงซวงยังอยู่ข้างบนนี่นา
ให้เขานอนห้องพักแขกงั้นเหรอ
เยี่ยม เยี่ยมมาก!
เวลานี้ ท่านเซียวจะไม่รู้สึกหงุดหงิดได้เหรอ เขารีบบึ่งรถมาที่นี่ ข้าวเย็นก็ไม่กินเพื่อจะได้อยู่กับเธอให้นานขึ้นอีกหน่อย ทั้งยังสั่งคนให้เก็บกวาดนักข่าวที่อยู่ด้านนอกไว้ล่วงหน้า แต่เธอก็เหลือเกิน คิดไม่ถึงว่าจะถือตนเองเป็นภรรยาเก่าของเขาไปแล้วจริงๆ
หลงเซียวกอดเอวลั่วหานไว้จนแทบจะสิงร่าง หันหน้าไปพูดกับสาวใช้ที่ออกมาจากครัว และเห็นได้ชัดว่าพวกหล่อนตกใจที่เห็นเขาอยู่ที่นี่ “เตรียมอาหารเย็นให้พร้อมภายในหนึ่งชั่วโมง”
อาเซียงกับเสี่ยวหลินมองหน้ากันด้วยความงุนงง เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณชายใหญ่ถึงมาอยู่ที่นี่
ลั่วหานดิ้นรนขัดขืนอยู่ในอ้อมกอดของเขา “รีบปล่อยฉันลงเดี๋ยวนะ นี่คุณไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนนอกแล้วหรือ ถึงยังคิดจะกินข้าวที่นี่ ฉันไม่ให้กิน! ”
ขายาวๆ ของหลงเซียวก้าวอย่างรวดเร็ว เขาหมุนตัวก้าวขึ้นบันไดเจ็ดแปดขึ้น ด้วยสายตาที่ล้ำลึก “ไม่ให้กินข้าวก็ได้ งั้นกินเธอแทน……ท่าจะดีกว่า”
ดวงตาของลั่วหานเปล่งประกาย “คุณแน่ใจนะ?”
“แน่ยิ่งกว่าแน่” หลงเซียวอยู่บนชั้นสองแล้วขณะที่เขาพูด แล้วใช้เข่าดันประตูห้องนอนให้เปิด
มุมปากของลั่วหานยกขึ้น แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัยกล่าวว่า “อย่าหาว่าฉันไม่เตือนคุณ เกรงว่าคงจะไม่สะดวก”
หลงเซียววางลั่วหานราบกับเตียง ยกขาข้างหนึ่งขึ้นในท่ากึ่งคุกเข่า ร่างสูงใหญ่โอบกอดเธอไว้ “ไม่สะดวกอะไรคงไม่ได้จะใช้ลูกไม้ปัญญาอ่อนอย่างการมีคุณป้า*มาหลอกผมหรอกนะ”
ลั่วหานหัวเราะฮ่าๆ “ป้าน่ะไม่มีหรอก มีแต่แม่บุญธรรม”
*การมีคุณป้า หมายถึง การมีประจำเดือน
เมื่อได้ยินเสียงที่ไม่ถูกกาลเทศะแทรกเข้ามาในโลกของคนสองคน ใบหน้าของหลงเซียวก็ไหม้เกรียมขึ้นมาทันที เขาค่อยๆ วางขาลงอย่างช้าๆ และสง่างาม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รูปร่างสูงเพรียวดูสูงส่งแตกต่างจากเมื่อกี้ลิบลับ
“คุณลู่ สวัสดีครับ” น้ำเสียงของหลงเซียวทุ้มต่ำเจือรอยยิ้มเล็กน้อย
ลู่ซวงซวงหุบกรามที่ค้างอยู่ให้เข้าที่ด้วยความยากลำบาก จากนั้นหัวเราะแห้งๆ “อะฮ่า ๆ ……ฮ่า ๆ ๆ สวัสดีค่ะ คุณหลง คือว่า คุณทำต่อเถอะ ต่อเลย ฉันเองก็จะทำต่อเหมือนกัน”
ตายแล้ว! ตายแล้ว! เขากลับมาได้อย่างไร? จับกันๆ คิดไม่ถึงว่าจะไปทำลายเรื่องดีของท่านเซียวเข้า ฉันจะถูกเขาตบตายหรือไม่
ลู่ซวงซวงตกใจจนลนลาน ยามที่หันศีรษะกลับไปจึงไปชนเข้ากลับประตูห้องน้ำ
ลั่วหานหัวเราะลั่น “ผืนสั้นอันนั้นของฉัน อีกอย่าง ในตู้มีผืนใหม่อยู่ เธอหยิบผืนใหม่ไปก็ได้”
ลู่ซวงซวงลูบหน้าผากสองสามที พลางยิ้มเอื่อยๆ “ถ้าอย่างนั้น … ตอนกลางคืนฉันต้องถูกระเห็จหรือไม่”
ลั่วหานแย่งพูดตัดหน้าหลงเซียว “ไม่ต้อง เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ส่วนเขาเป็นแค่สามีเก่า แน่นอนว่าเธออยู่ได้ เขาต่างหากที่ต้องไป”
หลงเซียว “……”
ลู่ซวงซวงล็อกประตูห้องน้ำ มือกุมหน้าอกส่วนปากอ้ากว้าง ตกใจแทบตายๆ กลางคืนควรหาโอกาสเผ่นออกไปดีกว่า
ที่ด้านนอก ใบหน้าหล่อเหลาของหลงเซียวดำคล้ำมองไปที่ลั่วหาน ตาจ้องมองไม่กะพริบ
“ไม่คิดจะอธิบายหน่อยเหรอ”
ลั่วหานยักไหล่อย่างไร้เดียงสา “อธิบายอะไร เมื่อกี้ฉันเตือนคุณแล้ว คุณไม่ฟังเอง”
หลงเซียวกุมขมับอย่างอ่อนแรง “คืนนี้คุณตั้งใจจะนอนกับเธอเหรอ”
ลั่วหานตบๆ ที่เตียงซิมมอนส์ “จริงสิ เมื่อกี้ให้ อาเซียงเปลี่ยนผ้าปูที่นอนปลอกผ้านวมและปลอกหมอนใหม่ ตำแหน่งนี้จึงเป็นที่นอนของหล่อนในคืนนี้”
ลั่วหานตบๆ ตรงที่หลงเซียวนอนอยู่เป็นพิเศษ
หลงเซียวพยักหน้า “ได้”
ลั่วหานเห็นว่าเขาถึงกับไม่คัดค้าน “อะไรได้”
หลงเซียวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง เห็นข้อความและสายที่ไม่ได้รับบนหน้าจอ พร้อมกับแสงสะท้อนวูบวาบ เขาปัดไอคอนที่เกะกะทิ้งทันที
นิ้วเลื่อนหาอยู่สองสามทีอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็พบเบอร์ที่ต้องการ
โทรศัพท์ถูกรับสายอย่างรวดเร็ว และคนที่อยู่ฝั่งนั้นก็กล่าวทักทายอย่างกระตือรือร้น
หลงเซียวกล่าวด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม “หวาเทียน ผู้หญิงของนาย ทำไมไม่รู้จักดูแลให้ดี ให้วิ่งมาหาภรรยาของฉันเพื่อยึดตำแหน่งของฉัน”
หวาเทียน “……”
“ฉันให้เวลานาย 30 นาที ควรทำยังไง คงไม่ต้องให้ฉันสอนหรอกนะ” หลงเซียวสีหน้าเคร่งเครียด ตลอดเวลาไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย
ลั่วหานพูดไม่ออก “คุณถึงกับให้หวาเทียนมาพาคนไป นี่มันไม่ทำเกินไปหน่อยเหรอ! ”
หลงเซียวเก็บโทรศัพท์ “ไม่ให้เขาพาหล่อนไปก็ได้ หากให้ผมไล่หล่อนไปเอง มันคงจะดูไม่ดีเท่าไหร่หรอกนะ”
ลั่วหาน “……”
เขาคงไม่ได้เจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนั้นจริงๆ หรอกนะ จริงๆ เลย……
ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงรถของหวาเทียนก็ขับมาที่ประตูรีสอร์ทหยีจิ่ง และวิ่งเข้าประตูมาอย่างรีบร้อน
“ท่านเซียว ฉันมารับคน”
ผมของลู่ซวงซวงถูกเป่าจนเกือบจะแห้งแล้ว เธอโบกมือให้เขาอยู่บนโซฟา “ที่รัก ฮ่า ๆ ๆ ”
ลั่วหานยิ้มอย่างขอโทษ “คืนนี้คุณรับคนกลับไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ พรุ่งนี้จะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน”
หลังจากส่งลู่ซวงซวงกับหวาเทียนกลับไปแล้ว ลั่วหานก็กัดฟันเดินกลับมา “หลงเซียว คุณไม่ทำเกินไปหน่อยเหรอ เมื่อกี้มันน่าอึดอัดมากเลยนะ คุณทำให้คนอื่นเสียหน้ามาก”
สายตาที่หยิ่งผยองของหลงเซียวมองเธออย่างไร้ยางอาย “การได้อยู่ในโลกสองคนกับภรรยาตัวเอง ผมยังต้องสนหน้าคนอื่นอีกเหรอ”
ลั่วหานพูดไม่ออกโดยสิ้นเชิง “คุณนี่……ช่างเอาแต่ใจจริงๆ! ”
เธอตำหนิอย่างหัวเสียและโกรธเกรี้ยวขนาดนี้ แต่กลับเหมือนเอาค้อนไปทุบลงบนปุยฝ้าย อ่อนนุ่มเบาบาง ไม่ได้เป็นการลงโทษ แต่เป็นความสบายใจ
หลงเซียวไม่ได้ทำตัวเจ้าชู้กรุ้มกริ่มกับลั่วหานอีก แต่เปลี่ยนอารมณ์ไปอีกแบบหนึ่ง กล่าวอย่างจริงจังว่า “ผมกลับมา นอกจากมาหาคุณแล้ว ยังมีเรื่องอื่นอีก”
ลั่วหานรีบเก็บอารมณ์ของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว “เรื่องอะไรคะ วันนี้เรื่องในมือถือที่คุณบอกกับฉัน ยังไม่พอเหรอ”
“อืม ยังไม่พอ อีกอย่างเรื่องที่ผมจะคุยกับคุณ ผมไม่สะดวกให้พวกพี่น้องที่แสนดีได้ยิน” หลงเซียวนั่งลงอีกครั้งอย่างสบายใจ
ลั่วหานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้นคะ นอกจากซุนปิงเหวินกับเสิ่นเหลียวแล้ว ยังมีใครอีกเหรอ”
ฉันนึกทบทวนในหัวอย่างรวดเร็ว ทุกคนล้วนมีความเป็นไปได้ทั้งหมด แต่ก็ไม่ถึงกับรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะพลิกเป็นอีกด้าน
หลงเซียวยิ้ม “คุณกังวลอะไร เรื่องที่ผมพูด ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอย่างแน่นอน”
ลั่วหานกลอกตาอย่างฉุนๆ “ก็คงไม่ใช่เรื่องดีอะไรหรอก พักนี้เท่าที่ฉันได้ยินก็เป็นข่าวร้ายทั้งนั้น”
กลิ่นของอาหารลอยมา อาหารเย็นคงใกล้จะพร้อมแล้ว พอลั่วหานได้กลิ่นอาหารก็รู้สึกหิวขึ้นมาจริงๆ แล้ว
“ผมให้คุณชายกู้ ไปเยี่ยมพ่อแม่คุณ แล้วให้เขากลับมารายงานผมอย่างละเอียด เนื้อหามีมากมาย คุณอยากฟังไหม”
หลงเซียวเลิกคิ้วกระบี่ขึ้นเฉียงๆ โยนเหยื่อเพื่อให้ลั่วหานงับ
ลั่วหานเดินมาข้างหน้า แล้วนั่งลงข้างๆ หลงเซียว มองมาที่เขาด้วยดวงตาที่สดใส “เนื้อหาอะไรคะคุณชายกู้ เป็นตัวแทนของคุณไปเยี่ยมพ่อแม่ฉัน พวกเขาเก็บกวาดข้างนอกได้หรือยัง”
ปากของหลงเซียวกระตุก “คุณไม่คิดว่ามันเป็นข้อดีบ้างเหรอ”
ลั่วหานหัวเราะฮ่าๆ “ไม่มีทาง! ที่ฉันเรียนรู้มา มีแต่เจตนาร้ายเต็มท้องน่ะสิ! ”
ปากของภรรยานับวันยิ่งจัดจ้านขึ้นเรื่อยๆ ควรจะอุดปากอีกสักทีใช่หรือไม่
“ตอนที่คุณชายกู้ไปเยี่ยมพ่อแม่คุณ ตู้หลิงเซวียนก็อยู่ที่นั่นด้วย ทั้งสองเดินตามกันเข้าประตูบ้านคุณ มันไม่น่าสนใจเหรอ”
หลงเซียวพันเส้นผมเธอเล่น เส้นผมที่ราวกับดิ้นเงินม้วนพันอยู่ในมือเขา มันให้ความรู้สึกดีมาก
“บัดซบ! ตู้หลิงเซวียนต้องการอาศัยช่องแทรกเข้ามาจริงๆ! น่าไม่อายสิ้นดี! ” ลั่วหานโกรธขึ้นมาทันที และทุบกำปั้นลงบนเบาะโซฟา
หลงเซียวไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะตอบสนองอย่างรุนแรง จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “ตู้หลิงเซวียนวางตัวสุภาพมากกับพ่อแม่คุณ เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณชายกู้ เขาไม่ได้พูดอะไรมากนัก แล้วก็ทำตัวเกรงใจพ่อแม่คุณ ไม่น้อยไปกว่าลูกเขยอย่างผม”
ลั่วหานหนังศีรษะชาวาบ “พอเสียทีกับตู้หลิงเซวียน ถ้าไม่สบช่องเห็นประโยชน์ก็คงไม่เอาตัวเข้ามาแบบนี้ ฉันต้องโทรถามให้ชัดเจน เขาก้าวเข้าไปถอนทุนจากตระกูลเฉียวจนเกือบทำให้ตระกูลเฉียวตาย ตอนนี้มาประจบประแจงคิดจะทำอะไร เศษสวะสิ้นดี!!”
หลงเซียวคิดไม่ถึงว่าเวลาที่ลั่วหานโกรธจะสบถคำด่าออกมาได้อย่างลื่นไหลขนาดนี้ ช่างน่าตกใจจริงๆ
ลั่วหานหาโทรศัพท์ตัวเองไม่เจอ จึงแย่งของหลงเซียวมาแทน แต่เธอจำเบอร์ของตู้หลิงเซวียนไม่ได้ “คุณรู้เบอร์เขาไหม”
หลงเซียวยิ้ม “ไม่ได้ แล้วก็ไม่ต้องโทรไปแล้ว ผมให้คุณชายกู้ ไปทำธุระนิดหน่อยที่อเมริกา คืนนี้เรารอข่าวจากคุณชายกู้ อยู่ที่บ้านก็พอ”
ลั่วหานตกตะลึง “เร็วขนาดนี้เชียว”
หลงเซียวคว้าโทรศัพท์กลับมาอย่างนุ่มนวล ใกล้จะถึงเวลาแล้ว “ไปกินข้าวก่อนกินไปพลางรอไปพลางคุณชายกู้ มีลูกไม้เด็ดไม่น้อย คืนนี้จะให้คุณได้ดู”